กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 456 ความโรแมนติกที่เขาเตรียมมา / ตอนที่ 457 ส่งคุณกลับบ้าน

    ตอนที่ 456 ความโรแมนติกที่เขาเตรียมมา

 

 

           “ถังถัง เรื่องระหว่างฉันกับเขาเป็นอดีตไปนานแล้ว ฉันก็ไม่อยากไปคิดอีก ตอนนี้เขาบาดเจ็บเพราะฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันไม่อยากติดค้างเขาแล้วจริงๆ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากของขมขื่น ถังถังต้องการจะพูดอะไร ทำไมเธอจะไม่เข้าใจ

 

 

           เธอกังวลว่าเธอจะหวั่นไหวต่อเผยหนานเจวี๋ยสินะ? เธอจะไม่มีวันให้โอกาสแบบนั้นกับตัวเองอีก

 

 

           ถังถังได้ยินแล้วก็พยักหน้า สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร

 

 

           เรื่องของคนอื่น แม้ว่าเธอต้องการจะช่วยเหลืออย่างไรก็ไม่สามารถช่วยได้หรอก

 

 

           “เอาเถอะ ถ้าเธอผ่านไปอย่างมีสติได้ก็ดี แต่ว่าฉันจะบอกไว้ก่อนนะ เธอห้ามให้ตัวเองตกลงไปอีกเด็ดขาด” ถังถังเอ่ยด้วยน้ำเสียงขึงขัง

 

 

           เธอไม่ต้องการให้ฉู่เจียเสวียนได้รับความทุกข์ใดๆ อีกแล้วจริงๆ เธอเดินมาถึงวันนี้ได้อย่างยากลำบาก ถ้าหากหลงรักเผยหนานเจวี๋ยอีก แล้วกงจวิ้นฉือจะทำอย่างไรล่ะ เขาชอบเธอมากขนาดนั้น

 

 

           “วางใจเถอะน่า” ฉู่เจียเสวียนยิ้มเอ่ย

 

 

           เธอจะไม่ปล่อยให้ตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเผยหนานเจวี๋ยอีก เธอแค่ไม่ต้องการติดหนี้บุญคุณเขาก็เท่านั้น

 

 

           พอก้มหน้าก็ฝังตัวเองเข้ากับงานแล้ว งานในตอนนี้ต่างหากคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ เธอไม่ต้องการคิดถึงเรื่องจริงอีก

 

 

           ตอนกลางคืน กงจวิ้นฉือมารับฉู่เจียเสวียนหลังเลิกงาน

 

 

           ในรถ

 

 

           บนใบหน้าของกงจวิ้นฉือมีรอยยิ้มอบอุ่น มองไปที่ถนนเบื้องหน้าอย่างตั้งใจ

 

 

           “ไม่นานมานี้ที่ถนนถิงหวงมีร้านอาหารเปิดใหม่ ผมจะพาคุณไปลองนะ” กงจวิ้นฉือเอ่ย เสียงที่อบอุ่นดังขึ้น ฟังแล้วราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ

 

 

           “อืม” ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก นึกว่ากงจวิ้นฉือพาเธอไปกินข้าวธรรมดา

 

 

           จนกระทั่งเมื่อเธอเปิดประตูห้องส่วนตัวก็เห็นภาพที่อบอุ่นและโรแมนติกบนโต๊ะกินข้าว กลีบดอกกุหลาบโปรยปรายจากบนพื้นจนถึงโต๊ะ เทียนสีขาวรายล้อมโดยรอบ แสงไฟสลัว เผยให้เห็นความสวยงามอันเงียบสงบ

 

 

           อีกทั้งอาหารก็ถูกเตรียมไว้บนโต๊ะแล้ว รอเพียงให้พวกเขานั่งลงเท่านั้น

 

 

           บนใบหน้าของฉู่เจียเสวียนมีรอยยิ้ม รู้สึกตื้นตันในใจ

 

 

           เธอรู้มาโดยตลอดว่ากงจวิ้นฉือดีกับเธอ แต่ว่าเขาก็ยังสร้างความประหลาดใจและความโรแมนติกให้กับเธอเป็นครั้งคราว ทำให้ชีวิตน่าเบื่อน้อยลง

 

 

           เดิมทีกงจวิ้นฉือต้องการจะพาเธอไปยังร้านอาหารฝรั่งเศสร้านอื่น แต่เมื่อผ่านมาที่นี่ก็พบว่าร้านอาหารแห่งนี้เพิ่งเปิดใหม่ จึงอยากพาเธอมาลองดูสักหน่อย

 

 

           ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่ได้กินอาหารฝรั่งด้วยกันนานแล้ว ระยะนี้เกิดเรื่องตั้งมากมาย ฉะนั้นเขาต้องการให้เธอผ่อนคลายสักหน่อย

 

 

           “จวิ้นฉือ ขอบคุณนะ” ฉู่เจียเสวียนหันมองกงจวิ้นฉือที่อยู่ข้างๆ ยิ้มเอ่ยกับเขา ดวงตารู้สึกเปียกชื้น

 

 

           เธอรู้ดีว่าเขาต้องการให้เธอมีความสุข และหวังดีต่อเธอจริงๆ

 

 

           กงจวิ้นฉือส่ายหน้า พาฉู่เจียเสวียนไปที่โต๊ะ ลากเก้าอี้เพื่อให้เธอนั่งลง จากนั้นเขาก็นั่งลงตรงข้ามเธอ

 

 

           ระหว่างกินข้าวไม่มีใครพูดอะไร ฟังเพลงโรแมนติกและอบอุ่นในห้องอย่างเงียบๆ พลางมองกันและกันอย่างเงียบ ๆ

 

 

           หลังจากกินแล้ว ฉู่เจียเสวียนเช็ดปากของเธออย่างสง่างาม เห็นกงจวิ้นฉือยิ้มอย่างมีความสุข ดวงตาเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว

 

 

           กงจวิ้นฉือเห็นว่าฉู่เจียเสวียนอิ่มแล้วก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ เดินเข้าไปหาเธอ มองเธอด้วยความรักจากนั้นก็ทำท่าทางเชื้อเชิญเธอ

 

 

           มือหนึ่งยื่นออกมา อีกมือหนึ่งอยู่ด้านหลัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดของเขา “คุณหนูแวนสววยท่านนี้ คุณขอเชิญคุณเต้นรำจะได้ไหมครับ”

 

 

           ฉู่เจียเสวียนไม่ลังเล เธอยื่นมือออกมาอย่างสง่างาม วางมือลงบนฝ่ามือที่อบอุ่นของเขา แววตาเปื้อนรอยยิ้ม

 

 

 

 

              ตอนที่ 457 ส่งคุณกลับบ้าน

 

 

           กงจวิ้นฉือนำฉู่เจียเสวียนเต้นอย่างสง่างามไปตามเสียงดนตรีในห้อง

 

 

           ขณะที่พวกเขากำลังเพลิดเพลินกับเสียงเพลงนั้น จังหวะการเต้นก็เป็นไปอย่างอิสระและมีชีวิตชีวามากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

           แสงไฟสลัวในห้องทำให้พวกเขาเห็นหน้ากันและกันไม่ชัดเจนนัก เห็นเพียงดวงตาที่สดใสและเค้าโครงที่งดงามเท่านั้น

 

 

           พวกเขาจ้องกันและกันอย่างเงียบๆ มีรอยยิ้มบนใบหน้าทั้งสองและพวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

 

           เมื่อเพลงจบลง ทั้งสองหยุดเต้น กงจวิ้นฉือมองดูผู้หญิงที่สดใสและน่าประทับใจตรงหน้า กอดเธอแผ่วเบา

 

 

           ฉู่เจียเสวียนตัวแข็งทื่อ จากนั้นก็ค่อยๆ ผ่อนคลาย

 

 

           เมื่อรู้สึกได้ถึงอาการเกร็งของฉู่เจียเสวียน ความผิดหวังและความเสียใจผ่านวูบในดวงตาของกงจวิ้นฉือ

 

 

           ‘เธอยังคงรู้สึกอึดอัดกับเขามากขนาดนี้เชียวหรือ’ ถอนหายใจเบาๆ ในใจ จากนั้นก็พูดขึ้น

 

 

           “เจียเสวียน พรุ่งนี้ผมต้องไปทริปธุรกิจ อาจต้องไปหลายวันกว่าจะกลับมา คุณต้องดูแลตัวเองให้ดีนะเข้าใจไหม” เสียงของกงจวิ้นฉือดังอยู่เหนือศีรษะของฉู่เจียเสวียน มีความรู้สึกอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย

 

 

           หากไม่ใช่เพราะบริษัทต่างชาติต้องการให้เขาไปจัดการธุระด้วยตนเองแล้วล่ะก็ เขาไม่อยากจากเธอไปไกลขนาดนั้นจริงๆ แต่ว่าเขาจะไม่ไปก็ไม่ได้

 

 

           “ทำไมกะทันหันจังเลย” ทันทีที่ฉู่เจียเสวียนได้ยิน ก็เงยหน้าออกจากอ้อมอกของเขา แววตาที่มองเขามีความไม่เข้าใจ

 

 

           ไม่แปลกใจเลยที่เขาอ่อนโยนมากในคืนนี้ เพราะเขาจะไปต่างประเทศนี่เอง

 

 

           “ผมจะต้องไปคุยโครงการ คุณต้องดูแลตัวเองให้ดีล่ะ” มองดูเธอด้วยความรักลึกซึ้ง ใจของกงจวิ้นฉืออยากพาเธอไปด้วยจนแทบทนไม่ไหว เขาต้องการเห็นเธอตลอดเวลาจริงๆ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วพยักหน้า บนใบหน้ามีรอยยิ้ม รู้ว่าเขาเป็นห่วงเธอ

 

 

           “รู้แล้ว พรุ่งนี้คุณจะไปกี่โมง ฉันจะไปส่งคุณ” ฉู่เจียเสวียนกล่าว ผละออกจากอ้อมอกของเขาแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้

 

 

           “ไม่ต้องหรอก คุณน่ะ แค่ดูแลตัวเองให้ดีก็พอแล้ว ไว้ผมจะเอาของฝากมาให้คุณ” เสียงที่อบอุ่นของกงจวิ้นฉือดังขึ้น มันลอยเข้าหูของฉู่เจียเสวียน

 

 

           “อืม ฉันก็ไม่ใช่เด็กแล้วซะหน่อย คุณไม่ต้องห่วงฉัน คุณไปจัดการเรื่องที่เมืองนอกของคุณให้สบายใจเถอะ” ฉู่เจียเสวียนเอาสองมือเท้าคาง รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ภายใต้แสงสลัวทำให้กงจวิ้นฉือมองฉู่เจียเสวียนจนลืมตัว

 

 

           “เจียเสวียน ไว้ผมกลับมาแล้ว พวกเราหมั้นกันดีหรือเปล่า” กงจวิ้นฉือเอ่ยปาก สายตาที่มองฉู่เจียเสวียนมีความหวัง

 

 

           เห็นได้ชัดว่าฉู่เจียเสวียนไม่ได้คาดหวังว่าจู่ๆ กงจวิ้นฉือจะพูดแบบนี้ อึ้งไปชั่วขณะไม่รู้ว่าจะต้องตอบอย่างไร

 

 

           หลังจากรอยยิ้มที่แข็งทื่อบนใบหน้าแล้ว ฉู่เจียเสวียนเอ่ยถาม “จวิ้นฉือ เรื่องนี้ไว้คุณกลับมาค่อยคุยกันเถอะ พวกเราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่รีบเรื่องนี้?”

 

 

           ความหวังในดวงตานั้นหายไป แววตามืดมนลงและมีความเจ็บปวดวูบผ่าน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเห็นความเศร้าโศกบนใบหน้าของเขาแล้วก็ตื่นตกใจ รีบพูดขึ้น “จวิ้นฉือ ฉันแค่คิดว่าตอนนี้เราอย่างเพิ่งกังวลกับเรื่องพวกนี้ก่อน รอจนกว่าเรามั่นคงกว่านี้หน่อยค่อยคุยกันดีไหม”

 

 

           “โอเค ผมส่งคุณกลับบ้าน” กงจวิ้นฉือพูดขึ้นโดยข่มอารมณ์ผิดหวังเอาไว้ แววตามีรอยยิ้ม

 

 

           ตราบใดที่เธออยู่เคียงข้างเขาจนถึงสุดท้าย ตราบใดที่เธอไม่ทิ้งเขา เขาก็จะเต็มใจรอไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม

 

 

           ฉู่เจียเสวียนพยันหน้า ลุกขึ้นยืน แล้วออกไปจากห้องอาหารด้วยกันกับกงจวิ้นฉือแล้ว

 

 

           เมื่อกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว หลังจากอาบน้ำก็ขึ้นเตียงนอน หลายวันนี้เธอรู้สึกเหนื่อยมาก ฉะนั้นเมื่อหัวถึงหมอนก็หลับทันที

 

 

           เธอหลับสนิทตลอดคืน เมื่อตื่นขึ้นมาก็เป็นเช้าวันใหม่แล้ว

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเปิดผ้าห่มลงมาจากเตียง หลังจากอาบน้ำแล้วก็เหลือบมองเวลา คิดในใจว่าเวลาบินของกงจวิ้นฉือยังเหลืออีกสองชั่วโมง หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว ก็รีบขับรถไปยังสนามบิน

 

 

           เธอโทรศัพท์หากงจวิ้นฉือบนรถ เพื่อบอกว่าเธอกำลังมุ่งหน้าไปที่สนามบินและบอกเขาให้รอเธอครู่หนึ่ง

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset