ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 423 งง! นี่พวกเขาหมายถึงฉันเหรอ / ตอนที่ 424 เสแสร้งเล่นละครของสองบอส

ตอนที่ 423 งง! นี่พวกเขาหมายถึงฉันเหรอ

 

 

ภายในห้องที่เงียบสงบทุกคนต่างก็ไม่พูดอะไรมากมายจนเลี่ยงความวังเวงไม่ได้

 

 

อวี๋กานกานรู้สึกว่าตัวเองตอนคุยแยกกับพวกเขาสามารถคุยได้มากกว่านี้ แต่พออยู่ด้วยกันสามคนเธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน

 

 

อยากให้บรรยากาศมีชีวิตชีวามากขึ้นแต่ก็ยิ้มจนปากจะกระด้างอยู่แล้ว

 

 

ตอนเด็กเสิร์ฟนำไวน์มาวางบนโต๊ะ อวี๋กานกานถอนหายใจ “ขับรถมากันทั้งนั้น ไม่ดื่มแล้วได้ไหม”

 

 

เหอสือกุยที่ใบหน้าเจือรอยยิ้มจางตลอดเวลาเลื่อนหมุนจานบนโต๊ะ “เลี้ยงข้าวก็ต้องมีดื่มบ้างเป็นธรรมดา”

 

 

เขายกไวน์รินใส่แก้วสองใบราวกับจะทักทายเหมือนเป็นเจ้าภาพก็มิปาน “คุณฟัง ไม่ต้องเกรงใจนะ”

 

 

ท่าทางแบบนี้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่อยากให้ฟังจือหันเป็นฝ่ายจ่ายเงิน

 

 

และต้องการขีดเส้นให้ชัดเจนระหว่างตัวเองกับอวี๋กานกานและฟังจือหัน

 

 

ฟังจือหันกระตุกมุมปากเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มมองไปที่เหอสือกุย เข้าใจถึงมุมมองในทุกสิ่งอย่าง

 

 

เขายังคงมีท่าทางเย็นชาแล้วเอ่ยอย่างแฝงความนัยว่า “คนที่บ้านของผมคนนั้นเข้มงวดมาก ขอร้องผมหากต้องขับรถก็ไม่อนุญาตให้ดื่ม”

 

 

เหอสือกุยหัวเราะไม่พูดอะไรต่อและไม่บังคับให้ดื่มอีก

 

 

คนที่บ้านคนนั้นหมายถึงใคร อวี๋กานกานรู้ดี “…”

 

 

เขาพูดว่าคนที่บ้านคนนั้นแบบนี้ถ้าเกิดอาจารย์ถามขึ้นมาว่าคนที่บ้านคนนั้นคือใคร เขาจะตอบยังไง

 

 

อีกทั้งมีลับลมคมในต่อหน้าอาจารย์แสดงความรักแบบนี้จะดีจริงๆ หรือ

 

 

หลังจบบทสนทนาทั้งห้องก็ยิ่งเงียบกริบกว่าเดิมอีก โชคดีที่พนักงานเข้ามาเสิร์ฟอาหารเสียก่อน

 

 

เมื่ออาหารมาครบหมดแล้วเหอสือกุยยกแก้วขึ้นมามองไปยังฟังจือหันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนจะพูดว่า “คุณฟัง คุณดื่มเหล้าไม่ได้งั้นก็ดื่มน้ำผลไม้แทนสิครับ แก้วนี้ผมดื่มเพื่อคุณฟังในฐานะที่ผ่านมาดูแลอวี๋กานกานของผม แล้วเมื่อวานคุณยังช่วยกานกานอีก”

 

 

เมื่อกล่าวจบก็ไม่สนว่าฟังจือหันจะมีทัศนคติยังไงจึงยกดื่มรวดเดียวหมด

 

 

ฟังจือหันหัวเราะเบาๆ “ผมบอกแล้วนั่นคือสิ่งที่ผมสมควรทำ…ระหว่างผมกับเธอไม่ควรแยกจากกันชัดเจน”

 

 

ฟังจือหันลอบแสยะยิ้มในใจ อวี๋กานกานของคุณงั้นเหรอ

 

 

อวยตัวเองเก่งจริงๆ

 

 

อวี่กานกานที่กำลังก้มหน้าก้มตาซดซุปไก่สะดุ้งจนสำลัก ทำไมบทสนทนาของทั้งสองถึงฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ นะ

 

 

หลังจากที่เหอสือกุยดื่มสุราในมือจนหมดก็ตักซุปให้อวี๋กานกานถ้วยหนึ่งวางไว้ตรงหน้าของเธอแล้วพูดขึ้น “เมื่อวานเธอเป็นไข้ตัวร้อนร่างกายยังไม่แข็งแรงดี ดื่มซุปรองท้องก่อนบำรุงกระเพาะ”

 

 

อวี๋กานกานยิ้มรับ “ขอบคุณค่ะอาจารย์”

 

 

คิ้วของฟังจือหันงดงามราวภาพวาด นั่งเอนพนักพิงข้างหลังแล้วพูดขึ้นมาเบาๆ “ซุปนี่คนที่บ้านผมคนนั้นชอบกินมากที่สุดเลยครับ”

 

 

มองอวี๋กานกานอย่างลึกซึ้งราวกับจะพูดว่า ซุปนี่ผมสั่งมาให้คุณเป็นพิเศษ

 

 

ตอนอยู่ต่อหน้าเหอสือกุยอวี๋กานกานทำตัวสบายๆ มาก แต่ตอนที่อยู่ต่อหน้าฟังจือหัน อวี๋กานกานมักจะเขินจนหน้าแดงและใจเต้นแรงเสมอ

 

 

เมื่อถูกหยอกจนในเต้นตุบตับ เธอจึงค่อยๆ ลอบมองหน้าเหอสือกุย

 

 

แววตาเหอสือกุยเจือด้วยรอยยิ้มบาง ฟื้นสภาพกลับมาเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว แล้วพุดขึ้นเบาๆ “เด็กน้อย ขอโทษด้วยนะอาจารย์ก็พึ่งนึกได้ขึ้นมาว่าเธอไม่ชอบกินไอ้ซุปแบบนี้เท่าไหร่”

 

 

อวี๋กานกาน “…”

 

 

พวกเขาพูดถึงคนๆ เดียวกันหรือเปล่าเนี่ย

 

 

น่าจะเป็นเธอทั้งนั้นแหละมั้ง

 

 

ทำไมคนหนึ่งบอกเฮชอบกินไอ้นั่น อีกคนบอกไม่ชอบกินไอ้นี่ ที่จริงซุปนี่เธอไม่ถึงกับชอบแต่ก็ไม่ถึงกับเกลียด

 

 

หากคุณไม่สังเกตเห็นความดุเดือดพลุ่งพล่านระหว่างคนทั้งสองในขณะนี้ งั้นก็ไม่ใช่อวี๋กานกานคนช่างสังเกตแล้วล่ะ

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 424 เสแสร้งเล่นละครของสองบอส

 

 

อวี๋กานกานทอดสายตามองเหอสือกุยและฟังจือหัน

 

 

อาจารย์ตั้งใจยั่วยุฟังจือหัน อยากจะทดสองฟังจือหันอย่างนั้นเหรอ

 

 

ขณะที่ฟังจือหันกำลังแสดงอาการหึงหวง ยังไงซะบ้านเขาก็เหมือนเปิดโรงงานน้ำส้มสายชู[1]อยู่แล้วหึงได้ทุกเมื่อ หึงจนไม่ต้องทำมาหากินก็ว่าได้

 

 

ที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องแสดงอาการหึงอาจารย์เลยด้วยซ้ำ ในใจของเธอพวกเขาทั้งสองคนเป็นความรักคนละแบบ

 

 

“อาจารย์เหม่ยเหรินเพลาๆ ดื่มบ้างคงไม่เป็นไรหรอกมั้งคะ”

 

 

อวี๋กานกานถือโอกาสบอกเหอสือกุย จากนั้นมองฟังจือหันเพื่อเป็นการขอโทษ สบตายิ้มให้ฟังจือหัน มอบรอยยิ้มหวานน่ารักอีกทั้งยังแผงความอ้อนนิดๆ หน่อยๆ

 

 

แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผล ฟังจือหันยังคงตีหน้าเย็นชาราวกับหมอก

 

 

เหอสือกุยที่นั่งข้างๆ เอ่ยชม “อวี๋กานกานของบ้านเราเป็นเด็กดีจริงๆ”

 

 

ทั้งคำพูดและการกระทำท่าทางใกล้ชิดสนิทสนม

 

 

ฟังจือหันคีบอาหารใส่ปากเคี้ยวช้าๆ แล้วค่อยกลืน มองไปทางอวี๋กานกานแล้วพูดด้วยท่าทางสบายอารมณ์ “จะว่าไป คุณกับคนที่บ้านผมคนนั้นเหมือนกันมากจริงๆ…”

 

 

อวี๋กานกานที่กำลังซดน้ำซุปก็สำลักอีกครั้ง แล้วไอเสียจนหน้าทำหน้าแดง “แค่กๆๆ…”

 

 

อวี๋กานกานรีบปิดปากเอาไว้ มองฟังจือหันอย่างตกใจ รู้สึกระแวงราวกับกำลังจะบอกว่า ไหนสัญญาว่าจะคบกันไปก่อนไง แล้วทำไมถึงพูดแบบนี้

 

 

เหอสือกุยอมยิ้ม “ถึงจะเหมือนกันแค่ไหนก็ไม่ใช่คนๆ เดียวกันแน่ อวี๋กานกานของฉันยังเด็ก ตอนนี้ยังไม่อยากคิดมีแฟนหรอก”

 

 

ฟังจือหันโค่นล้ม “เด็กกว่าเธอก็เป็นแม่มีลูกไปหลายคนแล้ว เธอก็ควรจะแต่งงานมีลูกได้แล้วมั้งครับ”

 

 

เหอสือกุยประจันหน้า “แฟนอ่ะมีได้ แต่เรื่องแต่งงานคงเอาไว้ก่อน ยังไงซะเธอก็ยังอายุน้อยอยู่”

 

 

เขาพูดพร้อมทั้งมองไปที่อวี๋กานกาน “เธอจะสามารถมีความรักได้กี่ครั้ง”

 

 

อวี๋กานกานอึ้งไปชั่วขณะ “เอ่อ…”

 

 

เหอสือกุยแสดงความใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง “ผู้หญิงต้องมีความรักก่อนถึงจะโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆ มีความรักหลายๆ ครั้ง หาแฟนหลายๆ คนถึงจะรู้ว่าผู้ชายแบบไหนถึงจะเข้ากับตัวเองได้และสามารถหาความสุขที่เหมาะสมกับเธอ”

 

 

อวี๋กานกานหัวเราะแหะๆ อย่างบ๊องๆ เมื่อก่อนอาจารย์ก็เคยพูดไว้เช่นนี้ แต่ตอนนี้มาพูดต่อหน้าฟังจือหันนั้นเหมาะสมแล้วหรือ

 

 

ฟังจือหันไม่แสดงสีหน้าท่าทางใดๆ แต่จู่ๆ ก็ถามขึ้น “คุณอวี๋ครับ ซุปอร่อยไหม”

 

 

ทำไมถึงเรียกว่าคุณอวี๋ล่ะ อาหารก็มีตั้งเยอะตั้งแยะกลับถามเพียงแค่ซุปอร่อยหรือไม่

 

 

เพราะว่าซุปนี่อาจารย์เหม่ยเหรินเป็นคนตักให้

 

 

ยังจะหึงอาจารย์เหม่ยเหรินอีก

 

 

อวี๋กานกานรีบลุกขึ้นเอื้อมตักซุปให้ฟังจือหัน “อร่อย คุณก็ทานเยอะๆ หน่อยสิคะ”

 

 

ฟังจือหันเย้ยหยันที่มุมปาก จู่ๆ ก็มองเธอแล้วพูดว่า “พรุ่งนี้หลินจยาอวี่กับลู่เสวี่ยเฉินจะขึ้นเขาไปแช่น้ำพุร้อน พวกเขาชวนเราไปด้วย พรุ่งนี้ผมจะไปรับคุณ”

 

 

ไม่รอให้อวี๋กานกานได้พูด เหอสือกุยปฏิเสธแทนทันที “ขอโทษด้วยนะคุณฟัง พรุ่งนี้พวกเราต้องกลับเมืองไป๋หยางพอดี”

 

 

ฟังจือหันเอ่ยต่อ “คุณหลินจยาอวี่ชวนทั้งทีแล้วยังชวนคุณอีกด้วยนะครับคุณหมอเหอ”

 

 

เหอสือกุย “…”

 

 

อวี๋กานกานหันมาพูดยิ้มๆ “อาจารย์คะ เอางี้ดีไหมคะหลังกลับจากน้ำพุร้อนเราค่อยกลับเหมืองไป๋หยางด้วยกัน เมื่อก่อนตอนจยาอวี่ได้ยินหนูพูดว่าอาจารย์กลับมาแล้วก็อยากเลี้ยงข้าวอาจารย์ตลอดเลยค่ะ”

 

 

เธอมองเหอสือกุยอย่างมีความหวัง

 

 

เหอสือกุยหรุบตาคิดเงียบๆ ครู่หนึ่งจึงตอบตกลง

 

 

เพราะว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยปฏิเสธอวี๋กานกานได้สักที ถึงแม้เขาจะรู้ดีแก่ใจว่าไม่ใช่เพราะหลิน จยาอวี่อยากเจอเขา แต่เป็นเพราะเธอไม่อยากกลับไปมากกว่า

 

 

 

 

——

 

 

[1] น้ำส้มสายชู  คำแสลงในภาษาจีน หมายถึงหึงหวง

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset