ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 445 ความรักเริ่มจากความเชื่อใจ / ตอนที่ 446 อย่าบอกพี่ชายฉันนะคะ

ตอนที่ 445 ความรักเริ่มจากความเชื่อใจ

 

 

หลินจยาอวี่ตอบ “เวยป๋อของเธอไง”

 

 

“เวอป๋อฉันเหรอ” อวี๋กานกานตกใจ “แต่ฉันไม่มีเวยป๋อนะ”

 

 

“ตอนดูโพสต์เวยป๋ออันแรก ฉันก็คิดว่าคนอื่นแอบอ้าง วันนี้อัพเดตรูปที่มาเที่ยวน้ำพุร้อน ฉันก็คิดว่าเป็นเธอจริงๆก็กดฟอลโลวไปแล้ว สรุปคือ…”

 

 

เพราะหลินจยาอวี่กดฟอลโลวไปทุกคนก็เลยเชื่อทันทีว่านี่คือเวยป๋อของอวี๋กานกาน แฟนคลับเพิ่มขึ้นไม่ถึงหนึ่งวันก็มีแฟนคลับหลายแสนแล้ว

 

 

อวี๋กานกานยิ้มไม่ออกร้องไห้ไม่ออก “ไม่ใช่ฉันจริงๆ”

 

 

“ไม่ใช่เธอจริง งั้นฉันกดอันฟอลโลวก็ได้”

 

 

“อันนี้ก็ตามใจเธอเลย แต่เธอต้องโพสต์เวยป๋อช่วยฉันยืนยันหน่อย บอกว่าฉันตัวจริงไม่เล่นเวยป๋อ”

 

 

“ได้”

 

 

 

 

หลังจากมืออาหารผ่านไป เหอสือกุยเรียกให้อวี๋กานกานออกไปเดินเล่นด้วยกัน

 

 

เขาก็เลยถามถึงกู้ซูหลิง “ผู้หญิงคนนั้นที่มาวันนี้เป็นแฟนเก่าของฟังจือหันเหรอ”

 

 

อวี๋กานกานส่ายหน้า “ไม่ใช่แน่นอนค่ะ เป็นแคนคนที่แอบรักฟังจือหัน วันนี้ฟังจือหันไม่ออกมากินข้าวก็เพราะไม่อยากให้กู้ซูหลิงมารบกวนความสุขจองพวกเราค่ะ”

 

 

“ถ้าไม่ยอมก็ต้องปฏิเสธไปสิ ไม่ต้องไปยุ่งกับพวกเขา” เหอสือกุยพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

 

 

“อาจารย์เหม่ยเหรินไม่รู้ว่าพ่อของกู้ซูหลิงคือกู้เชิน ตอนเด็กๆ ดีกับฟังจือหันมากเสมือนพ่อบุญธรรม ฟังจือหันเลยปฏิเสธเข้าไม่ได้ มีทางเดียวก็คือไม่ให้กู้ซูหลิงมารบกวนความสุขของพวกเราก็คือเขาไม่ออกมา กู้ซูหลิงตั้งใจมาก็เพราะเขา ไม่เจอคนที่อยากเจอเดี๋ยวก็รู้สึกไม่มีความหมายเองแล้วก็ไม่มายุ่งกับพวกเรา อาจารย์ว่าไหมคะ”

 

 

คำพูดที่ดูเอื้อเฟื้อมีน้ำใจเช่นนี้ทำให้เหอสือกุยพูดอย่างหวงๆ “พูดถึงผู้หญิงคนอื่น ประโคนี้ก็ดูไม่เกินจริง นี่พึ่งรู้จักกันไม่นาน เธอก็เชื่อเขาแล้ว เขาคงดีที่สุดในใจเธอแล้ว”

 

 

อวี๋กานกานรีบจับแขนของเหอสือกุยแล้วยิ้มประจบประแจง “จะเป็นไปได้ยังไงคะ ในใจของฉันอาจารย์เหม่ยเหรินดีที่สุด แต่ฉันเลือกที่จะอยู่กับเขาแล้วก็ต้องเชื่อเขาเป็นธรรมดา อาจารย์ว่าจริงไหมคะ อาจารย์เหม่ยเหริน”

 

 

เหอสือกุยชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะยกมือขึ้นลูบศีรษะเธอเบาๆ

 

 

อวี๋กานกานยิ้มแหะๆ แล้วถาม “อาจารย์รู้สึกว่าเขาเป็นยังไงบ้างคะ ผ่านหรือเปล่า”

 

 

ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อย ดวงตาของเขาจับจ้องเธอและเขาก็พูดด้วยความยากลำบาก “ไม่ต้องรีบร้อน”

 

 

อวี๋กานกานไม่ได้รีบร้อนเลยสักนิด

 

 

เธอเชื่อใจฟังจือหัน แน่นอนว่าเชื่อฟังอาจารย์ด้วย มันเป็นเพียงปัญหาเรื่องของเวลา

 

 

ทั้งสองคนเดินเล่นอีกสักพัก เหอสือกุยจึงไปส่งอวี๋กานกานกลับห้อง

 

 

เมื่อเห็นหลังอวี๋กานกานกำลังจะเข้าห้องไป เหอสือกุยจึงเรียกเธออย่างอ่อนโยนเบาๆ “เด็กน้อย…”

 

 

อวี๋กานกานหยุดก้าวขาหันกลับมามองเหอสือกุยด้วยสีหน้าตั้งคำถาม “หืม”

 

 

คิ้วและรอยยิ้มของหญิงสาวเต็มไปด้วยความเชื่อใจ มันเป็นที่พึ่งของเขาตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ อดีตที่ผ่านมาค่อยๆ ผ่านความคิดจึงทำให้ลำคอแห้งผากในทันที

 

 

ผ่านไปครู่หนึ่งเหอสือกุยจึงยิ้มออกมา “ไม่มีอะไร คืนนี้ไม่ต้องอ่านตัวอย่างงานวิจัยแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ”

 

 

“อืมๆ อาจารย์เหม่ยเหรินก็รีบพักผ่อนด้วยนะคะ”

 

 

รอจนประตูห้องปิดลง เหอสือกุยไม่ได้กลับห้องจึงเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย

 

 

ค่ำคืนที่มีหิมะตก ผู้ชายที่สดใสอ่อนโยนราวกับหยกราวกับคุณชายตระกูลผู้ดี

 

 

ได้ยินเสียงคุ้นเคยดังเข้ามาในหู “ฉันบอกแล้วไงว่าฉันช่วยเธอไม่ได้จริงๆ…”

 

 

ในหัวนึกถึงใบหน้าสดใสอ่อนเยาว์คนหนึ่ง

 

 

น้องสาวของฟังจือหัน

 

 

เจียงฉี่อย่างนั้นหรือ

 

 

เหอสือกุยหันหลังต้องการที่จะออกไป เรื่องส่วนตัวของคนอื่นไม่สมควรจะแอบฟัง แต่ประโยคถัดมากลับทำให้เขาก้าวชะงัก “เธอข่มขู่ฉัน ฉันก็ไม่ยอมหรอก”

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 446 อย่าบอกพี่ชายฉันนะคะ

 

 

“เสี่ยวฉี่ เธอจะยอมให้พี่ชายเมินเธอไปตลอดชีวิตเหรอ เธอไม่คิดที่จะช่วยฉันเหรอ”

 

 

“พี่ชายชอบพี่อวี๋มาก ถ้าฉันช่วยเธอ พี่ชายก็เมินฉันไปตลอดชีวิตเหมือนกัน”

 

 

เจียงฉี่ทิ้งท้ายประโยคนี้เอาไว้แล้วหันหลังวิ่งทันที

 

 

เดจาวูอีกแล้ว พอเลี้ยวเข้าทางเดินก็เห็นหน้าผู้ชายร่างสูงใหญ่ยืนขวางหน้าอีกแล้ว

 

 

ฝีเท้าเจียงฉี่หยุดกึก

 

 

เสื้อแจ็คเก็ตกันลมสีขาวและกางเกงขายาวสีเทาอ่อนของชายคนนี้ดูสะอาดและนุ่มนวลในคืนที่หิมะตก แต่กลับทำให้เจียงฉี่หน้าซีด

 

 

เธอกลั้นใจเดินไปข้างหน้าช้าๆ แล้วเรียกชื่ออย่างระมัดระวัง “อาจารย์เหม่ยเหริน”

 

 

เหอสือกุยไม่พูดอะไร เพียงแต่เดินกลับไปกับเธอเท่านั้น

 

 

นี่จึงทำให้เจียงฉี่รูสึกไม่สบายใจ เมื่อเห็นว่ากำลังจะเข้าห้องไป เจียงฉี่จึงรวบรวมความกล้าถามเขา “คุณได้ยินหมดเลยเหรอคะ”

 

 

เหอสือกุยตอบเบาๆ “ได้ยินแค่บางคำ ก็พอจะรู้ว่าอะไรเป็นยังไง”

 

 

เจียงฉี่อ้อนวอน “คุณอย่าบอกพี่อวี๋ได้ไหมคะ”

 

 

เหอสือกุยไม่ได้ตอบกลับเธอ เพียงแต่ถามเธอออกไป “เขาใช้อะไรข่มขู่เธอ”

 

 

“ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วยล่ะคะ ถ้าคุณกล้าบอกเรื่องของฉันกับพี่อวี๋ ฉันก็จะบอกพี่อวี๋ว่าคุณชอบเธอ เช่นนั้นต่อไปพี่อวี๋คงไม่ดีกับคุณแบบตอนนี้แน่ๆ”

 

 

เด็กสาวขู่ฟ่อๆ

 

 

เหอสือกุยหน้าถอดสี

 

 

ชายผู้สง่างามเปล่งลมหายใจเยือกเย็นและสีหน้าตักเตือนที่รุนแรง

 

 

เจียงฉี่ก้าวถอยหลังสองก้าวด้วยความตกใจร่างกายของเขาสั่นเทาทำอะไรไม่ถูกและสิ้นหวังเล็กน้อย ขยับริมฝีปากเพื่อพูดอะไรบางอย่างสองสามครั้ง แต่กลับไม่สามารถพูดอะไรได้

 

 

น้ำตาเริ่มคลอเบ้า เธอกระพริบตาปริบๆ จากนั้นจู่ๆ ก็ปล่อยโฮออกมาก “ฉันปฏิเสธเธอไปแล้ว คุณก็อย่าไปบอกคนอื่นเรื่องนี้เลย ฉันขอร้องคุณเถอะค่ะ”

 

 

เธอไม่ให้ใครรู้เรื่องนี้ ไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าเธอเป็นคนนิสัยไม่ดี

 

 

เมื่อเห็นเด็กสาวตรงหน้าร้องไห้ฟูมฟาย เหอสือกุยจึงอ่อนลงมาบ้าง เขาพูดกับเธอเบาๆ “ฉันก็แค่อยากดูว่าจะช่วยเธอแก้ไขเรื่องนี้ยังไงบ้าง”

 

 

เจียงฉี่สบตาเขานิ่ง สงสัยในคำพูดของเขาเป็นจริงหรือเท็จ

 

 

ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นผู้ใหญ่และมั่นคงเหมือนหยก รู้สึกปลอดภัย ถึงยังไงเขาก็พอจะรู้เรื่องคร่าวๆ แล้ว งั้นบอกเขาไปทั้งหมดก็คงไม่แตกต่างอะไร

 

 

เจียงฉี่เอายหน้าแดงพูดอ้อมแอ้ม “ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับพี่ชายไม่ดีมาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ พี่ชายชอบน้องสาวอีกคนมากกว่า หลังจากที่น้องสาวคนนั้นตายไป พี่ชายก็คิดถึงเธอ ของมีค่าสำคัญที่สุดก็คงจะเป็นรูปที่ถ่ายด้วยกันของพวกเขา แต่ฉันต่างหากที่เป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา แต่เขากลับไม่สนใจใยดี ฉันอิจฉาจริงๆค่ะ ฉันจึงแอบเอาอัลบั้มรูปทั้งหมดไปโยนทิ้งที่สระน้ำ…”

 

 

ตอนนั้นเธอถูกกู้ซูหลิงยั่วยุแล้วคิดว่าเป็นเพียงรูปถ่ายไม่กี่รูป ทิ้งแล้วก็ทิ้งไป

 

 

แต่ผลคือพี่ชายกระโดดลงสระน้ำ เขาว่ายน้ำไม่เป็นแล้วไม่คิดถึงชีวิตเพียงเพื่อให้ได้อัลบั้มนั้นกลับมา

 

 

อัลบั้มแช่น้ำนานเกินไปจึงทำให้รูปเบลอทั้งหมด ตอนนั้นพี่ชายทั้งผิดหวังและเจ็บปวด เธอไม่อยากจะเชื่อแล้วตกใจกลัวมาก

 

 

เธอคิดว่าเป็นเพียงรูปไม่กี่อัลบั้ม แต่กลับกลายเป็นสิ่งของสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของพี่ชาย

 

 

เหอสือกุยมองเธออย่างสงสัยแล้วก็ถาม “เขาขู่อะไรเธอ”

 

 

“ขู่ให้ฉันช่วยเขาจีบพี่ชายค่ะ” เจียงฉี่ก้มหน้าตอบ แววตาอ่อนไหว จากนั้นจึงรีบส่ายหน้ารวดเร็ว “แต่ฉันไม่ช่วยเขาหรอกค่ะ ไม่ได้จริงๆ”

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset