กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess – ตอนที่ 5 หยูเฟิงจู

“บัดซบ! มันกลับตายไปก่อนที่ข้าจะได้ข้อมูลมาเสียอีก!” หยูเฟิงซูโกรธมากเเละใช้มือทุบโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างคับเเค้นใจ จนหนังสือหล่นกระจัดกระจายลงบนพื้น

 

ลูกน้องของเขาต่างรีบก้มหน้าลงทันที พวกเขายังคงสับสนและสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของผู้หญิงที่หยูเฟิงซูเอ่ยถึง พวกเขายังคงอยากจะรู้สาเหตุ แต่เวลานี้คงไม่สามารถถามได้ เพราะกลัวว่าความโกรธของหยูเฟิงซูจะพาลไปถึงพวกเขา

 

หยูเฟิงซู องค์ชายสี่แห่งอาณาจักรเซิง นับว่ามีชื่อเสียงที่ดีที่สุดในบรรดาเหล่าองค์ชายคนอื่นๆ เขาไม่เพียงแต่มีจิตใจที่เฉียบแหลมเท่านั้น แต่เขายังมีกลิ่นอายที่ทำให้ผู้คนติดตามเขาด้วยความเต็มใจ

 

อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา จนทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวจนถึงกระดูก  ซึ่งพวกเขาไม่ก็กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

 

หยูเฟิงซูรู้สึกเจ็บใจอย่างมาก ผู้หญิงที่ทำให้เขาโกรธก็ถูกโยนไปที่หลุมศพไร้ชื่อ เเต่อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะโยนศพของเธอออกไป เขาสั่งให้คนของเขาทุบตีศพเพื่อที่จะทำให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้จะอยู่ในโลกหลังความตายก็ตาม เขาหวังว่าเมื่อวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว เธอจะได้เห็นว่าร่างกายของเธอยังคงถูกทรมานอยู่

 

หลังจากทุบตีไปหลายกี่ชั่วโมง ในที่สุดเขาก็บอกให้คนของเขาโยนเธอทิ้งไป โดยไม่จำเป็นที่จะต้องห่อเธอด้วยผ้า ในเมื่อเธอไม่ยอมปริปากบอกที่ซ่อนกล่องนั้น หยูเฟิงซูก็จะโยนศพของเธอออกไปโดยที่ไม่ใช้ผ้าหรือสิ่งใดห่อหุ้มตัวเธอ

 

วิธีการทำของเขาช่างโหดเหี้ยม จนไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเป็นองค์ชายสี่ที่ทุกต่างพากันชื่นชมและเคารพนับถือ เเท้จริงเเล้วจะกลายเป็นคนที่มีจิตใจอำมหิตเช่นนี้ และหากผู้คนได้รับรู้การกระทำเหล่านี้ของเขา พวกเขาจะต้องรู้สึกหวาดกลัวเเละไม่อยากเเม้เเต่จะเอ่ยชื่อของเขาแน่นอน

 

เขากำหมัดแน่นและควันแห่งความโกรธก็พุ่งออกจากจมูกของเขา เพราะเขาไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรต่อดี

 

เขามองลงมาและเห็นกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะจากนั้นจึงหยิบพู่กันขึ้นมา และได้เขียนคำสองสามคำลงในกระดาษม้วนนั้น เเละมอบกระดาษม้วนนั้นให้กับลูกน้องที่อยู่ข้างๆเขา และกล่าวว่า “เอาไปให้ปู่ของข้าแล้วบอกท่านว่า ข้าต้องการคำตอบโดยเร็วที่สุด”

 

ทหารก้มศีรษะและรีบเก็บจดหมายแล้วออกไปทันที

 

หยูเฟิงจู กัดฟันแน่นดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ

 

 

ในตอนนี้ไป่ลู่ สาวใช้ที่กำลังวางถ่านหินในเตาอั้งโล่ได้ยินคุณหนูของเธอเหมือนกำลังพูดพึมพำอะไรบางอย่างในขณะที่เธอมองออกไปข้างนอก สาวใช้จึงกล่าวขึ้นทันที “คุณหนูพูดอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ”

 

เสี่ยวเฟยซึ่งตอนนี้กลายเป็นหลินเสี่ยวเฟยส่ายหัวปฏิเสธและยืนขึ้นก่อนจะพูดว่า “ข้าต้องไปยังที่แห่งหนึ่ง เเละข้าต้องการชุดสำหรับใส่ออกไปข้างนอก”

 

ไป่ลู่สาวใช้ที่อยู่ข้างๆเธอ ดูตกตะลึงและถามว่า “คุณหนูจะออกไปข้างนอกหรือเจ้าคะ”

 

“ใช่.”

 

“แต่ท่านผู้อาวุโสสั่งไว้ ว่าห้ามให้คุณหนูออกไปไหนในสภาพอากาศเช่นนี้” ซู่ถังที่อยู่ในห้องก็รีบวางผ้าที่กำลังใช้เช็ดโต๊ะลงแล้วรีบกล่าว

 

หลินเซี่ยวเหมิงสั่งพวกเขาอย่างเคร่งครัด ว่าไม่ให้หลินเสี่ยวเฟยออกไปไหนเด็ดขาดจนกว่าอาการของเธอจะดีขึ้น พวกเขายังสงสัยว่าทำไมหลินเซี่ยวเฟยถึงอยากจะออกไปข้างนอก ในเมื่อเเต่ก่อนเธอไม่เคยมีความคิดเช่นนี้ เพราะก่อนหน้านี้เธอก็เอาเเต่ขังตัวเองไว้ในคฤหาสน์ตระกลูหลิน

 

นี่คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนในตระกูลหลินรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก

 

เมื่อสามปีที่แล้วหลินเสี่ยวเฟย เธอกลับมาหลังจากสวดมนต์ในวัดวู่หลง เธอก็ไม่ยอมออกไปไหนอีกเลยแม้ว่าแม่ทัพหลินจะพยายามเกลี้ยกล่อมเธอหรือบังคับให้เธอออกไปงานเลี้ยงหรืองานรื่นเริงต่างๆ เธอก็เอาเเต่บ่นและขู่ว่าเธอจะฆ่าตัวตาย หากเขาบังคับให้เธอก้าวออกนอกประตูคฤหาสน์อีก

 

แต่กลับกัน ตอนนี้เธอต้องการที่จะออกไปข้างนอก?

 

หลินเสี่ยวเฟยกะพริบตาจากนั้นเธอก็กล่าวว่า “ บอกท่านตาว่าข้าจะออกไปข้างนอก ข้าถูกขังอยู่ในสถานที่นี้มา 3 ปีแล้ว และถ้าข้าต้องออกไปข้างนอกเเค่วันเดียว ก็คงไม่ทำให้อาการของข้าแย่ลง”

 

เธอก้าวเข้าไปในห้องนอนและหยุด “เดี๋ยว ข้าจะไปหาท่านตาเอง พวกเจ้าไปเตรียมชุดมาให้ข้า”

 

ไป่ลู่และซู่ถังมองหน้ากัน สาวใช้ทั้งสองก็ยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอสั่ง เเต่พวกนางก็มีความสุขที่ได้เห็นว่าคุณหนูของพวกนางต้องการที่จะออกไปข้างนอก ทันใดนั้น พวกนางจึงรีบไปหยิบชุดฮันฟูสีชมพูสดใส (ชุดจีนดั้งเดิม) ที่เย็บด้วยดอกไม้บีโกเนียที่สวยงาม เเละยังมีเสื้อคลุมตัวนอกที่บางเล็กน้อยแต่ให้ความรู้สึกที่สง่างามเเต่เปรียบเสมือนดอกไม้ที่ดูมีชีวิตชีวา

 

หลินเสี่ยวเฟยเพียงชำเลืองมองและกล่าวว่า “ไม่ใช่ชุดนี้ ข้าต้องการชุดที่ธรรมดา”

 

“แต่ชุดนี้เป็นชุดที่คุณหนูโปรดปราณมากที่สุด เสื้อผ้าเหล่านี้เพิ่งถูกส่งมาจากเรือนหลัก คุณหนูยังเคยบ่นกับท่านผู้อาวุโสเพื่อจะซื้อชุดนี้ในร้านตัดเสื้อไป๋ชาง”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเสี่ยวเฟยก็หยุดชะงัก ก่อนจะพูดว่า “เเต่ตอนนี้ข้าไม่ชอบมันแล้ว”

 

ถ้าในชีวิตก่อนหน้านี้ของหลินเสี่ยวเฟย คงจะมีความสุขมากที่ได้เห็นชุดที่สวยงามเช่นนี้ ในฐานะนางสนมที่องค์ชายสี่โปรดปราน หลินเสี่ยวเฟยเป็นเจ้าของหีบสองชุด ที่มีทั้งชุดทั้งสีและการออกแบบที่แตกต่างกัน เเละยังเป็นของขวัญที่เธอได้จากหยูเฟิงซู แต่ละชุดถูกซื้อด้วยเงินจำนวนที่มหาศาล

 

แต่เมื่อเปรียบเทียบเสื้อผ้าของเธอในชาติที่แล้วกับชุดปัจจุบันนี้ หลินเสี่ยวเฟยรู้สึกเหมือนถูกหยูเฟิงซู หลอกลวงมาโดยตลอด

 

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เธอไม่ชอบมัน

 

ในชีวิตก่อนหน้านี้ เธอชอบแต่งตัวให้สวยงามต่อหน้าหยูเฟิงซู ตั้งแต่สิ่งที่เธอสวมใส่ภายนอกและภายใน รวมไปถึงทรงผมและเครื่องประดับที่เธอสวม ทุกอย่างทำด้วยความเอาใจใส่อย่างพิถีพิถัน

 

แต่ ณ ตอนนี้ เธอไม่มีเหตุผลที่จะต้องแต่งตัวให้หรูหรา เพราะเธอไม่ใช่นางสนมของใครอีกต่อไปและเธอก็ไม่ใช่หญิงสาววัยแรกรุ่นที่ยังคงใส่ใจกับรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ

 

เธออยู่ในคุกใต้ดินเป็นเวลา 7 เดือนมีอาหารให้กินเพียงเล็กน้อยพร้อมน้ำสกปรกให้ดื่มเท่านั้น แขนขาของเธอถูกตัดขาดและร่างกายของเธอถูกทุบตี แล้วพอจะมีใครบอกเธอได้ไหม ว่าทำไมเธอถึงต้องใส่เสื้อผ้าที่สวยงามอยู่อีก?

 

ไป่หลู่พยักหน้าเห็นด้วย แม้ว่าชุดจะสวย แต่สีสันของมันนั้นมากเกินไป ก่อนหน้านี้คุณหนูของเธอชอบสีสันสดใสและชอบที่จะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีฉูดฉาด จนอาจทำให้ใครที่ได้พบเห็นเธอสามารถตาบอดชั่วคราวได้เลยทีเดียว

 

คุณหนูของเธอนางช่างสวยงามจริงๆ แต่เพราะว่าเธอมีนิสัยหยาบคาย เมื่อเธอสวมเสื้อผ้าเหล่านี้ เธอจะกลายเป็นตัวตลกในสายตาผู้อื่น และได้รับการดูหมิ่นจากพวกเขาเท่านั้น

 

“แล้วคุณหนูอยากใส่ชุดไหนเจ้าคะ” ไป่ลู่ถามด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

 

“งั้นก็หาชุดดำให้ข้า”

The Birth of a Villainess

The Birth of a Villainess

กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess “เจ้าไม่ได้ตัวคนเดียว เราเป็นหุ้นส่วนในอาชญากรรม หากเจ้าเป็นแม่มด ข้าก็จะเป็นพ่อมดของเจ้า” … หลังจากการตายอย่างโหดร้ายของเธอ เสี่ยวเฟยพบว่าตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างของคุณหนูที่งดงามจากตระกูลหลินผู้สูงศักดิ์ที่มีชื่อเดียวกันกับเธอ เธอเกิดมาพร้อมกับใบหน้าอันงดงามที่ไม่มีใครเทียบได้ เอาชนะใจชายทุกคนและแม้แต่ผู้หญิงก็ต่างอิจฉาในชีวิตที่แล้วของเธอ แต่เธอกลับตกหลุมรักองค์ชายอย่างโง่เขลา และถูกลิขิตให้ตายอย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของคนที่เธอรัก ในชีวิตและร่างกายใหม่นี้ กลอุบายอันชั่วร้ายและเรื่องอื้อฉาวก็ยังวนเวียนอยู่รอบตัวเธอ แม้จะเกิดใหม่แล้วก็ตาม เธอก็เริ่มทำแบบเดียวกันกับคนเหล่านั้นและจะโหดเหี้ยมต่อผู้ที่คิดต่อต้านเธอ ชายหนุ่มและและหญิงสาวต้องโค้งคำนับ บัลลังก์ทองคำต้องถูกส่งต่อ อาณาจักรจะต้องถูกพิชิตและเผาทำลาย หัวใจต้องถูกแย่งชิง ด้วยยุคอันโหดร้ายเช่นนี้ ผู้คนทำได้เพียงพยายามบังคับและป้องกันตนเองจากอันตราย อย่างไรก็ตาม ใครจะคิดว่าชายที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและเย่อหยิ่งจะเข้ามาในชีวิตของเสี่ยวเฟยอย่างกะทันหัน? และเขายังกระซิบข้างหูของเธออย่างไร้ยางอายว่า “ศัตรูของภรรยาข้าก็คือศัตรูของข้า และความปรารถนาของภรรยาข้าก็คือความปรารถนาของข้าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้ายังมีความปรารถนาอีกอย่างหนึ่งที่มีแต่ภรรยาข้าเท่านั้นที่จะมอบให้แก่ข้าได้” “นั่นคือภรรยาข้าต้องกลายเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็น ให้แก่ข้า” เสี่ยวเฟย: “……”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset