การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม – ตอนที่ 31

บทที่ 31 เริ่มการทดสอบรอบสุดท้าย

 

“เอ่อ.. ดิฉันชื่อ.. มารี-แอน ชาร์ล็อต เดอ กอร์แด ดาร์มง หรือ ชาร์ล็อต กอร์แดค่ะ.. เอ่อ เป็นเผ่าอสูร ประเภทมนุษย์ค่ะ… ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”

เผ่าอสูรนี่มีแบ่งประเภทด้วยเรอะ แล้วเผ่าอสูรประเภทมนุษย์นี่มันคืออะไร ฉันขมวดคิ้ว สิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักย่อมอันตราย

แต่จะว่าไปก็เถอะชื่อดูฝรั่งเศสสุดๆ ไปเลยแฮะ ถึงโลกนี้จะมีชื่อทางยุโรปเยอะจริงๆ แต่ชื่อสไตล์ฝรั่งเศสพึ่งเคยเห็น

แต่ชื่อนี้มันดูคุ้นๆ ยังไงไม่รู้แฮะ แม้ฉันพยายามจะนึกยังไงก็นึกไม่ออกเลยต้องถอดถอนหายใจ แต่น่าจะเป็นคนที่อันตราย

ผู้หญิงที่ชื่ออเล็กเซียก็แนะนำตัวบ้าง

“ฉันชื่อ อเล็กเซีย วินเช่ ดิ เรสเทีย”

ห้วนๆ เลย ผู้หญิงคนนี้ก็อันตราย ฉันคิดว่าการเจอกันครั้งแรกของเราประหลาดมาก ผู้หญิงที่เหมือนมาเฟียในต่างโลกนี่

แถมมีชื่อที่เป็นผู้ดีสุดๆ อีกอย่างเหมือนเธอจะอ่านใจฉันได้ด้วยแหละ ฉันไม่ค่อยอยากยุ่งเลยกลัวคนแบบนี้ ฉันแพ้ทางสุดๆ

ก็คิดดูถ้าเราเผยความรู้ให้อีกฝ่ายรู้แผนการทั้งหมดก็จะสูญเปล่าน่ะสิ.. แต่ว่านะ ยังไม่แน่ใจว่าเป็นการอ่านใจไหม อาจจะบังเอิญก็ได้

ฉันลังเลอยู่นิดหนึ่งก็.. ด่าเธอในใจ แต่เหมือนเธอจะไม่สนใจฉันเลย ฟู่ว เรื่องบังเอิญสินะ.. ฉันถอนหายใจ

ในขณะที่เลวี่ก็จีบกระโปรงย่อตัวลงแนะนำตัว

“ดิฉันมีชื่อว่า เลวิเนีย ทีน อาเดฟ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะทั้งสองท่าน”

การแนะนำตัวครั้งแรกที่โคตรจะสมบูรณ์แบบฉันมองไปที่เลวี่ที่ตอนนี้เหมือนกับเทพธิดาตัวน้อย

คงนึกสภาพไม่ออกเลยว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเธอกำลังยกหินพยายามจะฟาดหัวปีศาจจนตายคามือ เพราะด่าฉันอยู่

ชาร์ล็อตนั่นดูท่าจะกลัวมาก

“เอ่อ.. เออ ค่ะ!”

ก็นะเป็นใคร ใครก็ต้องกลัวแหละขนาดฉันยังกลัวเลย ฉันถอยตัวออกห่างๆ อย่างเงียบๆ เป็นทักษะลับของฉันที่เคยฝึกมา

แน่นอนในสถานการณ์นี้ฉันไม่คิดจะขัดขวางการเข้าพวกของน้องสาวหรือคิดจะแนะนำตัวแน่นอน อันที่จริงคงไม่มีใครอยากได้ยินฉันแนะนำตัวอยู่แล้ว

(เพราะในอดีตเคยมีเหตุการณ์แบบนี้อยู่ เพราะหน้าตาดุร้ายเกินไป เวลาน้องสาวเข้าหาเพื่อนเลทิเซียก็จะแอบถอยออกมาห่างๆ โดยไม่รู้ตัว แม้ในตอนนี้จะเกิดใหม่ไม่มีรูปร่างเหมือนเดิม.. แต่ว่าเลทิเซียก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลย)

โคลเอ้เองก็เดินออกมาแนะนำตัว

“ข้ามีชื่อว่า โคลเอ้ วินเชนท์! เป็นนักรบดาบ จะเรียกว่าอัศวินขององค์หญิงก็ได้ กรุณาอย่าเข้าใกล้องค์หญิงเกินสองเมตรด้วยค่ะ!”

เอ๋ นี่โคลเอ้ เธอไปเป็นอัศวินตอนไหนว่าแต่ห้ามเข้าใกล้เกินสองเมตรเลยเรอะ แต่พอมาพิจารณาถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ฉันก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“เอ๋?! เอ๋.. เป็นองค์หญิงเหรอคะ? ขะ.. ขออภัยที่เสียมารยาทค่ะ”

ว่าแล้วเธอก็หัวขอโทษเลวี่พยายามจะหยุดแต่หัวก็ฟาดกันดังโป๊กเลยทีเดียว ฉันรีบใช้เวทมนตร์ตรวจสอบ

ไม่มีการใช้พิษลอบทำร้ายใช่ไหม?! อืมไม่มี.. หลังจากตรวจสอบฉันก็พบว่าไม่มีไรจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่พอตรวจสอบนั้นก็สัมผัสถึงบางอย่างที่อยู่ใต้กระโปรงยาวของชาร์ล็อต

มันเป็นกรรไกรปากแหลม เหมือนกรรไกรผ่าตัดแล้วก็มีดหลายสิบเล่ม แต่ละเล่มคมเหมือนกับมีดผ่าตัดเลย

“มือสังหารตัวจริงจ้า”

ฉันอุทานในใจ.. นี่มันอาวุธมือสังหารใจโฉดชัดๆ! ฉันเริ่มตระหนักว่าผู้หญิงคนนี้อันตราย.. และในตอนที่ฉันสัมผัสถึงผู้หญิงที่ชื่อชาร์ล็อตก็หันมา

สายตาจ้องเขม็งมาที่ฉัน! บ้าเอ๊ย นี่มันคือการรับรู้พลังเวทที่แผ่กระจายออกไปของฉันใช่ไหม?!

“เอ่อ แล้วคุณ..?”

นี่ไม่คิดจะปล่อยให้รอดเลยสินะ! คงเป็นเพราะฉันไปตรวจที่ลับของเธอเข้าเลยไม่คิดจะปล่อยไปสินะ ก็มีออกบ่อยที่แบบ รู้เรื่องไม่ควรรู้อะไรแบบนี้

(อันที่จริงเลทิเซียแค่ยังไม่ได้แนะนำตัว ชาร์ล็อตเลยถามแต่บังเอิญไปตรงกับเวลาที่ตรวจสอบพอดิบพอดี..)

ฉันพยายามสงบอารมณ์ตีสีหน้าให้เป็นปกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ฉันมีชื่อว่า เลทิเซีย ทีน อาเดฟ .. เป็น ‘พี่’ ของเลวี่”

ในเมื่อได้แนะนำตัวก็ใช้โอกาสนี้ข่มขู่ให้เธอไม่กล้าลอบทำร้ายเลวี่ซะเลย ฉันเน้นเสียงตรงคำว่า ‘พี่’ ให้ชัดเป็นพิเศษ

เธอตกใจและหันไปมองเลวี่กับฉันสลับกันแน่นอนว่าต้องหน้าไม่เหมือนกัน.. น้องสาวฉันมีผมสีขาว ในขณะที่ฉันมีผมสีดำ และหน้าตาค่อนข้างต่างกัน

เธอยิ้มออกมาเหมือนจะเข้าใจที่ฉันจะสื่อสินะ หึ.. ลองกล้าแตะเลวี่ดูสิฉันไม่ยอมแน่นอน

(อันที่จริง ชาร์ล็อตเข้าใจว่าเลทิเซียพยายามจะแสดงความเป็นพี่เพราะว่าตัวเองตัวเล็กกว่าเลวี่ กลัวเข้าใจผิด เธอคิดว่านี่คงเป็นศักดิ์ศรีของคนเป็นพี่สินะ ทำให้เธออมยิ้มกับทั้งสองไม่ได้)

แน่นอนว่า เลวี่ได้ยินที่คุยกันชัดเจนดูเหมือนเธอดีใจมาก เธอวิ่งมากอดแขนฉันแทบจะทันที

“ท่านพี่! ข้าชอบท่านที่สุดเลย!”

อืม เธอดีใจมาก ดูเหมือนว่าน้องสาวฉันก็มองออกแล้วสินะว่าชาร์ล็อตคนนี้อันตราย พอฉันออกหน้าปกป้องเลยมีท่าทางเช่นนี้ละสินะ

ก็แน่นอนที่ฉันเดาออกเพราะอยู่กับเลวี่มานาน ฉันมั่นใจมากเลยล่ะ (แน่ใจ?)

พอน้องสาวชื่นชมจนบอกชื่นชมฉันก็อดที่จะทำให้ฉันดีใจอย่างช่วยไม่ได้ บางทีฉันคงเป็นพี่ชายที่ดีกว่าชาติก่อนซะอีกนะเนี่ย

(ที่จริงคือ ความหมายตรงตัวเลย ‘ชอบ (รัก) ’ เพราะเลวี่คิดว่าเลทิเซียกำลังหึงตัวเองที่ดูจะสนิทกับชาล็อตมาก เลทิเซียเลยพยายามแสดงความเป็นเจ้าของ แต่เพราะเป็นพี่น้อง คงพูดว่าคู่รักไม่ได้เลยใช้คำว่าพี่แทน ซึ่งทำให้เลวี่ดีใจมากและแน่นอนเธอจึงตอบรับโดยการบอกรักเลทิเซีย ในฐานะที่เป็นน้องคำพูดแบบนี้อาจจะไม่หนักแต่ก็เป็นการยืนยันว่า ‘เลวี่ไม่ได้ปฏิเสธ’ ความคิดนั้นของเลทิเซียเลย)

ฉันยิ้มออกมาและลูบหัวเลวี่ ไม่รู้ทำไมช่วงนี้ฉันติดใจการลูบหัวเลวี่เป็นอย่างมาก ชาร์ล็อตยิ้มออกมาแต่เมื่อกี้ฉันเห็นเธอแสดงหน้าที่ริ้วร้อยความเศร้าออกมา!

ฉันเห็นทันนะ! เธอกำลังรู้สึกผิดหวังละสิ เพราะพวกเรามีสองคน! ไม่สิ สามคนด้วยนับรวมโคลเอ้!

(อันที่จริงชาร์ล็อตแค่แอบอิจฉามิตรภาพของพี่น้องที่แน่นแฟ้นคู่นี้ ‘ไม่เกี่ยวข้องความรักเชิงหนุ่มสาว’ แต่เป็นความรักของพี่น้องหรือครอบครัวเท่านั้น)

“บ้าบออะไรเนี่ย”

จู่ๆ ผู้หญิงที่ชื่ออเล็กเซียก็บ่นออกมาแล้วก็โยนยาประหลาดเข้าปาก ผู้หญิงคนนี้เหมือนจะว่าให้พวกเรา

แต่ฉันไม่ได้สนใจคำยั่วยุ นั่นหรอก และเลวี่เองก็เหมือนจะไม่เข้าใจ.. และในที่สุดพวกเราก็เริ่มสอบรอบที่สามแล้ว

ผู้หญิงที่ชื่อชิสุเริ่มอธิบาย

“การทดสอบที่สามจะมีเวลาในการทดสอบนานถึงสามวัน โดยทั้งห้าคนต้องพึ่งพากันและกัน ในกลุ่มหนึ่งจะแบ่งคนที่ถนัดแต่ละด้านไว้ให้แล้ว ซึ่งหากไม่ช่วยเหลือกันและกันคงยากที่จะผ่านแน่ๆ”

ฉันถึงกับขมวดคิ้ว ฉันกับเลวี่ใช้เวทมนตร์เหมือนกันนี่ ส่วนโคลเอ้ใช้ดาบ.. อืมอเล็กเซียใช้ยาส่วนชาร์ล็อตใช้อาวุธสั้น

ไม่สิ ประเด็นแรกที่ต้องระวังก็คือ ชาร์ล็อตกับอเล็กเซียนี่แหละ เพราะหากโดนลอบทำร้ายมาคงแย่แน่ กันไว้ดีกว่าแก้

“โดยเราจะส่งทีมไปยังสวนจำลองที่สร้างขึ้น เรียกได้ว่าเป็นสวนที่สร้างขึ้นมาทดสอบโดยเฉพาะ แต่อย่าได้คิดว่ามันง่ายเพราะในสวนแต่ละสวนนั้นจะมีมอนสเตอร์ดุร้ายมากมาย โดยพวกเธอต้องหาโกเล็มน้ำแข็งแบบเป้าอยู่และเอาชนะมันภายในสามวัน แต่ละสวนมีรูปแบบสวนที่ต่างกัน อาจจะเป็นหุบเขา หรือวงกตใต้ดิน หรือกลางทะเลก็มีความเป็นไปได้ และสุ่มฤดูกาลต่างๆ!”

“จำเอาไว้ หากพวกเธอพลาดท่า แม้จะได้รับการช่วยเหลือ แต่ไม่รับประกันความปลอดภัยหากไปเจอมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง แค่นี้แหละ!”

อืม.. สรุปคือเอาตัวรอดไม่พอยังต้องตามหาสิ่งที่อยู่ในนั้นภายในสามวันสินะ แต่คงไม่ยากหรอกมั้งนะ เพราะบอกว่าเป็นสวน

คงจะไม่ใหญ่ขนาดนั้นหรอก แล้วเหมือนเธอพึ่งจะนึกอะไรขึ้นได้

“อ้อ.. ลืมบอกไปเลย เลือดของมอนสเตอร์หรือเสียงจะดึงดูดมอนสเตอร์เข้ามา เพราะงั้นหากสู้ต้องสู้กับโกเล็มแค่ศึกเดียวจบทันที ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากอย่างแน่นอน”

ผู้หญิงคนนี้ทำไมโหดร้ายแบบนี้ นี่มันข้อมูลที่สำคัญที่สุดเลยไม่ใช่เรอะ! ฉันคิดไว้แล้วว่าเธออันตราย

อันตรายไม่ผิดจริงๆ! ฉันคิดแบบนั้น

และการทดสอบรอบที่สามจึงเปิดม่านขึ้น

นี่เป็นการทดสอบบทสุดท้ายอย่างแท้จริง

 

………

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม

เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!
Status: Ongoing
เรน ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ร้ายสุดแสน ดันเป็นบัคจึงไปเกิดใหม่ในต่างโลกพร้อมพรสามข้อได้ แต่ด้วยพรสามข้อบางอย่างในคำขอทำให้เขาเกิดใหม่เป็นผู้หญิงทั้งยังกลายเป็นจอมมารไม่พอยังถูกแม่ตัวเองทิ้งไว้กลางป่าไปเฉยเลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset