ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 417 รักผมจนหลง ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่แต่ง (7) / ตอนที่ 418 รักผมจนหลง ถ้าไม่ใช่ผมไม่แต่ง (8)

ตอนที่ 417 รักผมจนหลง ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่แต่ง (7)

 

 

“ฉันจะอยู่กับเสี่ยวอวี๋ตลอดไปแน่นอน เราจะอยู่ด้วยกันตลอดเลย” เสียงของเด็กชายนิ่งเรียบแผ่วเบา แต่น้ำเสียงกลับหนักแน่นและชัดเจนมาก

 

 

รอยยิ้มของเด็กสาวประกายหิมะขาวทั่วท้องฟ้า “ฉันก็จะอยู่กับพี่เจียงตลอดไป เสมอมา…มีพี่เจียงอยู่ ฉันก็ไม่ต้องกลัวคนเลวอีกแล้ว”

 

 

“คนเลว” สองคำนี้ทำให้ภาพในฝันแปรเปลี่ยน

 

 

ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่พลันปรากฏ ทุกอย่างในฝันโกลาหลในชั่วขณะ เด็กชายจูงมือเด็กสาววิ่งหนีบนลานหิมะอย่างสุดชีวิต วิ่งไปโดยไม่หยุด…

 

 

หนาวเหน็บ

 

 

ดิ้นรน

 

 

ร้อนใจ

 

 

สิ้นหวัง

 

 

เด็กหญิงวิ่งด้วยความรีบร้อนเกินไป พลันล้มลงบนพื้นน้ำแข็งอย่างแรง

 

 

ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ทั้งสองคนนั้นถือโอกาสเข้ามาจับเธอ เด็กหนุ่มกระโจนเข้าไปสู้กับชายหนุ่มทันที แต่เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของชายหนุ่มได้ยังไงกัน

 

 

เด็กหนุ่มถูกผลักลงพื้นอย่างแรง แต่เขาก็ไม่ได้หวาดหวั่น กระโจนไปเหมือนสิงโตน้อยที่คลุ้มคลั่ง…

 

 

ภาพวุ่นวาย แตกเป็นเสี่ยงแล้ว

 

 

หิมะกับเลือด ปรากฏพร้อมกัน ละลาย

 

 

นี่มันฝันอะไร

 

 

เหมือนฝันที่ไม่ใช่ฝัน เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเป็นแค่ฝันแต่กลับสมจริงเสียอย่างนั้น

 

 

ทำให้เกิดความรู้สึกว่าตัวอยู่ในหิมะอันหนาวเหน็บ

 

 

อวี๋กานกานตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย เหมือนจะมึนงงอยู่ในหัว เธอเหนื่อยและง่วงมาก พลิกตัวนอนอีกครั้ง

 

 

เหอสือกุยเห็นเกือบจะกลางวันแล้วแต่อวี๋กานกานยังไม่ตื่นมาเลย จึงเคาะประตูเรียกให้ตื่น

 

 

เคาะประตูอยู่นานแต่ไม่มีเสียงตอบรับเลยสักนิด

 

 

เหอสือกุยค่อนข้างเป็นห่วงอวี๋กานกานจึงก้าวเข้าไปในห้อง

 

 

อวี๋กานกานนอนใต้ผ้าห่มเหมือนกำลังฝันร้าย ขมวดคิ้ว เหงื่อออกเต็มใบหน้า

 

 

เหอสือกุยเรียกอยู่หลายครั้ง “แม่หนู ยัยหนู อวี๋กานกาน…”

 

 

อวี๋กานกานก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร

 

 

เขานั่งลงข้างเตียงพลางยื่นมือไปแตะที่หน้าผากของอวี๋กานกาน ตัวร้อนมาก เขารีบหยิบกล่องยาของอวี๋กานกานมา ด้านในมียาที่อวี๋กานกานปรุงเองไว้รักษาอาการเป็นหวัด

 

 

ตอนที่โดนเหอสือกุยประคองให้กินยา อวี๋กานกานเบลออยู่บ้าง พึมพำด้วยเสียงอ่อนแรง “พี่เจียงคะ…”

 

 

สามคำนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหอสือกุยได้ยิน เขาก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ เพียงแค่เรียกไปเบาๆ “แม่หนู กินยาดีๆ กินเสร็จแล้วนอนพักก็จะดีขึ้น”

 

 

สุดท้ายก็ไม่ได้เวียนหัวจริงๆ เพียงแค่เบลอไปบ้าง อวี๋กานกานค่อยๆ เห็นคนข้างเตียงชัดเจน เธอเรียกด้วยเสียงเบา “อาจารย์…”

 

 

เหอสือกุยตอบรับ “อืม”

 

 

“คุณพ่อของฉัน”

 

 

คนป่วยกลับยังส่งยิ้มล้อเลียนเขาอยู่

 

 

เหอสือกุย “…”

 

 

เขามองเธออย่างคาดโทษ หลังจากนั้นก็ป้อนยาใส่ปากเธอ

 

 

อวี๋กานกานก็กินยาตามที่เหอสือกุยป้อน และนอนลงบนเตียงผ้าฝ้ายนุ่ม ทั้งตัวดูแล้วไร้เรี่ยวแรงมาก ไม่นานก็นอนหลับสนิทไป

 

 

เหอสือกุยนั่งอยู่ข้างเตียง มองอวี๋กานกานที่นอนใต้ผ้าห่มอย่างน่าสงสาร ดูอ่อนแอ่ ในใจนึกเสียใจที่ตนเองตามใจ

 

 

เมื่อวานเขาไม่ควรให้แม่หนูนี่ไปหาฟังจือหัน ยังอดทนจนดึกกว่าจะกลับมา เธอไม่ป่วยสิแปลก

 

 

แต่เขาบอกไม่ให้เธอไป แล้วเธอจะไม่ไปเหรอ

 

 

เวลาสามเดือนได้เจอกับสาวน้อยของเขาอีกครั้ง เธอยังคงดูเหมือนเช่นแต่ก่อน แต่กลับมีบางที่ที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว

 

 

โทรศัพท์ของอวี๋กานกานที่วางอยู่หัวเตียงพลันส่งเสียงขึ้นมา

 

 

เหอสือกุยเผลอมองแวบหนึ่ง ชื่อของคนที่โทรมาปรากฏว่า : ฟังจือหัน

 

 

ดวงตาของเขานิ่งขรึมเล็กน้อย ผู้ชายที่ชื่อฟังจือหันคนนี้ แค่มองก็คือคนที่ใจดำ อ่านยาก ความคิดเหมือนมหาสมุทร ไม่ใช่คนดีอะไรจริงๆ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 418 รักผมจนหลง ถ้าไม่ใช่ผมไม่แต่ง (8)

 

 

โทรศัพท์ดังอยู่เรื่อยๆ เหมือนว่าไม่รับก็จะดังต่อไป อวี๋กานกานที่เพิ่งจะหลับลึกไปเมื่อสักครู่ ขมวดคิ้วเหมือนมีท่าทางได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว

 

 

สุดท้ายเหอสือกุยยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ของอวี๋กานกานเดินออกไปรับสายที่ห้องรับแขก “สวัสดีครับ คุณฟัง”

 

 

คนที่อยู่อีกด้านของสายเงียบไปครู่หนึ่ง เสียงเย็นชาดุจหยกถึงค่อยดังขึ้นมา “เขาล่ะครับ”

 

 

เหอสือกุยตอบตามความเป็นจริง “กานกานป่วยแล้ว เมื่อกี้เพิ่งกินยาแล้วนอนหลับไป”

 

 

เงียบไปพักหนึ่ง เขาจึงเอ่ยขึ้นมา “ขอบคุณคุณฟังมากที่ช่วยรับดาบแทนกานกาน”

 

 

“ผมช่วยเธอนั่นสมควรแล้วครับ”

 

 

ความหมายในคำพูดของฟังจือหันชัดเจนไปมาก แต่เหอสือกุยกลับเพียงหัวเราะ “คุณฟังช่างถ่อมตัว”

 

 

“คุณเป็นอาจารย์ของเธอ คุณปลอดภัยกลับมา พวกเราน่าจะเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ”

 

 

สุภาพเรียบร้อยเพียงแค่เบื้องหน้า แววตาเหอสือกุยเยือกเย็น “ถ้าบอกเลี้ยงข้าว ก็ควรจะเป็นผมกับกานกานที่เลี้ยงคุณ คิดว่าเจ้าหน้าที่โจวก็คงบอกคุณแล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะเจียงไป่อันทดลองยาอย่างผิดกฎหมาย เป้าหมายของเจียงไป่อันคือผม เมื่อวานโชคดีมากที่มีคุณฟังจริงๆ”

 

 

ฟังจือหันกลับไม่ได้แย้งว่าใครเลี้ยงกันแน่ ดูเหมือนน้ำเสียงเฉยเมยแต่ทุกคำกลับไม่ยอมให้ก้าวก่ายเลย “งั้นพรุ่งนี้ตอนกลางวัน ผมจะให้ผู้ช่วยจัดการสถานที่ให้”

 

 

ช่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก แก้ปัญหาตรงจุดก็ตัดสินใจทั้งหมด ไม่ได้ให้โอกาสเหอสือกุยได้ปฏิเสธใดๆ เลยสักนิด

 

 

หลังจากนั้นก็ขอวางสายไปอย่างมีมารยาท

 

 

เหอสือกุยถือโทรศัพท์เอาไว้ แววตาลึงซึ้งค่อยๆ ปล่อยรัศมีที่ยากจะหยั่งถึงได้

 

 

 

 

อวี๋กานกานกินยาแล้วนอนหลับไปตื่นหนึ่ง ตอนบ่ายตื่นขึ้นมาไข้ก็ลดลงไปมากแล้ว ไม่เวียนหัว ร่างกายก็ผ่อนคลายแล้ว

 

 

เพียงแต่หิวมาก

 

 

เหอสือกุยเคี่ยวน้ำข้าวต้มที่อุ่นอยู่ในหม้อ พอเธอตื่นมาก็จะได้กินพอดี เขาตักใส่ชามหนึ่งให้อวี๋กานกาน “ตอนนี้ก็ซดโจ๊ก ใกล้จะกินมื้อเย็นแล้ว”

 

 

อวี๋กานกานพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม “ได้ค่ะ ขอบคุณอาจารย์เหม่ยเหรินมาก”

 

 

อาจารย์ของเธอคนนี้ดีจริงๆ อ่อนโยนและใส่ใจ ขึ้นหอประชุมได้ เข้าครัวก็ได้ ฆ่าม้าโทรจันก็ได้ พลิกกำแพง เปิดคลินิก หรือต่อสู้กับอันธพาล

 

 

หลังจากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะยอมให้กับสาวคนไหน

 

 

อวี๋กานกานหิวจริงๆ เลย ซดโจ๊กไม่กี่ครั้งก็หมดชาม เธอส่งชามไปตรงหน้าให้เหอสือกุยพลางเอ่ยอย่างเกียจคร้าน “ท่านอาจารย์ ฉันยังอยากกินอีกชามค่ะ”

 

 

เหอสือกุยส่งยิ้มงดงาม

 

 

เขาหยิบชามลุกขึ้นไปห้องครัวเพื่อตักให้อวี๋กานกานอีกหนึ่งชาม “กินสองชามก่อน รออีกสักพักก็กินข้าวแล้ว”

 

 

“อืม”

 

 

อวี๋กานกานรับชามมา ซดโจ๊กไปพลางพึมพำไปพลาง “อาจารย์เหม่ยเหริน คุณก็อายุมากแล้ว ก็ถึงเวลาที่ควรจะแต่งงานได้แล้ว แบบนี้ต่อไปฉันก็จะได้เรียกให้สะใภ้คุณมาตักโจ๊กให้”

 

 

แต่ก่อนเธอทุ่มเทกับการเรียนทั้งใจ ตนเองไม่มีความรัก และไม่เคยคิดว่าอาจารย์ถึงช่วงอายุหนึ่งแล้วก็ควรจะมีภรรยา ลูกครอบครัวอบอุ่นได้แล้ว

 

 

ผ่านอุบัติเหตุในครั้งนี้ไปเธอรู้สึกว่าอาจารย์ก็ควรจะแต่งงาน มีครอบครัวจริงๆ หาภรรยาสักคนมาดูแลเขา

 

 

เสียงของอวี๋กานกานเบามาก เกือบจะไม่ได้ยินแล้ว

 

 

เหอสือกุยเริ่มแล้ว ยังไม่ทันฟังให้ดี “เธอว่าอะไรนะ”

 

 

อวี๋กานกานเอ่ยพร้อมกับยิ้มเผล่ แต่ไม่กล้าพูดอีกเป็นรอบที่สอง “ฉันบอกว่ารุ่นพี่จังซ่ากับรุ่นพี่เฉินฝูหลีสองคนนั้นต่างก็ค่อนข้างเป็นห่วงคุณมาก ทุกคนอยู่ที่เมืองหลวงกันหมด เราจะนัดกินข้าวกับพวกเขาดีหรือไม่คะ”

 

 

เหอสือกุยปฏิเสธไป “ฉันโทรหาพวกเขาเรียบร้อยแล้ว รอให้พวกเขากลับไป๋หยางค่อยนัดกัน”

 

 

“อาจารย์เหม่ยเหรินกลัวเจอรุ่นพี่จังซ่าใช่ไหม ฮี่ๆ…” อวี๋กานกานพูดพลางเอนกายไปทางด้านหลังเหมือนกลัวเหอสือกุยจะตีเธอที่นินทาอย่างนั้น

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset