กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 604 ถูกจู่โจมหลายครั้งติดต่อกัน / ตอนที่ 605 ลาจากโลกใบนี้

ตอนที่ 604 ถูกจู่โจมหลายครั้งติดต่อกัน

 

 

           เมื่อครู่ขณะที่ฉู่เจียเสวียนรับสาย เผยหนานเจวี๋ยก็รู้สึกแล้วว่าฉู่เจียเสวียนไม่ปกติ เขาเกือบจะคาดเดาเนื้อหาที่ปลายสายได้ หลังจากถูกจู่โจมหลายครั้งติดต่อกัน เขาเป็นห่วงจริงๆ ว่าเธอจะรอดชีวิตมาได้หรือเปล่า

 

 

           นอกประตูห้องฉุกเฉิน ฉู่เจียเสวียนมองดูคนขับรถมีผ้าก้อซพันรอบหัว เขากำลังมุ่งหน้าไปที่ประตูห้องผ่าตัดอย่างเป็นกังวล

 

 

           เมื่อเห็นฉู่เจียเสวียนแล้ว คนขับรถก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด เป็นเพราะเขาคนเดียว เขาไม่ควรเร่งความเร็วรถ หากไม่เร่งความเร็วรถ ก็จะไม่เกิดเรื่องเช่นตอนนี้แล้ว

 

 

           “คุณหนูฉู่ ขอโทษครับ” คนขับรถก้มหน้าพูด

 

 

           ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ อุบัติเหตุแบบนี้ไม่สามารถโทษใครได้

 

 

           “เขาเข้าไปนานแค่ไหนแล้ว” นี่ต่างหากคือสิ่งที่ฉู่เจียเสวียนเป็นกังวล ยิ่งเข้าไปนานเท่าไร ก็จะหมายความว่ายิ่งบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น

 

 

           “ชั่วโมงกว่าแล้ว” คนขับรถกล่าวตามความจริง เขาเฝ้ารออย่างทุกข์ทนทรมานเป็นเวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว

 

 

           หนึ่งชั่วโมงกว่านี้ เขารู้สึกราวกับว่าผ่านไปแล้วหนึ่งศตวรรษ

 

 

           หลังจากที่ผู้ช่วยเข้าใจสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว ก็รีบกลับไปที่ห้องผู้ป่วยของเผยหนานเจวี๋ย และเล่าเรื่องให้เผยหนานเจวี๋ยฟัง

 

 

           ในเวลานี้กงจวิ้นฉือก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ นี่ไม่ใช่ข่าวที่ดีเลย

 

 

           “ฉันจะไปเยี่ยมเขา” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ย เปิดผ้าห่มออกต้องการจะลงจากเตียง แต่กลับถูกผู้ช่วยห้ามไว้

 

 

           “ประธานเผย ตอนนี้ร่างกายของคุณอ่อนแอมาก ถ้าหากคุณหนูฉู่รู้ เธอจะต้องไม่พอใจแน่” ฉู่เจียเสวียนกำชับเขาเป็นพิเศษ บอกว่าจะต้องดูแลเขาให้ดีเวลาที่เธอไม่อยู่ ห้ามให้เขาไปไหนมาไหนตามอำเภอใจ

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยได้ยินแล้วสีหน้าเย็นชา “ฉันจะทำอะไร นายจำเป็นต้องมายุ่งด้วยเหรอ”

 

 

           ผู้ช่วยเป็นลูกน้องของเผยหนานเจวี๋ย ไม่ใช่ลูกน้องของฉู่เจียเสวียน ฉะนั้นเขายังต้องฟังเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           เมื่อเผยหนานเจวี๋ยกำลังจะเปิดผ้าห่มออกนั้น ประตูห้องคนไข้ก็เปิดออกทันที เธอเหลือบมองผู้ช่วยและเผยหนานเจวี๋ยเล็กน้อย

 

 

           หลังจากฉู่เจียเสวียนครุ่นคิดครู่หนึ่งก็เอ่ยปาก “จวิ้นฉือเกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน หลี่เฮ่า คุณดูแลเขาให้ดี ฉันจะไปรอเขาออกมาจากห้องฉุกเฉิน”

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกลัวว่าเผยหนานเจวี๋ยจะเป็นห่วง จึงตั้งใจวิ่งมาบอกเขา และเล่าเรื่องที่กงจวิ้นฉือประสบอุบัติเหตุให้เขาฟัง

 

 

           “ผมจะไปกับคุณ” เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ย

 

 

           “ไม่ได้ ร่างกายของคุณยังไม่หายดี คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉัน รอจวิ้นฉือออกมา ฉันก็จะกลับมา” แม้ในใจเชื่อว่ากงจวิ้นฉือจะไม่เป็นอะไร แต่ว่าเธอก็ยังคงเป็นห่วง คนขับรถบอกว่ากงจวิ้นฉือเสียเลือดมาก เธอไม่อาจจินตนาการถึงฉากนั้นได้เลย

 

 

           เมื่อฉู่เจียเสวียนไปถึงที่ห้องฉุกเฉินอีกครั้ง คุณย่ากงก็รุดไปถึงเช่นกัน ทั้งสองคนเจอกันตรงทางเดินของโรงพยาบาล

 

 

           “คุณย่า ทางนี้ค่ะ” ฉู่เจียเสวียนเห็นคุณย่ากงมีท่าทางลนลานราวกับแมลงวันไร้หัว บุคลิกที่สงบนิ่งตามปกติหายไปหมดสิ้น

 

 

           ก็จริง คุณย่ากงมีเพียงกงจวิ้นฉือเป็นหลานเพียงคนเดียว จะไม่ให้เธอเป็นห่วงได้อย่างไร? จะไม่ให้หวาดกลัวได้อย่างไร?

 

 

           วินาทีที่เธอได้รับสายว่ากงจวิ้นฉือประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอตกใจจนโรคหัวใจแทบจะกำเริบแล้ว

 

 

           เมื่อคุณย่ากงเห็นฉู่เจียเสวียน ความดีใจปรากฏขึ้นในดวงตา เธอเป็นเหมือนเด็กหลงคนหนึ่งที่พบแสงสว่างในป่าและนำทางเธอไปในทิศทางที่ถูกต้อง

 

 

           ฉู่เจียเสวียนประคองคุณย่ากงเดินไปยังห้องฉุกเฉิน

 

 

           คนขับรถเฝ้าอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา คุณย่ากงเห็นคนขับรถแล้ว อารมณ์โกรธในหัวใจของเธอก็พุ่งพล่านอย่างประหลาด “ทำไมหลานของฉันถึงอยู่ที่นี่ ทำไมเธอถึงไม่เป็นอะไร เธอขับรถยังไงกันแน่”

 

 

           เธอมีเพียงหลานเพียงคนเดียว ถ้าหากเขาเป็นอะไรไป เธอจะอยู่อย่างไร

 

 

           “คุณย่าคะ คุณย่าใจเย็นก่อนนะคะ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากปลอบโยน ตอนนี้ไม่ใช้เวลาตามหาคนรับผิดชอบ

 

 

 

 

        ตอนที่ 605 ลาจากโลกใบนี้

 

 

           “ขอโทษครับ นายท่านหญิง…” คนขับรถเอ่ยปากพึมพำ

 

 

           “ขอโทษแล้วมีประโยชน์อะไร ขอโทษแล้วหลานของฉันจะออกมาเหรอ ขอโทษแล้วหลานของฉันจะหายเป็นปกติงั้นเหรอ” ในเวลานี้คุณย่ากงสูญเสียความสง่างามตามปกติไปแล้ว ในขณะนี้เธอเป็นแค่หญิงชราคนหนึ่งที่ผลักความผิดพลาดทั้งหมดไปที่คนขับ

 

 

           “เธอมันไม่ได้เรื่องจริงๆ!” คุณย่ากงก่นด่าต่อ ราวกับว่าต้องการที่จะระงับความไม่สบายใจในหัวใจ

 

 

           “คุณย่าคะ คุณหมอยังอยู่ในห้องผ่าตัด ที่นี่ต้องเงียบๆ นะคะ ไม่งั้นจะรบกวนคุณหมอ” ฉู่เจียเสวียนไม่ต้องการให้คนขับรถผู้บริสุทธิ์ต้องถูกตำหนิ

 

 

           คุณย่ากงได้ยินแล้วก็ค่อยๆ สงบลง เธอไม่สามารถรบกวนการผ่าตัดของคุณหมอ แม้ว่าในใจของเธอจะคุกรุ่นแค่ไหน ก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดบัญชี สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือร่างกายของกงจวิ้นฉือ

 

 

           ในท้องฟ้าพายุฝนฟ้าคะนองอย่างต่อเนื่องและมีฟ้าผ่าเป็นครั้งคราว

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกับคุณย่ากงรอคอยอย่างตื่นเต้นที่หน้าประตู

 

 

           เงียนงันเนิ่นนาน คุณย่ากงมองดูคนขับรถที่กล่าวโทษตัวเองอยู่ข้างๆ ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ “เธอกลับไปเถอะ ฉันเห็นหน้าเธอแล้วรู้สึกเกะกะลูกตา”

 

 

           คนขับรถมองฉู่เจียเสวียน เธอพยักหน้าให้เขา เขาจึงหมุนตัวจากไป

 

 

           ทันทีที่คนขับรถจากไปแล้ว คุณย่ากงก็อ่อนปวกเปียกลงทันใด ราวกับพลังงานทั้งหมดในร่างกายถูกสูบออกไปอย่างไรอย่างนั้น

 

 

ฉู่เจียเสวียนยื่นมือประคองเธอไปนั่งพักที่เก้าอี้ด้านข้าง ในเวลานี้คุณย่ากงไม่มีความดุดันเหมือนเมื่อครู่แล้ว ตอนนี้เธอเหมือนกับหญิงชราผู้อ่อนแอคนหนึ่ง อ้างว้างไร้ที่พึ่ง ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่ประตูห้องผ่าตัดที่ปิดสนิท

 

 

           “เจียเสวียน จวิ้นฉือจะต้องไม่เป็นไรอะไร” หัวใจของคุณย่ากงเต้นไม่เป็นจังหวะ

 

 

           “ค่ะ ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องไม่เป็นอะไร” ประโยคนี้ดูเหมือนจะปลอบโยนคุณย่ากงแล้วก็เหมือนกับปลอบใจตัวเอง

 

 

           “คุณย่า คุณย่าอย่าห่วงเลยค่ะ อีกไม่นานเขาจะต้องออกมาแน่ๆ” ฉู่เจียเสวียนปลอบประโลมคุณย่ากงต่อ

 

 

           ในที่สุดหลังจากพวกเรารอคอยอย่างทรมานเป็นเวลาสามชั่วโมง ไฟในห้องฉุกเฉินก็ดับลง

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกับคุณย่ากงรู้สึกจุกที่หน้าอก ลุกขึ้นทันใด เดินเข้าไปหาคุณหมอ

 

 

           “คุณหมอ หลานของฉันเป็นยังไงบ้าง” คุณย่ากงกล่าวอย่างตื่นตระหนก

 

 

           “วางใจเถอะครับ คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว ตอนนี้ไม่มีอะไรร้ายแรงแล้ว” คุณหมอเอ่ยปาก คำที่กล่าวออกมาทำให้คุณย่ากงกับฉู่เจียเสวียนโล่งอก

 

 

           เนื่องด้วยคุณย่ากงตื่นเต้นเกินไป เมื่อได้ยินคุณหมอบอกว่ากงจวิ้นฉือไม่มีอะไรร้ายแรงแล้ว ก็หมดสติไป

 

 

           “คุณย่า คุณย่า” ฉู่เจียเสวียนรับร่างของคุณย่ากงที่กำลังจะล้มลงไปกับพื้นด้วยความว่องไว

 

 

           ฉู่เจียเสวียนปล่อยให้คุณหมอพาคุณย่ากงไปยังห้องข้างๆ กงจวิ้นฉือ เธอวุ่นวายไม่หยุดหย่อน ไหนจะต้องดูแลกงจวิ้นฉือ ไหนก็ต้องดูแลคุณย่ากง ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนเป็นยอดมนุษย์อย่างไรอย่างนั้น

 

 

           ในที่สุด หลังจากเสร็จธุระ ฉู่เจียเสวียนเพิ่งจะนั่งลงบนเก้าอี้ พลันนึกได้ว่าเธอเคยบอกว่าจะกงจวิ้นฉือผ่าตัดเสร็จแล้วก็จะกลับไป เธอควรจะไปบอกเขาเสียหน่อย

 

 

           แม้เผยหนานเจวี๋ยจะนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้ถึงสถานการณ์ของฉู่เจียเสวียน

 

 

           ในขณะที่ฉู่เจียเสวียนไม่ได้บอกเขาว่าสถานการณ์ของกงจวิ้นฉือเป็นอย่างไรบ้าง เผยหนานเจวี๋ยก็รู้แล้ว ฉะนั้นตอนที่เธอบอกเขาว่าตอนนี้กงจวิ้นฉือพ้นขีดอันตรายแล้ว เขาก็ไม่แปลกใจเลยสักนิด

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าในขณะที่ฉู่เจียเสวียนบอกเลิกกับกงจวิ้นฉือจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

 

 

           ตอนนี้เกิดเรื่องนี้เช่นนี้แล้ว ฉู่เจียเสวียนไม่วางใจเขาอย่างแน่นอน

 

 

           อันที่จริง ตอนนี้ฉู่เจียเสวียนคิดเพียงอย่างเดียวว่าเมื่อไรกงจวิ้นฉือจะฟื้นขึ้นมากันแน่

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset