กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 496 คำขู่ของเขา / ตอนที่ 497 จูบผม

        ตอนที่ 496 คำขู่ของเขา

 

 

           “งั้นตอนนี้คุณก็รีบกินอาหารเช้าซะ” เผยหนานเจวี๋ยพูดกับฉู่เจียเสวียน ในใจกลับต้องการขุนเธอให้อ้วนกว่านี้หน่อย ท่าทางเธอในตอนนี้ผอมเกินไปแล้วจริงๆ 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเดินไปยังโต๊ะกินข้าวอย่างไม่เต็มใจภายใต้สายตาของเผยหนานเจวี๋ย เหลือบมองเขา แต่เผยหนานเจวี๋ยกลับยิ้มให้เธอเบาๆ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกัดฟัน ก็แค่กินข้าวเช้าไม่ใช่หรือ เรื่องใหญ่อะไรกัน เพียงแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกบังคับให้กินอาหารเช้า เธอรับความรู้สึกเช่นนี้ไม่ได้เลยสักนิด เธอมองอาหารที่น่าอร่อยตรงหน้าแต่ก็ไม่มีความรู้สึกอยากกิน เมื่อตักเข้าปาก ก็มีความรู้สึกเหมือนกินขี้ผึ้งอยากไรอย่างนั้น 

 

 

           “ตอนบ่ายมีอะไรบ้าง” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากถามซูหราน ซูหรานไม่ได้เป็นเพียงพ่อบ้านเงินเดือนสูงลิ่ว แต่ยังเป็นผู้ช่วยของเผยหนานเจวี๋ยด้วย

 

 

           “งานตัดริบบิ้นที่สาขาซีเฉิงครับ” ซูหรานกล่าวอย่างนอบน้อม บนใบหน้ามีรอยยิ้ม

 

 

           “ไม่ไป”

 

 

           “หา? คือว่า…” เมื่อซูหรานได้ยินแล้วก็ประหลาดใจมาก การเปิดตัวสาขาไม่ใช่เรื่องเล็ก เขาคิดไม่ถึงว่าเผยหนานเจวี๋ยจะไม่ไปจริงๆ 

 

 

           “มีปัญหาเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยถามเย็นชา เหลือบมองซูหราน

 

 

           “ไม่มีปัญหาครับ” สายตาของเผยหนานเจวี๋ยทำให้ซูหรานตกใจกลัวจนตัวสั่น เขาจะกล้าบอกว่ามีปัญหาได้อย่างไรกัน นอกเสียจากว่าเขาไม่อยากทำงานนี้แล้ว 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยกวาดตามองสีหน้าหมดอาลัยตายอยากของฉู่เจียเสวียน มันทำให้เขารู้สึกไม่พอใจและทนไม่ได้อยู่ในใจ จึงตัดสินใจที่จะให้ความหวานกับเธอ 

 

 

           “ตอนบ่ายผมไม่มีธุระ ผมจะพาคุณเข้าไปในเมือง” เสียงเย็นชาของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น เมื่อเห็นว่าใบหน้าน้อยๆ ของฉู่เจียเสวียนสดใสขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง อารมณ์เขาก็ดีตามไปด้วย 

 

 

           “จริงเหรอ?” ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็มีสีหน้าดีใจ อารมณ์ที่หดหู่ในตอนแรกได้หายไปแล้ว เธอกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที

 

 

           “หรือว่าจะให้ผมพูดอีกรอบ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ย เลิกคิ้ว

 

 

           “ไม่ต้อง” ฉู่เจียเสวียนตอบทันทีโดยไม่คิด ในใจรู้สึกยินดี 

 

 

           “ท่านประธานครับ ตอนเช้าคุณมีประชุมสำคัญ นับจากนี้ไปยังมีเวลาอีกสามนาที” เสียงของซูหรานดังขึ้น แม้ว่าเขาไม่อยากรบกวนเวลาอันกลมเกลียวของทั้งสองคน แต่ว่าเขาก็ต้องเตือน หากอีกประเดี๋ยวมาโทษเขา เงินเดือนก็จะถูกตัดอีก 

 

 

           “ให้พวกเขารอไป” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยทันทีโดยไม่คิด สายตามองไปที่ฉู่เจียเสวียนตลอดเวลา ราวกับว่านอกจากเรื่องของเธอแล้วเรื่องอื่นก็ไม่สำคัญ

 

 

           “ได้ครับ” ซูหรานพยักหน้าตอบรับ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเผยหนานเจวี๋ยใส่ใจกับผู้หญิงคนหนึ่งมากขนาดนี้ เผยหนานเจวี๋ยที่ให้ความสำคัญกับงานเสมอก็ชะลอการทำงานลงเพราะผู้หญิงได้เหมือนกัน

 

 

           แม้แต่กับฉู่อีอี ก็ไม่เคยเห็นเขาใส่ใจขนาดนี้

 

 

           เมื่อฉู่เจียเสวียนได้ฟังบทสนทนาของพวกเขาแล้ว เธอรีบเอ่ยปากทันทีเพื่อไม่ให้งานของเขาล่าช้า “ฉันกินข้าวเสร็จแล้ว”

 

 

           “กินน้อยจังเลย” เผยหนานเจวี๋ยขมวดคิ้ว รู้สึกไม่พอใจกับการกินเพียงน้อยนิดของเธออย่างเห็นได้ชัด

 

 

           “ไม่อยากกิน” ฉู่เจียเสวียนตามองของว่างที่อยู่ตรงหน้า เธอไม่รู้สึกอยากกินจริงๆ รู้สึกปั่นป่วนท้องตลอดเวลา

 

 

           “ผมไม่ชอบให้เสียของ” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวเรียบๆ แล้วลุกขึ้นยืน

 

 

           “อ่อ…” ฉู่เจียเสวียนตอบรับแผ่วเบา จากนั้นก็ฝืนกินอีกนิดหน่อย

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเดินเข้ามาหาซูหราน ตบๆ ไหล่ของเขา “ดูเหมือนว่าฝีมือการทำอาหารของนายแย่ลงไปเยอะมาก”

 

 

           “ท่านประธานครับ มันไม่เกี่ยวกับผมมั้งครับ” ซูหรานพูด รู้สึกอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ทั้งๆ ที่เผยหนานเจวี๋ยทำให้เธอไม่พอใจแต่ก็ยังมาลงที่เขา

 

 

           “ถ้าเขากินอาหารของนายจนหมดเมื่อไหร่ จะให้โบนัสนาย” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยเย็นชา

 

 

           “ผมสัญญาว่าจะทำงานให้สำเร็จครับ” เมื่อได้ยินถึงโบนัส ซูหรานก็มีกำลังใจ ได้ยินคำสัญญาของเผยหนานเจวี๋ยแบบนี้ ทันใดนั้นหัวใจก็เต็มไปด้วยพลังงาน

 

 

 

 

        ตอนที่ 497 จูบผม

 

 

           “ฉันอิ่มแล้วจริงๆ” ฉู่เจียเสวียนรู้สึกว่าเผยหนานเจวี๋ยกำลังป้อนข้าวหมู ทุกครั้งที่เธอก้มหน้ากินข้าว เธอรู้สึกว่าแววตาของเผยหนานเจวี๋ยที่มองเธอเหมือนจะเปล่งประกาย

 

 

           หลังจากเผยหนานเจวี๋ยครุ่นคิดแล้ว ก็พูดกับซูหรานที่อยู่ข้างๆ “ยกเลิกประชุมเช้านี้ซะ” เขามีแผนใหม่แล้ว

 

 

           “มานี่ ผมจะพาคุณออกไป” เผยหนานเจวี๋ยกวักมือเรียกฉู่เจียเสวียน

 

 

           “ได้” เมื่อได้ยินว่าออกจากบ้านได้ ฉู่เจียเสวียนก็ลุกขึ้นทันที เดินไปหาเขา

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยพาฉู่เจียเสวียนไปที่โรงจอดรถของเขา ฉู่เจียเสวียนมองดูรถที่มีสีสันตรงหน้าแล้วก็อุทานด้วยความประหลาดใจ เธอเย้ยหยันพฤติกรรมของเผยหนานเจวี๋ยที่ล้างผลาญเงินครอบครัวอยู่ในใจลึกๆ

 

 

           แต่ว่าแปลกมาก ทำไมเธอถึงไม่รู้มาก่อนว่าเผยหนานเจวี๋ยมีทรัพย์สินเยอะแบบนี้? ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่รู้ว่าเขามีรถหลายคันขนาดนี้?

 

 

           ก็จริง ตอนที่เขาแต่งงานกับเธอ เขาแทบทนไม่ไหวที่จะฆ่าเธอ จะปล่อยให้เธอรู้เรื่องมากมายแบบนี้ได้อย่างไร?

 

 

           “วันนี้เราเลือกเฟอร์รารี่สีแดงเป็นไง” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยถามพร้อมหันมองฉู่เจียเสวียน

 

 

           “ก็ดูดี” ฉู่เจียเสวียนไม่มีความสนใจในรถ เขาอยากขับคันไหนก็ขับเถอะ ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่รถของเธอ

 

 

           “คุณชอบสีแดงเหรอ” ฉู่เจียเสวียนถามไปเรื่อยเปื่อย มองดูรถเฟอร์รารี่คันนั้นที่เขาพูดถึง

 

 

           “ผมชอบสีอะไรคุณก็ค่อยๆ สังเกตไปก็แล้วกัน” เผยหนานเจวี๋ยพูดอย่างมีความหมายแอบแฝง

 

 

           ‘ประสาท ใครจะไปสนใจว่าคุณชอบสีอะไร?’ ฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว อดไม่ได้ที่จะกลอกตาอยู่ในใจ

 

 

           “อ่อ” ฉู่เจียเสวียนตอบอย่างเฉยเมย เธอขี้คร้านจะไปสนใจว่าเขาชอบสีอะไร

 

 

           “พวกเราไปกันเถอะ” ฉู่เจียเสวียนต้องเตือนเผยหนานเจวี๋ย เธอรีบร้อนอยากจะกลับเข้าเมืองมาก

 

 

           “คุณรีบเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยไม่พอใจเล็กน้อย เธออดใจรอที่จะกลับเข้าเมืองไม่ไหวแบบนี้ ไม่อยากอยู่ด้วยกันกับเขาเหรอไง

 

 

           “ใช่ ฉันรีบมาก” ฉู่เจียเสวียนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเผยหนานเจวี๋ยอีก ไม่รู้ว่าจู่ๆ เขาเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเข้าใกล้ฉู่เจียเสวียนด้วยความโมโหเล็กน้อย เธอยังไม่ทันจะตอบสนองก็ถูกเผยหนานเจวี๋ยกดลงไปบนรถ มองดูสีหน้าที่มืดมนของเผยหนานเจวี๋ย เธอยื่นมือออกไปผลักเขา แต่ผลักอย่างไรก็ไร้ผล แผ่นหลังกดติดอยู่บนกระจกมองข้าง เธอเจ็บจนคิ้วขมวดเข้าหากัน

 

 

           “ไม่รู้จักดูตัวเอง” เผยหนานเจวี๋ยมองดูฉู่เจียเสวียนที่ต่อสู้อย่างเปล่าประโยชน์ เอ่ยปากเยาะเย้ย

 

 

           “เผยหนานเจวี๋ย คุณเป็นบ้าอะไรอีก” เขาเกือบจะทำให้ฉู่เจียเสวียนแทบบ้าอยู่แล้ว มองดูเขาที่อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย พูดจาไม่เข้าหูก็ใช้กำลัง แม่งเอ๊ย ฉู่เจียเสวียนโกรธมากจนด่าสบถอยู่ในใจ

 

 

           “ยังจำสัญญาสามวันของพวกเราได้ไหม” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยเย็นชา เตือนเธอถึงสัญญาระหว่างพวกเขา

 

 

           “จำได้อยู่แล้วสิ คุณปล่อยฉันก่อน” ฉู่เจียเสวียนกัดฟันพูด เธอจะลืมได้อย่างไรกัน แม้เธอต้องการจะลืมก็ไม่กล้าลืม

 

 

           “ได้สิ คุณจูบผมก่อน” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากด้วยความเอาแต่ใจและอันธพาล มองตรงไปที่เธอ

 

 

           “ฝันไปเถอะ” ฉู่เจียเสวียนปฏิเสธโดยไม่คิด จะให้เธอจูบเขางั้นเหรอ ฝันหวานไปเถอะ

 

 

           “งั้นผมก็ปล่อยคุณไม่ได้” เผยหนานเจวี๋ยมีเวลาเหลือเฟือที่จะทรมานเธออย่างช้าๆ เขามองดูฉู่เจียเสวียนที่ดื้อรั้นเหมือนเด็ก หัวเราะอยู่ในใจ

 

 

           “ฉันรับปากคุณ!” ฉู่เจียเสวียนไม่ต้องการเสียเวลากับเขาอีก พูดพร้อมกับกัดฟัน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองดูใบหน้าด้านข้างที่หล่อเหลาของเผยหนานเจวี๋ย ประทับจูบลงบนใบหน้าด้านข้างของเขาอย่างรวดเร็ว ทันทีที่สัมผัสก็คลายออกฉับพลัน

 

 

           “แบบนี้ไม่นับ ไม่รู้สึกเลย” เผยหนานเจวี๋ยไม่พอใจกับจูบนี้ของฉู่เจียเสวียนเป็นอย่างยิ่ง จูบของเธอเหมือนกับลูกเจี๊ยบที่จิกข้าวชัดๆ

 

 

           ก่อนที่จะได้รับการตอบสนองใดๆ จากฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยก็ก้มศีรษะและพิมพ์จูบบนริมฝีปากสีแดงของเธอทันที จากนั้นฉันก็ปล่อยฉู่เจียเสวียนอย่างพึงพอใจ

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset