ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 391 ผมชอบกินเสี่ยวอวี๋ (1) / ตอนที่ 392 ผมชอบกินเสี่ยวอวี๋ (2)

ตอนที่ 391 ผมชอบกินเสี่ยวอวี๋ (1)

 

 

แต่ว่าถ้าหากความลับไม่ใช่ความลับอีกต่อไป งั้นเจียงไป่อันน่าจะไม่ลงมือกับอาจารย์ได้อีกแล้วสินะ

 

 

อาจารย์กลับไป๋หยางไปกับเธอน่าจะเป็นเรื่องที่งั้นสิ

 

 

หรือกลับไปที่ไป๋หยาง เจียงไป๋อันจะยอมปล่อยอาจารย์ไหม

 

 

บางทีเธอน่าจะไปหาฟังจือหันเพื่อลองถามดู มีแฟนหนุ่มเฉลียวฉลาดไม่รู้จักใช้ งั้นก็เสียของหมด

 

 

 

 

เจียงไป่อันรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ช่างน่ารำคาญเสียจริง เธอกับฟังจือหันทำให้เขารู้สึกเกลียดและเหยียดหยามจากก้นบึ้งของหัวใจ

 

 

และยังมีเหอสือกุยอีกคน

 

 

รออีกไม่นานหากเหอสือกุยไม่ว่าง่ายก็อย่ามาโทษว่าไม่เกรงใจก็แล้วกัน

 

 

เกี่ยวกับการปรากฏตัวของเจียงไป่อันนั้น เหอสือกุยก็ไม่ได้แปลกใจสักเท่าไหร่ อีกทั้งไม่ได้อยากจะเชิญเขาเข้ามา ยืนขวางประตูด้วยท่าทีไม่แยแส

 

 

“ไม่เจอกันนานนะคุณหมอเหอ”

 

 

เจียงไป่อันผลักประตูออกแล้วเดินเข้าไปข้างในทันที

 

 

สายตาของเขากวาดไปรอบๆ เพื่อสำรวจการตกแต่งภายในห้อง จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาอย่างไม่สนใจอะไร

 

 

เหอสือกุยนั่งลงตรงข้ามกัน หยิบแก้วน้ำของตนเองขึ้นมาดื่มโดยไม่มีทีท่าว่าจะเทน้ำให้เจียงไป่อันเลยสักนิด

 

 

เจียงไป่อันก็ไม่ได้ใส่ใจแต่กลับมีสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยเขาพร้อมกับเอ่ย “นับตั้งแต่หลังจากงานสัมมนาแล้ว ผมก็อยากจะติดต่อคุณหมอเหออยู่เสมอ แต่ว่าเอาแต่ติดต่อไม่ได้เลย ช่วงนี้คุณหมอเหอไปไหนเหรอ ทำไมครอบครัวและเพื่อนของคุณต่างก็บอกว่าหาตัวคุณไม่เจอกัน”

 

 

เหอสือกุยมองเขาอย่างใจเย็นพลางเอ่ย “ผมนึกว่าคนอื่นไม่รู้ว่าผมอยู่ที่ไหน แต่ผู้อำนวยการเจียงน่าจะรู้ดีที่สุดสิ”

 

 

เจียงไป่อันส่งยิ้มจางๆ “ผมจะรู้ว่าคุณเหอไปอยู่ที่ไหนได้ยังไงกัน ผมก็ตามหาคุณเหออยู่เป็นเวลานาน หรือว่าคุณหมอเหอเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นเหรอครับ”

 

 

เหอสือกุยวางแก้วในมือลงพลันเข้าใจความหมายโดยนัย “อุบัติเหตุหรือเป็นเพราะจงใจทำ ผู้อำนวยการเจียงน่าจะรู้ดีที่สุด”

 

 

เจียงไป่อันมีสีหน้าประหลาดใจมาก “ผมจะรู้ดีได้ยังไงกัน คุณหมอเหอ ผมขอร้องคุณด้วยความหวังดีเลย คนทั่วไปทำงานแล้วก็ต้องเหลือทางหนีทีไล่เอาไว้ ต้องรู้จักยอมรับและให้อภัยถึงจะไม่ต้องได้เจอกับเรื่องไม่คาดคิดมากมายเช่นนั้น”

 

 

สื่อความหมายข่มขู่แฝงอยู่ในนั้น

 

 

ในดวงตาอ่อนโยนคู่นั้นของเหอสือกุยปรากฏสายตาคมเฉียบ “ผอ.เจียง ผมก็ขอยกสักประโยคหนึ่งให้คุณ คนที่ทำเรื่องไม่ดี กรรมนั้นย่อมตามสนอง คุณเอายาที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ไปจ่ายตามโรงพยาบาลเพื่อเป็นการทดลองยา คุณนึกว่าจะไม่มีใครรู้ก็ถือว่าไม่มีอะไรผิดพลาด แต่ถอนตัวไปแล้วเหรอ ไม่คิดเลยว่าสวรรค์นั้นมีความยุติธรรม ทำผิดย่อมต้องถูกลงโทษ ผมจะหาหลักฐานให้เจอและพาคุณมาลงโทษตามกฎหมาย”

 

 

นัยน์ตาของเจียงไป่อันก็เคร่งเครียดขึ้นมา

 

 

เขาเอ่ยอย่างเย็นชา “เหอสือกุย ยาพวกนั้นผมให้คนเอาไปทำลายหมดแล้ว ทดสอบยาแล้วไม่สำเร็จแต่ก็ไม่ได้มีใครตายนี่ ตอนนี้พวกเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ดี”

 

 

“แต่ร่างกายของพวกเขาได้รับอันตราย”

 

 

“เดิมทีพวกเขาก็เป็นคนป่วย ยาปลอม เหล้าปลอม นมผงปลอม วัคซีนปลอม ของปลอมเยอะขนาดนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ไม่ใช่ว่ายังมีชีวิตอยู่ดีกันหรอกเหรอ ผมคิดค้นยาต้านมะเร็งตัวหนึ่งให้พวกเขาลองดูว่าเป็นยังไง ซึ่งมันไม่สำเร็จ แต่หากมันสำเร็จขึ้นมาก็จะกลายเป็นปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนี้”

 

 

เจียงไป่อันโบกสะบัดมือด้วยท่าทางฮึกเหิมอย่างแรงกล้า

 

 

เหอสือกุยคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าบนโลกนี้จะยังมีคนที่หน้าด้านไร้ยางอายถึงจุดนี้

 

 

เขาเอ่ย “แต่ว่าคนที่ลองใช้ยาพวกนั้นมีบางคนที่ไม่ได้เป็นมะเร็งตั้งแต่แรก”

 

 

เจียงไป่อันพูดปัดอย่างชัดเจน “นั่นจะมาโทษผมได้ยังไง มันเป็นความผิดพลาดในการตรวจของโรงพยาบาลแล้ว เกี่ยวอะไรกับผม ผมก็แค่ร่วมมือกับโรงพยาบาลพวกเขา ให้พวกเขาใช้ยากับตัวผู้ป่วยโรคมะเร็ง คุณจะมาโทษผมก็ไปโทษโรงพยาบาลสิ มาโทษผมไม่ได้”                                                         

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 392 ผมชอบกินเสี่ยวอวี๋ (2)

 

 

“ในเมื่อคุณคิดว่าตัวเองไม่มีความผิดอะไรแต่กลับคิดว่าเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เสียด้วย งั้นคุณมาหาผมทำไม” คนผู้นี้ช่างเกินเยียวยาเสียจริงๆ เหอสือกุยรู้สึกว่าตนเองไม่น่าจะหวังให้เกิดโชคที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมาโดยหวังว่าเขาจะยังมีความรู้จักผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง”

 

 

“เหอสืกุย คุณเป็นหมอ คุณรู้ไหมว่ายาหนึ่งตัวจำเป็นต้องทอดลองสักกี่ครั้งจึงจะสำเร็จได้ ตอนนี้ยาก็แค่อยู่ในขั้นตอนการทดลอง แต่จะต้องมีสักวันหนึ่งที่เสร็จสมบูรณ์ ขอเพียงคุณบอกตำรวจว่าไม่มีใครผลักคุณทั้งนั้น เป็นตัวคุณเองที่ไม่ทันระวังจนลื่นล้มตกลงไปในทะเล ถ้าเป็นอย่างนั้นผมสามารถรับประกันว่าคุณกับอวี๋กานกานลูกศิษย์คุณจะไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย”

 

 

ในทางกลับกันถ้าไม่ตกลงเขาก็จะแก้แค้นไปถึงตัวอวี๋กานกานด้วย

 

 

เหอสือกุยต้องรู้อยู่แล้วว่านี่คือคำขู่ของเจียงไป่อัน

 

 

แต่ว่าเขาไม่มีทางรับปากอย่างเด็ดขาด มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป เจียงไป่อันไม่เห็นชีวิตของคนอื่นอยู่ในสายตาแบบนี้ จะต้องปรับปรุงยาต้านมะเร็งพวกนั้นตามใจชอบและแจกจ่ายไปตามโรงพยาบาลเพื่อทดลองยาโดยฝ่าฝืนกฎหมายอีกครั้งอย่างแน่นอน

 

 

นอกจากนี้เขาก็รู้ว่ายัยลูกศิษย์ของเขาไม่มีทางเห็นด้วยที่เขาจะทำเพื่อความปลอดภัยของเธอด้วยการทำเรื่องที่ไร้หลักการที่ไม่เหมาะสมแบบนี้

 

 

เหอสือกุยปฏิเสธออกไปแล้วลุกขึ้นทำท่าทางส่งแขก “ผู้อำนวยการเจียง เชิญครับ”

 

 

หนักแน่นขนาดนี้ทำให้เจียงไป่อันมีสีหน้าเคร่งเครียด เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เหอสือกุย ดูเหมือนคุณจะเป็นศัตรูกับผมจริงๆ สินะ คุณคงจะนึกว่าลูกศิษย์ของคุณเกาะฟังจือหันได้แล้ว ผมจะไม่มีวิธีมาจัดการกับพวกคุณ คุณไม่กลัวตายอีกครั้ง หรือคุณอยากจะให้ลูกศิษย์คุณตายตามคุณไปด้วยเหรอ ฟังจือหันไม่สามารถอยู่ข้างกายเธอได้ทุกวันหรอก”

 

 

เขาฟึดฟัดเดินจากไปด้วยสีหน้าอย่ามองข้ามความหวังดี

 

 

เหอสือกุยแววตานิ่งขรึม

 

 

รอจนกระทั่งเจียงไป่อันออกไป เขาก็พึมพำออกมา “ฟังจือหัน? ยัยเด็กนั่นกับเขาสนิทกันมากเหรอ”

 

 

เฉียวพั่นเอ๋อร์กำลังรออยู่ด้านนอก

 

 

พอเจียงไป่อันออกมา เธอก็ปรี่เข้าไปหาโดยเร็ว “ผอ.เจียง เป็นยังไงบ้าง เหอสือกุยตกลงแล้วเหรอ”

 

 

“เหมือนครั้งที่แล้วไม่มีผิด”

 

 

“งั้นทำยังไงดี”

 

 

“เขาไม่มีหลักฐาน ไม่งั้นก็คงไม่รอให้ถึงตอนนี้ แต่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยสักอย่างหรอก” เขามองพร้อมกับถามเฉียวพั่นเอ๋อร์ “เธอรีบกลับไปทำลายข้อมูลของทุกคนทิ้งให้หมดเลย จะเหลือร่องรอยให้คนมาเจอไม่ได้เด็ดขาด”

 

 

เฉียวพั่นเอ๋อร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยพยักหน้ารับ “ทำลาย…ไปหมดตั้งนานแล้ว”

 

 

ที่จริงไม่ใช่เลยสักนิด ตอนนั้นเธอคิดว่าเหอสือกุยตายไปแล้ว เรื่องนี้ก็คงไม่มีคนรู้อีก มีแค่เธอ พ่อกับเจียงไป่อันที่รู้

 

 

เหลือหลักฐานบางอย่างทิ้งเอาไว้เพื่อเป็นการออมมือเอาไว้ เกรงว่าเจียงไป่อันจะทำตัวพอข้ามแม่น้ำได้ก็รื้อสะพานเสีย

 

 

หลักฐานเหล่านั้นถูกเธอเก็บใส่กุญแจเอาไว้ นอกจากเธอก็ไม่มีใครรู้อีกแล้ว ขอเพียงเจียงไป่อันไม่เสร็จนาฆ่าโคศึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล หลักฐานเหล่านั้นก็ไม่มีทางปรากฏออกมาตลอดกาล ซึ่งก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกับการถูกทำลายไปเลย

 

 

เจียงไป่อันก็ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดแปลกของเฉียวพั่นเอ๋อร์ เหอสือกุยไม่ยอมเชื่อฟังดีๆ เขาจำเป็นต้องคิดอีกทางเลือกและอีกทางเลือกนั้นเทียบไม่ได้เลยกับการที่เขาเข้าควบคุมบริษัทยาไป๋ฟัง

 

 

ตอนนี้ก็มาดูเรื่องนั้นแล้ว

 

 

หากสำเร็จขึ้นมา บริษัทยาไป๋ฟังเป็นของเขา ผู้สืบทอดตระกูลเจียงก็คงเป็นเขา

 

 

ในช่วงเวลานี้เขาจะอดทนกับความเจ็บปวดและอับอาย เขาจะต้องทำให้ฟังจือหันได้รับรู้รสชาตินี้ด้วยเช่นกัน

 

 

จะทำให้ชื่อเสียงของเขาป่นปี้ หลังจากนี้ไม่มีหน้ามาสืบทอดตระกูลเจียงอีกแน่

 

 

 

 

ตอนที่อวี๋กานกานไปหาฟังจือหัน เขากำลังประชุมอยู่ ผู้ช่วยจึงจัดการให้เธอไปรอในห้องทำงานของฟังจือหันอย่างรวดเร็ว

 

 

ในห้องทำงานเงียบกริบ อวี๋กานกานยืนอยู่ข้างตู้วางหนังสือก็เห็นหนังสือชุดแถวหนึ่ง

 

 

สมแล้วที่เป็นบริษัทยา เก็บสะสมหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์ล้วนๆ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset