กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess – ตอนที่ 29 หงเป่ยโหลว 2

ฉู่เซียวซู สังเกตเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่นั่งตรงข้ามเขา

 

ใบหน้าที่เรียวเล็กและสวยงามของเธอช่างดูมีเสน่ห์จริงๆ  ภายในห้องที่มีความมืดเล็กน้อย มีเเค่โคมไฟบนผนัง ที่ส่องสว่างไปทั่วทั้งห้อง กลับทำให้ใบหน้าของเธอช่างดูสวยงามเเละน่าหลงใหลมากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มแบบฉู่เซียวซู เขาพบเห็นหญิงสาวที่มีหน้าตาที่งดงามมามากมาย และเขาจะไม่ปล่อยให้รูปลักษณ์ภายนอกเหล่านั้น มาหลอกลวงเขา

 

เขามักจะพบหญิงสาวในลักษณะเดียวกัน บ้างก็มีใบหน้าที่สวยงาม บางคนดูเย้ายวน ไร้เดียงสา

ขี้เล่น ฉลาด และอันตรายถึงตายก็มี  อย่างไรก็ตาม ไม่มีหญิงสาวคนใดที่เข้าตาเขา เพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอก เขาคิดว่าสิ่งเหล่านั้น มันดูไร้ประโยชน์สำหรับเขา

 

เป็นเรื่องปกติ ที่ชายหนุ่มจะหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่สวยงาม แต่ลักษณะนิสัยแบบนั้นใช้ได้กับชายหนุ่มธรรมดาเท่านั้น และแน่นอนว่าสำหรับฉู่เซียวซู เขามีอะไรมากกว่าชายหนุ่มธรรมดา

 

ในฐานะชาย ที่เกิดมาพร้อมกับใบหน้าที่หล่อเหลาที่สุด ฉู่เซียวซูไม่จำเป็นต้องจ้องมอง

สิ่งสวยงามด้วยความรัก เมื่อเขาสามารถมองดูเงาที่สะท้อนตนเองในกระจกได้

 

แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาเขาในขณะนี้ ไม่ใช่ความงามของหลินเสี่ยวเฟย แต่คือความกล้าของเธอ ที่ไม่เเม้เเต่จะกลัวภาพวาดอันน่าสยดสยองที่เขาวาด และแขวนไว้บนผนังสำหรับผู้คนที่มาพบเขา

 

และตรงกันข้ามกับความคาดหวังของเขา เธอไม่เเม้เเต่จะตกใจหรือหวาดกลัวกับภาพวาดนั้น

เเต่หลินเสี่ยวเฟยยิ้มอย่างน่าประหลาดใจ ราวกับสิ่งที่เธอเห็นเป็นผลงานชิ้นเอก ที่สร้างขึ้นโดยจิตรกรระดับปรมาจารย์

 

หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ฉู่เซียวซูได้ให้คนของเขาติดตามเธอทุกการเคลื่อนไหว

เพื่อดูว่าตระกูลหลิน ได้ย้ายออกจากเมืองไปแล้วหรือไม่ แต่ใครจะคิดว่าหลินเสี่ยวเฟยจะมาหาเขาเป็นการส่วนตัวที่หงเป่ยโหลว

 

เมื่อไม่นานมานี้ เขาเห็นหลินเสี่ยวเฟยอยู่ที่หอนางโลมที่มีหญิงโสเภณี เขาตกใจมาก

เเละไม่เคยเห็นหญิงสาวผู้สูงศักดิ์คนใด ที่จะมาเดินเที่ยวในสถานที่เช่นนี้ ราวกับว่าตนเองเป็นนายน้อยที่เอาแต่ใจ และถึงกับปลอมกายเป็นชายหนุ่ม เพื่อที่จะได้เข้าไปในนั้น

 

ในอดีต เขาเคยได้พบกับคุณหนูสี่เเห่งตระกูลหลิน ระหว่างงานเลี้ยงในวัง และรู้ว่าเธอหยิ่งทะนงและมีนิสัยเสียมากเพียงใด

 

แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง มาเป็นเวลาหนึ่งปี แต่ฉู่เซียวซูยังคงให้คนของเขา รวบรวมข่าวลือที่ได้ยิน และโดยธรรมชาติ ข่าวลือที่เกี่ยวกับหลินเสี่ยวเฟย ก็ดูไม่ได้เเตกต่างกับผู้คนในราชวงศ์ทุกคน

 

ถึงกระนั้น หญิงสาวคนเดิมที่เขาเคยพบและก็นั่งอยู่ตรงข้ามเขา ไม่มีร่องรอยของความไร้เดียงสาและความหยาบคายในการกระทำของเธอ เธอยังคงเย่อหยิ่งเหมือนเมื่อก่อน แต่ความเย่อหยิ่งที่เธอแสดงออกมานั้น มันเหมือนกับได้ถูกปลูกฝังลงในกระดูกของเธอ

 

ดังนั้น ความอยากรู้ของเขาก็พุ่งตรงไปที่หญิงสาวที่อยู่ข้างหน้านี้

 

เช่นเดียวกับเขา หลินเสี่ยวเฟยก็มองมายังเขา เเละคิดว่าชายหนุ่มผู้นี้ไม่น่าจะใช่คนธรรมดา

เพราะเขาสามารถเข้ามาในห้องนี้ได้โดยที่ไม่มีใครทันสังเกต หรือบางทีเขาอาจจะซ่อนตัวอยู่ในห้องๆนี้อยู่แล้ว นั่นคือเหตุผล ที่หลินเสี่ยวเฟยไม่รู้สึกถึงการปรากฏตัวของเขา

 

หลินเสี่ยวเฟย ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเหมือนชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอ แต่เพราะเธอเป็นผู้ที่ระมัดระวังและขี้สงสัยมาก

 

ก่อนหน้านี้ แม้ว่าเธอจะจมอยู่กับการชื่นชมของภาพวาด ความระมัดระวังรู้ของหลินเสี่ยวเฟยก็ยังคงทำงาน แต่ผู้ที่ปรากฎด้านหลังของเธอ เขาต้องเป็นปรมาจารย์ในด้านศิลปะการต่อสู้และการสังหาร มันจึงทำให้เธอไม่สามารถรับรู้ถึงการปรากฏตัวของเขาได้ แม้ว่าจะสัมผัสอย่างใกล้ชิด

 

เมื่อเธอคิดเช่นนี้ หลินเสี่ยวเฟยถอนหายใจเบาๆ และหยิบถ้วยน้ำชาขึ้น ก่อนที่จะยกขึ้นที่ริมฝีปากของเธอ

 

เมื่อชาที่มีรสชาติกลมกล่อมและมีรสมิ้นต์ สัมผัสที่ปากและผ่านไปในลำคอของเธอ ความตึงเครียดที่เธอรู้สึก ก็ผ่อนคลายลง

 

ฉู่เซียวซู มองดูเธอผ่านรูในหน้ากาก และกล่าวถามว่า “ทำไมท่าน ถึงต้องการพบตัวข้า”

 

“ข้าได้ยินมาว่า หงเป่ยโหลวมีธุรกิจอย่างอื่น ข้าจึงมาด้วยเหตุผลนั้น” หลินเสี่ยวเฟยกล้าออกมาอย่างไม่ปิดบัง

 

“ธุรกิจอื่นๆ ของข้าที่หงเป่ยโหลว จะมีธุรกิจอะไรอื่นอีกเล่า นอกจากอาหารจานร้อนที่มีรสชาติที่อร่อย” ฉู่เซียวซู ยิ้มหลังหน้ากาก เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ ในสิ่งที่เธอกำลังกล่าวถึง “หญิงสาวต้องไม่ฟังสิ่งที่ผู้อื่นพูดง่ายๆเช่นนี้”

 

หลินเสี่ยวเฟยยิ้มให้เขา และไม่ได้ขุ่นเคืองกับสิ่งที่เขาพูด เธอพยักหน้าและเห็นด้วยกับคำพูดที่ชาญฉลาดของเขา และกล่าวว่า “แน่นอน แต่ข้าไม่รู้ว่าทำไมผู้จัดการของหงเป่ยโหลว ถึงพยายามที่จะเสแสร้งเช่นนี้ ในเมื่อมีกลิ่นเลือดส่งกลิ่นอยู่ทุกซอกทุกมุมในโรงเตี๊ยมเเห่งนี้”

 

เธอหยุดและมองดวงตาของเขา “โดยเฉพาะจากตัวท่าน”

 

เมื่อเธอย่างกรายเข้ามาในโรงเตี๊ยม กลิ่นหอมของอาหารก็พุ่งไปที่จมูกของเธอทันที เเต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้หลินเสี่ยวเฟยหยุดไปชั่วขณะ ก็คือกลิ่นคาวของเลือดที่ออกมาจากภายในโรงเตี๊ยม

 

เธออยู่และตาย โดยอาศัยอยู่กับเลือดและเนื้อเน่าของเธอ กลิ่นสาปเนื้อและคาวเลือดเป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเธอก้าวเท้าเข้าไปในประตูของโรงเตี๊ยม เธอก็แน่ใจว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นที่หลังซุ้มโรงเตี๊ยม

 

นอกจากนี้ ลูกค้าที่รับประทานอาหารที่ชั้นหนึ่ง ก็ไม่ใช่ลูกค้าที่ปกติ แต่เป็นคนที่ผู้จัดการของ

หงเป่ยโหลวจ้างมา เพื่อเป็นนักฆ่า ทหารรับจ้าง นักล่าเงินรางวัล และใครก็ตามที่มีทักษะในการฆ่าหรือโค่นล้มผู้อื่น พวกเขาจะต้องรวมมาตัวกันที่หงเป่ยโหลว ไม่ใช่เพราะเงินที่พวกเขาจะได้รับ แต่เป็นรายชื่อที่พวกเขาจะได้รับให้ไปดำเนินการ ในโลกของนักสู้แห่งนี้

 

ฉู่เซียวซู เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหญิงสาวตรงหน้าเขา เขารู้ว่าเธอไม่ใช่หญิงสาวที่นิสัยเสียอีกต่อไปเหมือนในอดีต แต่เขารู้สึกตกใจ ที่หลินเสี่ยวเฟยได้กลิ่นเลือดบนร่างกายของเขา

 

ในฐานะ ชายผู้สังหารผู้คนมามากมายในสนามรบ กลิ่นเลือดนั้นยากที่จะล้างออก และคงจะติดอยู่ในมือตลอดไป อย่างไรก็ตาม หลินเสี่ยวเฟยเปรียบเสมือนหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ทุกคน ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ ที่เธอจะได้กลิ่นเลือดในโรงเตี๊ยมหรือแม้แต่จากตัวเขา

 

ฉี่เซียวซูยิ้ม และกล่าวว่า “โอ้? ข้าไม่เคยรู้เลย ว่าจมูกของหญิงสาวช่างไวยิ่งกว่าสุนัข” เเละหัวเราะด้วยความสนุกสนาน

The Birth of a Villainess

The Birth of a Villainess

กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess “เจ้าไม่ได้ตัวคนเดียว เราเป็นหุ้นส่วนในอาชญากรรม หากเจ้าเป็นแม่มด ข้าก็จะเป็นพ่อมดของเจ้า” … หลังจากการตายอย่างโหดร้ายของเธอ เสี่ยวเฟยพบว่าตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างของคุณหนูที่งดงามจากตระกูลหลินผู้สูงศักดิ์ที่มีชื่อเดียวกันกับเธอ เธอเกิดมาพร้อมกับใบหน้าอันงดงามที่ไม่มีใครเทียบได้ เอาชนะใจชายทุกคนและแม้แต่ผู้หญิงก็ต่างอิจฉาในชีวิตที่แล้วของเธอ แต่เธอกลับตกหลุมรักองค์ชายอย่างโง่เขลา และถูกลิขิตให้ตายอย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของคนที่เธอรัก ในชีวิตและร่างกายใหม่นี้ กลอุบายอันชั่วร้ายและเรื่องอื้อฉาวก็ยังวนเวียนอยู่รอบตัวเธอ แม้จะเกิดใหม่แล้วก็ตาม เธอก็เริ่มทำแบบเดียวกันกับคนเหล่านั้นและจะโหดเหี้ยมต่อผู้ที่คิดต่อต้านเธอ ชายหนุ่มและและหญิงสาวต้องโค้งคำนับ บัลลังก์ทองคำต้องถูกส่งต่อ อาณาจักรจะต้องถูกพิชิตและเผาทำลาย หัวใจต้องถูกแย่งชิง ด้วยยุคอันโหดร้ายเช่นนี้ ผู้คนทำได้เพียงพยายามบังคับและป้องกันตนเองจากอันตราย อย่างไรก็ตาม ใครจะคิดว่าชายที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและเย่อหยิ่งจะเข้ามาในชีวิตของเสี่ยวเฟยอย่างกะทันหัน? และเขายังกระซิบข้างหูของเธออย่างไร้ยางอายว่า “ศัตรูของภรรยาข้าก็คือศัตรูของข้า และความปรารถนาของภรรยาข้าก็คือความปรารถนาของข้าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้ายังมีความปรารถนาอีกอย่างหนึ่งที่มีแต่ภรรยาข้าเท่านั้นที่จะมอบให้แก่ข้าได้” “นั่นคือภรรยาข้าต้องกลายเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็น ให้แก่ข้า” เสี่ยวเฟย: “……”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset