ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 379 อาจารย์เหม่ยเหรินกลับมาแล้ว (4) / ตอนที่ 380 ใครคือฆาตกร (1)

ตอนที่ 379 อาจารย์เหม่ยเหรินกลับมาแล้ว (4)

 

 

เธอคิดถึงสภาพของอาจารย์ตอนนี้ว่าน่าอายแบบนั้นไม่ใช่แค่เหนื่อยเฉยๆ แน่ ควรจะรีบกลับไปอาบน้ำพักผ่อน

 

 

ก่อนที่จะเข้าห้องอวี๋กานกานให้อาจารย์รออยู่ข้างนอก เธอเข้าในในห้องเตรียมเตาอั้งโล่มาวางไว้ที่ประตูเพื่อให้เหอสือกุยก้าวข้ามเตาอั้งโล่เข้ามาในห้อง

 

 

เธอพูดพร่ำ “หมดทุกข์หมดโศกหมดโรคหมดภัยเคราะห์แคล้วคลาด จากนี้ไปขอให้สงบสุขราบรื่นๆ”

 

 

เหอสือกุยยิ้มเจือจางก่อนจะข้ามเตาเข้าห้องไป

 

 

ห้องไม่คุ้นเคยเขาเลยถาม “นี่บ้านใคร”

 

 

อวี๋กานกานตอบ “เพื่อนคนหนึ่งค่ะชื่อหลินจยาอวี่ เมื่อก่อนเป็นคนไข้ของหนูตอนนี้กลายเป็นเพื่อนสนิท เธอเป็นคนดีค่ะเพิ่งจะแต่งงานไป ห้องเลยว่างให้หนูมาอยู่ อ่อ! จริงสิอาจารย์เหม่ยเหรินคะ ช่วงนี้หนูอยู่ปักกิ่ง…เดี๋ยวเรื่องนี้เราค่อยคุยกัน อาจารย์เหม่ยเหรินคะยินดีต้อนรับกลับมานะคะ”

 

 

เธอดีใจมากยิ่งพูดยิ่งเสียงดังจนเขาแทบจะตะโกน

 

 

เหอสือกุยมองใบหน้าเล็กที่เปล่งประกายของเธอ ริมฝีปากบางเผยรอยยิ้มจากนั้นยื่นมือโอบเธอไว้ในอ้อมกอดแล้วพูดเสียงเบา “ฉันคิดว่าฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อนับครั้งไม่ถ้วน แต่พอคิดถึงเด็กน้อยของฉัน ถ้าหากไม่มีฉันแล้วเธอจะอยู่ยังไง ใครจะทำกับข้าวให้เธอ ใครจะช่วยจดบันทึก ใครจะช่วยเธอจัดแจงตำรับยา…”

 

 

ในที่สุดก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ร่วงลงมา

 

 

เธอไม่ได้อยากร้องไห้จริงๆ สักหน่อย เธอแค่ดีใจมากเท่านั้น “อาจารย์เหม่ยเหรินกลับมาแล้วดีจัง แต่อาจารย์คะตัวอาจารย์…เหม็นๆ”

 

 

เหอสือกุยปล่อยเธอแล้วถอนหายใจ “ยังไม่ทันแก่ก็เบื่อกันซะแล้ว ไม่อยากนึกถึงตอนเธอแก่จริงๆ เลย”

 

 

อวี๋กานกานหัวเราะน้ำตาไหล “อาจารย์เหม่ยเหรินสบายใจได้เลย หนูจะเลี้ยงอาจารย์เองจะกตัญญูยิ่งกว่าลูกสาวบ้านไหนๆ อีกค่ะ”

 

 

เหอสือกุยได้แต่ยิ้มๆ ไม่พูดอะไร

 

 

อวี๋กานกานเตรียมของอาบน้ำและหยิบเสื้อผ้าผู้ชายที่พลิกหาเจอในตู้เสื้อผ้าของหลินจยาอวี่ยื่นให้กับเหอสือกุย

 

 

เหอสือกุยเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำส่วนอวี๋กานกานเข้าครัวเปิดตู้เย็นหยิบของสดออกมาเตรียมทำอาหาร

 

 

ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาอาจารย์เหม่ยเหรินใช้ชีวิตอย่างไร คนที่สมบูรณ์ดีกลับผมลงไปมากอาหารการกินแย่ขนาดไหนถึงทำให้ขาดสารอาหาร

 

 

เมื่อคิดดูแล้วก็เจ็บปวดใจ

 

 

เธอต้องบำรุงอาจารย์ให้ดีๆ แม้จะทำไม่เป็นหรือทำออกมาไม่ดีแต่อย่างน้อยก็ควรมีสารอาหารมากกว่าพวกอาหารตามสั่งเดลิเวอร์รี่

 

 

เหอสือกุยอาบน้ำเสร็จออกมาเห็นอวี๋กานกานกำลังง่วนอยู่ในครัวจึงรีบเดินเข้าไปหา “ทำไมเธอถึงเข้าครัวได้ล่ะ มาฉันทำเอง”

 

 

เหอสือกุยที่อาบน้ำแล้วชำระคราบฝุ่นมอมแมมและความเหนื่อยล้าออกไปจนกลับมาดูดีสง่างามและอบอุ่น หายตัวไปหลายเดือนทำให้เขาดูนิ่งขรึมมากขึ้น

 

 

อวี๋กานกานปัดมือเหอสือกุยและดันเขาไปที่ห้องรับแขกกดตัวให้นั่งลงที่โซฟาดีๆ “อาจารย์เหม่ยเหรินพักก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยววันนี้หนูทำกับข้าวเอง”

 

 

“เธอทำเอง?”

 

 

เหอสือกุยมองเธออย่างประหลาดใจ

 

 

เธอเติบโตมากับเขาอยู่ด้วยกันมาหลายปี เธอไม่ชอบเข้าครัวขนาดไหนเขารู้ดี ข้าวเขาเป็นคนหุง กับข้าวเขาก็เป็นคนผัด จานเขาก็เป็นคนล้าง บางครั้งเสื้อผ้าเขาก็เป็นคนซักให้เหมือนว่าเขาเป็นพ่อแท้ๆ เลยทีเดียว

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะบางทีเขาไม่อยู่บ้าน เธอกลัวว่าแม้กระทั่งโจ๊กยังต้มไม่เป็นไข่เจียวข้าวผัดก็ทำไม่ได้

 

 

อวี๋กานกานเชิดคางขึ้นเล็กน้อยพูดด้วยท่าทางโอ้อวด “ช่วงที่อาจารย์ไม่อยู่บ้าน หนูหัดทำกับข้าวได้ตั้งหลายอย่าง อาจารย์พักผ่อนให้สบายเถอะค่ะ แป๊บเดียวก็ได้ชิมฝีมือหนูแล้วแล้วต้องให้คะแนนด้วยนะคะ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 380 ใครคือฆาตกร (1)

 

 

เหอสือกุยหุบยิ้ม “ได้ งั้นฉันจะรอชิมฝีมือเธอ”

 

 

เขาฉวยหยิบสมุดบันทึกการเรียนของอวี๋กานกานที่วางไว้บนโต๊ะรับแขกขึ้นมาดู

 

 

‘สมาคมยาไป่ฟัง’

 

 

คำนี้ทำให้แววตาของเหอสือกุยค่อยๆ สงบลง

 

 

เขาหันไปมองลูกศิษย์ที่กำลังยุ่งอยู่ในครัว ดูแล้วระยะนี้เธอโตขึ้นเยอะจริงๆ เรียนรู้ตั้งมากมายหลายสิ่งและมีเพื่อนเยอะขึ้น

 

 

 

 

อวี๋กานกานเคี่ยวน้ำซุปและผัดผักอีกหลายอย่าง แต่อาหารเหล่านี้ดูไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่

 

 

เหอสือกุยขยับมานั่งที่โต๊ะก่อนพูดแล้วยิ้ม “ไม่เลวนี่”

 

 

ไม่เลวตรงไหน? อาหารพวกนี้ดูแล้วรู้สึกไม่น่ากิน อวี๋กานกานขมวดคิ้วพูดเสียงอู้อี้ “อาจารย์เหม่ยเหริน รอสักครู่ไหมคะเดี๋ยวหนูสั่งเดลิเวอร์รี่ให้ใหม่”

 

 

เธออาจจะไม่มีพรสวรรค์ด้านเข้าครัว

 

 

จริงๆ แล้วผัดผักก็ไม่มีอะไรยาก แต่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผัดไปผัดมาถึงไหม้กลายเป็นสีดำหมดเลย

 

 

เธอพยายามแล้วนะ!

 

 

“นี่ทำเสร็จหมดแล้วยังจะสั่งอาหารอะไรอีก” เหอสือกุยหยิบตะเกียบคีบผักมาชิมหนึ่งคำ หลังจากเคี้ยวละเอียดแล้วเขาก็พูดยิ้มๆ “หน้าตาอาหารแย่ไปนิดแต่ว่ารสชาติไม่เลว”

 

 

“จริงเหรอคะ”

 

 

“ไม่เชื่อเหรอ งั้นลองชิมเองสิ”

 

 

อวี๋กานกานเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารเข้าปากบ้าง เห็นชัดๆ ว่ามันเค็มไปนิด เธอมองเหอสือกุยอีกครั้งแต่เขากลับกินอย่างเอร็ดอร่อย

 

 

ช่วงที่ผ่านนี้อาจารย์ลำบากแค่ไหนถึงรู้สึกว่าอาหารแบบนี้ยังกินได้อย่างอร่อย

 

 

พลันน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้ง อวี๋กานกานผินหน้าหนีกลั้นความเสียใจ

 

 

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเธอถึงจะอาการดีขึ้น มองไปยังเหอสือกุยและเอ่ยขึ้น “ช่วงที่ผ่านมานี้อาจารย์ไปอยู่ไหนมาคะ สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่โจวบอกว่าอาจารย์ไม่ได้ไม่ส่วนเกี่ยวของกับฆาตกรรมแล้วยังบอกอีกว่าอาจารย์อาจโดนตามฆ่า”

 

 

เหอสือกุยถาม “แล้วเธอเชื่อหรือเปล่าว่าอาจารย์เป็นคนฆ่า”

 

 

อวี๋กานกานส่ายหน้าพัลวัน “ไม่แน่นอนค่ะ หนูเชื่อว่าอาจารย์ไม่ได้ฆ่าคนแน่นอน แต่หนูกลัวว่าอาจารย์จะถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่โจวบอกว่าเกิดอุบัติเหตุบนเรือยอร์ชในงานสัมมนาในวันนั้น ตอนที่ทุกคนเห็นว่าอาจารย์กลับไปแต่ต่อมาจก็ขาดการติดต่อแล้วก็หายสาบสูญไปเลย ทุกคนติดต่ออาจารย์ไม่ได้ถึงได้สงสัยว่าอาจารย์เป็นคนฆ่า คืนนั้นสรุปแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วอาจารย์หายไปไหนมาคะ”

 

 

เหอสือกุยตอบ “วันนั้นที่เกิดอุบัติเหตุบนเรือยอร์ชเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายฉันเลยย้ายไปอยู่รวมกับทุกคน แต่จู่ๆ ก็ถูกผลักลงทะเล ฉันว่ายน้ำเป็น ว่ายไปว่ายมาก็ลอยไปติดเกาะร้าง รอจนกระทั่งไม่นานมานี้มีเรือชูชีพแล่นผ่านมาช่วยฉัน”

 

 

อวี๋กานกานเบิกตาโตตกใจ “ถูกคนผลักลงทะเล มันเป็นใครทำไมใจร้ายอย่างนี้”

 

 

เมื่อเธอนึกถึงสภาพอาจารย์เหม่ยเหรินที่ลอยอยู่ในทะเลเป็นเวลานานเธอจึงรู้สึกหนาวมือและเท้าไปหมด

 

 

เมื่อเหอสือกุยเห็นเธอตื่นตระหนกและไม่สบายใจก็ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปเพื่อจับมือเธอและปลอบอย่างอ่อนโยน “อย่ากลัว ตอนนี้อาจารย์ก็หมดเรื่องแล้วไม่ใช่หรือไง เธออย่ากังวลไปเลย”

 

 

อวี๋กานกานพยักหน้า แต่คิดไปคิดมาก็ยังคงรู้สึกกลัวอยู่

 

 

มิน่าล่ะอาจารย์ถึงกลับมาไม่ได้ โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้อีกทั้งวันที่เห็นอาจารย์ที่สถานีตำรวจอาจารย์ถึงสภาพดูไม่ได้แบบนี้

 

 

อวี๋กานกานเอ่ยถามอีก “งั้นอาจารย์รู้ไหมคะว่าตอนนั้นใครถูกทำร้ายบนเรือยอร์ช

 

 

แน่นอนว่าเหอสือกุยรู้ว่าใคร “ดร.เจียงของสมาคมยาไป่ฟาง ตำรวจสงสัยว่าคนที่ฉันฆ่าเป็นเขาใช่ไหม”

 

 

อวี๋กานกานพยักหน้า “เพราะว่าเขาถูกฆ่าตายแล้วอาจารย์ดันมาหายไปอีก ตำรวจเลยสงสัยว่าพวกคุณมีความเกี่ยวข้องกัน”

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset