กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 324 ขอร้องล่ะได้หรือเปล่า / ตอนที่ 325 ช่วยฉู่อีอีหนีออกมา

     ตอนที่ 324 ขอร้องล่ะได้หรือเปล่า 

 

 

           เธอจะต้องคิดหาวิธีถึงจะถูก ไม่อย่างนั้นถ้าหากให้เฉิงเฮ่าเจอหน้ากับเผยหนานเจวี๋ยจริงๆ ล่ะก็ เธอก็จะรับประกันไม่ได้ว่าเขาจะเกิดเรื่องหรือเปล่า 

 

 

           หลังจากครุ่นคิดแล้ว ฉู่อีอีล็อคเป้าหมายของเธอไว้ที่คนเฝ้าด้านนอกห้อง 

 

 

           ตอนกลางวัน ขณะที่ฉู่อีอีลงมากินข้าวชั้นล่าง หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าเฉิงเฮ่าไม่ได้อยู่ในห้อง เธอเดินไปยังห้องครัว 

 

 

           วิธีเดียวที่เธอจะใช้ได้ก็คือขอยืมโทรศัพท์มือถือของคนใช้ พนักงานชั่วคราวที่ทำอาหารให้ฉู่อีอีกินคนนั้น จะมาที่นี่เฉพาะในเวลาที่กำหนดไว้ในตอนเที่ยงและตอนเย็นเท่านั้น ทุกครั้งหลังจากรอจนฉู่อีอีและเฉิงเฮ่ากินข้าวเสร็จแล้ว เธอถึงจะจากไป 

 

 

           ฉู่อีอีคว้าโอกาสนี้ไว้ เธอเดินไปที่ห้องรับแขกถือแก้วใบหนึ่งแล้วเดินไปยังห้องครัว ทำทีเหมือนจะไปรินน้ำดื่ม 

 

 

           สองคนที่เฝ้าห้องกินข้าวเห็นฉู่อีอีเดินไปที่ห้องครัวก็ไม่ได้ใส่ใจ ยังคงยืนเฝ้าอยู่ที่เดิม 

 

 

           หลังจากเข้าไปในห้องครัวแล้ว ฉู่อีอีแอบมองออกไปข้างนอก หลังจากมั่นใจแล้วว่าสองคนนั้นไม่ได้ตามมา แอบถอนหายใจโล่งอก จากนั้นก็เดินไปข้างๆ พนักงานชั่วคราว 

 

 

           “พี่สาว พี่จะให้ฉันยืมโทรศัพท์มือถือหน่อยจะได้หรือเปล่า” ฉู่อีอีเดินไปข้างๆ คนรับใช้ชั่วคราว สายตาที่มองเธอมีความวิงวอน นี่คือโอกาสเดียวของเธอ เธอต้องลองดู 

 

 

           แม้ไม่กล้ารับประกันว่าเธอจะยอม แต่ว่าเธอยังต้องลองดู 

 

 

           พนักงานชั่วคราวได้ยินคำพูดของฉู่อีอีแล้ว เห็นดวงตาที่น่าสงสารของเธอ ในใจไม่อยากก่อเรื่อง มาทำอาหารที่นี่ตั้งหลายวัน เธอมองออกตั้งนานแล้ว ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแค่ผู้หญิงที่เจ้าของบ้านจับตัวกลับมาก็เท่านั้น 

 

 

           “ขอร้องล่ะได้หรือเปล่า แค่เอามือถือให้ฉันยืมใช้แป๊บเดียวก็พอ หนึ่งนาที หนึ่งนาทีฉันจะคืนให้พี่” ดวงตาของฉู่อีอีมีน้ำตาคลอ เอ่ยปากไม่หยุด 

 

 

           “แต่ว่า ถ้าคุณชายรู้จะต้องไม่ปล่อยฉันแน่” แม้ว่าอยากจะช่วยฉู่อีอีมาก แต่ว่าเธอกลัวตายมากกว่า 

 

 

           “ไม่หรอก ฉันรับรอง ฉันรับรองว่าเขาจะไม่สงสัยพี่แน่นอน ขอร้องพี่ล่ะ เร็วสิ ไม่งั้นจะไม่ทันการนะ”  

 

 

ฉู่อีอีร้อนใจจนอยากจะร้องไห้แล้ว ก็แค่ขอยืมโทรศัพท์มือถือส่งข้อความเท่านั้น มันช่างยากเหลือเกิน 

 

 

           ครุ่นคิดหลายรอบ พนักงานชั่วคราวคนนั้นก็ยังตัดสินใจเอาโทรศัพท์มือถือให้ฉู่อีอียืม “ก็ได้ นาทีเดียวนะ” 

 

 

           ฉู่อีอีดีใจ ขอบคุณคนคนนั้น ยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์มือถืออย่างรวดเร็วแล้วส่งข้อความหาเผยหนานเจวี๋ย จากนั้นก็ลบข้อความทิ้งอย่างรวดเร็ว เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ฉู่อีอีพบว่าสองมือของเธอสั่นเทาจนน่ากลัว 

 

 

           “ขอบคุณนะ” ฉู่อีอีขอบคุณคนคนนั้น จากนั้นก็หันหลังรินน้ำหนึ่งแก้วแล้วเดินออกไปยังห้องกินข้าว เธอใช้เวลาอยู่ในห้องครัวนานเกินไปแล้ว ถ้าเธอไม่รีบออกมาอีกล่ะ จะต้องทำให้พวกเขาสงสัยแน่นอน 

 

 

           เพิ่งจะมาถึงห้องกินข้าว ฉู่อีอีก็ถูกส่งกลับห้องตามคาด 

 

 

           ในห้อง ฉู่อีอีเดินกลับไปกลับมาไม่หยุด สองมือประสานกัน หวังว่าเผยหนานเจวี๋ยจะเห็นข้อความ 

 

 

           อีกฝ่าย หลังจากเผยหนานเจวี๋ยได้รับข้อความจากเฉิงเฮ่าแล้ว ก็รีบส่งคนไปจัดการแล้ว ในความของเขา คนคนนั้นจะต้องลักพาตัวโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน 

 

 

           หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว เผยหนานเจวี๋ยหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมา หน้าจอสว่างขึ้นปรากฏข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน 

 

 

           ทันทีที่เปิดอ่าน จะต้องเป็นข้อความที่ฉู่อีอีส่งหาเขาแน่นอน เนื้อหาข้อความเป็นเพียงตัวอักษรธรรมดาไม่กี่ตัว [หนานเจวี๋ย ฉันอยู่ที่อาคาร B ในเขตวิลล่าชานเมืองตะวันตก] 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยตื่นตกใจ ลุกขึ้นยืนเดินออกไปข้างนอกทันที พลางสั่งการให้คนไปเจอหน้าเฉิงเฮ่า 

 

 

           กดตำแหน่งที่ตั้งในข้อความ เผยหนานเจวี๋ยพาคนไปที่นั่น เมื่อเขาเพิ่งมาถึงด้านหน้าประตูวิลล่า ก็เห็นว่ามีคนยืนอยู่เต็มวิลล่าไปหมด 

 

 

 

 

 

     ตอนที่ 325 ช่วยฉู่อีอีหนีออกมา 

 

 

           กัดฟันสายตาเย็นยะเยือก กวาดตาค้นหาทั่วทุกทิศ เมื่อเขาเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ที่ระเบียงชั้นสามจากที่ไกลๆ เผยหนานเจวี๋ยมองจ้องไป พบว่าเธอคือฉู่อีอีจริงๆ 

 

 

           ดีจังเลย เธอไม่เป็นไร ในใจรู้สึกโล่งอก รีบคิดหาวิธีทันที เขาตัดสินใจหลอกล่ออีกทางเพื่อโจมตีอีกทาง หลังจากพูดคุยกับคนข้างๆ ครู่หนึ่งแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็ลงจากรถไปก่อน 

 

 

           ขณะที่คนอื่นๆ เข้าไปโดยตรง เผยหนานเจวี๋ยอาศัยช่วงชุลมุน ปะปนเข้าวิลล่าไป 

 

 

           ที่ชั้นบน ทันทีที่วิ่งขึ้นมาถึงชั้นสาม ระบุตำแหน่งเมื่อครู่ของฉู่อีอีได้แล้ว เพิ่งจะออกมาจากมุม ก็เห็นว่ามีคนอยู่ด้านนอกห้องของฉู่อีอี เขารีบหลบทันที การบุกเดี่ยวในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายมีกันสองคน หากต่อสู้กันมีแต่จะเสียเวลาเท่านั้น 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยคิดในใจ กวาดสายตาเห็นแจกันตรงหัวบันได คิดหาวิธีท่ามกลางสถานการณ์คับขัน เขายกขาเตะมันอย่างแรง แจกันใบนั้นร่วงลงสู่พื้น ส่งเสียงดังชัดเจน 

 

 

           เมื่อชายสองคนด้านนอกประตูได้ยินเสียงดัง ก็รีบวิ่งไปที่บันได ในเวลานี้เผยหนานเจวี๋ยซ่อนตัวอยู่ในกล่องใบใหญ่ เมื่อเห็นสองคนออกมา ยื่นมือผลักข้างละคน ทั้งสองคนตัวลอยและกลิ้งลงไปชั้นล่างแล้ว 

 

 

           มองดูสองคนที่สลบเหมือด เผยหนานเจวี๋ยรีบเดินไปยังห้องของฉู่อีอีทันที 

 

 

           เปิดประตูออก เผยหนานเจวี๋ยตะโกนเรียกทันใด “อีอี” 

 

 

           อีอีที่ยืนอยู่ที่ระเบียงได้ยินเสียงคุ้นเคยก็ดีใจ กลับหลังหัน เห็นเผยหนานเจวี๋ยอยู่ด้านหลังตัวเอง ดีใจมาก ปรี่เข้าไปหาเขาทันที ดีจังเลย ในที่สุดเขาก็ได้รับข้อความของเธอแล้ว ในที่สุดเขาก็มาแล้ว 

 

 

           น้ำตาพรั่งพรูในวินาทีที่เห็นเผยหนานเจวี๋ย ไม่มีใครรู้ว่าหลายวันนี้เธอผ่านอะไรมาบ้าง 

 

 

           “หนานเจวี๋ย” สองมือของฉู่อีอีกอดเผยหนานเจวี๋ยแน่น ซุกศีรษะอยู่ในอกของเขา 

 

 

           “อีอี ไม่ต้องกลัว ผมอยู่นี่ พวกเรากลับกัน” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ย ยื่นมือตบๆ หลังของฉู่อีอี 

 

 

           “ที่นี่อันตรายมาก หนานเจวี๋ย คุณไม่ควรมาเลย” ฉู่อีอีเงยหน้าที่เปื้อนน้ำตามองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมเอ่ย 

 

 

           “เด็กโง่ ผมจะไม่มาได้ยังไง” เผยหนานเจวี๋ยพูดจบ จูงมือฉู่อีอีเดินออกไปจากห้อง 

 

 

           ฉู่อีอีมองแผ่นหลังที่สูงใหญ่ของเผยหนานเจวี๋ย รู้สึกซาบซึ้งในใจ มือน้อยๆ จับมือใหญ่โตของเขาแน่น 

 

 

           ชั้นล่างเกิดความวุ่นวาย คนของเผยหนานเจวี๋ยเพียงแค่ก่อความโกลาหลเล็กน้อยก็จากไปแล้ว เพราะเผยหนานเจวี๋ยบอกพวกเขาไว้ว่าเพียงแค่ทำให้เขาเข้าไปได้ก็พอแล้ว 

 

 

           ซ่อนตัวอยู่ที่ชั้นสอง เผยหนานเจวี๋ยคอยสังเกตความเคลื่อนไหวภายนอก ในใจรู้ดีว่าแบบนี้พวกเขาออกไปไม่ได้แน่ ฉะนั้นเขาจึงกำลังรอจังหวะเวลา 

 

 

           เขาแจ้งความไว้ก่อนที่จะมาแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นาน ตำรวจก็คงจะมาถึงแล้ว 

 

 

           เป็นไปตามคาด ไม่ช้าตำรวจก็มาถึงแล้ว ลูกน้องของเฉิงเฮ่าเห็นตำรวจที่ปรากฏตัวกะทันหัน จู่ๆ ก็ทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย 

 

 

           “ตำรวจ อย่าขยับ!” เมื่อโจรกระจอกพวกนั้นได้ยิน ก็รีบเอาสองมือไว้บนหัว แต่ละคนก้มตัวลงอย่างเชื่อฟัง 

 

 

           ตลกน่า คนเขามีปืน เหตุการณ์เล็กน้อยที่ทำให้เกิดสงครามนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายมาก 

 

 

           เมื่อเผยหนานเจวี๋ยได้ยินเสียงเตือนของตำรวจ ก็จูงมือของฉู่อีอีเดินลงมาชั้นล่าง 

 

 

           “สารวัตรหวง คุณมาแล้วเหรอ พวกเขากักขังหน่วงเหนี่ยวคู่หมั้นของผม เชื่อว่าคุณคงจะรู้ว่าต้องทำยังไงนะ” เผยหนานเจวี๋ยเดินออกมาจากในบ้าน มองสารวัตรหวงพร้อมเอ่ย 

 

 

           “วางใจเถอะครับคุณเผย ผมรู้ดี เรื่องทางนี้ไว้เป็นหน้าที่ผม คุณพาคู่หมั้นของคุณกลับบ้านก่อนเถอะครับ” สารวัตรหวงมองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมเอ่ยปากทันที บนใบหน้ามีรอยยิ้ม 

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset