ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 419 รักผมจนหลง ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่แต่ง (9) / ตอนที่ 420 รักผมจนหลง ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่แต่ง (1

ตอนที่ 419 รักผมจนหลง ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่แต่ง (9)

 

 

เหอสือกุยส่ายหน้า ถามอย่างจนปัญญา “หลายปีก่อนรุ่นพี่จังซ่าของเธอได้บอกไว้ว่าจะไม่ชอบฉันอีกแล้ว เธอทำไมยังจำเรื่องนี้ได้อีก”

 

 

อวี๋กานกานขมวดคิ้ว พูดอย่างหงุดหงิด “ฉันกลัวว่าคุณจะโดนรุ่นพี่เฉินฝูหลีจีบไป ถ้าพวกคุณคบกันก็ต้องมีหลานให้คุณปู่ ฉันรับปากคุณปู่ไว้แล้วว่าจะช่วยดูแลคุณ ถ้าคุณไม่อยากแต่งงานก็ต้องคัดเชื้ออสุจิไว้เกิดคนหนึ่ง”

 

 

เหอสือกุยอดกลั้น เรียกชื่อเธอในทันที “อวี๋กานกาน”

 

 

เขาเลี้ยงยายเด็กคนนี้มายังไงกันแน่ เห็นอยู่ชัดๆ ที่คิดว่าเลี้ยงไปในทางที่มีแนวโน้มไปทางอ่อนหวานน่ารัก ร่าเริงฉลาดหลักแหลม ใส่ใจและเข้าใจ

 

 

ทำไมเลี้ยงมาเป็นผู้ใหญ่แบบนี้ ไม่มีอะไรห้ามเลย

 

 

เก็บเชื้ออสุจิก็พูดออกมาหมด รู้ตั้งนานแล้วว่าไม่ควรให้เธอเรียนหมอ

 

 

อวี๋กานกานพูดอย่างหนักแน่น “เรื่องนี้ไม่ได้ปรึกษา หลาน คุณรีบมีหลานสักคนให้คุณปู่”

 

 

เหอสือกุยค่อนข้างจะพูดไม่ถูก “ทำไมเธอถึงจัดฉันกับเฉินฝูหลีว่าคบกันล่ะ”

 

 

“เพราะว่าพวกคุณให้ความรู้สึกว่าเป็นคู่ชายชายแบบทั้งรักทั้งเกลียด ซ่งฉาไป๋บอก” ในเวลานี้ไม่ดึงเพื่อนซี้มาขวางปืนยิ่งต้องรอเมื่อไหร่

 

 

เหอสือกุยยกแก้วชาขึ้นมาจิบสักหน่อย จากนั้นก็พูดกับอวี๋กานกานอย่างจริงจัง “อาจารย์ของเธอไม่มีทางหาแฟนหนุ่มหรอก ส่วนภรรยากับลูกน่ะจะมี แต่ว่าต้องรออีกหลายปี”

 

 

อวี๋กานกานมีสีหน้ากังวล “อาจารย์เหม่ยเหริน คุณก็ไม่ลองมองว่าตอนนี้คุณโตเท่าไหร่แล้ว อายุจะสามสิบอยู่แล้ว คุณยังต้องใช้เวลาอีกกี่ปีกัน”

 

 

เหอสือกุย “…”

 

 

เรียกเขาว่าคุณพ่ออยู่บ่อยๆ ลูกสาวบ้านไหนเร่งให้พ่อแต่งงานแล้ว?

 

 

อวี๋กานกานยังพูดต่อ “อาจารย์รูปหล่อ รุ่นพี่จังซ่ายังคงยอดเยี่ยมมาก รุ่นพี่ผู้หญิงมากขนาดนั้นก็คิดว่าเธอเหมาะสมกับคุณที่สุด เธอทั้งสวยทั้งใจดี ซ่งฉาไป๋มาเมืองหลวงในครั้งนี้ก็ขอบคุณเธอเลยจริงๆ ผู้หญิงนิสัยดีแบบนี้ อยู่สายอาชีพเดียวกับคุณพอดีอีก พวกคุณต่างก็พูดจาภาษาเดียวกัน ลองพิจารณาเรื่องการคบหาสักหน่อยได้จริงๆ นะคะ”

 

 

เหอสือกุยหลุดยิ้ม “คำพูดพวกนี้เธอเคยพูดกับจังซ่าไหม”

 

 

อวี๋กานกานส่ายหน้า “ยังไม่เคยค่ะ”

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะการหายตัวไปของอาจารย์รูปหล่อ ตอนที่เธอเจอหน้าจังซ่าก็คงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาตั้งนานแล้ว

 

 

ชีวิตของหมอแวดวงแคบมาก วิถีชีวิตก็จืดชืดเกินไป นอกจากเพื่อนร่วมงานที่ได้พบเจอทุกวันก็คือคนไข้ จะไปหาแฟนสาวจากที่ไหนกัน

 

 

ถึงอย่างไรพวกเขาต่างก็โสดกัน และรู้ไส้รู้พุง แต่ก่อนรุ่นพี่จังซ่าก็ชอบอาจารย์รูปหล่อ เธอคิดว่าลองดูได้จริงๆ

 

 

เหอสือกุยถามเธอ “ตอนนี้จังซ่าชอบเฉินฝูหลี เธอดูไม่ออกจริงเหรอ”

 

 

อวี๋กานกานอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ไม่เชื่อสุดขีด “รุ่นพี่จังซ่า…ชอบรุ่นพี่เฉินฝูหลีเหรอคะ จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง พวกเขาสองคนเจอหน้ากันก็มักจะขุ่นเคืองใจกัน”

 

 

เหอสือกุยมองหน้าตาสับสนมึนงงของเธอก็หลุดหัวเราะ “เอาเถอะ ไม่ต้องสนใจเรื่องของฉัน พรุ่งนี้กินข้าวกับคุณฟังเสร็จแล้วพวกเราก็กลับเมืองไป่หยาง”

 

 

“พรุ่งนี้กินข้าวกับฟังจือหันเหรอคะ” หัวข้อนี้ถูกเปลี่ยนไปจนอวี๋กานกานตามไม่ทัน

 

 

เหอสือกุยตอบไปอย่างไม่ใส่ใจ “อืม ตอนที่เธอป่วย เขาโทรศัพท์มา บอกว่าจะเลี้ยงข้าวพวกเรา ฉันคิดว่าเขาช่วยชีวิตเธอไว้เชียว ถ้าจะเลี้ยงก็ควรจะเป็นพวกเราที่เลี้ยงข้าวเขาเพื่อแสดงความขอบคุณ”

 

 

อวี๋กานกานนึกขึ้นได้อย่างรวดเร็วถึงประโยคที่ฟังจือหันเคยบอกกับเธอ  ขอเพียงพวกเราเลี้ยงข้าวเขาสักมื้อ งั้นอาจารย์ของคุณก็จะเข้าใจอะไรไปได้โดยปริยายเลย

 

 

อาหารมื้อนี้ของฟังจือหัน ไม่ใช่เขาเลี้ยงเธอกับอาจารย์

 

 

แต่เป็นเธอกับฟังจือหันเลี้ยงอาจารย์รูปหล่อด้วยกัน

 

 

อวี๋กานกานขบริมฝีปาก มีสีหน้าพร้อมเสี่ยงทุกอย่างและเรียกด้วยเสียงเบา “อาจารย์คะ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 420 รักผมจนหลง ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่แต่ง (10)

 

 

อวี๋กานกานขบริมฝีปาก มีสีหน้าพร้อมเสี่ยงทุกอย่างและเรียกด้วยเสียงเบา “อาจารย์คะ”

 

 

แม้จะพูดถึงตอนกินข้าว แค่เห็นอาจารย์ก็จะเข้าใจแล้ว แต่เธอยังคงรู้สึกว่าควรจะบอกเรื่องเธอกับฟังจือหันล่วงหน้าเสียดีกว่า

 

 

“เรื่องนั้น ฉันกับฟังจือหัน…”

 

 

คำพูดของเธอยังไม่ทันได้พูดจบ เหอสือกุยพลันแทรกขึ้นมา “อาจารย์ไม่หวังให้เธอกับฟังจือหันติดต่อกันมากเกินไป”

 

 

อวี๋กานกานเอ่ยถามอย่างไม่สบายใจ “อาจารย์คะ คุณไม่ชอบฟังจือหันเหรอ”

 

 

“ไม่ได้ไม่ชอบอะไร เขากับพวกเราอยู่กันคนละโลก รอให้พวกเรากลับเมืองไป๋หยาง กลับไปใช้ชีวิตของพวกเราเอง ถึงตอนนั้นก็คงไม่ได้ติดต่ออะไรกับเขาอีกแล้ว”

 

 

น้ำเสียงของเหอสือกุยพลันเยือกเย็น ต่อให้ยังคงอ่อนโยน แต่ทุกประโยคทุกคำล้วนไม่อ่อนโยนเลย

 

 

อวี๋กานกานไม่ทันได้คิดอะไรจึงพูดโพล่งออกไป “แต่ว่าฉันชอบเขาค่ะ!”

 

 

เหอสือกุยอึ้งไปเรียบร้อย ไม่คาดคิดเลยสักนิดว่าอวี๋กานกานจะสารภาพถึงผู้ชายคนหนึ่งอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ “…”

 

 

ดวงหน้าของอวี๋กานกานเขินอายจนแดงระเรื่อ แต่ท่าทีกลับหนักแน่นมาก “อาจารย์รูปหล่อคะ ตอนนี้เขาเป็นแฟนของฉัน ฉันชอบเขา และฉันก็หวังว่าอาจารย์จะชอบเขาด้วย”

 

 

แววตาของเหอสือกุยหม่นลง “เธอเชื่อใจเขาแล้วเหรอ”

 

 

“เขาเป็นวิชาใหม่ที่ฉันชอบที่สุดในตอนนี้ ฉันเตรียมพร้อมตั้งใจเรียน ทุ่มเทเต็มที่ และตั้งใจค้นคว้า”

 

 

“ในเมื่อเธอตัดสินใจไปแล้ว งั้นฉันชอบหรือไม่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรอีก”

 

 

น้ำเสียงของอาจารย์รูปหล่อยังคงสุขใจชัดเจน แต่มุมปากกลับฉายรอยยิ้มเยือกเย็นเล็กน้อย

 

 

“อาจารย์คะ คุณเป็นญาติของฉัน แน่นอนว่าฉันหวังให้คุณชอบ” ทั้งสองมือของอวี๋กานกานกุมใบหน้าพลางขยับเข้ามาใกล้ตรงหน้าเขา ตั้งตาคอยอย่างน่ารัก “อาจารย์รูปหล่อ แม้เขาจะเป็นคนของตระกูลเจียง แต่ว่าคนของตระกูลเจียงที่จริงก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียหมด”

 

 

เหอสือกุย “…”

 

 

“ปู่เจียงดูชอบใช้อารมณ์ จอมวางมาดเหมือนชายแก่คนหนึ่งที่เย่อหยิ่งและน่ากลัว แต่ที่จริงเขาเป็นคุณปู่ที่โดดเดี่ยวคนหนึ่ง เขาฟาดฟันอยู่ในแวดวงธุรกิจอยู่หลายปี ล้วนรักษาความตั้งใจแรกกับหลักการเอาไว้ได้ ความแข็งกระด้างไร้เหตุผล อวดดีน่าชังที่เขาทุกทั้งหมดต่างก็เพื่อพยุงทั้งสกุลเจียงเอาไว้”

 

 

“เจียงฉี่ดูบอบบาง ร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง เหมือนดอกไม้สีขาวเล็กๆ ดอกหนึ่งที่น่าสงสาร อาจจะสวยงามเกินไป ผู้หญิงหลายคนต่างก็ไม่ชอบหญิงสาวที่อ่อนโยนบอบบาง คิดว่าพวกเธอต่างก็ชอบพาลชอบเสแสร้ง แต่ที่จริงเจียงฉี่เธอเป็นคนที่นิสัยดื้อรั้นคนหนึ่ง ค่อนข้างกตัญญูรู้ความ เป็นเด็กสาวที่ดีที่ทะนุถนอมความรู้สึก”

 

 

“ตอนที่ฉันเริ่มรู้จักฟังจือหัน ฉันก็ไม่ค่อยชอบเขา คิดว่าเขาฉลาดเสียจนน่ากลัว ไม่คิดว่าจะคบกับเขาได้เลยสักนิด แต่ว่าโดยที่ไม่ทันรู้ตัวก็ไม่รู้ทำไมความรู้สึกยึดครองหัวใจไปแล้ว”

 

 

“แต่ก่อนฉันเคยบอกว่าฟังจือหันก็ไม่ได้ถือว่าเติบโตในตระกูลเจียง เขาไม่สนิทกับคนตระกูลเจียง ความจริงเขาก็รู้ว่าที่ปู่เจียงเลือกให้เขาเป็นผู้สืบทอดก็ไม่ใช่เพราะว่าชอบเขามาก เพียงเพราะภาระหนักหนานี้ของตระกูลเจียงมีแค่เขาที่รับไหว แต่ว่าเขายังคงรับปาก เจียงฉี่เป็นน้องสาวต่างแม่ของเขา และยังเกี่ยวข้องกับการตายของแม่เขา ต่อให้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดแต่เขาก็ไม่ได้อยากจะติดต่อเจียงฉี่นัก แต่พอเจียงฉี่มีปัญหา ขอเพียงไปหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ เขาก็ไม่ปฏิเสธ เฉยชาไม่สนใจก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่เขาแกล้งทำ เขาเป็นคนดีมากจริงๆ”

 

 

เหอสือกุยฟังอยู่เงียบๆ มุมปากหยักเป็นรอยยิ้มขมขื่นอย่างเอื่อยเฉื่ย

 

 

อวี๋กานกานกุมมือเขาเอาไว้ “อาจารย์คะ คุณเข้าใจหน่อยก็จะพบว่าเขาเป็นผู้ชายที่สามารถไว้ใจได้ตลอดชีวิตจริงๆ”

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset