กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 568 กลัวว่าโลกนี้จะสงบสุขเกินไป / ตอนที่ 569 คู่หมั้น

      ตอนที่ 568 กลัวว่าโลกนี้จะสงบสุขเกินไป

 

 

           ผู้ช่วยฟังแล้วก็จัดเรียงลำดับงานทีละอย่างให้เผยหนานเจวี๋ย

 

 

           “ได้ ผมรู้แล้ว คุณไปเถอะ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากเย็นชา หยิบเอกสารขึ้นมาแล้วเริ่มพลิกอ่านดู

 

 

           “ครับ ถ้าท่านประธานมีเรื่องด่วนอะไร…”

 

 

           “วางใจเถอะ ถ้ามีอะไรผมจะเรียกหลี่เฮ่า” ผู้ช่วยยังไม่ทันพูดจบ เผยหนานเจวี๋ยก็เอ่ยขึ้น

 

 

           เนื่องจากเผยหนานเจวี๋ยไปต่างประเทศเป็นเวลานานเกินไป กิจการของบริษัทเกือบทั้งหมดจึงถูกส่งมอบให้กับผู้ช่วยเพื่อดูแล และเนื่องจากงานมีมากเกินไป ดังนั้นเผยหนานเจวี๋ยจึงตั้งใจมอบหมายให้หลี่เฮ่ามาช่วยเหลือผู้ช่วย

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานทั้งวัน ไม่ได้ลุกขึ้นมาเลย บางครั้งก็มีอาการไอสองสามครั้ง แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก

 

 

           เอกสารทั่วไปของบริษัทเผยได้รับการดำเนินการโดยผู้ช่วยเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นเอกสารที่ค่อนข้างสำคัญซึ่งรอให้เผยหนานเจวี๋ยกลับประเทศมาจัดการ

 

 

           อย่างไรก็ตามหลังจากทำงานมาทั้งวัน เผยหนานเจวี๋ยได้จัดการเอกสารถึงหนึ่งในสามแล้ว เขาทำงานล่วงเวลาอยู่เสมอ จนกระทั่งคนทั้งบริษัทกลับไปแล้ว เขาก็ยังทำงานอยู่จนดึกดื่น

 

 

           ผู้ช่วยและหลี่เฮ่าต้องการทำงานล่วงเวลากับเผยหนานเจวี๋ย แต่ว่ากลับถูกเขาไล่กลับไปแล้ว เอกสารที่เขาต้องจัดการนั้น พวกเขาทั้งสองไม่สามารถช่วยได้

 

 

           เขาไม่ชอบที่จะเสียเวลาและกำลังคน การทำงานล่วงเวลาอย่างไร้ประสิทธิภาพไม่มีความหมายสำหรับเขา

 

 

           ตอนกลางคืน เมือง A ยิ่งหนาวลงอย่างเห็นได้ชัด เผยหนานเจวี๋ยเดินออกจากบริษัท เดินตรงไปที่โรงจอดรถใต้ดินเพื่อไปรับรถ

 

 

           เขาเพียงแค่สวมแจ็คเก็ตสูท สูทที่ตัดอย่างดีนั้นไม่สามารถต้านทานลมหนาวได้เลย

 

 

           เขาถอนหายใจเบาๆ ลมหายใจที่พ่นออกมานั้นกลายเป็นหมอกสีขาว ขาตรงยาวเดินไปที่รถของเขาทีละก้าวๆ

 

 

           ด้วยเหตุผลทางกายภาพ เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกว่าคืนนี้หนาวเย็นเป็นพิเศษ และความสามารถในการต้านทานความหนาวของเขาลดลงไม่น้อย

 

 

           ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา ร่างกายของเขาไม่รู้สึกหนาวแม้อุณหภูมิจะเป็นลบ มันก็ยังอุ่น

 

 

           หลังจากอุบัติเหตุในสหรัฐอเมริกาครั้งนั้น สมรรถภาพทางกายของเขาลดลงมาก

 

 

           เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้ามีหมอกสีเทา ตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงแล้ว ถนนบนภูเขาส่วนใหญ่ในเมือง A ยังคงล้อมรอบด้วยหมอกหนา จนกระทั่งดวงอาทิตย์ออกมา หมอกก็ค่อยๆจางหายไป

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยไปที่ออฟฟิศตั้งแต่เช้า เขาเห็นหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้วางอยู่บนโต๊ะทำงาน

 

 

           ผู้ช่วยมาถึงบริษัทเร็วกว่าเผยหนานเจวี๋ย เขาเห็นข่าวร้ายจากหนังสือพิมพ์บันเทิง ดังนั้นเขาจึงนำไปวางที่โต๊ะของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว

 

 

           พาดหัวข่าวจากหนังสือพิมพ์บันเทิงยังคงเป็นเรื่องของเผยหนานเจวี๋ยและหลี่เซียนเซียน ในครั้งนี้เขียนแม้กระทั่งประวัติความเป็นมาของหลี่เซียนเซียนด้วย

 

 

           ในนั้นคาดเดากันว่าหลี่เซียนเซียนเป็นคู่หมั้นของเขา และพวกเขาวางแผนที่จะแต่งงานในปีหน้า

 

 

           สำนักพิมพ์แห่งนี้ช่างบังอาจจริงๆ กล้าสร้างพาดหัวข่าวส่งเดช ดูเหมือนว่าระยะหลังนี้เขาใจดีมากเกินไปแล้ว ฉะนั้นพวกเขาจึงลืมไปว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนอย่างไร

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยกดเบอร์ภายใน เรียกให้ผู้ช่วยเข้ามา

 

 

           พายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที เขาก็ปรากฏตัวขึ้นในออฟฟิศของเผยหนานเจวี๋ย เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเผยหนานเจวี๋ย แววตามืดมนจ้องมองอยู่ที่หนังสือพิมพ์

 

 

           “เตือนสติพวกเขา” เผยหนานเจวี๋ยยิ้มเอ่ยเย็นชา

 

 

           คนพวกนี้ไร้ระเบียบขึ้นทุกที จะปล่อยให้พวกเขาคาดเดาเรื่องของเขาส่งเดชได้อย่างไร พวกเขากลัวว่าโลกใบนี้จะเงียบสงบเกินไปแล้วหรือไง

 

 

           “ประธานเผยอยากจะเตือนระดับที่หนึ่งหรือสองครับ” ผู้ช่วยถามด้วยความนอบน้อม

 

 

           “ระดับหนึ่ง ห้ามปล่อยบริษัทหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารที่เขียนข่าวมั่วไปโดยเด็ดขาด” เผยหนานเจวี๋ยไม่ได้ทำเรื่องที่รุนแรงเช่นนี้นานแล้ว นานเสียจนความกระหายเลือดในกระดูกของเขาเกือบจะหลับใหล

 

 

 

 

        ตอนที่ 569 คู่หมั้น

 

 

           “หนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ ผมต้องการให้ข่าวที่ยุ่งเหยิงพวกนี้หายไปจากตลาดให้หมด” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากเย็นชา แววตามีความมืดมน

 

 

           “ครับ” ผู้ช่วยพยักหน้า แล้วหันหลังจากไป

 

 

           มองดูเงาของผู้ช่วยที่เดินไกลออกไป ริมฝีปากของเผยหนานเจวี๋ยก็บิดเป็นเส้นโค้งด้วยความกระหายเลือด ระยะหลังมานี้อาจเป็นเพราะว่าเขาอ่อนโยนเกินไป และมันก็เหมาะสมที่จะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้พอดี  

 

 

           หวังว่าตอนนี้จะยังสามารถแก้ไขได้ เขากลัวว่าฉู่เจียเสวียนจะเห็นรายงานข่าวนี้

 

 

           แต่ว่าเมื่อวานเธอก็เห็นพาดหัวข่าวแล้ว เช่นนั้นวันนี้เธอก็จะต้องเห็นแน่นอน

 

 

           เพียงแค่คิดว่าฉู่เจียเสวียนน่าจะได้อ่านหัวข้อข่าวของวันนี้แล้ว เขาแทบอยากจะให้หนังสือพิมพ์เหล่านี้ล้มละลาย

 

 

           เขาต้องหาว่าใครอยู่เบื้องหลังกันแน่ ไม่ช้าก็เร็วเขาจะให้คนนั้นได้ชดใช้ ความโหดเ**้ยมผ่านวูบในแววตาของเขา

 

 

           ระหว่างที่กำลังเหม่อลอยนั้น โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะทำงานดังขึ้น มันเป็นสายของคุณแม่เผย

 

 

           “ฮัลโหล แม่ครับ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยเรียบๆ

 

 

           “ลูกแม่ ในหนังสือพิมพ์มันเรื่องจริงเหรอ ผู้หญิงคนนั้น?” คุณแม่เผยถามทันทีโดยไม่อ้อมค้อม

 

 

           ลูกชายคนนี้พอกลับมาจากต่างประเทศแล้วก็ไม่มาหาแม่ แต่กลับเล่นซ่อนแอบผู้หญิงในบ้าน

 

 

           ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธออ่านหนังสือพิมพ์ เธอก็ไม่รู้ว่าเขากลับมาแล้ว

 

 

           เธอรอเขาอยู่ที่บ้านทั้งวัน ก็ไม่เห็นเขากลับมาหาเธอ แต่เธอต้องเป็นฝ่ายโทรถามเขาแทน

 

 

           “ไม่ใช่เรื่องจริงครับ” เอ่ยเย็นชา หันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง

 

 

           “จริงเหรอ” คุณแม่เผยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

 

 

           “จริงครับ”

 

 

           “เอาเถอะ แล้วเมื่อไรลูกจะกลับมาหาแม่”

 

 

           “สองสามวันนี้มั้งครับ” ตอนนี้เขายังไอนิดหน่อย เขาไม่อยากให้เธอเป็นห่วง

 

 

           “เอาเถอะ งั้นลูกต้องดูแลตัวเองให้ดี”

 

 

           พูดจบ ก็วางสายแล้ว

 

 

           หลังจากวางสาย เผยหนานเจวี๋ยมองออกไปนอกหน้าต่างราวกับกำลังคิดอะไรอยู่ นิ้วเรียวยาวเคาะอยู่บนโต๊ะเบาๆ

 

 

           ที่จริง ฉู่เจียเสวียนเห็นข่าวตั้งนานแล้ว

 

 

           ตอนเช้า ฉู่เจียเสวียนลงมากินข้าวที่ชั้นล่าง เมื่อเห็นหนังสือพิมพ์บนโต๊ะ ก็คิดถึงพาดหัวข่าวของเมื่อวาน หัวใจก็ไม่มีความสุข

 

 

           เดิมทีเธอไม่อยากอ่านหนังสือพิมพ์ หลังจากครุ่นคิดแล้วก็ยังหยิบมันขึ้นมา พลิกไปยังพาดหัวข่าวของวันนี้โดยไม่รู้ตัว เนื้อหาครั้งนี้ยิ่งทำให้หัวใจของเธอตื่นตระหนก

 

 

           ฉู่เจียเสวียนตั้งใจอ่านหนังสือพิมพ์มาก จนกระทั่งซูซานเดินออกมาจากห้องครัวแล้วเธอก็ยังไม่เห็น

 

 

           เธอกัดริมฝีปาก สีหน้าไร้เลือด ทั้งเนื้อข่าวล้วนเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับความรักของเผยหนานเจวี๋ยและหลี่เซียนเซียน แม้กระทั่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหลี่เซียนเซียนก็ถูกเขียนไว้ทั้งหมด

 

 

           “เจียเสวียน ลูกเป็นอะไรไป” ซูซานออกมา เห็นว่าฉู่เจียเสวียนสีหน้าไม่ค่อยดี เธอถามด้วยความเป็นห่วง

 

 

           “ไม่มีอะไรค่ะ” ฉู่เจียเสวียนโยนหนังสือพิมพ์ไปอีกทาง ก้มหน้ากินอาหารเช้า

 

 

           ซูซานได้ยินแล้วยิ่งรู้สึกสงสัย สองวันนี้สีหน้าของเธอดูเหมือนไม่ค่อยดีเท่าไร

 

 

           “แม่คะ หนูไปทำงานก่อน” พูดจบ ฉู่เจียเสวียนก็ออกไปจากห้องกินข้าว หยิบกระเป๋าแล้วออกจากบ้านไป

 

 

           สภาพอากาศภายนอกเป็นสีเทา ในขณะที่ปิดประตูปิดลง ฉู่เจียเสวียนเงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า เมื่อเห็นท้องฟ้าสีเทาก็รู้สึกรำคาญใจ

 

 

           เธอก้าวเดินไปยังโรงจอดรถ ข่าวที่เพิ่งอ่านไปผุดขึ้นมาในสมองไม่หยุดหย่อน

 

 

           คู่หมั้น?

 

 

           คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีคู่หมั้นอีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านไปสามปี คู่หมั้นของเขาก็ยังไม่ใช่เธอ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนหัวเราะเยาะตัวเอง เธอไม่ได้เป็นอะไรในใจของเผยหนานเจวี๋ยเลย เดิมทีนึกว่าเขาชอบเธอเข้าจริงๆ แล้ว เธอยังเกือบเชื่อเลยด้วยซ้ำ

 

 

           “นี่ คุณจะไปหรือเปล่า!” เสียงแตรที่ไม่พอใจดังมาจากด้านหลัง ฉู่เจียเสวียนดึงสติกลับมา เห็นว่าตอนนี้ด้านหน้าไฟเขียวนานแล้ว เธอรีบออกรถอย่างรวดเร็ว

 

 

           รถแล่นไปถึงร้านชุดแต่งงาน ทันทีที่ชูเจียเซ่วนเข้ามาในร้านก็เห็นพนักงานกำลังล้อมลงพูดคุยอะไรกันบางอย่าง

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset