กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 566 เมื่อก่อนคุณเคยมีภรรยาเหรอ / ตอนที่ 567 ถ้าหากมีวันหนึ่งที่เขารักฉัน

ตอนที่ 566 เมื่อก่อนคุณเคยมีภรรยาเหรอ

 

 

           “ฉันไม่เป็นไร ก็แค่บาดแผลภายนอกเล็กน้อยเท่านั้น แผลของคุณสาหัสกว่า” หลี่เซียนเซียนเอ่ยปากอย่างเป็นห่วง เพียงนึกถึงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ที่เขาไอเป็นเลือด หัวใจของเธอก็ตื่นตระหนก

 

 

           “ผมไม่เป็นไร” เผยหนานเจวี๋ยตอบเสียงเบา ความสามารถในการฟิ้นฟูร่างกายของเขาแข็งแกร่งมาก บาดแผลแค่นี้ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย

 

 

           หลี่เซียนเซียนกล่าวด้วยความเจ็บปวด “ไม่กี่วันก่อนยังไอเป็นเลือดอยู่เลย สีหน้าเพิ่งจะดีขึ้นนิดหน่อย คุณก็ไปที่บริษัทอีกแล้ว งานสำคัญกว่าร่างกายงั้นเหรอ”

 

 

           ซูหรานถือน้ำซุปออกมา ริมฝีปากยกยิ้ม มองดูหลี่เซียนเซียนที่โต้ตอบกับเผยหนานเจวี๋ย ดูออกว่าเขาก็ชอบเธออยู่บ้าง เธอทุ่มเทให้กับท่านประธานมาก แต่ไม่รู้ว่าในใจของเขาคิดอย่างไร

 

 

           ฟังหลี่เซียนเซียนพูดจ้อไม่หยุด เผยหนานเจวี๋ยขมวดคิ้ว มองดูซูหรานที่เดินออกมา เขาเอ่ยเย็นชา “ซูหราน”

 

 

           “ให้นายดูแลเขาให้ดี ทำไมแขนของเขาถึงมีเลือดออกอีกแล้ว” ไม่ต้องการพูดไร้สาระกับหลี่เซียนเซียนอีก เผยหนานเจวี๋ยได้แต่หาเรื่องซูหราน

 

 

           ซูหรานต้องการจะหายไปในอากาศซะเดี๋ยวนั้น แบบนี้เขาจะได้ไม่ต้องเป็นที่ระบายแล้ว

 

 

           เขาเอ่ยปากด้วยความน้อยใจ “ประธาน เพราะคุณหนูหลี่อุ่นน้ำแกงให้คุณ แผลที่แขนก็เลยแตกอีกรอบ”

 

 

           “นายก็อยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงให้เขาอุ่นแกง” เผยหนานเจวี๋ยถามซูหราน

 

 

           หลี่เซียนเซียนได้ยินแล้วรีบอธิบายแทนซูหรานทันที “ไม่เกี่ยวกับเขา เพราะฉันยืนกรานว่าจะอุ่นแกงให้คุณดื่มเอง”

 

 

           เธอดีใจมากที่เผยหนานเจวี๋ยเป็นห่วงเธอขนาดนั้น เธอเองก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่าบาดแผลของเธอมีเลือดออกแล้ว

 

 

           แต่ว่า เธอไม่ต้องการให้เผยหนานเจวี๋ยกล่าวโทษคนอื่นเพราะเธอ เธอเต็มใจทำสิ่งเหล่านี้ให้เขาเอง

 

 

           “ต่อไปคุณไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนี้ ให้ซูหรานทำเถอะ คุณรักษาร่างกายให้ดี” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว

 

 

อย่างขึงขัง

 

 

           ซูหรานมองดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างเผยหนานเจวี๋ยกับหลี่เซียนเซียนและยิ้มอย่างลับๆ ในใจเห็นหลี่เซียนเซียนเป็นคุณนายของท่านประธานแล้ว

 

 

           “ตอนนี้ฉันก็สบายดีไม่ใช่เหรอ” หลี่เซียนเซียนกระพริบตาถี่ แผลนั้นหากเทียบกับบาดแผลที่เธอเคยประสบเมื่อก่อนห่างไกลกันมาก

 

 

           ซูหรานที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดของหลี่เซียนเซียนแล้ว หัวเราะออกมา คำพูดนี้เป็นสิ่งที่เผยหนานเจวี๋ยเพิ่งพูดกับเธอไม่ใช่หรือ เธอเรียนรู้ได้เร็วจริงๆ

 

 

           ไม่ช้า ซูหรานก็ได้รับสายตาเยือกเย็น เผยหนานเจวี๋ยมองเขาด้วยสีหน้าเย็นเยียบ เมื่อเขาเห็นแล้วก็ตกใจ เมื่อกี้เขาลืมตัวไปจริงๆ เขาหลุดหัวเราะต่อหน้าเจ้านายได้อย่างไรกัน?

 

 

           “หนานเจวี๋ย พวกเรากินข้าวกันเถอะ ไม่งั้นกับข้าวจะเย็นหมดแล้ว” หลี่เซียนเซียนยื่นมือต้องการจะจูงมือของเขา แต่กลับถูกเขาหลบหนีโดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้แล้ว เขาก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า สำหรับความสนิทสนมที่ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจของหลี่เซียนเซียนนั้น หากเขาเลี่ยงได้เขาก็จะเลี่ยง

 

 

           “ได้ยินว่าเมื่อก่อนคุณเคยมีภรรยาเหรอ” หลี่เซียนเซียนกินพลางชวนเผยหนานเจวี๋ยคุยสัพเพเหระ

 

 

           คำพูดของหลี่เซียนเซียนทำให้เผยหยุดชะงัก เขามองหลี่เซียนเซียน จากนั้นก็ใช้สายตามองเตือนซูหราน

 

 

           ทั้งๆ ที่ให้เขาช่วยเขาดูแลหลี่เซียนเซียน แต่คิดไม่ถึงว่าเขาเปิดเผยเรื่องราวของเขากับหลี่เซียนเซียน

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังกับซูหราน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เป็นมืออาชีพอย่างมากในการควบคุมงานครั้งนี้ เธอไม่ได้เพียงแต่พูดออกมาเท่านั้นแต่ยังปล่อยให้เธอพูดออกมาไม่น้อย

 

 

           ซูหรานได้รับสายตาของเผยหนานเจวี๋ย เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง มองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่กล้ามองเผยหนานเจวี๋ย แววตาของเขาสามารถฆ่าคนได้โดยตรง

 

 

           “อืม” เผยหนานเจวี๋ยตอบรับอย่างเฉยเมย

 

 

           “แล้วเธอเป็นคนแบบไหนเหรอ” เธออยากรู้จริงๆ ว่าอดีตภรรยาของเขาเป็นคนอย่างไร และต้องการที่จะเห็น

 

 

 

 

        ตอนที่ 567 ถ้าหากมีวันหนึ่งที่เขารักฉัน

 

 

           “คุณถามเยอะเกินไปแล้ว” เห็นได้ชัดว่าเผยหนานเจวี๋ยไม่ต้องการคุยกับเธอหัวข้อนี้ และเห็นได้ชัดว่าหงุดหงิดเล็กน้อย

 

 

           “คุณโกรธแล้วเหรอ” หลี่เซียนเซียนถามอย่างเขินอาย เธอรู้สึกได้ว่าลมหายใจจากตัวของเผยหนานเจวี๋ยเปลี่ยนไป

 

 

           “อย่ายุ่งกับเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวเย็นชา เขาไม่ชอบให้เธอมาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา

 

 

           “เรื่องที่เกี่ยวกับคุณก็เกี่ยวกับฉัน” หลี่เซียนเซียนมองตาเขาโดยตรง มองเขาโดยที่ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย

 

 

           เธอไม่เคยชอบใครแบบนี้มาก่อน เมื่อเห็นเขาครั้งแรก เธอก็ชอบเขาแล้ว เขาเป็นประกายราวกับแสงอาทิตย์ เธอเป็นเหมือนผีดูดเลือดที่ละลายอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์

 

 

           “อย่าทำให้ผมเสียใจที่พาคุณกลับมาจะดีที่สุด” ทันใดนั้นลมหายใจของเผยหนานเจวี๋ยเปลี่ยนไป ทั้งร่างกายเปล่งรัศมีเยือกเย็น

 

 

           เขาไม่ได้เป็นคนอ่อนโยน ยกเว้นฉู่เจียเสวียนแล้ว กับคนอื่นเขาไม่เคยยอมใครซ้ำๆ

 

 

           จู่ๆ บรรยากาศก็กลายเป็นอึดอัด อากาศดูเหมือนจะแข็งตัว หัวใจของหลี่เซียนเซียนทนมานอย่างที่สุด เธอกลัวจนตัวสั่น

 

 

           “ผมอิ่มแล้ว” พูดจบอย่างเย็นชา เผยหนานเจวี๋ยออกไปจากโต๊ะกินข้าว

 

 

           เขาไม่ต้องการจะพูดอะไรกับหลี่เซียนเซียนมากอีก ฉะนั้นจึงก่อนไปจากโต๊ะกินข้าวก่อน

 

 

           มองดูเงาของเผยหนานเจวี๋ยที่ค่อยๆ ไกลๆออกไป ได้ยินเสียงรถดังขึ้นในสวน หลี่เซียนเซียนมองซูหรานด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ฉันทำให้เขาโกรธใช่ไหม”

 

 

           ซูหรานส่ายหน้า พูดเสียงกระซิบ “ท่านประธานเป็นคนที่มีความพิเศษเฉพาะ ถ้าเขายึดมั่นใครสักคนนึงจะเปลี่ยนได้ยากมากครับ”

 

 

           หลี่เซียนเซียนได้ยินแล้วพยักหน้า “นี่เป็นเรื่องดี”

 

 

           “ถ้าหากมีวันนึงเขารักฉันล่ะก็ งั้นเขาก็จะยึดมั่นในฉันแล้วสิ?” ใบหน้าของหลี่เซียนเซียนมีรอยยิ้มไร้เดียงสาและสดใส

 

 

           ได้ยินคำพูดของเธอ ซูหรานอดไม่ได้ที่จะชื่นชมการมองโลกในแง่ดีของเธอ วิธีคิดของเธอช่างสวยงามจริงๆ ดูจากสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว เธอไม่มีความหวังใดๆ แล้วจริงๆ

 

 

           “คุณหมายความว่ายังไง” มองดูสีหน้าที่บ่งบอกว่าเป็นไปไม่ได้ของซูหราน เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม

 

 

           “ผมสนับสนุนคุณทางจิตใจครับ” ซูหรานยิ้ม เริ่มเก็บชามและตะเกียบ

 

 

           เมื่อครู่เผยหนานเจวี๋ยได้เตือนเขาแล้ว เขาไม่สามารถพูดอะไรได้มากอีก มิฉะนั้นถ้าหากเขาเกิดอารมณ์แปรปรวนขึ้นมา อาจจะไล่เขาออกเมื่อไรก็ได้

 

 

           ออกไปจากวิลล่าซีเจียว เผยหนานเจวี๋ยก็รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย

 

 

           เขาไม่ควรรับปากว่าจะพาเธอกลับเมือง A ตอนนี้ทั้งเมือง A เธอรู้จักเพียงเขา เขาก็ไม่สามารถไล่ผู้มีบุญคุณของตัวเองออกไปได้ เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกปวดหัวจริงๆ

 

 

           เดิมทีเผยหนานเจวี๋ยต้องการฟื้นฟูร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์ก่อนกลับมา แต่เขาไม่สามารถอยู่ต่างประเทศได้จริงๆ พระเจ้ารู้ดีว่าเขาคิดถึงฉู่เจียเสวียนมากแค่ไหน

 

 

           แต่หลังจากเผยหนานเจวี๋ยกลับประเทศแล้ว ก็แสร้งไปทำงานราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่ต้องการให้ฉู่เจียเสวียนเป็นห่วง เขาต้องทำงานตามปกติและจะต้องไม่ให้ผู้อื่นเห็นความแตกต่าง

 

 

           ตอนเที่ยง เผยหนานเจวี๋ยรีบกลับไปที่บริษัท ทันทีที่ถึงหน้าประตูออฟฟิศ ผู้ช่วยก็มาหาเขา พร้อมถือเอกสารเร่งด่วนอยู่ในมือ

 

 

           “ประธานเผย นี่คือเอกสารของบริษัทหลิงครับ”

 

 

           “เอามา” เผยหนานเจวี๋ยรับเอกสารมา พลางนั่งลงที่เก้าอี้ทำงาน

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยอ่านเอกสารในมืออย่างจริงจัง เขาไม่ควรเสียเวลาในการกลับไปที่วิลล่า การไปกลับเที่ยวนี้มันทำให้เขาต้องล่าช้าไปไม่น้อย

 

 

           อ่านเอกสารจบ โบกไม้โบกมือ เขียนชื่อที่เอาแต่ใจของตัวเองลงไป “คุณไปส่งเอกสารฉบับให้บริษัท

 

 

หลิงด้วยตัวเอง”

 

 

           “ประธานเผย พื้นที่ฝั่งตะวันตกก็เร่งด่วนมาก หวังว่าคุณจะจัดการกับมันโดยเร็วที่สุดนะครับ” ผู้ช่วยรับเอกสารมาโดยไม่ลืมที่จะเตือนสติ

 

 

           “มีอะไรอีกไหม” เผยหนานเจวี๋ยวางแผนที่จะทำงานล่วงเวลาคืนนี้เพื่อจัดการกับเอกสารเร่งด่วนเหล่านั้น

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset