การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 26

บทที่ 26 เลทิเซียและซิลเวีย

 

แน่นอนที่ฉันให้ซิลเวียจับมือฉันไว้นั้น ไม่ใช่เพราะอาจจะทำให้ฉันหลงทาง แต่เพราะไม่ให้ซิลเวียทำอะไรแผลงๆ ต่างหาก

พวกเราเดินออกมาจากที่พัก เพราะว่าฉันมีซิลเวียมาด้วยทหารคุ้มกันจึงไม่จำเป็นต้องมาด้วย เพราะซิลเวียเหมือนจะเก่งมาก

จึงทำให้ฉันเหมือนมีบอดี้การ์ดติดตัวอยู่แล้วนั่นเอง ซิลเวียเดินมาเจอฝูงชนพลุกพล่านเต็มไปหมดเหมือนเธอจะตื่นเต้นมาก

“ว้าวววว นี่ๆ เลทิเซีย นั่นมันอะไรเหรอ?”

ซิลเวียเขย่าแขนฉัน เพราะฉันตัวเตี้ยกว่าเลยรู้สึกปวดแขนไม่น้อย แต่เพราะเหมือนว่าซิลเวียจะวางมาดการแสดงที่ห่วยแตกของเธอลง

ฉันเลยถอนหายใจออกมา มองไปตามทางที่ซิลเวียชี้นิ้วไป มันคือร้านค้าที่ตั้งอยู่ริมถนนเรียงกันเป็นระเบียบค่อนข้างไกล

เพราะเป็นโรงแรมที่ค่อนข้างดี พอลงมาจึงเจอร้านค้าเหล่านี้ทันที .. อืมไอ้ของพวกนี้เขาเรียกว่า แผงลอยสินะ?

“ดูเหมือนเขาจะเรียกว่า ‘แผงลอย’ ละมั้ง.. เธอน่าจะรู้ดีกว่าฉันไม่ใช่เหรอ?”

ในโลกเดิมนั้น ฉันอยู่ในยุคที่ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าแผงลอยอะไรพวกนี้เลย แม้จะเคยได้ยินมาบ้างแต่ว่าก็ไม่เคยเห็นละนะ

และไม่ต้องสงสัยว่าฉันจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีแผงลอย (?) นั่นเพราะพี่เอามาให้ และพอฉันเริ่มทำงานหลังพี่เสีย ฉันจึงต้องสามารถหาอาหารมาให้น้องสาวได้

ดังนั้นคนที่น่าจะรู้ดีกว่าฉันน่าจะเป็นพวกคนที่อยู่โลกฝั่งนี้อย่างพวกซิลเวียไม่ใช่เหรอ ซิลเวียตอบกลับฉัน

“บนโลกเทพไม่มีแบบนี้นี่น่า—”

พอพูดถึงจุดนี้เธอก็รีบเอามืออุดปากทันที เอ๊ะ มีอะไรหว่า ฉันหันไปมองซิลเวียด้วยความสงสัย พอเธอเห็นสีหน้าสงสัยของฉันก็ถอนหายใจออกมา

(คิดว่า เลทิเซียไม่ได้ฟังที่ตัวเองพูดเลยทำหน้างงๆ ออกมา)

อ้อ.. จะว่าไปแล้วซิลเวียก็เป็นเทพนี่นะ ลืมไปเลย ในโลกเทพอาจจะไม่มีของแบบนี้จริงๆ ก็ได้นี่นะ

ฉันกับซิลเวียกินเที่ยวกัน โชคดีที่พกเงินมาด้วยเลยซื้อของจากแผงลอยได้ แน่นอนว่าฉันไม่กล้ากินของแบบนี้

คนที่กินคือซิลเวีย ดูเหมือนเธอจะอร่อยมาก พอกัดเนื้อหมึกย่างที่อัดแน่นไปด้วยไข่ข้าในตัวของหมึกกล้วย แล้วก็น้ำซอสสุดพิเศษ

ซิลเวียกัดจนน้ำซอสไหลทะลักออกมา จนทำให้ฉันรู้สึกพลอยหิวไปด้วย.. ไม่ได้ๆ ของตามแผงลอยอันตรายเกินไป อย่างน้อยฉันก็ต้องทำเอง

แต่เหมือนซิลเวียจะเห็นสายตาของฉัน เธอมองมาที่ฉันแล้วก็มองไปยังปลาหมึกย่างยัดไส้ในมือ

“อะไรเล่า?”

“ฉันไม่แบ่งหรอกนะ!”

“ไม่ได้จะกินสักหน่อย!”

เหมือนยัยนี่จะคิดว่าฉันจะแย่งเธอกิน เธอก็ซ่อนหมึกย่างยัดไส้ไว้ข้างหลังพร้อมทั้งถอยหลังออกไป

พอได้ยินฉันพูดซิลเวียเหมือนจะนึกอะไรได้ เธอคิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็หันหน้าไปหาพ่อค้าแผงลอย

“ขอหมึกย่างยัดไส้อีกไม้หน่อยนะ!”

“โอ้!”

พ่อค้าตอบอย่างแข็งขันแล้วก็ยื่นหมึกย่างยัดไส้ให้ เธอปล่อยมือที่จับกับฉันอยู่ไปรับเอาหมึกย่างยัดไส้แล้วยื่นมาให้ฉัน

เอ่อ.. ฉันไม่ค่อยเข้าใจนัก ซิลเวียเลยพูดออกมา

“ฉันให้!”

“….?”

ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ซิลเวียพยายามจะทำอะไรของเธอเนี่ย พอเห็นฉันไม่ตอบเธอก็เหมือนนึกอะไรออก

เธอเอาไม้ที่กัดแล้วมาแทนไม้ที่พึ่งซื้อมายื่นให้ฉัน… อืม.. สรุปคือจะแบ่งให้กินสินะ แถมยังมีหน้ามาเปลี่ยนไม้ซะด้วย

แต่เมื่อกี้ยังหวงอยู่เลย แต่ยังไงก็เถอะฉันไม่กินของแบบนี้อยู่แล้ว

“ไม่กิ— อื้อ?!”

ฉันกำลังจะตอบ ซิลเวียก็ยัดหมึกย่างใส่ปากฉันอย่างรวดเร็ว ดวงตาฉันเบิกกว้าง กำลังจะตอบโต้

แต่เพราะว่าเป็นหมึกย่างอันที่กัดแล้วซอสและหมึกทั้งยังมีไข่อยู่ข้างในหยกใส่ปากฉัน.. ฉันที่กำลังจะต่อต้านก็หยุดชะงัก

อืม.. อร่อยดีเหมือนกันแฮะ ฉันกัดปลาหมึกย่างก่อนจะยื่นมือไปจับไม้ของปลาหมึกย่างเงียบๆ

“อร่อยใช่ไหมล่ะ?”

“….”

ฉันไม่ได้ตอบซิลเวียก็ยื่นมือมาจะกับมือฉันและเดินไปทั่วเมืองอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่ฉันกินอาหารตามริมถนนที่ทำจากฝีมือคนอื่น

โดยไม่ตรวจสอบว่ามีพิษก่อนไหม.. แต่ว่ามันก็ไม่เลวนะ

ฉันกับซิลเวียเดินไปทั่วเมือง มีร้านอาหารมากมายในเมือง เห็นชัดว่าเป็นเมืองที่คึกคักมาก ไม่รู้ว่าเมืองหลวงอาณาจักรอาเดฟเป็นแบบนี้หรือเปล่า

ส่วนซิลเวียก็ไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไร ตรงกันข้ามเธอกลับดูสนุกมาก ปกติไม่ค่อยเป็นแบบนี้เลย มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง

แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร ในขณะที่เดินๆ กันอยู่ ซิลเวียก็ถามขึ้นมาว่า

“จริงสิ เลทิเซียคือผู้กลับชาติมาเกิดใช่ไหม?”

ฉันหยุดชะงักทันที… เรื่องนี้ฉันไม่อยากบอกใครมากที่สุดเพราะหากบอกไปคงโดนจับไปทดลองนั่นทดลองนี่แน่ๆ

อีกอย่างถ้าคนที่โลกนี้รู้ว่าฉันไม่ใช่ฉันจริงๆ หมายถึงว่าฉันเป็นดวงวิญญาณที่มาแทนที่เลทิเซียก่อนที่เธอจะเกิดอะไรแบบนี้

ฉันก็จะกลายเป็นเหมือนศัตรูกับทุกๆ คนเลยใช่ไหมล่ะ ถึงไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนั้นไหม แต่กันไว้ดีกว่าแก้ ดังนั้นฉันจึงปกปิดเรื่องนี้ไว้

แต่ว่า ทำไมซิลเวียถึงรู้ หรือว่าเพราะเป็นเทพจากสวรรค์ เลยรู้จักกับเทพธิดาใจคดคนนั้น?

ฉันพยายามสงบสติอารมณ์ที่กำลังตกใจแล้วก็ถามด้วยความสงสัยว่า

“เอ่อ หมายถึงอะไรเหรอ?”

“ก็แบบเป็นคนที่.. สามารถจำความทรงจำของชาติก่อนได้ไงล่ะ ก็เห็นเลทิเซียดูเหมือนจะใช้เวทมนตร์ได้เก่งขนาดนั้นทั้งที่ยังไม่เห็นเริ่มศึกษาจากตำราเลย”

ฉันถึงกับเหงื่อตก จะว่าไปมันก็จริงแฮะ ถึงฉันจะแอบใช้เวทคนเดียวแต่คนที่ฉันไม่ระวังมากที่สุดมีแค่ เลวี่และซิลเวีย

เลวี่น่ะ เพราะเป็นน้องสาว แต่ซิลเวียฉันดันเผลอเลินเล่อไปซะได้ ฉันเริ่มรู้สึกลนลานอย่างช่วยไม่ได้

แต่เหมือนซิลเวียจะพูดต่อว่า

“ฉันแค่เดาน่ะ ไม่ใช่ก็ถือว่าฉันไม่ได้พูดแล้วกันนะ.. เอ๊ะ เลทิเซียดูนั่นสิ นั่นมันอะไรน่ะ ดูน่าอร่อยจังสีแดงแปร๊ดเลย!”

โชคดีที่ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างบ้าเหมือนเห็นอาหารก็เปลี่ยนอารมณ์ทันที ชี้นิ้วไปยังเนื้อย่างที่มีสีแดง แค่มองก็รู้ว่าเผ็ด

“ขอไม้หนึ่งค่าาาา”

“ได้เลย คุณผู้หญิง!”

ชายคนขายมารยาทงามยื่นเนื้อสีแดงให้ซิลเวีย เธอกัดลงมันไปเต็มคำก่อนที่เหมือนจะโดนอะไรสักอย่างช็อตไปทั่วร่าง

เพราะนิ่งไปในทันที.. แน่นอนคงจะเผ็ดละสิ ถ้าฉันเดาไม่ผิดไอ้นี่คงเป็นสิ่งที่เรียกว่า “หม่าล้า” มันคือเครื่องรสชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างเผ็ด

ซิลเวียเริ่มตัวสั่นและหลับตาแน่น ภาพที่คุ้นๆ ลอยขึ้นมาในหัวของฉัน

“อร่อยยยยย!”

ซิลเวียร้องออกมาเธอกัดเนื้อรวดเดียวหมดก่อนจะสั่งอีกรอบ.. และสั่งอีกรอบ เป็นสิบๆ ไม้ เธอกินอย่างเอร็ดอร่อย

ฉันมองซิลเวียภาพในอดีตเหมือนสะท้อนออกมาจากความทรงจำฉัน ทำให้ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ

ทำไม.. เหมือนได้ขนาดนี้กันนะ

 

…………..

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!
Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset