กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess – ตอนที่ 35 พายุฝนกำลังใกล้เข้ามา

ถนนสายตะวันตก คึกคักเเละเต็มไปด้วยผู้คนและดูมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ เนื่องจากเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่กำลังใกล้เข้ามา ผู้คนในเมืองหลวงอาณาจักรเซิง จึงรู้สึกมีความสุขและตื่นเต้นอย่างมากกับเทศกาลนี้

 

เทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นวันที่ราชวงศ์จะออกจากพระราชวังราชวัง เพื่อเที่ยวชมเทศกาลและใกล้ชิดกับผู้คนในอาณาจักรเซิง แน่นอน ว่านี่ไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะต้องไปเดินปะปนกับคนอื่นๆ เนื่องจากราชวงศ์ จะมีแท่นที่สร้างขึ้นในถนนย่านการค้าของเมืองหลวง ขณะที่คนอื่นๆจะยืนอยู่ใต้แท่น ราวกับกำลังสักการะพระเจ้า

 

ทุกร้าน ที่มีขนาดแตกต่างกัน จะเปิดขึ้นโดยหวังว่าจะดึงดูดลูกค้าจำนวนมาก

ให้มาที่ร้านค้าของพวกเขา และได้รับกำไรอย่างมหาศาลจากเทศกาลนี้ บรรดาขุนนางและมหาเศรษฐี ก็จะออกมาและซื้อของที่พวกเขาถูกใจ ในขณะที่พวกเขา ถูกล้อมไว้ด้วยกลุ่มคนที่มีฐานะดีเช่นเดียวกัน สำหรับสามัญชนที่เกิดมาต่ำต้อยและยากจน พวกเขาสามารถชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามและได้เห็นราชวงศ์

 

บนสะพานเล็กๆที่มีคลองอยู่ข้างใต้ หญิงสาวผู้หนึ่ง กำลังรออย่างใจจดใจจ่อ และมองดูผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนสะพานโดยไม่มีผู้ใดสนใจกัน

 

ทว่าสิ่งที่เธอคาดหวังกลับไม่มา

 

หากใครมองเธอใกล้ๆ พวกเขาจะสังเกตเห็นความงดงามโดยกำเนิดของหญิงสาวผู้นี้

อย่างไรก็ตาม เพราะเธอมีผิวพรรณที่ซีดเล็กน้อย และสวมเสื้อผ้าสีโคลนธรรมดา จึงไม่ค่อยมีผู้คนมองมาที่เธอ

 

หญิงสาวผู้ที่กำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ไม่มีใครอื่นนอกจากชูชู สาวงามที่เคยเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของไป่ฮัวโหลว เมื่อสามปีที่แล้ว

 

เมื่อวานนี้ ชูชูได้รับจดหมายจากผู้ส่งที่ไม่รู้จัก ผ่านนกส่งจดหมายที่ได้รับการฝึกฝนให้ส่งและรับจดหมาย และเมื่อเธอได้อ่านมัน เนื้อหาในจดหมายบอกว่าให้เธอไปพบในวันนี้ ที่ถนนตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของสะพาน

 

เธอไม่รู้ตัวตนของผู้ส่ง แต่เธอคิดว่าน่าจะต้องเป็นชายหนุ่มที่มาไป่ฮัวโหลวเเละพบเธอ

เธอไม่คิดว่าเป็นหยูเฟิงซูหรือคนของเขา เพราะเขาคงจะไม่สนใจเธอ เมื่อเขามีหลายสิ่งที่ต้องทำในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ในฐานะองค์ชายสี่แห่งอาณาจักรเซิง

 

นอกจากพ่อค้าและคนรับใช้ที่ยุ่งอย่างมากเมื่อใกล้ถึงเทศกาล ราชวงศ์ก็ไม่มีเวลาพักผ่อนเพราะพวกเขามีหน้าที่ทำให้เทศกาลนี้ประสบความสำเร็จ และไม่อับอายต่ออาณาจักรเพื่อนบ้าน

 

ในฐานะองค์ชายที่ไล่ตามบัลลังก์ หยูเฟิงซูจะไม่ปล่อยให้โอกาสสร้างความประทับใจ

ให้กับสาธารณชนและจักรพรรดิซึ่งเป็นพ่อเขา ให้หลุดมือไป

 

ชูชู มองไปยังรอบๆอีกครั้ง และยังไม่เห็นชายหนุ่มที่เธอพบเมื่อครั้งที่แล้ว

เธอรอมาเกือบสองชั่วโมง แล้วและรู้สึกใจร้อน เธอคิดว่าชายหนุ่มผู้นั้นจะต้องโกหกเธอ

 

เธอรออีกสองสามนาที แต่ถึงกระนั้น คนที่บอกให้เธอมาก็ไม่ปรากฏเสียที

 

ชูชูกำลังจะลุกขึ้นเดินจากไป เเต่ในขณะนั้น เธอเห็นชายหน้าตาดี ที่มีใบหน้าสะอาดมาขวางทางเธอในทันที เธอเงยหน้าขึ้นและจ้องไปที่ชายผู้นั้น และกล่าวอย่างโกรธเคือง “ไปให้พ้นทางของข้า!”

 

อย่างไรก็ตาม ชายผู้นั้นยังคงนั่งอยู่ที่เดิมและกล่าวว่า “ข้าทำมิได้ นายท่านของข้า สั่งให้ข้าพาตัวเจ้าไปด้วย”

 

ชูชูตระหนักว่า ชายผู้นี้ไม่ได้พยายามจะหยุดเธอ แต่เขาอยากให้เธอไปพบนายท่านของเขา

 

ใครกันที่เป็นนายท่านของเขา ชูชูไม่เชื่อ และมองไปที่เขาอย่างสงสัย

 

ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มธรรมดาที่ไม่มีลวดลายใดๆเขายังมัดผมด้วยเข็มกลัดหยกและร่างของเขาตั้งตระหง่านสูงกว่าเธออย่างท่วมท้น  อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถมีอะไรบอกเธอได้ว่า เขาเป็นพวกขุนนางหรือไม่

 

ท่าทางที่เขายืนเปรียบเสมือนกับไม้เรียว เธอคิดว่า เขาคงไม่ใช่คนธรรมดาและคงจะเคยชินกับการให้ผู้บังคับบัญชาสั่งการเขาให้ทำตามหน้าที่

 

เฉินโม่ ที่กำลังถูกจ้องมองด้วยความสงสัย ราวกับว่าเขาเป็นนักต้มตุ๋น เขารู้ว่าเขาไม่มีใบหน้าที่ดูดีเหมือนชายหนุ่มที่หล่อเหลาในเมืองหลวง อย่างไรก็ตาม เขามีใบหน้าที่เรียบร้อยและปกติแล้วเพื่อนทหารของเขา จะชื่นชอบ เพราะเขามีใบหน้าที่เรียบร้อยและดูสะอาดตา

 

เฉินโม่ เมินเฉยต่อความสงสัย ที่เขาได้รับจากหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขา

และกล่าวว่า “นายท่านของข้า สั่งให้ข้ามาบอกเจ้าว่า ‘ฝนจะมาล้างสิ่งสกปรกบนพื้นดินทั้งหมด’

 

ทันที ที่ชูชูเข้าใจความหมายของคำเหล่านั้น

 

ในอดีตเสี่ยวเฟยและชูชู มักจะพูดว่า ฝนจะล้างสิ่งสกปรกออกไปได้อย่างไร และเมื่อฝนหยุด

ดวงอาทิตย์และท้องฟ้าจะสว่างขึ้น และมีเพียงทิวทัศน์ที่สวยงามเท่านั้นที่มองเห็นได้

 

สำหรับคนอื่น คำเหล่านั้นไม่ควรค่าที่จะกล่าวถึง เพราะมันเหมือนกับการพูดถึงสภาพอากาศ

แต่เสี่ยวเฟย ได้บอกความหมายอื่นที่อยู่เบื้องหลังคำเหล่านั้นกับเธอ

 

เช่นเดียวกับฝน ที่จะชะล้างสิ่งสกปรกบนพื้นดิน เเต่ยังมีสิ่งอื่นๆที่สามารถแทนที่ฝน และขจัดความคับข้องใจและความชั่วร้ายทั้งหมดนี้ออกไปจากพื้นโลก

 

อย่างเช่นความตาย

 

เมื่อเสี่ยวเฟยบอกกับเธอเช่นนั้น ชูชูก็ขนลุกไปทั่วร่างกาย ขณะที่เธอเห็นรอยยิ้มที่ชั่วร้าย

เริ่มก่อตัวขึ้นบนใบหน้าของเพื่อนเธอ

 

ชูชู มองไปที่เฉินโม่ด้วยความไม่แน่ใจ เธอไม่แน่ใจว่าชายหนุ่มที่เธอพบครั้งล่าสุด มีลักษณะนิสัยเป็นเช่นใด ที่เขาจะสามารถรับรู้เรื่องเหล่านี้ได้

 

อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน

 

เธอสงสัย ว่าทำไมชายหนุ่มที่เธอพบในไป่ฮัวโหลว ถึงรู้จักเสี่ยวเฟยเป็นอย่างดีและพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรเกี่ยวข้องกัน เพราะไม่เช่นนั้น ทำไมเขาถึงรู้เกี่ยวกับกล่อง และคำพูดของหลินเสี่ยวเฟย ที่มักจะชอบพูดออกมา

 

“ไปกันเถอะ.” เธอกล่าวขึ้น หลังจากยืนยันความจริงข้อนี้แล้ว เเละเดินตามชายผู้ที่อยู่ตรงหน้าเธอไป

The Birth of a Villainess

The Birth of a Villainess

กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess “เจ้าไม่ได้ตัวคนเดียว เราเป็นหุ้นส่วนในอาชญากรรม หากเจ้าเป็นแม่มด ข้าก็จะเป็นพ่อมดของเจ้า” … หลังจากการตายอย่างโหดร้ายของเธอ เสี่ยวเฟยพบว่าตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างของคุณหนูที่งดงามจากตระกูลหลินผู้สูงศักดิ์ที่มีชื่อเดียวกันกับเธอ เธอเกิดมาพร้อมกับใบหน้าอันงดงามที่ไม่มีใครเทียบได้ เอาชนะใจชายทุกคนและแม้แต่ผู้หญิงก็ต่างอิจฉาในชีวิตที่แล้วของเธอ แต่เธอกลับตกหลุมรักองค์ชายอย่างโง่เขลา และถูกลิขิตให้ตายอย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของคนที่เธอรัก ในชีวิตและร่างกายใหม่นี้ กลอุบายอันชั่วร้ายและเรื่องอื้อฉาวก็ยังวนเวียนอยู่รอบตัวเธอ แม้จะเกิดใหม่แล้วก็ตาม เธอก็เริ่มทำแบบเดียวกันกับคนเหล่านั้นและจะโหดเหี้ยมต่อผู้ที่คิดต่อต้านเธอ ชายหนุ่มและและหญิงสาวต้องโค้งคำนับ บัลลังก์ทองคำต้องถูกส่งต่อ อาณาจักรจะต้องถูกพิชิตและเผาทำลาย หัวใจต้องถูกแย่งชิง ด้วยยุคอันโหดร้ายเช่นนี้ ผู้คนทำได้เพียงพยายามบังคับและป้องกันตนเองจากอันตราย อย่างไรก็ตาม ใครจะคิดว่าชายที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและเย่อหยิ่งจะเข้ามาในชีวิตของเสี่ยวเฟยอย่างกะทันหัน? และเขายังกระซิบข้างหูของเธออย่างไร้ยางอายว่า “ศัตรูของภรรยาข้าก็คือศัตรูของข้า และความปรารถนาของภรรยาข้าก็คือความปรารถนาของข้าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้ายังมีความปรารถนาอีกอย่างหนึ่งที่มีแต่ภรรยาข้าเท่านั้นที่จะมอบให้แก่ข้าได้” “นั่นคือภรรยาข้าต้องกลายเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็น ให้แก่ข้า” เสี่ยวเฟย: “……”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset