กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 644 สุดยอดจริงๆ / ตอนที่ 645 ให้คุณ

ตอนที่ 644 สุดยอดจริงๆ   

 

 

“ดูสิ ราคาเพิ่มเป็นสิบเท่า สุดยอดจริงๆ” ฉู่เจียเสวียนหัวเราะออกมาเสียงเบา

 

 

เผยหนานเจวี๋ยพยักหน้าเล็กน้อย มองดูฉู่เจียเสวียนด้วยความเอ็นดู ก่อนหน้านี้ฉู่เจียเสวียนไม่เคยแสดงอารมณ์ความรู้สึกในที่สาธารณะ ตอนนี้เธอสามารถพูดคุยกับเขาอย่างสงบ แสดงให้เห็นว่าเธอยกโทษให้เขาจากก้นบึ้งของหัวใจ

 

 

“ถ้าคุณชอบ ผมจะพลิกราคาให้สูงกว่านั้นก็ได้” เผยหนานเจวี๋ยมีสีหน้าจริงจัง ไม่เสแสร้งเลยแม้แต่น้อย

 

 

ถ้าเขามีส่วนร่วมในการประมูล ฉากนี้ก็จะมีชีวิตชีวามากขึ้น เกรงว่าเด็กผู้หญิงก็ที่ต้องการนำต่างหูคู่นี้กลับบ้านด้วยราคาสองล้านก็เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฉู่เจียเสวียนอดไม่ได้ที่จะเสียดายเงินของเด็กผู้หญิงคนนั้นเล็กน้อย

 

 

“ฉันไม่เอาหรอก” ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าเผยหนานเจวี๋ยจะมีความคิดเลวร้ายมากมายขนาดนั้น

 

 

เสียงค้อนทุบตัดสิน จากนั้นก็ได้เสียงของพิธีกรดังขึ้น “ต่างหูหยกคู่นี้ถูกคุณหนูมู่แห่งกลุ่มบริษัทมู่เฟิงประมูลไปด้วยราคาสองล้าน ยินดีกับคุณหนูมู่ด้วยครับ”

 

 

ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วริมฝีปากแดงทำมุมยิ้มสวยงาม เมื่อก่อนตอนที่เธอไปต่างประเทศก็ไม่ได้นับว่ายากจนอะไรนัก ทว่าก็ไม่ได้ร่ำรวยมาก เธอไม่ได้รู้สึกดีกับงานประมูลที่โกลาหลแบบนี้สักเท่าไร

 

 

“การบริจาคมันไม่ตรงกว่าเหรอ” ฉู่เจียเสวียนมองดูด้านบนเวทีพร้อมเอ่ยขึ้น ในสายตาของเธอ การบริจาคโดยตรงมันมีความหมายกว่างานประมูลการกุศลอะไรพวกนี้เสียอีก

 

 

“การบริจาคโดยตรง ต่อให้ยอดสูงแต่ก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของสังคมเท่าไร แต่ว่าในงานประมูลการกุศล การสร้างเรคคอร์ดสูงๆ มันดึงดูดให้พวกสื่อได้เขียนข่าวชิ้นใหญ่ได้” เผยหนานเจวี๋ยอธิบายตรงๆ ในแง่ของการบริจาคเขาไม่เคยแพ้ใครอยู่แล้ว

 

 

“บริษัทเผยของพวกคุณทุกปีก็บริจาคมากกว่าร้อยล้าน ประธานเผย คุณนี่หน้าใหญ่ใจโตจริงๆ” ฉู่เจียเสวียนกล่าว

 

 

“ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาบริษัทเผยไม่เคยคุยโวอยู่แล้ว ร้อยล้านเป็นเพียงการประเมินมูลค่าแบบอนุรักษ์นิยมก็เท่านั้น” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวอย่างภูมิใจ

 

 

“สมกับเป็นบุคคลชั้นหนึ่งของเมือง A” ฉู่เจียเสวียนต้องยอมรับว่าเผยหนานเจวี๋ยอุทิศตนเพื่อสังคมจริงๆ

 

 

“ให้มากจึงจะยิ่งได้มาก นี่เป็นคำพูดของพ่อผม” เผยหนานเจวี๋ยนึกถึงคำพูดที่พ่อพูดกับเขา แนวคิดการจัดการส่วนใหญ่ของเขาได้รับอิทธิพลมาจากคุณพ่อเผยอย่างลึกซึ้ง

 

 

“ถ้าอย่างนั้นครั้งนี้ประธานเผยคิดจะให้เท่าไรล่ะ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยถามทีเล่นทีจริง

 

 

“นั่นมันขึ้นอยู่กับคุณ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากด้วยสีหน้าจริงจัง ดูไม่ออกว่าเขากำลังพูดจริงหรือพูดเล่น

 

 

“ถ้าอย่างนั้นบริจาคสักปีนึงแล้วกัน” ฉู่เจียเสวียนพูดเล่น

 

 

“ได้” เผยหนานเจวี๋ยตอบโดยไม่คิดแล้ว

 

 

เขาคิดคำนวณอยู่ในใจ หากไม่มีอะไรผิดพลาด สองร้อยล้านก็น่าจะประมูลหินมรกตได้

 

 

งานประมูลดำเนินไปอย่างรวดเร็วราวกับเพลิงที่ลุกไหม้ เสียงเสนอราคามีให้ได้ยินเป็นครั้งคราว จนกระทั่งสุดท้าย ฉู่เจียเสวียนยิ่งหมดความสนใจลงทุกที ในตอนนี้ก็ไม่มีการเสนอราคาที่ดุเดือดแล้ว

 

 

หินมรกตที่อยู่ตรงกลางเล่มโบรชัวร์นั้นถูกนำออกมาตอนใกล้จะจบงานแล้ว

 

 

บรรยากาศภายในงานประมูลคึกคักขึ้นอย่างทันตา คนที่ง่วงสัปหงกก่อนหน้านี้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันควัน

 

 

ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้นมองหินมรกตที่ถูกห่อหุ้มด้วยวัสดุพิเศษ แสงไฟในงานประมูลทั้งหมดสาดส่องอยู่บนหินมรกตสีเขียวชอุ่ม มรกตขนาดสิบเอ็ดกะรัตที่สดใสไร้สิ่งเจือปนนี้พบเห็นได้ยากมากในรอบศตวรรษ

 

 

ในงานนั้น มีสายตาคู่หนึ่งกวาดมองไปยังฉู่เจียเสวียน ทำให้ฉู่เจียเสวียนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

 

 

เธอหันกลับไปดู พยายามมองหาที่มาของสายตาคู่นั้น แต่กลับไม่พบอะไรเลย

 

 

“มีอะไรเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยเห็นพฤติกรรมแปลกประหลาดของเธอ จึงเอ่ยถามขึ้นเสียงเบา

 

 

“ไม่มีอะไร” ฉู่เจียเสวียนกล่าวเรียบๆ เก็บความรู้สึกอึดอัดไว้ บางทีเธออาจจะรู้สึกไปเองล่ะมั้ง

 

 

“เริ่มแล้ว” ริมฝีปากบางๆ ของเผยหนานเจวี๋ยยกยิ้ม เตือนฉู่เจียเสวียนว่าการประมูลราคาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

 

 

“อ้อ” การแสดงออกของของฉู่เจียเสวียนเรียบเฉยมาก เธอไม่เคยคิดว่าต้องการหินมรกตนั่นจริงๆ ได้ชื่นชมของที่สวยงามก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องได้มาครอบครอง

 

 

 

 

 

ตอนที่ 645 ให้คุณ   

 

 

“ยี่สิบล้าน” ทันทีที่เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากก็เพิ่มราคาขึ้นอีกสิบล้าน

 

 

ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็นวดคลึงหัวคิ้ว ดูเหมือนว่าเผยหนานเจวี๋ยคิดจะประมูลหินมรกตนั่นมาจริงๆ นี่เป็นการสร้างความยุ่งเหยิงชัดๆ

 

 

เสียงประมูลราคาดุเดือดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้าราคาของมรกตก็เพิ่มขึ้นเป็นแปดสิบล้าน คนที่สู้ราคาไหวนั้นมีน้อยลงทุกที

 

 

“หนึ่งร้อยล้าน” เห็นได้ชัดว่าเผยหนานเจวี๋ยหมดความอดทนที่จะเล่นเกมประมูลราคากับคนอื่นอีกต่อไปแล้ว

 

 

ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วม่านตาก็ไหววูบ เธอได้ยินพิธีกรบนเวทีพูดขึ้น “หนึ่งร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง”

 

 

“หนึ่งร้อยล้านครั้งที่สอง” ทั้งสองคนในงานประมูลกลั้นหายใจ

 

 

“หนึ่งร้อยยี่สิบล้าน” ก่อนที่เสียงตกลงราคาครั้งที่สามจะดังขึ้น จู่ๆ ก็มีเสียงไม่ดังไม่เบานักลอยเข้ามาจากฝูงชน

 

 

ฉู่เจียเสวียนถอนหายใจอย่างโล่งอกในใจ ในสมองราวกับถูกฟ้าผ่ากะทันหัน ทำไมเสียงนี้ถึงได้คุ้นหูแบบนี้นะ?

 

 

ฉู่เจียเสวียนหันไปมอง แต่ระยะทางระหว่างพวกเขาไกลเกินไปและถูกกั้นกลางด้วยผู้คนมากมาย เธอมองเห็นหน้าของผู้ชายคนนั้นไม่ชัด แต่รู้สึกคุ้นเคยอย่างเลือนราง

 

 

เผยหนานเจวี๋ยมองผู้ชายคนนั้นด้วยสายตาดุร้าย

 

 

“หนึ่งร้อยสามสิบล้าน” เผยหนานเจวี๋ยเพิ่มราคาทันทีโดยที่ไม่ต้องคิด

 

 

“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” ฉู่เจียเสวียนอดไม่ได้ที่จะเสียดายเงินของเผยหนานเจวี๋ย ครั้งนี้เขาเพิ่มราคาถึงสิบล้าน น่าสิ้นเปลืองจริงๆ

 

 

“คิดเสียว่าเป็นการช่วยสนับสนุนสังคมไง” เผยหนานเจวี๋ยสีหน้าบึ้งตึง เขาจะต้องคว้าหินมรกตมาให้ได้ ไม่ว่าใครก็อย่าคิดที่จะหยุดเขา

 

 

“หนึ่งร้อยหกสิบล้าน” เขาเอ่ยปากออกมาอย่างไม่ยอมแพ้ เพิ่มราคาสามสิบล้านในคราวเดียว

 

 

ฉู่เจียเสวียนยื่นมือออกไปคว้าคอเสื้อของเผยหนานเจวี๋ย เธอไม่ต้องการให้เขาประมูลต่อไปแล้วจริงๆ เธอส่ายหน้ากับเขารุนแรง

 

 

เผยหนานเจวี๋ยยกมุมปากยิ้ม “ผมต้องเอาหินมรกตมาให้ได้”

 

 

“สองร้อยล้าน” สุดท้ายก็ให้เขาจบทุกอย่างเถอะ

 

 

ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า ช่างเถอะ เธอไม่สนใจเขาแล้ว ถึงอย่างไรเงินก็เป็นของเขาไม่ใช่ของเธอสักหน่อย เธอจะไปเสียดายทำไม

 

 

ในงานประมูลเงียบพอที่จะได้ยินเสียงของกันและกัน พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ มันช่างเป็นเงินก้อนใหญ่จริงๆ

 

 

ท้ายที่สุดราวกับว่าผ่านไปหนึ่งศตวรรษ

 

 

เสียง  ตึง  ดังขึ้น หัวใจที่ห้อยต่องแต่งของฉู่เจียเสวียนร่วงหล่นในที่สุด

 

 

“ยินดีกับคุณด้วยนะครับ คุณประมูลมรกตสิบเอ็ดกะรัตได้ในราคาสูงถึงสองร้อยล้านหยวน”

 

 

เสียงปรบมือในงานดังกึกก้องราวกับฟ้าผ่า สถิติใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว และเผยหนานเจวี๋ยก็ได้อยู่ในข่าวพาดหัววันพรุ่งนี้อีกครั้ง

 

 

เมื่อออกมาจากงานประมูล ฉู่เจียเสวียนก็มีสีหน้าเย็นชาตลอดเวลา เธอไม่ได้ยิ้มให้เผยหนานเจวี๋ยเลย เขาไม่ออกโรงยังดีกว่า พอออกครั้งหนึ่งก็สองร้อยล้านแล้ว

 

 

แน่นอนว่าผู้ชายที่แข่งประมูลกับเผยหนานเจวี๋ยคนนั้นก็ถูกเธอดูแคลนไปด้วย เพียงแค่ตะโกนสองสามทีก็ทำให้เผยหนานเจวี๋ยเสียไปหนึ่งร้อยล้าน ในโลกใบนี้มีสิ่งมหัศจรรย์มากมายเหลือเกิน

 

 

ภายในรถ เผยหนานเจวี๋ยหยิบสร้อยคอมรกตที่ละเอียดอ่อนออกมาจากกระเป๋าและมอบให้กับฉู่เจียเสวียนทันที

 

 

“ผมให้คุณ ห้ามปฏิเสธ!” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวด้วยความเอาแต่ใจ

 

 

“ฉันไม่เอา” ฉู่เจียเสวียนกล่าวด้วยความดื้อรั้น ไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะไม่ยอมรับสิ่งที่ราคาแพงลิ่วจากเขาเช่นนี้

 

 

“คิดเสียว่าเป็นของขวัญวันจากผมให้คุณแล้วกัน” ของที่ให้ไปแล้วก็ไม่มีเหตุผลที่จะเอากลับมา

 

 

“ของขวัญชิ้นนี้ของคุณก็แพงเกินไป ฉันไม่ต้องการ” ฉู่เจียเสวียนยื่นกล่องให้เผยหนานเจวี๋ยอย่างระมัดระวัง เธอไม่อยากทะเลาะกับเขา

 

 

“ของที่ผมให้ไปแล้ว เอาคืนไม่ได้ ถ้าคุณไม่ชอบ คุณก็เอาไปทิ้งแล้วกัน” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ คำพูดผ่อนคลายนั้นราวกับไม่ได้เห็นเงินสองร้อยล้านอยู่ในสายตาเลย

 

 

“คุณ…” ฉู่เจียเสวียนไร้ซึ่งคำพูด ตั้งแต่ไหนแต่ไหนมาเขาพูดได้ทำได้ เธอกลัวว่าจะทำให้เขาโมโหแล้วโยนสองร้อยล้านนี้ทิ้งไปจริงๆ

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset