กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 330 คุณยังรักเขาไหม / ตอนที่ 331 งานอาสาสมัคร

       ตอนที่ 330 คุณยังรักเขาไหม

 

 

           ฉู่เจียเสวียนก้มหน้าพอดี ไม่เห็นประกายความสิ้นหวังนั้นของถังถัง

 

 

           “เอาเถอะ” ฉู่เจียเสวียนครุ่นคิดแต่ตอบได้เพียงเท่านี้ ใครบอกให้วันนี้เธอใหญ่ที่สุดล่ะ? เธอก็ทำได้เพียงเออออตามเท่านั้น

 

 

           ได้ยินคำตอบของฉู่เจียเสวียน คราวนี้ถังถังยิ่งดื่มหนักว่าเดิมแล้ว แก้วแล้วแก้วเล่า ดื่มจนไม่พักหายใจหายคอ

 

 

           ในที่สุด เมื่อขวดไวน์ว่างเปล่า ถังถังก็เมาพับไปแล้ว ในตอนนี้ฉู่เจียเสวียนก็เมาเล็กน้อย หน้าแดงชวนหลงใหล

 

 

           เมื่อเห็นถังถังนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ฉู่เจียเสวียนสูดหายใจลึก ยื่นมือตบๆ หน้า ต้องการให้ตัวเองตื่นตัวขึ้นมาบ้าง

 

 

           ย้ายของว่างที่อยู่บนเตียงทั้งหมดมาไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็จัดตัวถังถังให้ตรง ดึงผ้าห่มให้เธออย่างดี

 

 

           “ต้องมีความสุข…เธอจะต้องมีความสุข…” จู่ๆ ถังถังบ่นพึมพำ ฉู่เจียเสวียนอึ้งไป ยื่นหูไปใกล้ปากของเธอ ต้องการฟังให้ชัดว่าเธอพูดอะไร

 

 

           แต่ว่า ถังถังไม่ได้พูดอะไรอีก มีเพียงปากที่ขยับ ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้าและหัวเราะ จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องเพื่อต้มน้ำแกงแก้เมาให้ถังถัง ทันทีที่ประตูปิดลง ถังถังก็พึมพำอีกครั้ง “จวิ้นฉือ…นายจะต้องมีความสุข จวิ้นฉือ…”

 

 

           หลังจากที่ฉู่เจียเสวียนออกจากห้องนอนไปแล้ว ก็เข้าไปต้มน้ำแกงแก้เมาในห้องครัวทันที

 

 

           หลังจากต้มเสร็จ ฉู่เจียเสวียนตักน้ำแกงแก้เมาใส่ถ้วย ถือถ้วยออกไปจากห้องรับแขก วางถ้วยแก้งลงบนโต๊ะ ฉู่เจียเสวียนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

 

 

           เพียงจะหยิบออกมา จู่ๆ โทรศัพท์มือถือก็ดึงขึ้นแล้ว ฉู่เจียเสวียนสะดุ้งโหยง โทรศัพท์มือถือเกือบลื่นหลุดจากมือของเธอ

 

 

           ตบๆ หน้าอก มองดูสายเรียกเข้าที่คุ้นเคย ฉู่เจียเสวียนยิ้ม จากนั้นก็กดรับสาย “ฮัลโหล จวิ้นฉือ ดึกป่านนี้แล้วคุณยังไม่นอนเหรอ”

 

 

           “อืม นอนไม่หลับ ถังถังน่าจะอยู่กับคุณใช่ไหม” ดังที่ทุ้มต่ำอบอุ่นดังขึ้น เจือปนรอยยิ้มเล็กน้อย

 

 

กงจวิ้นฉือเดินไปยังหน้าต่างบานใหญ่ มองดูดาวนอกหน้าต่าง ยิ้ม

 

 

           “คุณรู้ได้ยังไง เธอเพิ่งมาคืนนี้ตอนห้าทุ่มกว่าๆ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากสงสัย เลิกคิ้ว

 

 

           “เมื่อก่อนตอนอยู่เมืองนอก เขาก็เคยลากผมไปดื่มเหล้าที่บาร์ในเช้าวันเกิดของเขา บอกว่าเพื่อเป็นการฉลอง” กงจวิ้นฉือยิ้มเอ่ย สายตามองไปยังที่ไกลๆ ราวกับว่ากำลังตามหาความทรงจำ

 

 

           “เหรอคะ เขาชอบทำอะไรแบบนี้แหละ คุณโทรมาหาฉันดึกป่านนี้เพื่อจะบอกฉันเรื่องนี้เหรอ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยถาม ใบหน้าไร้รอยยิ้ม มือสางผม ลุกขึ้นยืน เปิดประตูบานใหญ่แล้วเดินออกไปยังระเบียง สายลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านตัวเธอ ทำให้ความง่วงซึมในสมองตื่นตัวไม่น้อย

 

 

           “ฟังจากน้ำเสียงของคุณแล้ว ถ้าผมไม่มีอะไรก็หาคุณไม่ได้งั้นสิ” เอ่ยขำ กงจวิ้นฉือพูดเสียงสูงขึ้นเล็กน้อย

 

 

           “ไม่ใช่สักหน่อย ฉันยินดีเสมอ” ริมฝีปากยกยิ้ม ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนยิ่งสวยงามยิ่งขึ้นในตอนกลางคืน เธอเอื้อมมือจับราว หันกลับมาและเอนหลังพิงบนราวนั้น

 

 

           “หึหึ พูดเหมือนจะจริงอย่างนั้นแหละ ถังถังล่ะ” เสียงที่อบอุ่นของกงจวิ้นฉือดังขึ้น น้ำเสียงสดชื่นเหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิ

 

 

           “คืนนี้เขาดื่มหนัก ตอนนี้หลับไปแล้ว ทำไมดึกป่านนี้แล้วคุณยังไม่นอนล่ะ” ฉู่เจียเสวียนกล่าว เปลือกตาเริ่มหนักอึ้ง

 

 

           ที่จริงเธอก็ดื่มไปไม่น้อย เพียงแค่ไม่ได้เยอะเหมือนถังถังก็เท่านั้น

 

 

           “คิดถึงคุณน่ะ ก็เลยนอนไม่หลับ” กงจวิ้นฉือพูดขึ้น น้ำเสียงจริงจัง ดวงตามองดาวบนท้องฟ้าตลอดเวลา เหมือนกับฉู่เจียเสวียนอยู่บนฟากฟ้า

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินคำพูดของกงจวิ้นฉือ ตื่นตัวขึ้นมาทันใด รอยยิ้มบนใบหน้าก็จางหายไปด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่กงจวิ้นฉือพูดจาลึกซึ้งแบบนี้กับเธอ

 

 

           “คุณดื่มเหรอ ทำไมคืนนี้คุณถึงได้อ่อนไหวแบบนี้ล่ะ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยสงสัย

 

 

           “อืม ดื่มวิสกี้ไปแก้วนึง แต่ผมสติครบถ้วน” กงจวิ้นฉือกล่าว น้ำเสียงจริงจัง ตั้งแต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยดื่มเหล้าจนเมา ไม่ใช่เพราะเขาอวดเก่ง แต่เขาไม่เคยดื่มเหล้าเยอะ ฉะนั้นจึงไม่เมา

 

 

           จู่ๆ โทรศัพท์ก็ตกอยู่ในความเงียบ กงจวิ้นฉือไม่รอให้ฉู่เจียเสวียนตอบ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากอย่างลังเล “เจียเสวียน…”

 

 

           “หืม?” ฉู่เจียเสวียนได้ยินกงจวิ้นฉือพูด รีบตอบรับทันที

 

 

           “ถามคุณเรื่องนึง” สูดหายใจลึก เสียงที่ทุ้มต่ำของกงจวิ้นฉือดังมาจากปลายสาย

 

 

           “อะไรเหรอ”

 

 

           “คุณยังรักเขาไหม”

 

 

           ได้ยินคำถามของกงจวิ้นฉือ ฉู่เจียเสวียนรู้โดยธรรมชาติว่า ‘เขา’ ของกงจวิ้นฉือคือใคร รู้สึกว้าวุ่นใจทันใด เพราะเธอไม่เคยคิดว่ากงจวิ้นฉือจะถามเธออย่างกะทันหันเช่นนี้ เธอไม่ทันแม้แต่จะคิด

 

 

           นึกถึงวันนั้นที่ร้านกาแฟ คำที่เขาเคยพูดกับเธอ

 

 

           “เจียเสวียน เหมือนว่าผมจะชอบคุณเข้าแล้ว”

 

 

           ในขณะนั้นเธอรู้สึกชัดเจนว่าหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

 

 

           รักเขาเหรอ หึหึ แน่นอนว่าไม่รักอยู่แล้ว มันเป็นเพียงแค่ฝันฉากหนึ่งของเธอเท่านั้น

 

 

           ตอนเด็กๆ นึกว่ามีวาสนาเป็นเนื้อคู่กับเขา แต่ว่าเมื่อโตขึ้นจึงรู้ว่านั่นเป็นเพียงฉากฝันที่เธอสร้างขึ้นมาก็เท่านั้น ตอนนี้ฝันได้สลายไปแล้ว เธอจะยังรักเขาอยู่ได้อย่างไร

 

 

           “ฉันไม่ได้รักนานแล้ว” ผ่านไปสักพัก ฉู่เจียเสวียนเอ่ย วินาทีที่ตอบนั้น หัวใจของเธอทั้งรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยและทั้งโล่งอกเล็กน้อย

 

 

           สามปีนี้ กงจวิ้นฉือไม่เคยเอ่ยปากถามเธอเช่นนี้เลย ฉะนั้นตอนที่เขาถาม ในใจเธอมีความตื่นตระหนก แต่มันยิ่งโล่งใจมากกว่า

 

 

           กงจวิ้นฉือได้ฟังคำตอบของฉู่เจียเสวียนแล้ว ก็รู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก

 

 

           ใบหน้าที่สุขุมสง่างามมีรอยยิ้ม เดิมทีเขายังกังวลใจว่าช่วงนี้ฉู่เจียเสวียนและเผยหนานเจวี๋ยเจอหน้ากันบ่อยขึ้นเนื่องด้วยเรื่องงานแล้วถ่านไฟเก่าจะคุหรือเปล่า ตอนนี้คิดดูแล้วเขาคงจะคิดมากไปเอง

 

 

           เรื่องบางเรื่องเช่นบาดแผลของคน ไม่ควรถกขึ้นมาง่ายดายนัก แต่ว่าบางอย่างใช่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปแล้วจะปล่อยวางได้จริงๆ เมื่อวันนั้นที่สามารถเมินเฉยได้แล้ว เชื่อว่าเวลานั้นต่างหากจึงจะสามารถสงบลงได้จริงๆ

 

 

           “เจียเสวียน ดึกมากแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ ดึกมากแล้ว” กงจวิ้นฉือพูด น้ำเสียงสบายใจ

 

 

           “โอเค พรุ่งนี้เป็นวันสุดสัปดาห์ ฉันจะไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า คุณไม่ต้องตามหาฉัน คุณมีธุระก็ไปทำธุระของคุณก่อน ฉันไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเสร็จแล้วจะกลับมาหาคุณ” ฉู่เจียเสวียนกล่าว ยื่นมือปิดปากหาว ดวงตาที่สดใสกระพริบถี่

 

 

           “โอเค ราตรีสวัสดิ์”

 

 

           “ราตรีสวัสดิ์” วางสาย ฉู่เจียเสวียนสูดอากาศที่บริสุทธิ์ยามค่ำคืนลึกๆ จากนั้นก็กลับหลังหันเข้าห้องรับแขกไป

 

 

           เดิมทีเธอต้องการดื่มน้ำแกงแก้เมานี้ แต่เธอพบว่าเธอไม่เมาอีกต่อไปแล้ว ส่วนน้ำแกงแก้เมานั้นก็ยกขึ้นชั้นบนให้ถังถังดื่มแล้ว

 

 

 

 

     ตอนที่ 331 งานอาสาสมัคร

 

 

           เช้าวันต่อมา หลังจากฉู่เจียเสวียนตื่นแล้วก็พบว่าถังถังยังคงนอนอยู่ มุมปากยกยิ้ม ส่ายหน้า เปิดผ้าห่มลงมาจากเตียง เข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา

 

 

           หลังจากล้างตาล้างตาเสร็จแล้ว ก็เห็นถังถังนั่งอยู่บนเตียง นวดคลึงศีรษะ ยังคงหลับตาแน่น เมื่อได้ยินความเคลื่อนไหวเธอก็ลืมตาขึ้น เห็นฉู่เจียเสวียนล้างหน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

 

 

           “ที่รัก เธอเป็นไงบ้าง” ถังถังกล่าว มองฉู่เจียเสวียนด้วยท่าทางกะตือรือร้น เห็นได้ชัดว่าสติของเธอยังไม่ฟื้นคืนเต็มที่

 

 

           “ฮือๆ…ฉันปวดหัวจังที่รัก” ถังถังพูดขึ้น จากนั้นก็ล้มตัวลงบนเตียงและหลับตาลงอีกครั้ง

 

 

           “เมื่อคืนบอกเธอแล้วว่าอย่าดื่มเยอะขนาดนั้นเธอก็ไม่เชื่อ เรียกให้เธอดื่มแกงแก้เมาเธอก็ไม่ดื่ม คราวนี้สบายตัวล่ะสิ?” ฉู่เจียเสวียนกล่าว เดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อและเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า

 

 

           เมื่อคืนเธอเอาน้ำแกงแก้เมามาให้เธอดื่มแล้ว แต่ว่าเธอก็ไม่ฟัง คราวนี้เป็นไงล่ะ เปลี่ยนเสื้อออกมาแล้วก็พบว่าถังถังนอนอยู่บนเตียงอีกครั้ง หัวเราะ เปิดประตูห้องจากนั้นก็เดินลงไปชั้นล่าง

 

 

           ซูซานซานทำเหมือนทุกครั้ง เธอเตรียมอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ในเวลานี้เห็นเธอลงมาก็ยิ้ม “ถังถังล่ะ เขายังไม่ตื่นเหรอ”

 

 

“เปล่าค่ะ ยัยนั่นน่ะตื่นแล้ว แต่ว่าหลับต่อ” ฉู่เจียเสวียนหัวเราะ เอื้อมมือตักโจ๊ก แล้วเริ่มกิน

 

 

           ซูซานซานได้ยินแล้วก็พยักหน้า และเริ่มลงมือกินอาหารเช้าด้วย

 

 

           “อ้อ แม่คะ วันนี้เป็นวันเกิดถังถัง คืนนี้พวกเราไปกินข้าวข้างนอกกันเถอะค่ะ” ฉู่เจียเสวียนราวกับนึกอะไรบางอย่างได้ พูดกับซูซานซาน

 

 

           “ได้ งั้นแม่ไม่ทำข้าวเย็นนะ” ซูซานซานยิ้มตอบ

 

 

           “อืม จริงสิ เดี๋ยวหนูจะไปเป็นอาสาสมัครที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แม่คะ ตอนบ่าย หนูจะให้จวิ้นฉือมารับแม่” ฉู่เจียเสวียนพูด กินโจ๊กคำสุดท้ายในถ้วยจนหมด ลุกขึ้นยืน

 

 

           “ได้ จวิ้นฉือไม่ได้ไปด้วยกันกับลูกเหรอ” ซูซานซานเอ่ยถาม สายตามองตาฉู่เจียเสวียน

 

 

           “ไม่ค่ะ เขางานยุ่งขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นหนูก็ไม่ได้ไปครั้งแรก แม่วางใจเถอะ” ฉู่เจียเสวียนยิ้มเอ่ย เห็นสายตาเป็นกังวลของซูซานซานก็ส่งสายตาให้เธอวางใจ

 

 

           ตั้งแต่ฉู่เจียเสวียนแท้งลูก ขอเพียงมีเวลาว่างก็จะไปทำงานอาสาสมัครที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพราะเธอรู้สึกว่าเด็กเหล่านั้นน่าสงสารเกินไปแล้ว ฉะนั้นเธอจึงต้องการให้ความรักแก่พวกเขาสักหน่อย แม้เธอไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่ว่าเธอก็อยากเป็นกำลังส่วนหนึ่งในการมอบความรักเล็กๆ น้อยๆ แก่เด็กเหล่านั้น

 

 

           “ได้” ซูซานซานฟังแล้วก็พยักหน้า ไม่ได้ถามอะไรต่ออีก

 

 

ก่อนที่ฉู่เจียเสวียนจะไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็กลับไปที่ร้านชุดแต่งงานก่อน เพราะไม่รู้ว่าถังถังจะมาถึงบริษัทเมื่อไร ฉะนั้นเธอจึงจัดการงานสำคัญให้เสร็จก่อนเธอจึงจะไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

 

 

           เธอจะไปเป็นอาสาสมัครที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนสิบเอ็ดโมงเช้า ดังนั้นเธอยังมีเวลาอีกมาก

 

 

           ขณะที่ฉู่เจียเสวียนออกไปจากวิลล่านั้น ถังถังจึงค่อยๆ ตื่นขึ้น แต่ว่าเธอปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัวจนแทบทนไม่ไหว ทั้งๆ ที่เธอเมาค้างไปเพียงครู่เดียวเท่านั้น ทำไมเธอถึงได้เหนื่อยแบบนี้

 

 

           หลังจากตื่นนอนและเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแล้ว ถังถังจึงรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเล็กน้อย เก็บข้าวของเสร็จแล้วก็ลงมายังห้องรับแขก เห็นซูซานซานกำลังตัดแต่งสวนภายใต้แสงอาทิตย์

 

 

           เธอก้าวเท้าเดินออกไป เพิ่งมาถึงที่ระเบียง แสงอาทิตย์ก็ส่องอยู่บนตัวของเธอ ทำให้ผิวของเธอขาวดุจหิมะชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อกวาดตามองแต่ไม่พบฉู่เจียเสวียนก็รู้ว่าเธอกลับไปที่บริษัทแล้ว

 

 

           “คุณน้าซู” ถังถังเอ่ย มองซูซานซานด้วยรอยยิ้ม

 

 

           “ถังถัง เธอตื่นแล้วเหรอ รีบไปกินข้าวเช้าเถอะ”

 

 

           ซูซานซานพูด วางกรรไกรตัดแต่งในมือลง เดินเข้าไปในบ้าน ง่วนกับการเอาอาหารเช้าให้ถังถังกิน ถังถังตามหลังเธอไป

 

 

           หลังจากซูซานซานนำอาหารเช้าให้ถังถังกินเสร็จแล้ว ถังถังจึงกลับไปที่บริษัท

 

 

           ในออฟฟิศท่านประธานของบริษัทกลุ่มเผย ใบหน้าของเผยหนานเจวี๋ยหล่อเหลาและเย็นชา กำลังทบทวนเอกสารในมือด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset