กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 414 ทำไมเขาถึงอยู่ในห้องของคุณ / ตอนที่ 415 ตามหลอกหลอนไม่เลิก

ตอนที่ 414 ทำไมเขาถึงอยู่ในห้องของคุณ

 

 

           เขาจะมีอารมณ์แบบนี้ออกมาได้อย่างไรกัน

 

 

           “เจียเสวียน เดี๋ยวพอกลับไป คุณต้องพักผ่อนให้มาก รู้ไหม” กงจวิ้นฉือเอ่ยปาก เสียงอบอุ่นดังก้องอยู่ภายในรถ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนดึงสติกลับมา ตอบรับกงจวิ้นฉือว่า ‘โอเค’ ด้วยความว่าง่าย พักเรื่องเมื่อครู่ไว้ก่อนแล้ว

 

 

           เธอจะต้องพักผ่อนให้เต็มที่จริงๆ ถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็ยังอยู่ในการแข่งขัน การแข่งขันครั้งนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของเธอ อีกทั้งเกียรติของกลุ่มบริษัทตระกูลกงด้วย เธอจะต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขันครั้งนี้ด้วยสภาพจิตใจที่สมบูรณ์ที่สุด

 

 

           “เจียเสวียน คราวหน้าถ้าหากมีอะไรจะต้องโทรหาผมนะรู้ไหม ผมเป็นแฟนของคุณ มีอะไรอย่าปิดบังผม ถ้าหากไม่ใช่เผยหนานเจวี๋ยโทรมาล่ะก็ ผมก็ไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้คุณจะเป็นยังไงบ้าง” กงจวิ้นฉือกล่าวโทษเล็กน้อย เธอทำแบบนี้ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย

 

 

           “ฉันรู้แล้ว คราวหน้าจะไม่มีอีก” ฉู่เจียเสวียนรู้ว่าที่กงจวิ้นฉือพูดแบบนี้เพราะว่าเป็นห่วงเธอ ดังนั้นจึงรีบพูดขึ้น

 

 

           “ทำไมเผยหนานเจวี๋ยถึงอยู่ในห้องของคุณล่ะ” กงจวิ้นฉือเอ่ยพร้อมมองฉู่เจียเสวียน

 

 

           “พอดีที่ว่าที่โรงแรมห้องเต็ม ฉันก็เลยต้องอยู่ห้องเดียวกับเขา” ฉู่เจียเสวียนพูด ดวงตาสำรวจสีหน้าของกงจวิ้นฉืออย่างถี่ถ้วน พบว่าสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปครู่หนึ่ง

 

 

           “คุณวางใจเถอะ ฉันกับเขาไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ตอนนั้นไม่มีห้องอื่นแล้ว คุณอย่าโกรธเลยนะ” ฉู่เจียเสวียนกลัวว่ากงจวิ้นฉือจะคิดไปไกล จึงรีบอธิบาย

 

 

           เธอไม่ต้องการให้กงจวิ้นฉือเข้าใจผิด ผู้ชายที่อ่อนโยนดังสายน้ำคนนี้ดูแลเธอดีเกินไปแล้ว เธอไม่อยากทำร้ายจิตใจของเขา

 

 

           ภายในรถเงียบสงัด ในขณะที่ฉู่เจียเสวียนคิดว่ากงจวิ้นฉือโมโหจริงๆ และกำลังจะเอ่ยปากอธิบายอีกรอบนั้น เสียงของกงจวิ้นฉือดังขึ้น “ผมเชื่อใจคุณ คุณวางใจเถอะ ผมแค่เป็นห่วงสุขภาพของคุณ”

 

 

           ผมเชื่อใจคุณ สี่คำนี้ทำให้หัวใจของฉู่เจียเสวียนอบอุ่น ไม่มีใครรู้ว่าสี่คำนี้สำคัญต่อหัวใจของฉู่เจียเสวียนแค่ไหน

 

 

           “อืม ฉันจะดูแลตัวเองให้ดี คุณวางใจเถอะ” ริมฝีปากแดงของฉู่เจียเสวียนยกยิ้ม พร้อมมองกงจวิ้นฉือด้วยรอยยิ้มสดใส

 

 

           ขอเพียงเขาเชื่อใจเธอก็พอแล้ว

 

 

           “เดี๋ยวถึงโรงแรมแล้ว ผมจะให้คนหาห้องให้คุณใหม่” กงจวิ้นฉือกล่าวด้วยน้ำเสียงไพเราะ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็ประหลาดใจ จึงพูดขึ้น “ไหนว่าไม่มีห้องแล้วไม่ใช่เหรอ”

 

 

           ถ้าหากหาห้องใหม่ได้งั้นก็จะดีที่สุด เธอก็ไม่อยากอยู่ห้องเดียวกันกับเผยหนานเจวี๋ย และทำให้คนเข้าใจผิด

 

 

           “วางใจเถอะ ผมจะหาวิธีให้แฟนของผมอยู่อย่างสบายแน่นอน” กงจวิ้นฉือหัวเราะ น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความมั่นใจ

 

 

           เมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของกงจวิ้นฉือ ฉู่เจียเสวียนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดที่เผยหนานเจวี๋ยพูดกับกงจวิ้นฉือในโรงพยาบาล คิ้วขมวดกันอย่างช่วยไม่ได้แล้ว

 

 

           “จวิ้นฉือ เผยหนานเจวี๋ยรู้เรื่องของพ่อคุณแล้วใช่ไหม” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยถาม เธอฟังคำพูดของเผยหนานเจวี๋ยในวันนั้นออก เผนหนานเจวี๋ยรู้ว่าพ่อของกงจวิ้นฉือตายเพราะอะไร

 

 

           “อืม เขารู้แล้ว เขานึกว่าที่ผมเข้าใกล้คุณเพราะมีเป้าหมาย แต่เห็นได้ชัดว่าเขาคิดมากไปแล้ว ตอนนี้ผมร่วมงานกับบริษัทของเขา เรื่องในนั้นที่จริงก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา เพราะพ่อของผมอ่อนแอเกินไป” กงจวิ้นฉือเอ่ย แววตาเปลี่ยนเป็นล้ำลึก

 

 

           รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปด้วย

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็พยักหน้า เรื่องนี้กงจวิ้นฉือเคยบอกเธอตอนที่กลับประเทศมาแล้ว

 

 

           รถค่อยๆ ขับมาถึงโรงแรม ฉู่เจียเสวียนลงมาจากรถพร้อมกับกงจวิ้นฉือ กงจวิ้นฉือบอกให้เธอนั่งรอเขาในลอบบี้สักครู่

 

 

           ไม่นานกงจวิ้นฉือก็กลับมาแล้ว บอกเธอว่าได้เปิดห้องเรียบร้อยแล้ว

 

 

           ห้องของฉู่เจียเสวียนถูกจัดให้อยู่ถัดไปจากห้องของเผยหนานเจวี๋ย ส่วนกงจวิ้นฉือก็อยู่ถัดจากห้องของฉู่เจียเสวียน

 

 

 

 

 

        ตอนที่ 415 ตามหลอกหลอนไม่เลิก

 

 

หลังจากกลับไปพักที่โรงแรมแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็เริ่มนึกถึงการออกแบบชุดแต่งงาน

 

 

           แต่ว่า ฉู่เจียเสวียนถือปากกาอยู่ในมือ คิดมาครึ่งค่อนวันก็คิดอะไรไม่ออก ในสมองของเธอว่างเปล่าไม่มีแรงบันดาลใจเลยแม้แต่น้อย

 

 

           ฉู่เจียเสวียนลุกขึ้นแล้วออกจากห้องไป เธอต้องการออกไปเดินเล่นเพื่อหาแรงบันดาลใจ

 

 

           ฟาร์มมีขนาดใหญ่มาก ดอกไม้และผลไม้หลายชนิดถูกปลูกไว้รอบๆ ไม่ไกลจากที่นั่นมีพื้นที่หญ้าขนาดใหญ่และมีม้าอยู่บนพื้นหญ้า

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองไปที่ทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม ก้าวเท้าวิ่งเข้าไป ริมฝีปากแดงยกยิ้มทำมุมสวยงาม

 

 

           สถานที่แห่งนี้ผ่อนคลายจริงๆ

 

 

           คิดอยากให้กงจวิ้นฉือได้มาชมด้วยกัน ฉู่เจียเสวียนจึงโทรหากงจวิ้นฉือ แต่ว่าเขากลับไม่ได้รับสาย

 

 

           เขาอาจจะพักผ่อนอยู่ก็ได้มั้ง เมื่อนึกถึงสองวันนี้ที่เขาดูแลเธอที่โรงพยาบาล น่าจะไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ดังนั้นเธอจึงวางสาย เอามือถือใส่ในกระเป๋า แล้วเริ่มเดินชมตามลำพัง

 

 

           เธอได้ชะลอการออกแบบเป็นเวลาสองวันแล้ว ผู้เข้าแข่งขันอีกสี่คนคงได้คิดการออกแบบไว้แล้วสินะ เมื่อนึกถึงเวลาที่เจอพวกเขาที่โรงแรมพร้อมเห็นท่าทางที่มั่นใจในตัวเองของพวกเขานั้น หัวใจของเธอก็ตื่นตระหนกอย่างไม่มีสาเหตุอีกครั้ง

 

 

           ระหว่างที่กำลังเหม่อลอย โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าดังขึ้น ฉู่เจียเสวียนนึกว่ากงจวิ้นฉือโทรมา แต่เมื่อเห็นสายเรียกเข้าแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็จางลง

 

 

           “ฮัลโฆล” หลังจากกดปุ่มรับสาย เสียงที่ชัดเจนของฉู่เจียเสวียนก็ดังขึ้น

 

 

           “คุณอยู่ที่ไหน” เสียงของเผยหนานเจวี๋ยเจือปนความกังวลเล็กน้อย ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็เม้มปาก

 

 

           “คุณเผย คุณมีอะไรเหรอคะ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ย แววตาเปลี่ยนเป็นเย็นชา

 

 

           เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ห่างเหินของฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยราวกับว่ามีลมหายใจขวางอยู่ในหน้าอก ไม่สามารถระบายออกได้

 

 

           “มีแผนการออกแบบแล้วยัง” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยอย่างสบายๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำ

 

 

           ใช่แล้ว เขาเป็นที่ปรึกษาของเธอนี่นา เป็นธรรมดาที่เธอจะต้องบอกแผนการออกแบบกับเขา เธอลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรกัน

 

 

           “ฉันส่งเรื่องขอเปลี่ยนที่ปรึกษาไปแล้ว” เมื่อครู้ตอนที่ฉู่เจียเสวียนออกจากโรงแรม ก็ส่งเรื่องขอเปลี่ยนที่ปรึกษาไปที่ผู้จัดงานแล้ว

 

 

           ยื่นมือสัมผัสดอกกุหลาบที่อยู่ข้างกาย แววตาของฉู่เจียเสวียนเป็นประกาย

 

 

           “คำร้องถูกปฏิเสธแล้ว ตอนนี้คุณที่อยู่ไหน” เผยหนานเจวี๋ยพูดโดยตรง น้ำเสียงยากที่จะปฏิเสธได้

 

 

           “คุณว่าไงนะ” ฉู่เจียเสวียนราวกับว่าตัวเองฟังผิด ถูกปฏิเสธ?

 

 

           เขาต้องการทำอะไรกันแน่ เขาจะต้องอยู่เบื้องหลังสินะ

 

 

           ยกมื่อนวดคลึงคิ้วอย่างอ่อนแรง จู่ๆ ฉู่เจียเสวียนก็รู้สึกเหนื่อยมาก พอเห็นชิงช้าอยู่ที่ไม่ไกลนักก็เดินเข้าไปนั่งลง แกว่งไกวตามมันเบาๆ

 

 

           “อยู่ไหน” เมื่อไม่ได้ยินคำตอบที่ต้องการได้ยิน เผยหนานเจวี๋ยก็เอ่ยถามอีกครั้งด้วยความดื้อรั้น

 

 

           ฉู่เจียเสวียนนั่งอยู่บนชิงช้า ได้ยินเสียงของเผยหนานเจวี๋ยแล้วรู้สึกรำคาญใจเล็กน้อย จึงวางสายทันทีโดยไม่คิดแล้ว

 

 

           ตอนนี้เธอมองเผยหนานเจวี๋ยไม่ออกจริงๆ ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาต้องการทำอะไร

 

 

           คิดว่าหลังจากได้เจอหน้ากันครั้งนี้แล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็ดูแตกต่างจากเมื่อก่อน เธอรู้สึกอึดอัดใจ

 

 

           ก่อนหน้านี้ก็บอกให้เธอระวังเฉิงเฮ่าอย่างลึกลับ ตอนนี้ก็มาเป็นที่ปรึกษาของเธออย่างลึกลับอีก เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่

 

 

           มองดูสวนที่เขียวชอุ่ม จิตใจที่ไม่พึงประสงค์ก่อนหน้านี้ค่อยๆ แจ่มใสขึ้น

 

 

           ฉู่เจียเสวียนแกว่งตัวไปตามชิงช้า ไม่ได้คิดถึงเรื่องกวนใจอีก แม้แต่มุมปากก็เริ่มยกยิ้มแล้ว ผมดำสนิทพริ้วไหวไปตามแรงลม เธอดูเหมือนนางฟ้าในชุดขาว

 

 

           ผืนนากับฉากหลังรวมกันเป็นหนึ่งเดียวในระยะไกล เป็นภาพที่งดงามมาก

 

 

           จนกระทั่งมีคนมารบกวนความสงบนี้

 

 

           “ในที่สุดก็หาคุณเจอ” เสียงของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น ทำเอาฉู่เจียเสวียนที่กำลังหลับตาอยู่ลืมตาขึ้นทันที

 

 

           มองดูเผยหนานเจวี๋ยที่ปรากฏตัวกระทันหัน ฉู่เจียเสวียนรู้สึกโมโหเล็กน้อยอย่างประหลาด

 

 

           ทำไมเขามักจะตามหลอกหลอนอยู่เรื่อย!

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset