ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 517 เจอระหว่างทาง แสดงความช่วยเหลือ / ตอนที่ 518 สารภาพรัก เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด

ตอนที่ 517 เจอระหว่างทาง แสดงความช่วยเหลือ

 

 

เธอพูดพลางจะยืนขึ้น แต่ก็ไม่ได้ดันตัวอวี๋กานกานออก และเซมาที่ตัวอวี๋กานกานอีกครั้ง

 

 

“ใครก็ได้ คุณหมอ มีคนเป็นลมแล้ว”

 

 

มีคนร้องตะโกนขึ้นมา

 

 

อวี๋กานกานยื่นมือไปจับข้อมือของเธอ…

 

 

ไม่นานหมอก็มาแล้ว ซย่าเฉิงโจวที่มาหาอวี๋กานกานก็มาด้วย ทุกคนต่างช่วยกันพาสตรีวัยกลางคนผู้นี้ย้ายไปที่ห้องผู้ป่วย

 

 

สตรีวัยกลางคนผู้นี้ชื่อว่าสวีอวี้หลัน

 

 

สวีอวี้หลันนอนอยู่บนเตียงคนไข้ บอกอาการป่วยของเธอ

 

 

มีคืนหนึ่งเธอนอนหลับอยู่จู่ๆ ก็รู้สึกเวียนหัวจนตื่นขึ้นมา เหงื่อออกใจสั่น สิ่งของตรงหน้าหมุนเหมือนกับเมารถ และมาคู่กับคลื่นไส้อาเจียน

 

 

เธอมาถึงโรงพยาบาลได้รับการตรวจแล้ว ไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด หมอบอกว่าเธออาจสมองกระทบกระเทือน ให้เธอพักผ่อนอยู่บ้านให้มาก

 

 

 ระยะหนึ่งก็จะดีขึ้น

 

 

แต่ว่าพักผ่อนอยู่หลายวัน อาการตาลายและรู้สึกหมุนแม้จะค่อยๆ หายไปแล้ว แต่ยังมักจะเวียนหัวและก่อให้เกิดอาการป่วยใหม่ขึ้นตามมาบ้าง

 

 

เช่นเจ็บแน่นหน้าอก แขนขาชา กระสับกระส่าย…

 

 

ดังนั้นเธอจึงไปโรงพยาบาลอีกครั้ง

 

 

วิงเวียนศีรษะมักเป็นหนึ่งในอาการที่พบในโรคทางสมองและประสาท สาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นก็มีมากมาย เธอทำการตรวจร่างกายทั้งหมด และเน้นการตรวจไปที่สมองซ้ำอีก

 

 

แต่ว่าก็ไม่ได้พบสาเหตุเลยสักนิด

 

 

แต่ว่าสวีอวี้หลันก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย เพราะอย่างนั้นโรงพยาบาลจึงใช้วิธีการรักษาความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติและอาการวิตกกังวลให้กับสวีอวี้หลันระยะหนึ่ง

 

 

แต่ว่ายังคงไม่เห็นผลใดๆ และยังถึงขึ้นแย่ลงขึ้นเรื่อยๆ

 

 

ด้วยเหตุนี้โรงพยาบาลแนะนำให้สวีอวี้หลันไปหาแพทย์แผนจีน แพทย์แผนจีนรักษาให้ระยะหนึ่งแล้ว แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

 

 

ครั้งนี้สวีอวี้หลันตั้งใจมาหาซย่าเฉิงโจวเป็นพิเศษ ซย่าเฉิงโจวยังถือว่าเป็นหมอที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองไป๋หยางอยู่บ้าง

 

 

ซย่าเฉิงโจวจับชีพจรให้สวีอวี้หลันและหลังจากที่สอบถามสาเหตุการป่วยแล้วก็มีความคิดที่ไม่ค่อยแน่ใจเล็กน้อย

 

 

เขามองอวี๋กานกานพลางยิ้มน้อยๆ “คุณก็ลองจับชีพจรดูไหม”

 

 

อวี๋กานกานยิ้มและตอบกลับ “เมื่อกี้ฉันจับชีพจรให้เธอที่ข้างนอกแล้วค่ะ”

 

 

“งั้นคุณมีความคิดเห็นยังไง ลองพูดมาหน่อย”

 

 

“ตำราเน่ย์จิงกล่าวไว้ ลมทั้งหลายทำให้ตาลาย ล้วนเกี่ยวกับตับ ที่จริงก็ถือว่าสรุปได้พอประมาณแล้ว แต่ว่าตอนที่ก่อนจะพิสูจน์ยังต้องวิเคราะห์อย่างละเอียด”

 

 

สายตาของซย่าเฉิงโจวจับไปที่ตัวสวีอวี้หลัน “คุณดูท่านอนของเธอ ต้องนอนจึงจะบรรเทาลงบ้าง พอนั่งยืนก็จะอาการกำเริบ อาการนี้น่าจะธาตุดินอ่อน ลมปราณมีสภาพจมลง แต่ว่าประวัติการรักษาของเธอบันทึกเอาไว้ว่าเธอเคยไปหาแพทย์แผนจีนมาแล้ว ใช้ใบสั่งยารักษาโรคนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ว่าก็ไม่เห็นผลใดๆ เลย”

 

 

อวี๋กานกานส่ายหน้า “คุณลองคิดดูอีก เธอเวียนหัวในขณะเดียวกันก็มองเห็นสิ่งของหมุน นี่คือต้นแบบการชะล้างแต่การชะล้างทำให้สูญเสียสารอาหาร”

 

 

เธอมองไปที่สวีอวี้หลันและเอ่ยถามอีกครั้ง “ตอนที่คุณอาการกำเริบขณะเดียวกันก็รู้สึกอึดอัดด้วยใช่ไหมคะ”

 

 

สวีอวี้หลันพยักหน้าอย่างอ่อนแรง “ใช่ค่ะ และตอนที่นั่งลง ลุกขึ้นก็จะใจสั่นเกินทน หายใจไม่ออกเหมือนกับจะตายอย่างนั้น และยังเหงื่อออกเหมือนฝนตก เสียงอื้ออึงสั่นในหูและแขนขาชา”

 

 

“อาการเหล่านี้ล้วนนับเป็นสภาพหยางดั้งเดิมพุ่งขึ้น”

 

 

หลังจากที่อวี้กานกานพูดจบ ซย่าเฉิงโจวก็ยิ้มออกมา “ดูเหมือนคุณจะรู้ว่ารักษายังไงแล้ว งั้นคุณก็มาทำดีกว่า”

 

 

สวีอวี้หลันขมวดคิ้ว “หมอซย่าคะ ฉันมาหาคุณนะ”

 

 

ซย่าเฉิงโจวมองเธอพลางตอบ “คุณวางใจได้ วิชาการแพทย์ของหมออวี๋เหนือกว่าแค่ผม และการฝังเข็มของเธอในโรงพยาบาลของเรานี้น่าจะถือว่าไม่มีใครเทียบได้เลย”

 

 

อวี๋กานกานไม่กล้ายอมรับ ส่งยิ้มด้วยความเก้อเขิน “คุณพูดเกินไปแล้ว”

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 518 สารภาพรัก เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด

 

 

สวีอวี้หลันก็ไม่เชื่อ จนกระทั่งอวี๋กานกานรักษาด้วยการฝังเข็มให้เธอแล้ว

 

 

ขณะนั่งฝังเข็ม ผ่านไปสองนาที อาการเวียนหัวของสวีอวี้หลันก็ดีขึ้นในทันที

 

 

เธอแทบไม่อยากจะเชื่อ มองอวี๋กานกานด้วยความประหลาดใจ “หมออวี๋ ขอบคุณมาก ขอบคุณมากจริงๆ เลย ช่วงนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันเวียนหัวแล้วมองสิ่งของไม่หมุนแล้ว”

 

 

หลังจากอวี๋กานกานฝังเข็มลงไปก็ให้ยาต้มเธอไปสามขนาด ให้สามวันหลังจากนี้มาตรวจซ้ำกับซย่าเฉิงโจว

 

 

สวีอวี้หลันยังบอกว่าจะมาหาเธอโดยตรง พอได้ยินว่าสามวันหลังจากนี้เธออาจจะต้องไปเมืองหลวง และได้ยินว่าอวี๋กานกานรับรองว่าสามวันอาการก็จะดีขึ้น ขอแค่แข็งแรง ก็กลับไปอย่างดีอกดีใจ

 

 

สายตาที่ซย่าเฉิงโจวมองอวี๋กานกานเป็นประกาย ข้างในมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูกพูดไม่ชัดอยู่ “ไม่ใช่ว่าคุณเพิ่งกลับมาเหรอ ทำไมถึงต้องไปเมืองหลวงอีกแล้ว”

 

 

“ฉันกลับมาเยี่ยมอาจารย์ฉันค่ะ คุณก็รู้ว่าฉันรับตรวจอยู่ที่สำนักแพทย์หลวงแล้ว เกือบจะสองปีน่าจะอยู่เมืองหลวง รอให้ถนนหนานเจิ้นปรับปรุงเสร็จค่อยกลับมา”

 

 

ซย่าเฉิงโจวไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ “ในเมื่ออย่างนั้น งั้นให้ผมเลี้ยงข้าวคุณเถอะ”

 

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันนัดคนเอาไว้แล้ว” เธอนัดฟังจือหัน นี่ก็จะต้องไปหาฟังจือหันที่โรงแรมแล้ว

 

 

“ถ้าอย่างนั้นให้ผมไปส่งคุณเถอะ”

 

 

“ไม่รบกวนคุณแล้วค่ะ”

 

 

“ผมก็เลิกงานพอดี เป็นทางผ่านน่ะ”

 

 

ข้างนอกฝนยังตกหนักอยู่ ทางเข้าโรงพยาบาลก็เรียกรถไม่ได้เลยจริงๆ แอปพลิเคชั่นตีตีเรียกรถก็ต้องรอคิว อวี๋กานกานในตอนนี้ก็สนิทกับซย่าเฉิงโจวแล้ว ก็ไม่ต้องเกรงใจแล้ว

 

 

รถจอดอยู่หน้าโรงแรมที่ฟังจือหันพัก อวี๋กานกานเอ่ยขอบคุณและผลักประตูลงจากรถ

 

 

เธอรีบก้าวเข้าไปข้างใน จู่ๆ เสียงของซย่าเฉิงโจวไล่ตามหลังมา

 

 

อวี๋กานกานหันกลับไปก็เห็นซย่าเฉิงโจวลงจากรถแล้ว

 

 

เขาวิ่งเหยาะมาอยู่ตรงหน้าเธอ แววตาลึกซึ้งจับจ้องไปที่ตัวของอวี๋กานกาน “ผมมีคำพูดที่อยากจะบอกกับคุณ”

 

 

อวี๋กานกานมองเขาด้วยความสงสัย “หมอซย่ายังมีเรื่องอะไรอีกเหรอคะ”

 

 

ซย่าเฉิงโจวเงียบพร้อมกับครุ่นคิดพักหนึ่ง จากนั้นจึงพูดขึ้นมา “แต่ก่อนผมมีใบไม้บังตา เข้าใจคุณผิด ตลอดเวลามานี้รู้สึกผิดมาก…”

 

 

อวี๋กานกานยิ้มและพูดแทรกคำพูดเขา “ไม่ใช่ว่าคุณเคยขอโทษมาแล้วเหรอคะ และฉันก็ยกโทษให้คุณแล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เรื่องที่ผ่านไปก็ไม่ต้องพูดถึงมันอีก”

 

 

“ที่ผมอยากจะพูดไม่ใช่เรื่องที่ผ่านไป แต่เป็นผมในตอนนี้”

 

 

“คุณในตอนนี้?”

 

 

น้ำเสียงตกตะลึงของอวี๋กานกานยังไม่ทันจบ ซย่าเฉิงโจวก็รีบพูดออกมาสี่พยางค์ “ผมชอบคุณครับ!”

 

 

การสารภาพรักที่ไม่มีสัญญาณใดๆ เลยครั้งนี้ทำให้อวี๋กานกานตะลึงงันไปทั้งตัว

 

 

หลังจากที่เธอมองซย่าเฉิงโจวอย่างอึ้งๆ ครู่หนึ่งก็เผลอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว

 

 

การกระทำเล็กๆ น้อยๆ นี้ทำให้ซย่าเฉิงโจวฝืนหัวเราะออกมา “คุณสบายใจได้ ผมบอกคุณก็ไม่ได้อยากให้คุณมาตอบรับผม ผมรู้ว่าคุณไม่มีทางตอบรับผม ก่อนที่ผมจะพูดออกมาก็มั่นใจว่าตนเองอาจสารภาพรักไม่สมหวัง แต่ว่าที่ผมจะบอกคุณไม่ใช่ว่าผมต้องการจะตามตื้อคุณ แค่อยากพูดความรู้สึกของตนเองออกมาเท่านั้น”

 

 

อวี๋กานกานยืนนิ่ง มองเขาอย่างเหม่อลอย ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรเลยสักนิด

 

 

เธอเบนหน้า สายตามองไปทั่วด้าน เห็นผู้ชายเดินออกมาจากด้านในของโรงแรมพอดี รูปร่างสูงโปร่งสง่าภูมิฐาน สวมสูทสีดำทำให้เขาหล่อไม่มีใครเทียบได้

 

 

ฟังจือหัน

 

 

อวี๋กานกานสับสนครู่หนึ่ง ให้ฟังจือหันจอมขี้หึงคนนั้นรู้ว่าซย่าเฉิงโจวสารภาพรักกับเธอ เกรงว่าจะกลายเป็นจอมอิจฉาขึ้นมาอีก

 

 

วินาทีถัดมาอวี๋กานกานตัวแข็งทื่อไปเล็กน้อย

 

 

ฟังจือหันไม่ได้ออกมาคนเดียว

 

 

ข้างกายเขายังมีผู้หญิงคนหนึ่งตามมา เป็นหญิงสาวสวยวัยรุ่นคนหนึ่ง!!

Related

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset