กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 610 แม้แต่การหายใจก็ยังเจ็บปวด / ตอนที่ 611 หึงหวง

ตอนที่ 610 แม้แต่การหายใจก็ยังเจ็บปวด   

 

 

จากนั้น กงจวิ้นฉือก็ได้ยินเสียงปิดประตูดังนั้น พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆ ห่างไกลออกไป เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สายตาจ้องมองเพดาน ไม่มีฉู่เจียเสวียนอยู่แล้ว แม้แต่การหายใจก็ยังเจ็บปวด

 

 

เขารู้ว่าเธอไปหาเผยหนานเจวี๋ย เดิมทีพวกเขาก็เลิกกันแล้ว ถ้าหากไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุนั้น คิดว่าฉู่เจียเสวียนคงไม่ทำดีกับเขาเหมือนที่เป็นอยู่ในตอนนี้

 

 

ตอนแรกเขายังคงคิดว่าในเมื่อเธอชอบเผยหนานเจวี๋ยมากมายขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นก็ทำให้พวกเขาได้สมหวังกันเถอะ แต่ตอนนี้หัวใจที่ตายด้านไปแล้วของเขากลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งเพราะความอบอุ่นของฉู่เจียเสวียน

 

 

เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะตัวเอง แล้วแบบนี้เขาจะปล่อยวางได้อย่างไร  เจียเสวียน ผมควรทำอย่างไรดี ผมปล่อยคุณไปไม่ได้

 

 

ระหว่างที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้น คุณย่ากงก็เดินมาข้างๆ กงจวิ้นฉือ เธอเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “จวิ้นฉือ เจียเสวียนเธอเป็นเด็กดีจริงๆ ต่อไปหลานต้องดีกับเธอให้มากๆ นะ”

 

 

“คุณย่า” กงจวิ้นฉือไม่รู้ว่าจะบอกคุณย่าเรื่องระหว่างเขากับฉู่เจียเสวียนอย่างไรดี อายุของเธอก็มากแล้ว ถ้าหากให้ท่านรู้ว่าฉู่เจียเสวียนเลิกกับเขาแล้วละก็ ท่านจะรับได้หรือ?

 

 

“เจียเสวียนเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง ย่าไม่ควรกีดกันไม่ให้หลานอยู่กับเธอเพียงเพราะความโกรธแค้นในอดีต และยิ่งไม่ควรมีอคติต่อเธอเลย” ตอนนี้คุณย่ากงคิดได้แล้ว เธอหวังว่าหลานชายของตนจะมีความสุข

 

 

กงจวิ้นฉือยกมุมปากขึ้นยิ้มเยาะตัวเอง น่าเสียดายที่ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว เขาพยายามมานานขนาดนี้แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงหัวใจของเธอได้ เขาจะต้องทำอย่างไรต่อไป

 

 

“ผมรู้แล้วครับ” กงจวิ้นฉือกล่าวเสียงเบา คำพูดนี้เหมือนกับพูดให้ตัวเองฟังและก็ดูเหมือนพูดให้คุณย่ากงฟังด้วย

 

 

เมื่อก่อนไม่ว่าคุณย่ากงจะคัดค้านอย่างไร เขาก็ยังจะมั่นคง มั่นคงประเภทที่ว่าจะเสียฉู่เจียเสวียนไปไม่ได้ แต่ตอนนี้เขายืนหยัดมานานขนาดนั้นแล้ว แต่กลับสู้การปรากฏตัวของเผยหนานเจวี๋ยคนเดียวไม่ได้

 

 

ตั้งแต่ที่ฉู่เจียเสวียนตกลงจะเป็นแฟนสาวของเขา เขาก็บอกกับตัวเองมาตลอดว่า ฉู่เจียเสวียนจะต้องไม่ได้รักเผยหนานเจวี๋ยแล้วแน่ๆ เขาปกปิดหัวใจและดวงตาของตัวเองมาโดยตลอด พยายามอยู่ในโลกของตัวเองและหลอกตัวเอง

 

 

อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเรื่องที่เขาคิดไปเองทั้งนั้น ฉู่เจียเสวียนไม่เคยลืมเผยหนานเจวี๋ยเลย เธอรักเขามาโดยตลอด ความรักของเธอที่มีต่อเผยหนานเจวี๋ยนั้นซึมลึกเข้ากระดูกไปแล้ว

 

 

ขณะที่สองคนกำลังคุยกันอยู่นั้นเอง ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดออกเบาๆ เป็นถังถังที่โผล่ศีรษะเข้ามาจากทางด้านนอก กงจวิ้นฉือกับคุณย่ากงหันไปมองพร้อมกัน

 

 

สายตาของทั้งสามคนประสานกัน ถังถังอึ้งไปเล็กน้อย หลังจากดึงสติกลับมา เธอก็ยิ้มออกมาอย่างเกรงใจ “คุณย่า จวิ้นฉือ พวกคุณตื่นแล้วเหรอคะ”

 

 

ความรู้สึกของการถูกจับได้คาหนังคาเขาทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เธอเหมือนจะได้ยินเสียงคุยกันจากนอกห้องผู้ป่วย เพราะอย่างนั้นเธอจึงได้เปิดประตูเข้ามาดู กลับคิดไม่ถึงว่าจะทำให้เธอกระอักกระอ่วนได้ขนาดนี้

 

 

“ถังถัง คุณมาแล้วเหรอ” เสียงแหบแห้งของกงจวิ้นฉือดังขึ้น บนใบหน้ามีรอยยิ้ม

 

 

หลังจากถูกจับได้แล้ว ถังถังก็เปิดประตูก้าวเท้ายาวๆ เข้ามา บนใบหน้ามีรอยยิ้มสดใส ซูซานกลับไปก่อนแล้วเนื่องจากมีธุระที่ชมรมขับร้อง เมื่อครู่เธออยู่ข้างนอกเพียงลำพัง

 

 

“ใช่แล้ว มาดูว่านายเป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้วหรือยัง” ถังถังเอ่ยถามเสียงเบา สายตาเปี่ยมด้วยความกังวล

 

 

ดูแล้วสีหน้าของเขาก็ซีดขาวมากจริงๆ ไม่หลงเหลือลักษณะเช่นในยามปกติเลย

 

 

“ผมไม่เป็นไรแล้ว” กงจวิ้นฉือยิ้มๆ “นั่งเถอะ”

 

 

คุณย่ากงเห็นถังถังแล้วก็ยิ้มออกมา ยืนอยู่ด้านข้างไม่ได้พูดอะไร

 

 

“คุณย่าคะ หนูได้ยินเจียเสวียนบอกว่าคุณย่าไม่ค่อยสบายใช่ไหมคะ คุณย่าน่ะ จะต้องพักผ่อนเยอะๆ นะคะ อย่ากังวลมากเกินไป หนูกับเจียเสวียนจะดูแลจวิ้นฉืออย่างดีเลยค่ะ” ถังถังเดินเข้าไปหาคุณย่ากง ก่อนจะประคองเธอไปนั่งที่โซฟา

 

 

 

 

 

ตอนที่ 611 หึงหวง 

 

 

“รู้แล้ว มีพวกเธออยู่น่ะ ฉันก็วางใจขึ้นเยอะ” ความกังวลใจของคุณย่ากงสงบลง ตราบใดที่ร่างกายของกงจวิ้นฉือไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว

 

 

ตอนนี้เธอก็สามารถรักษาตัวอย่างสบายใจแล้ว รอจนร่างกายหายดีก็ฉลองปีใหม่พร้อมกัน

 

 

ในขณะที่ทางฝั่งถังถังกับกงจวิ้นฉือนี้กำลังคุยกัน ส่วนอีกทางด้านหนึ่งนั้น ฉู่เจียเสวียนก็มาถึงห้องผู้ป่วยของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว

 

 

เนื่องจากเผยหนานเจวี๋ยโกรธที่ฉู่เจียเสวียนไปดูแลกงจวิ้นฉือนานถึงครึ่งค่อนวันแล้วก็ยังไม่กลับมา เขาจึงให้ผู้ช่วยขนเอกสารทั้งหมดจากบริษัทมาที่โรงพยาบาล ตอนนี้เขากำลังอ่านเอกสารอยู่บนเตียงผู้ป่วย

 

 

เมื่อฉู่เจียเสวียนเข้ามาในห้องผู้ป่วยแล้วเห็นภาพนี้เข้า ความโกรธก็ก่อตัวขึ้นในใจ เธอโมโหสุดขีด ร่างกายของเขาเพิ่งจะหายดี คิดไม่ถึงว่าจะเริ่มทำงานแล้ว!

 

 

“เผยหนานเจวี๋ย!” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากออกมาด้วยความโมโห แม้แต่ชื่อก็เรียกเขาเสียเต็มยศ

 

 

เผยหนานเจวี๋ยเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสาร มองฉู่เจียเสวียนด้วยความเฉยเมย ตอนนี้เธอไม่ไปอยู่เป็นเพื่อนกงจวิ้นฉือ กลับมาหาเขาทำไมกัน?

 

 

ฉู่เจียเสวียนเห็นสีหน้าเย็นชาของเผยหนานเจวี๋ยแล้วก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ เธอเอ่ยออกมาด้วยความโมโหว่า “เผยหนานเจวี๋ย ทำไมคุณไม่ย้ายบริษัทมาที่โรงพยาบาลเลยล่ะ แบบนี้จะได้ลดปัญหาไปเยอะเลยไม่ใช่เหรอ?”

 

 

ได้ยินน้ำเสียงประชดประชันที่เจือปนความโมโหของฉู่เจียเสวียนแล้ว เขาก็เอ่ยปากขึ้นเรียบๆ “บริษัทต้องการผม” ตอนนี้ในใจของเขายังอึดอัดเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่เป็นผู้ป่วยเหมือนกัน แต่ฉู่เจียเสวียนกลับเลือกที่จะดูแลกงจวิ้นฉือ โดยไม่ใส่ใจความรู้สึกของเขาเลยแม้แต่น้อย

 

 

ฉู่เจียเสวียนพุ่งไปที่ด้านหน้าของเผยหนานเจวี๋ย ก่อนจะยื่นมือออกไปดึงเอกสารในมือของเผยหนานเจวี๋ยมา จากนั้นก็เก็บเอกสารทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะ โดยไม่เหลือไว้สักเล่ม

 

 

จากนั้นเธอก็หอบเอกสารแล้วโยนบนไปบนเตียงอีกหลังอย่างแรง “ตอนนี้คุณห้ามทำงาน รักษาตัวให้ดีก่อน ร่างกายของคุณจะหักโหมไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ!”

 

 

เผยหนานเจวี๋ยแทบจะทำให้เธอโมโหตายอยู่แล้ว ทำไมเขาถึงไม่เคยเชื่อฟังกันเลยนะ!

 

 

“ในเมื่ออยู่โรงพยาบาลเฉยๆ ผมก็ไม่ได้ทำอะไร ก็เลยถือโอกาสจัดการเรื่องงาน ไม่ได้หรือไง?” เผยหนานเจวี๋ยพูดขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน

 

 

ท่าทีของเขาแบบนี้ทำให้ฉู่เจียเสวียนสูญเสียการควบคุมเป็นอย่างมาก ทำให้เธออยากจะเป็นบ้าตายเสียจริงๆ

 

 

“ไม่ได้! ตราบใดที่ร่างกายของคุณยังคงไม่หายดี คุณก็ทำงานไม่ได้!” ฉู่เจียเสวียนกล่าวอย่างไร้หนทางต่อรอง เธอจะไม่ปล่อยให้เผยหนานเจวี๋ยทำร้ายร่างกายของตัวเองอีกอย่างแน่นอน!

 

 

“ร่างกายของผม ผมรู้ดี” เผยหนานเจวี๋ยหลุบตาลง พูดเสียงแผ่วเบา

 

 

“ฉันจะให้หลี่เฮ่าปิดผนึกเอกสารพวกนี้ตามเดิมแล้วส่งกลับไป” ฉู่เจียเสวียนกล่าวขึ้นอย่างเผด็จการ คิดจะต่อกรกับเผยหนานเจวี๋ยนั้นจะต้องใช้วิธีบังคับ ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่มีทางฟัง

 

 

“ตอนนี้ผมไม่เป็นไรแล้ว ผมอยากออกจากโรงพยาบาล” เผยหนานเจวี๋ยไม่อยากอยู่ในโรงพยาบาลนานไปกว่านี้ ตอนนี้ฉู่เจียเสวียนก็ไปดูแลกงจวิ้นฉือแล้ว เขายิ่งไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีก สู้ออกจากโรงพยาบาลเสียจะดีกว่า เขาจะได้ไม่ต้องหงุดหงิดใจ

 

 

“ไม่ได้ ก่อนหน้านี้คุณเคยรับปากฉันแล้ว ลืมไปแล้วเหรอ” ฉู่เจียเสวียนปฏิเสธความคิดของเผยหนานเจวี๋ยโดยไม่ต้องคิด จากนั้นก็ถามเขาขึ้น

 

 

หลี่เฮ่าที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำตัวเป็นมนุษย์ล่องหน ตนเองไม่เข้าไปยุ่งเรื่องระหว่างพวกเขาสองคนจะดีที่สุด เพราะอย่างนั้นเขาจึงถอยออกไปจากห้องผู้ป่วยเงียบๆ

 

 

“แล้วที่คุณรับปากผมเอาไว้ล่ะ?” เผยหนานเจวี๋ยถามเธอ

 

 

ทั้งๆ ที่เธอเคยบอกว่าจะดูแลเขาอย่างดี แต่ว่าวันนี้ล่ะ? อะไรก็เปลี่ยนไปเพราะกงจวิ้นฉือ

 

 

ที่จริงเผยหนานเจวี๋ยไม่ต้องการทำให้ฉู่เจียเสวียนลำบากใจ แต่เมื่อเขานึกถึงสถานการณ์ปัจจุบันของกงจวิ้นฉือแล้ว เขาก็ไม่สามารถสงบลงได้ เขาก็ไม่ใช่สัตว์เลือดเย็นไร้ความเมตตา เขาก็เป็นห่วงที่กงจวิ้นฉือประสบอุบัติเหตุ แต่เขาก็รับไม่ได้ที่จู่ๆ อุบัติเหตุนี้ทำให้แผนการเดิมหยุดชะงัก 

 

 

เขาอุตส่าห์รอจนฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือเลิกกัน แต่ตอนนี้กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขากลัวว่าฉู่เจียเสวียนจะตัดใจเลิกกับกงจวิ้นฉือไม่ได้เพราะเหตุผลนี้

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset