กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess – ตอนที่ 7 ฮูหยินสอง ซงหยานยี่ 2

เมื่อสาวใช้พูดจบ นางค่อยๆเหลือบตาขึ้นไปมองยังเด็กสาวที่ล่ำลือกันในตระกูลหลิน

 

เธออยากรู้เกี่ยวกับเด็กสาวผู้นี้ ที่นางชอบทำลายชื่อเสียงของตระกูลหลิน

 

ข้างหน้าเธอมีเด็กสาวอายุราวๆ สิบหกหรือสิบเจ็ดปี สวมชุดสีดำเรียบๆ ซึ่งทำให้ผิวที่ขาวอยู่เเล้วดูขาวขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ทำให้เธอดูน่ากลัว แต่กลับทำให้เธอดูเหมือนสิ่งมีชีวิต ที่ไม่มีตัวตนที่ลงมาจากสวรรค์ ผมของหลินเสี่ยวเฟยถูกมัดเป็นมวยอย่างเรียบง่าย โดยมีปิ่นปักผมเพียงอันเดียวที่ยึดไว้ ในขณะที่ผมของเธออีกครึ่งหนึ่ง ถูกปล่อยพริ้วไสวไปข้างหลังตามจังหวะการเดินของเธอ

 

ดวงตารูปอัลมอนด์ของเธอดูลึกลับและไฝใต้ตาขวาของเธอ ทำให้ทุกคนที่มองมาไม่สามารถละสายตาจากเธอได้

 

ว่ากันว่าบุตรสาวคนที่สี่ของตระกูลหลิน เป็นเด็กที่หยาบกระด้าง แต่เมื่อได้เห็นเธอใกล้ๆ สาวใช้รู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังมองขึ้นไปบนภูเขาที่เต็มไปด้วยหินแหลมคม

 

ไหนล่ะ เด็กสาวที่มีนิสัยหยาบกระด้างที่ทุกคนพูดถึง เธออยู่ที่ไหน?

 

เด็กสาวตรงหน้าเธอ ยืนหลังตรงและพับมือไว้ข้างหน้าอก ความสง่างามที่เธอได้เเสดงออกมานั้นคนอื่นๆ และแม้แต่บุตรอีกสามคนในตระกูลหลิน ก็ยังทำไม่ได้ดั่งเช่นเธอ

 

หลินเสี่ยวเฟยเห็นสาวใช้กำลังยืนสังเกตเธอ และไม่ได้พูดอะไร

 

ในตอนนี้เธอต้องการออกไปข้างนอกแต่เธอทำไม่ได้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากหลินเซี่ยวเหมิง เธอรู้สึกอึดอัดและเบื่อหน่ายที่จะต้องอยู่เเต่ในห้องของเธอ ตลอดทั้งสัปดาห์และไม่มีอะไรทำ

 

เธอเห็นความลังเลของสาวใช้ ที่เเสดงท่าทางที่ดูตกใจเมื่อเห็นหน้าเธอ แม้ว่าเธอจะได้รับปฏิกิริยาแบบนั้นบ่อยๆ เธอจึงตัดสินใจออกไปเดินเล่น ในลานสวนหลักของคฤหาสน์

 

หลังจากที่อาการของหลินเสี่ยวเหมิงดี ทำให้สาวรับใช้ทุกคนต่างดีใจ และเธอก็เริ่มออกไปเดินเล่น เเละนั่งผ่อนคลายที่ลานสวนหลักนั้น

 

พวกเขาทั้งหมดไม่ได้เห็นเธอออกมาที่สวนหลัก และแยกตัวออกมาอยู่ในสวนของเธอเป็นเวลาสามปีเเล้ว ทุกคนจึงยังไม่ชินกับการเห็นเธอเป็นเช่นนี้  อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าคุณหนูของพวกเขากำลังจะเปลี่ยนไป และเธอพร้อมที่จะออกไปข้างนอกแล้ว

 

“ท่านตาของข้าอยู่ไหน ต้องพบกับแขกอีกนานเเค่ไหน ใช้เวลานานไหม” หลินเสี่ยวเฟยถาม

 

“คุณหนู ข้ารับใช้ผู้นี้ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสต้องใช้เวลานานอีกนานแค่ไหน แต่สีหน้าของนายท่านดูมืดมนเมื่อเขาจากไป”

 

หลินเสี่ยวเฟยถอนหายใจ เเละเธอต้องรอให้เขากลับมา เสี่ยวเฟยไม่คิดอย่างนั้น แม้ว่าเธอจะอยู่ในร่างของหลินเสี่ยวเฟย แต่เธอก็ไม่มีความปรารถนาที่จะใกล้ชิดกับบุคคลอื่นและแสร้งทำนิสัยเหมือนเจ้าของร่างเดิม

 

หลินเสี่ยวเฟยตัวจริงนั้น เเสนจะไร้ความรู้สึก มีนิสัยที่หยาบกระด้างและเย่อหยิ่ง ลักษณะเช่นนี้ไม่เหมาะสำหรับเสี่ยวเฟย และแผนการของเธอ

 

เมื่อเธอเห็นว่าหลินเซี่ยวเหมิงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะกลับมา หลินเสี่ยวเฟยจึงตัดสินใจกลับไป แต่ทันทีที่เธอหันหลังกลับ เธอก็เห็นฮูหยินสองยืนอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา

 

“คุณหนูสี่ ท่านจะกลับแล้วหรอ” ซงหยานยี่ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน

 

“ใช่ ท่านตาข้าไม่อยู่” หลินเสี่ยวเฟยกล่าวตอบ และกำลังจะเดินจากไป โดยที่เธอไม่สนใจกับคำพูดพูดแรงๆ ของอีกฝ่าย

 

“คุณหนูสี่ไม่ต้องวิตกกังวลเเต่อย่างใด ก่อนจะเดินจากไป ท่านพ่อบอกว่าจะไปพบฮูหยินหนึ่งแห่งตระกูลชู และมันอาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับท่าน คุณหนูสี่” ซงหยานยี่เดินและนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งและให้สาวใช้คนหนึ่งเสิร์ฟชาร้อนให้เธอ

 

ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่โต๊ะด้านหน้าซงหยานยี่ มีกาน้ำชาและขนมดอกบัววางอยู่ สาวใช้ของเธอช่างพิถีพิถันยิ่งนัก และจากสายตาของหลินเสี่ยวเฟยที่มองดูพวกเขา ทำให้เธอดูเหมือนหญิงสาวผู้สูงศักดิ์คนหนึ่ง ที่ไม่มีพิษสงใดๆ

 

คำกล่าวของซงหยานยี่ ต้องการดึงดูดความสนใจของหลินเสี่ยวเฟย ถึงแม้เธอไม่อยากพูดคุยกับนาง แต่เธอเพียงก็อยากรู้ว่าตระกูลซู มีจุดประสงค์อะไรกับตระกูลหลิน ที่แม้แต่สีหน้าของหลินเซี่ยวเหมิงก็ดูไม่ดี

 

เท่าที่เธอจำได้ ตระกูลซูอยู่ฝ่ายขององค์ชายสาม และมีตำแหน่งที่มั่นคงในราชสำนัก พวกเขายังคงเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีชื่อเสียงในอาณาจักรเซิง และมีชื่อเสียงในหมู่คนทั่วไป

 

อย่างไรก็ตาม หยูเฟิงซูเคยบอกเธอ เกี่ยวกับความลับของตระกูลซู

 

ตระกูลซูได้ช่วยเหลือสามัญชน แต่พวกเขาก็ทำสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนจนน่าสมเพช เมื่อเธอได้ยินคำบอกเล่าจากปากของหยูเฟิงจูเป็นครั้งแรก เธอก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากและรู้สึกว่าตระกูลซู เป็นพวกตีสองหน้า

 

เมื่อเห็นว่าหลินเสี่ยวเฟย ต้องการที่จะฟังคำกล่าวของเธอ และยังยืนนิ่งเฉยไม่กล่าวเอะอะเเต่อย่างใด ดูเหมือนหลินเสี่ยวเฟยจะสนใจมาก ในสิ่งที่เธอกำลังจะกล่าว

 

ซงหยานยี่เลิกคิ้วขึ้น “คุณหนูสี่ไม่รู้จริงๆเหรอ ว่าทำไมตระกูลซูถึงมาอยู่ที่นี่?”

 

“ข้าจะมาเสียเวลาอยู่ในห้องเดียวกับท่านทำไม หากข้ารู้” น้ำเสียงของเธอที่เปล่งออกมา ฟังดูเยือกเย็นราวกับคริสตัล

 

คำพูดที่หยาบคายของเธอ ทำให้สาวใช้ของซงยานยี่มองเธอด้วยความโกรธ พวกนางไม่ชอบหลินเสี่ยวเฟยมาตั้งเเต่แรก แต่น้ำเสียงแบบนี้ราวกับว่าเธอปฏิบัติที่จะเคารพนายหญิงของพวกนาง ถือว่าเป็นการดูถูกอย่างมาก

 

ซงหยานยี่เธอก็รู้สึกเช่นเดียวกัน แต่เธอไม่ได้แสดงความไม่พอใจต่อหลินเสี่ยวเฟย เหมือนพวกสาวใช้ของเธอ

 

“ถ้าเช่นนั้น ข้าหวังว่าคุณหนูสี่ คงจะอยากฟัง” ซ่งหยานยี่กล่าวว่า “ตระกูลซูไม่ได้มาเพียงเพื่อทักทายท่านพ่อ แต่ยังมาเพื่อทำลายการหมั้น ที่จะผูกมัดทั้งสองตระกูล”

The Birth of a Villainess

The Birth of a Villainess

กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess “เจ้าไม่ได้ตัวคนเดียว เราเป็นหุ้นส่วนในอาชญากรรม หากเจ้าเป็นแม่มด ข้าก็จะเป็นพ่อมดของเจ้า” … หลังจากการตายอย่างโหดร้ายของเธอ เสี่ยวเฟยพบว่าตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างของคุณหนูที่งดงามจากตระกูลหลินผู้สูงศักดิ์ที่มีชื่อเดียวกันกับเธอ เธอเกิดมาพร้อมกับใบหน้าอันงดงามที่ไม่มีใครเทียบได้ เอาชนะใจชายทุกคนและแม้แต่ผู้หญิงก็ต่างอิจฉาในชีวิตที่แล้วของเธอ แต่เธอกลับตกหลุมรักองค์ชายอย่างโง่เขลา และถูกลิขิตให้ตายอย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของคนที่เธอรัก ในชีวิตและร่างกายใหม่นี้ กลอุบายอันชั่วร้ายและเรื่องอื้อฉาวก็ยังวนเวียนอยู่รอบตัวเธอ แม้จะเกิดใหม่แล้วก็ตาม เธอก็เริ่มทำแบบเดียวกันกับคนเหล่านั้นและจะโหดเหี้ยมต่อผู้ที่คิดต่อต้านเธอ ชายหนุ่มและและหญิงสาวต้องโค้งคำนับ บัลลังก์ทองคำต้องถูกส่งต่อ อาณาจักรจะต้องถูกพิชิตและเผาทำลาย หัวใจต้องถูกแย่งชิง ด้วยยุคอันโหดร้ายเช่นนี้ ผู้คนทำได้เพียงพยายามบังคับและป้องกันตนเองจากอันตราย อย่างไรก็ตาม ใครจะคิดว่าชายที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและเย่อหยิ่งจะเข้ามาในชีวิตของเสี่ยวเฟยอย่างกะทันหัน? และเขายังกระซิบข้างหูของเธออย่างไร้ยางอายว่า “ศัตรูของภรรยาข้าก็คือศัตรูของข้า และความปรารถนาของภรรยาข้าก็คือความปรารถนาของข้าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้ายังมีความปรารถนาอีกอย่างหนึ่งที่มีแต่ภรรยาข้าเท่านั้นที่จะมอบให้แก่ข้าได้” “นั่นคือภรรยาข้าต้องกลายเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็น ให้แก่ข้า” เสี่ยวเฟย: “……”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset