กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 478 วันแห่งความรักปีหน้า / ตอนที่ 479 ให้เขารู้

      ตอนที่ 478 วันแห่งความรักปีหน้า

 

 

           “พวกเราฉลองวันแห่งความรักปีหน้าก็ได้” ฉู่เจียเสวียนกล่าว บนใบหน้ามีรอยยิ้ม ถ้าหากเขาอยากฉลองวันแห่งความรักกับเธอจริงๆ ก็ใช่ว่าเธอจะฉลองกับเขาไม่ได้

 

 

           “ได้ คุณพูดเองนะ” กงจวิ้นฉือยิ้มขมขื่น เขากลัวว่าปีหน้าพวกเขาจะไม่ใช่คนรักอีกต่อไปแล้ว

 

 

           “อื้ม” ฉู่เจียเสวียนตอบ ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้เลยสักนิด แน่นอนอยู่แล้ว เธอไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันในปีหน้าหรือเปล่า

 

 

           หลังจากคุยโทรศัพท์กับกงจวิ้นฉือแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็พิงเก้าอี้อย่างอ่อนแรง ร่างกายไม่มีพลังงานแล้วจริงๆ

 

 

           เงยหน้าดูดอกไม้ที่เผยหนานเจวี๋ยมอบให้เธอด้านข้าง ไม่รู้ว่าใครเอาดอกไม้พวกนั้นใส่แจกัน เมื่อมองดูดอกไม้ละเอียดอ่อนเหล่านั้น จิตใจของเธอก็เต็มไปด้วยความคิด

 

 

           สะบัดหัว ต้องการจะขจัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวออกไป แต่ว่ายิ่งคิดก็ยิ่งว้าวุ่น ลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยความหงุดหงิด แล้วเดินออกไปข้างนอก

 

 

           ในเมื่ออยู่ที่นี่ก็ไม่มีกะใจทำงาน งั้นกลับบ้านไปอยู่กับซูซานดีกว่า

 

 

           เมื่อกลับถึงวิลล่าก็เพิ่งจะห้าโมงกว่า ฉู่เจียเสวียนวางกระเป๋าลง ปิดประตูก็เห็นซูซานนอนอยู่บนโซฟา เธอหยิบผ้าห่มขึ้นมาแล้วค่อยๆ คลุมเธอ

 

 

           จู่ๆ ซูซานก็รู้สึกว่าตัวอุ่นขึ้น ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เมื่อเห็นฉู่เจียเสวียนก็ยิ้ม “ลูกกลับมาแล้วเหรอ”

 

 

           “แม่ ทำไมแม่มานอนตรงนี้ล่ะคะ ไม่กลัวหนาวเหรอ” ฉู่เจียเสวียนมองซูซาน เอ่ยพร้อมขมวดคิ้ว นอนก็ไม่ห่มผ้า ถ้าหนาวแล้วจะทำอย่างไร

 

 

           “เมื่อกี้คิดว่างีบสักหน่อยแล้วค่อยไปทำกับข้าว แม่ไปทำกับข้าวนะ” ยังไม่ทันลุกขึ้น มือก็ถูกฉู่เจียเสวียนคว้าไว้

 

 

           “แม่ หนูไปทำเถอะ แม่พักผ่อนก่อน” ดึงซูซานนั่งลง ฉู่เจียเสวียนลุกขึ้นยืน

 

 

           “ลูกทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว แม่ไปทำเถอะ ลูกรอเถอะนะ แป๊บเดียวก็ได้กินข้าวแล้ว” ยื่นมือตบๆ หลังมือของฉู่เจียเสวียน ซูซานลุกขึ้นยืนแล้วไปที่ห้องครัว

 

 

           มองดูเงาของซูซานที่หายไป รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ค่อยๆ หายไป เฮ้อ หายใจเบาๆ ฉู่เจียเสวียนนั่งเหม่ออยู่ที่โซฟา จนกระทั่งซูซานทำกับข้าวเสร็จเรียกให้เธอกินข้าว เธอจึงดึงสติกลับมา

 

 

           บนโต๊ะอาหาร ซูซานมองดูฉู่เจียเสวียนที่จิตใจเลื่อนลอยเล็กน้อย ก็ขมวดคิ้ว

 

 

           “เจียเสวียน ลูกเป็นอะไรไป เหมือนมีเรื่องหนักใจเลย?” น้ำเสียงอบอุ่นของซูซานทำให้ฉู่เจียเสวียนรู้สึกอบอุ่น

 

 

           เธอส่ายหน้า ยิ้มสดใสให้กับซูซาน “เปล่าค่ะแม่ แค่เรื่องงาน”

 

 

           “อ่อ เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงาน ลูกอย่าคิดมากเลย แม่จะอยากให้ลูกน่ะ เลิกงานแล้วมีความสุข” ซูซานพูดพลางคีบเนื้อวัวให้ฉู่เจียเสวียน

 

 

           ในสายตาของเธอ ตราบใดที่ลูกสาวของเธอมีความสุขมันสำคัญกว่าสิ่งใด

 

 

           พยักหน้า ฉู่เจียเสวียนข่มความว้าวุ่นใจ แล้วก้มหน้ากินข้าว

 

 

           ตกกลางคืน ฉู่เจียเสวียนนอนไม่หลับพลิกตัวไปมาบนเตียง จนกระทั่งดึกแล้วจึงค่อยๆ หลับไป

 

 

           เช้าวันรุ่งขึ้น ฉู่เจียเสวียนตื่นนอน อารมณ์เบื่อหน่ายอันแปลกประหลาดเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ราวกับว่ามันเป็นสัญญาณของฝนห่าใหญ่

 

 

           เปิดผ้าห่มแล้วลงมาจากเตียง ฉู่เจียเสวียนเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดตู้ออก เสื้อผ้าราคาแพงจำนวนหนึ่งอยู่ข้างใน หลังจากครุ่นคิดแล้ว ก็เอื้อมมือหยิบสูทสีอ่อนออกมาแล้วสวมลงบนตัว มองตัวเองที่งดงามในกระจก ฉู่เจียเสวียนยิ้ม จัดผมเผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ จึงหันหลังลงไปชั้นล่าง

 

 

           ชั้นล่าง ซูซานเพิ่งทำข้าวเช้าเสร็จ เห็นฉู่เจียเสวียนลงมาก็ยิ้ม

 

 

           “แม่ อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

 

 

           “อรุณสวัสดิ์ วันนี้ลูกตื่นเช้าจังเลย” ซูซานมองดูฉู่เจียเสวียนที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็พูดขึ้น ปกติแล้วเธอจะลงมาตอนแปดโมง วันนี้เร็วกว่าเดิมสี่สิบนาที

 

 

           “อื้ม เดี๋ยวจะไปที่บริษัทกงค่ะ ตอนที่กงจวิ้นฉือไปเมืองนอก ยกเรื่องกลุ่มในประเทศให้หนูดู หนูมีหน้าที่ต้องไปดุกลุ่มบริษัทกง หนูได้รับมอบหมายแล้วไม่ทำงานไม่ได้หรอกนะคะ?” ฉู่เจียเสวียนเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว พร้อมพูดกับซูซาน

 

 

 

 

        ตอนที่ 479 ให้เขารู้

 

 

           ซูซานได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียนแล้วพยักหน้า ตักโจ๊กถ้วยหนึ่งให้เธอจากนั้นก็กินข้าวเช้าด้วยกันกับเธอ

 

 

           หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็ไปที่บริษัทกง

 

 

           มุ่งตรงไปที่ชั้นสามสิบ ฉู่เจียเสวียนออกมาจากลิฟท์ พนักงานออฟฟิศเริ่มยุ่งกันแล้ว ฉู่เจียเสวียนได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นครั้งคราวข้างใน ริมฝีปากยกยิ้ม

 

 

           เดินไปนั่งที่ออฟฟิศของแผนก ก็มีคนเคาะประตูทันที

 

 

           “ดีไซเนอร์ฉู่ นี่คือร่างการออกแบบที่ประธานกงส่งมาที่บริษัทของเราเมื่อคืน เขาให้ฉันบอกคุณ ถ้าวันนี้คุณมาที่บริษัทให้เอาเอกสารนี้ให้คุณค่ะ” หลังจากเลขาเห็นว่าฉู่เจียเสวียนมาแล้ว รีบเอาเอกสารที่กงจวิ้นฉือส่งให้เธอให้ฉู่เจียเสวียนทันที

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วพยักหน้า “ด่วนมากไหม”

 

 

           “ค่ะ ด่วนนิดหน่อย” เลขากล่าว

 

 

           “โอเค ฉันรู้แล้ว คุณออกไปก่อนเถอะ” ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า จากนั้นก็เปิดเอกสารออก เมื่อเห็นข้อกำหนดของการออกแบบ ฉู่เจียเสวียนก็ยิ้ม

 

 

           เธอยังนึกมันเป็นปัญหาใหญ่อะไร ที่แท้ก็แค่การออกแบบชุดแต่งงาน

 

 

           หลังจากครุ่นคิดสักพักหนึ่ง ฉู่เจียเสวียนก็เริ่มออกแบบแล้ว

 

 

           ในห้องทำงานท่านประธาน บริษัทเผย

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยกำลังทบทวนเอกสารอย่างจริงจัง ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา ริมฝีปากบางเม้มแน่น คิ้วดูผ่อนคลายเป็นบางครั้งและบางครั้งก็ยับย่น กำลังอ่านเอกสารในมืออย่างจริงจัง

 

 

           จนกระทั่งโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะดังขึ้น จึงหยิบขึ้นมาดู มันคือวีดีโอคอลจากอเมริกา เขารับทันทีโดยไม่คิดอะไร ในวิดีโอมีชายแก่ปรากฏตัวขึ้น “ประธานเผยครับ ตอนนี้บริษัทกงรู้ตัวแล้ว”

 

 

           “ทำตามแผนเดิม” เสียงที่มืดมนของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น แววตาที่เยือกเย็นไร้ความอบอุ่น

 

 

           “ผมกลัวว่ากงจวิ้นฉือจะเอาผมตาย คุณก็รู้ว่าเราดูถูกความแข็งแกร่งของบริษัทกงในอเมริกาไม่ได้ง่ายๆ” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น ทั้งๆ ที่อากาศที่อเมริกาหนาวเย็นมาก แต่ว่าเขากลับรู้สึกว่ามีเหงื่อออก

 

 

           “งั้นก็ให้เขารู้ นายมีฉันคอยหนุนหลัง” เผยหนานเจวี๋ยพูดอย่างไม่ใส่ใจ

 

 

           “ระยะทางมันไกลเกินไป อีกอย่างพวกเรากับบริษัทกง…” เขาเอ่ยอย่างจนใจเล็กน้อย

 

 

           “ฉันรับประกันว่านายจะไม่ได้รับบาดเจ็บ” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว นี่คือคำมั่นสัญญาของเขา

 

 

           “ได้ครับๆ ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้” เมื่อเขาได้ยินว่าเผยหนานเจวี๋ยปกป้องเขา รีบกล่าวทันที

 

 

           เมื่อมอบหมายงานเสร็จ เผยหนานเจวี๋ยก็วางสาย ยื่นมือนวดคลึงขมับ ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เขาจะไม่ใช้วิธีสกปรกแบบนี้เพื่อจัดการกับคนอื่น แต่ว่าตอนนี้เพื่อให้ได้ฉู่เจียเสวียนมาอยู่เคียงข้างเขา เขาต้องใช้วิธีนี้

 

 

           “ผมจะทำยังไงกับคุณดี ฉู่เจียเสวียน” เผยหนานเจวี๋ยถอนหายใจ จากนั้นก็พิงพนักเก้าอี้ เขาดูไร้ชีวิตชีวา

 

 

           เมื่อนึกถึงฉู่เจียเสวียน หัวใจของเขาก็เจ็บปวด ถ้าหากไม่ใช่เพราะฉู่อีอี พวกเขาสองคนก็จะไม่เป็นแบบนี้ พอนึกถึงฉู่อีอี เผยหนานเจวี๋ยแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะสับฉู่อีอีเป็นพันๆ ชิ้น

 

 

           ตอนนี้ฉู่อีอีเข้าคุกแล้ว ก็นับว่าเธอได้รับบทลงโทษแล้ว ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เผยหนานเจวี๋ยไม่เคยไปเยี่ยมฉู่อีอีอีกเลย และยังตั้งใจฝากฝังให้พวกเขาดูแลเธอเป็นอย่างดี

 

 

           ในคุก มีเสียงกรีดร้องดังออกมา

 

 

           เห็นเพียงร่างของฉู่อีอีที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ น้ำตาร่วงจากดวงตาไม่หยุด

 

 

           “อ๊า พวกเธอปล่อยฉันไปดีหรือเปล่า…”

 

 

           “ขอ…ขอร้องพวกเธอ…”

 

 

           เห็นเธอกรีดร้องตลอดเวลา ตอนนี้เสียงก็แหบแห้งแล้ว แต่ว่าผู้ชายเหล่านั้นที่อยู่รอบตัวกลับไม่ฟังเธอเลย บนใบหน้าพวกเขาล้วนมีรอยยิ้มชั่วร้าย

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset