กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess – ตอนที่ 33 การเตรียมการ

เมื่อกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน หลินเสี่ยวเฟย ก็ถูกไป่ลู่เเละซูถัง สาวใช้ทั้งสองของเธอ  รีบนำตัวเข้าไปในลานด้านใน และถูกตั้งคำถามจากสาวใช้มากมาย

 

“คุณหนู! ท่านไปไหนมา” ไป่ลู่สูดกลิ่นและจับมือคุณหนู ขณะที่เธอตรวจดูอาการบาดเจ็บหรือสิ่งสกปรกตามร่างกายของหลินเสี่ยวเฟย ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

“ได้โปรด ต่อไปคุณหนูอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ  หากคุณหนูออกไปเพียงลำพัง จะไม่มีผู้ใดรับรู้เลยว่าจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นกับคุณหนู” ซูถังกล่าวอย่างกังวล เนื่องจากเธออายุมากที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งสามคน ซูถังจึงเป็นคนที่น่าเชื่อถือที่สุดของหลินเสี่ยวเฟย ถัดจากเธอคือไป่ลู่ ซึ่งเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดจากพวกเขาทั้งหมด

 

เมื่อสังเกตเห็นเสื้อผ้าที่เปียกของหลินเสี่ยวเฟย ซูถังจึงรีบไปหาเสื้อผ้าตัวใหม่ มาให้คุณหนูของเธอสวมใส่ ขณะที่ไป่ลู่ก็ออกไปต้มน้ำเพื่อให้เธออาบ

 

หลินเสี่ยวเฟยนั่งรอบนเก้าอี้ในห้องของเธอ ในขณะที่สาวใช้ของเธอ ยุ่งอยู่กับการดูแลคุณหนูของพวกเขา เธอไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้เมื่อเห็นสาวใช้วิ่งไปมาราวกับผึ้ง

 

เมื่ออาบน้ำเสร็จและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ หลินเสี่ยวเฟยก็ไปหยิบหนังสือมาอ่าน จนทำให้สาวใช้ของเธอรู้ประหลาดใจ เเละยืนงงอยู่ตรงมุมห้อง

 

ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง เมื่อเห็นคุณหนูของพวกเขา พลิกหน้ากระดาษและให้ความสนใจกับหนังสือ ราวกับว่าสิ่งที่เขียนอยู่ในนั้นน่าสนใจมาก ในขณะที่สาวใช้ทั้งสองยืนตกใจอยู่นั้น

คุณหนูของพวกเขากลับไม่ได้สนใจอะไรเลย

 

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขารับใช้คุณหนูสี่เเห่งตระกูลหลิน, ไป่ลู่และซูถังซึ่งอยู่ข้างๆคอยรับใช้หลินเสี่ยวเฟยมาโดยตลอด พวกเธอไม่เคยเห็นคุณหนูของเธอแตะต้องหนังสือเลยสักครั้งนับประสาอะไรกับการหที่จะอ่านมัน

 

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน!

 

ไป่ลู่กัดริมฝีปากล่างของเธอ และมองไปที่ซูถังด้วยใบหน้าที่ตกตะลึงและประหลาดใจ

อย่างไรก็ตาม ซูถังก็มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกับไป่ลู่ และปากของเธอก็เปิดเล็กน้อยแสดงถึงความตกใจอย่างแรง

 

ไม่มีใครรู้ดีกว่าสาวใช้ทั้งสองคนนี้ ว่าหลินเสี่ยวเฟยเกลียดหนังสือยังกับอะไรสิ้นดี

ย้อนกลับไป เมื่อเธอเข้าเรียนในสถานศึกษาสำหรับหญิงสาวเพียงแห่งเดียวในเมืองหลวง

เสี่ยวเฟยทนไม่ได้แม้แต่วันเดียว ก่อนที่เธอจะกระทืบเท้าและรีบเดินจากไป

 

ข่าวลือที่ว่า เธอทำลายอุปกรณ์การเขียนในชั้นเรียน ในไม่ช้าข่าวก็ถูกแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงในวันรุ่งขึ้น แต่หลินเสี่ยวเฟยไม่ได้มีความเขินอายเเต่อย่างใด และไม่ได้ปฏิเสธกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะที่เธอออกไปเดินเล่นในเมืองราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

แต่ตอนนี้ คุณหนูของพวกเขากำลังอ่านหนังสือราวกับว่าการกระทำเหล่านี้ เป็นสิ่งทำเป็นประจำและถูกจารึกไว้ในกระดูกของเธอ

 

หลินเสี่ยวเฟยที่กำลังอ่านหนังสืออยู่นั้น เธอก็ครุ่นคิดอยู่ลึกๆถึงเรื่องราวในอดีต การอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่เธอเคยทำ ในที่ประทับขององค์ชายสี่ เนื่องจากเธอเป็นนางสนมเเละไม่มีสิ่งใดต้องทำมากสำหรับเธอ นอกจากการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์และอุบายกับหญิงสาวคนอื่นๆของหยูเฟิงซูการอ่านหนังสือจึงกลายกิจวัตรประจำวันของเธอ ในการผ่านเวลาไปเเต่ละวัน

 

แผนการของเธอในการก่อวินาศกรรมต่อถ้ำของหยูเฟิงซู มีความเสี่ยงสูง

เนื่องจาก หลินเสี่ยวเฟยรู้ดีว่าหยูเฟิงซู จะใช้มาตรการที่รุนแรงเพื่อปกป้องพื้นที่รอบๆถ้ำ และการที่เธอจะเข้าไปวางระเบิดภายในนั้น คงจะเป็นไปไม่ได้

 

และเป็นไปได้สูงว่าแผนของเธอจะล้มเหลวเมื่อพบกับฉู่เซียวซู เเละใครจะรู้ ว่าเขาอาจจะเป็นศัตรู หรือไม่ก็เป็นพรรคพวกเดียวกันกับหยูเฟิงซู หรือใครก็ตามในราชวงศ์ และหากคำพูดของเธอผ่านหูของเขา ฉู่เซียวซูก็อาจจะพูดเรื่องนี้ให้กับพวกเขาฟัง

 

นั่นคือสิ่งที่หลินเสี่ยวเฟยจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น มิเช่นนั้น แผนการของเธอที่ตั้งใจไว้จะถูกทำลายอย่างแน่นอน เนื่องจากการเพิ่มศัตรูที่น่าเกรงขามไว้ในรายชื่อของเธอ อาจจะทำให้เธอลำบากมากยิ่งขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม หลินเสี่ยวเฟยก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แม้ว่าฉู่เซียวซูจะกลายเป็นศัตรูของเธอ

 

อะไรคือความแตกต่าง จากการมีศัตรูเพียงหนึ่งเดียวหรือมากกว่านั้น?

 

หลินเสี่ยวเฟย กำลังจะพลิกหนังสือหน้าอื่น เเต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น และเห็นความตกใจที่อยู่บนใบหน้าของสาวใช้ ราวกับว่าพวกเขาได้เห็นในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดคิด ว่ามันจะเกิดขึ้น

 

“พวกเจ้าเป็นอะไร?” หลินเสี่ยวเฟยกล่าว ขณะที่เธอขมวดคิ้วและทำออกมา

 

ซูถังส่ายหัว และกล่าวว่า “เปล่าเจ้าค่ะคุณหนู อ่านหนังสือต่อเถอะเจ้าค่ะ” เธอดึงแขนเสื้อไป่ลู่ เเละกล่าวว่า “ข้าลืมไปเอาเสื้อผ้าของคุณหนู ที่เราเอาไปตากไว้ พวกเราจะไปเอาให้คุณหนูเดี๋ยวนี้”

 

ไป่ลู่จ้องมองที่ซูถังด้วยท่าทางงุนงง เธอไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอกำลังคิดอะไรอยู่ และเสื้อผ้าที่พวกเขาได้ซักทำความสะอาดและแขวนไว้ข้างนอกก็ถูกนำเข้าไปข้างในแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่ฝนจะเริ่มตกหนัก

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ซูถังดึงเธอออกไปข้างนอก แล้วปิดประตูห้องนอนของคุณหนูทันที

 

หลินเสี่ยวเฟยถอนหายใจ และวางคางไว้บนหลังฝ่ามือ ขณะที่เธอตระหนักว่า เหตุใดสาวใช้ของเธอ จึงกระสับกระส่ายและรีบออกจากห้องไป พวกเขาคงไม่อยากรบกวนเธอ

 

เธอลืมไปว่าเจ้าของคนก่อน เป็นหญิงสาวที่โง่เขลา ที่ขึ้นชื่อในเรื่องขี้เกียจและหยาบคาย เธอจึงไม่แปลกใจเลย ที่ซูถังและไป่ลู่จะตกใจมากและอาจกลัว จนทำให้พวกเขาหลีกตัวออกห่างจากเธอ

 

ไม่ว่าในกรณีใด หลินเสี่ยวเฟย ขี้เกียจเกินกว่าจะสร้างความประทับใจให้ใคร หรืออธิบายว่าทำไมเธอถึงมีความปรารถนาที่จะอ่านอย่างกะทันหัน เธอไม่อยากเสียเวลากับการเป็นหลินเสี่ยวเฟยตัวจริง เธอจึงตัดสินใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง และไม่จำเป็นต้องเสแสร้งใดๆ เพราะมันจะไร้ประโยชน์กับตัวเธอ

 

ในช่วงชีวิตนี้ เธอจะทุ่มเทเพื่อจัดการกับหยูเฟิงซูให้ทนทุกข์ทรมานนับพันเท่าจากที่เธอเคยได้รับ

และจัดการกับทุกสิ่ง ที่ทำให้มันตกลงไปยังจุดต่ำสุด เหมือนกับที่มันเอาทุกอย่างจากเธอ

และทรมานเธอมาเป็นเวลานาน เพื่อความบันเทิงของตัวมันเอง

 

ถ้ำเป็นสิ่งแรกที่เธอจะนำมันไปจากมัน แต่เธอจะทำให้มันสูญเสียมากกว่านี้

 

หลินเสี่ยวเฟยเพียงหวังว่า มันคงจะเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

The Birth of a Villainess

The Birth of a Villainess

กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess “เจ้าไม่ได้ตัวคนเดียว เราเป็นหุ้นส่วนในอาชญากรรม หากเจ้าเป็นแม่มด ข้าก็จะเป็นพ่อมดของเจ้า” … หลังจากการตายอย่างโหดร้ายของเธอ เสี่ยวเฟยพบว่าตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างของคุณหนูที่งดงามจากตระกูลหลินผู้สูงศักดิ์ที่มีชื่อเดียวกันกับเธอ เธอเกิดมาพร้อมกับใบหน้าอันงดงามที่ไม่มีใครเทียบได้ เอาชนะใจชายทุกคนและแม้แต่ผู้หญิงก็ต่างอิจฉาในชีวิตที่แล้วของเธอ แต่เธอกลับตกหลุมรักองค์ชายอย่างโง่เขลา และถูกลิขิตให้ตายอย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของคนที่เธอรัก ในชีวิตและร่างกายใหม่นี้ กลอุบายอันชั่วร้ายและเรื่องอื้อฉาวก็ยังวนเวียนอยู่รอบตัวเธอ แม้จะเกิดใหม่แล้วก็ตาม เธอก็เริ่มทำแบบเดียวกันกับคนเหล่านั้นและจะโหดเหี้ยมต่อผู้ที่คิดต่อต้านเธอ ชายหนุ่มและและหญิงสาวต้องโค้งคำนับ บัลลังก์ทองคำต้องถูกส่งต่อ อาณาจักรจะต้องถูกพิชิตและเผาทำลาย หัวใจต้องถูกแย่งชิง ด้วยยุคอันโหดร้ายเช่นนี้ ผู้คนทำได้เพียงพยายามบังคับและป้องกันตนเองจากอันตราย อย่างไรก็ตาม ใครจะคิดว่าชายที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและเย่อหยิ่งจะเข้ามาในชีวิตของเสี่ยวเฟยอย่างกะทันหัน? และเขายังกระซิบข้างหูของเธออย่างไร้ยางอายว่า “ศัตรูของภรรยาข้าก็คือศัตรูของข้า และความปรารถนาของภรรยาข้าก็คือความปรารถนาของข้าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้ายังมีความปรารถนาอีกอย่างหนึ่งที่มีแต่ภรรยาข้าเท่านั้นที่จะมอบให้แก่ข้าได้” “นั่นคือภรรยาข้าต้องกลายเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็น ให้แก่ข้า” เสี่ยวเฟย: “……”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset