ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 521 วางแผนร้าย และให้ความร่วมมือในการสืบสวน / ตอนที่ 522 ใส่ร้าย เหตุผลต่างๆ นานา

ตอนที่ 521 วางแผนร้าย และให้ความร่วมมือในการสืบสวน

 

 

อวี๋กานกานถูก “กิน” ตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง ทั้งตัวอ่อนปวกเปียกถูกฟังจือหันอุ้มไปล้างตัวในห้องน้ำเรียบร้อยหนึ่งรอบ

 

 

ฟังจือหันเรียกให้อาหารมาส่งที่ห้อง

 

 

หลังจากอวี๋กานกานกินข้าวก็อยากจะกลับไป แขนยาวของฟังจือหันโอบกอดเธอจากทางด้านหลังพลางเล่นนิ้วมือของเธอ “คุณอยากกลับบ้านมีงานเหรอ”

 

 

มือหยกไร้ที่ติของเธอคู่นั้น นิ้วทั้งเรียวทั้งยาวพอดี สวยมาก

 

 

อวี๋กานกานส่ายหน้า “ไม่มีธุระอะไร”

 

 

“งั้นก็ไม่ต้องกลับแล้ว” ฟังจือหันเอียงคอเล็กน้อย จูบเบาๆ บนเส้นผมเธอ ขยับเข้ามาให้ข้างหู พ่นลมใส่ราวกับแหย่เล่น

 

 

“ไม่ได้”

 

 

อวี๋กานกานจะลุกขึ้นก็ถูกฟังจือหันกดลงไปอีก ครั้งนี้นั่งลงบนหน้าขาของเขาโดยตรง กอดแน่นอยู่ในอ้อมแขน เธอหันหน้าไปพลางต้องการจะพูดอะไร ริมฝีปากถูกจูบเสียแล้ว

 

 

แรกเริ่มยังอยากจะขัดขืน ตอนท้ายถูกแหย่เสียจนทนไม่ไหว อ่อนกลายเป็นน้ำในฤดูใบไม้ผลิในอ้อมแขนเขา

 

 

กินปลารอบใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว ตอนที่เขาจะได้กินปลาชั่วขณะนั้นจู่ๆ ก็หยุดลง

 

 

เขาต้อนถามเธอในเวลาสำคัญว่าอยากจะกลับบ้านหรืออยู่ต่อ อวี๋กานกานอยากจะกัดเขาให้ตายในวินาทีนั้น

 

 

มีที่ไหนทำได้ครึ่งหนึ่งแบบนี้แล้วข่มขู่กัน

 

 

ผู้ชายชั่วร้าย

 

 

ฟังจือหัน

 

 

ตอนกลางคืนลืมลากผ้าม่าน วันถัดมาแสงแดดประกายกระทบกับเตียง เธอที่ขดตัวในอ้อมแขนของฟังจือหันนั้นนอนหันหน้าไปทางพระอาทิตย์พอดี

 

 

เธอขมวดคิ้วและตื่นขึ้นมา จากนั้นก็หลบในอ้อมแขนของฟังจือหัน

 

 

มือของชายหนุ่มที่วางอยู่บนเอวเธอรัดแน่น น้ำเสียงเฉื่อยชา มีเสน่ห์ดังขึ้นมา “ตื่นแล้ว”

 

 

นึกถึงความน่าชังของคนบางคนเมื่อคืน จงใจรังแกเธอบนเตียง จงใจล่อลวงเธอจนหยุดไม่ได้ อวี๋กานกานก็โกรธแทบตาย หยิกไปแรงๆ ที่มือของเขาบนเอวเธอสักหน่อย เนื้อด้านเกินไปหยิกไม่รู้สึก จำต้องถีบเขาทีหนึ่งอีกครั้ง

 

 

ฟังจือหันหลับตา ส่งเสียงหัวเราะเอื่อยเฉื่อยออกมา พลิกตัวขึ้นมากดเธอไว้ใต้กาย

 

 

ทั้งคู่หัวเราะหยอกล้อกันบนเตียงเป็นเวลานาน ระหว่างนั้นอวี๋กานกานก็ถูกกินอีกครั้งหนึ่ง

 

 

ผู้ชายคนนี้บ้าอยู่หน่อยๆ!

 

 

อวี๋กานกานกินข้าวเช้าเสร็จ ตอนที่กลับถึงบ้านก็เป็นตอนกลางวันแล้ว

 

 

เธอคิดว่าจะอธิบายกับอาจารย์เหม่ยเหรินยังไงมาตลอดทาง เรื่องที่เมื่อวานเย็นไม่ได้กลับบ้าน

 

 

ควรโกหกไหมนะหรือว่าบอกไปตามตรงดีล่ะ

 

 

อาจารย์เหม่ยเหรินจะโกรธมากไหมนะ ถึงอย่างไรแต่ก่อนก็วางเงื่อนไขเอาไว้ชัดเจนว่าไม่อนุญาตให้ค้างข้างนอก

 

 

อวี๋กานกานผลักประตูเบาๆ โผล่หัวเข้าไปเห็นเหอสือกุยที่กำลังนั่งอยู่ตรงโซฟา เธอรีบยิ้มเอาใจ “อาจารย์เหม่ยเหรินคะ”

 

 

“ไม่ใช่ว่าบอกว่าจะดูแลฉันเหรอ ไปไหนมา ยังไม่รีบไปทำอาหารอีก” เหอสือกุยกลับไม่ได้ถามเธอว่าเมื่อวานไปไหน คล้ายกับว่าไม่รู้ว่าเมื่อคืนวานเธอไม่ได้กลับมาเสียอย่างนั้น

 

 

อวี๋กานกานยกถุงในมือขึ้นมาครู่เดียว เมื่อกี้ระหว่างทางกลับเธอซื้อผักมา ยิ้มพร้อมกับเอ่ย “ฉันซื้อผักมาแล้ว จะรีบไปทำค่ะ…”

 

 

พลันเสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้นมา

 

 

อวี๋กานกานซึ่งกำลังล้างผักอยู่รีบวิ่งออกมาจากห้องครัว “อาจารย์เหม่ยเหริน คุณนั่งลง ไม่ต้องขยับ ฉันไปเปิดประตูเองค่ะ”

 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจสวมชุดตำรวจหลายนายยืนอยู่ด้านนอกประตู ตำรวจที่ยืนอยู่ตรงกลางมีสีหน้าเคร่งขรึม เห็นอวี๋กานกานก็เอ่ยถาม “ไม่ทราบว่าใช่คุณอวี๋กานกานไหมครับ”

 

 

อวี๋กานกานพยักหน้า ดวงหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย

 

 

“รบกวนคุณตามไปสถานีกับพวกเราเพื่อให้ความร่วมมือในการสืบสวนหน่อยครับ”

 

 

“ให้ความร่วมมือในการสืบสวน?” อวี๋กานกานมองพวกเขาอย่างไม่เข้าใจ

 

 

เหอสือกุยก็เดินออกมาและเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ สงสัย “ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมต้องให้เธอไปให้ความร่วมมือในการสืบสวนด้วย”

 

 

ตำรวจหลายคนกลับไม่ได้ให้คำตอบอวี๋กานกานกับเหอสือกุยที่นี่ว่าเพราะเรื่องอะไร ถ้าพวกเขามีคำถามค่อยไปถามที่สถานีตำรวจ

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 522 ใส่ร้าย เหตุผลต่างๆ นานา

 

 

บรรยากาศในห้องสอบปากคำที่สถานีตำรวจกดดันและอึดอัดมาก ท้องฟ้าเมืองไป๋หยางมีแสงแดดสดใส แต่ในตอนนี้ทำให้รู้สึกว่าโดนม่านหมอกปกคลุมเป็นชั้นๆ ไปหมด ทำให้อารมณ์ไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกหม่นหมองเกินบรรยาย

 

 

ตำรวจชายมองอวี๋กานกานซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามพลางเอ่ยถาม “คุณอวี๋กานกาน ไม่ทราบว่ารู้จักคุณผู้หญิงสวีอวี้หลันหรือไม่”

 

 

ชื่อแซ่นี้คุ้นมาก เพียงแวบเดียวอวี๋กานกานก็นึกออกในหัวว่าเธอคือใครแล้ว จึงพยักหน้าลง “ฉันรู้จักเธอค่ะ เมื่อวานฉันเจอเธอที่โรงพยาบาล เธอป่วยมีอาการเวียนหัว ฉันเป็นหมอคนหนึ่ง ฉันจึงประคองเธอเข้าไปในโรงพยาบาล จากนั้นไม่นานยังทำการตรวจรักษาให้เธอด้วย ไม่ทราบว่าเธอเป็นอะไรเหรอคะ”

 

 

ตำรวจชายเอ่ย “เมื่อวานพอถึงบ้านหลังจากสวีอวี้หลันกลับจากโรงพยาบาล เล่าให้ลูกชายฟังว่าไม่เวียนหัวแล้วหลังจากที่เธอฝังเข็มไป และต้มยากิน แต่วันถัดมาตอนที่ลูกชายของเธอปลุกให้เธอตื่นก็พบว่าเธอหมดสติไปจึงรีบพาเธอส่งโรงพยาบาล โรงพยาบาลตรวจพบว่าเธอหัวใจล้มเหลว เสียชีวิตแล้วครับ”

 

 

อวี๋กานกานมีสีหน้าซีดเผือดในพริบตา แทบไม่อยากจะเชื่อ “นี่มันเป็นไปไม่ได้ ไม่น่าเลย…เมื่อวานฉันจับชีพจรให้เธอ เธอเวียนหัวจริง แต่ว่าระบบการทำงานหัวใจของเธอปกติมากทั้งหมด เป็นไปได้ยังไงที่จู่ๆ คืนเดียวก็…”

 

 

ตำรวจชายไม่ได้ตอบคำถามอวี๋กานกาน

 

 

เขาเลื่อนใบสั่งยาที่ใส่ซองพลาสติกอย่างดีไปตรงหน้าอวี๋กานกาน “งั้นคุณลองดู นี่เป็นใบสั่งยาที่คุณออกใช่หรือไม่”

 

 

อวี๋กานกานหลุบตามองครู่หนึ่ง นี่เป็นใบสั่งยาที่เธอออกให้จริง แต่ว่าดูให้ละเอียด ยาสามตัวสุดท้ายนั้นกลับไม่ใช่ที่ตนเองสั่งเลย

 

 

การเพิ่มยาทั้งสามตัวนี้คือทำให้ยาที่รักษาอาการป่วยอย่างหนึ่งกลายเป็นยาที่เป็นอันตรายอย่างหนึ่ง

 

 

มิน่าสวีอวี้หลันถึงได้หัวใจล้มเหลว!

 

 

อวี๋กานกานรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่งในชั่วขณะ

 

 

เธอรู้สึกว่าร่างกายคล้ายกับตกลงไปในห้องน้ำแข็ง เย็นเฉียบดุจหิมะตั้งแต่หัวจรดเท้า

 

 

ยาสามตัวด้านท้ายใบสั่งยานี้ใครเป็นคนเพิ่มกัน

 

 

ลายมือคล้ายกับของเธอขนาดนั้นแทบจะพูดได้ว่าเหมือนไม่มีผิดเลย!!

 

 

นี่มันคือการวางแผนและใส่ร้ายโดยสิ้นเชิง ราวกับว่าวางแผนร้ายเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

 

 

เธอส่ายหน้า รีบอธิบายกับตำรวจ “ฉันเป็นคนออกใบสั่งยานี้ แต่ว่ายาสามตัวนี้ฉันไม่ได้เขียน แม้จะคล้ายกับตัวหนังสือฉัน แต่ก็ไม่ใช่ลายมือฉัน เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะสั่งยาสามตัวนี้ ตอนนั้นที่รักษาให้ หมอซย่า ซย่าเฉิงโจวก็อยู่ด้วย ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไปถามเขาได้”

 

 

ตำรวจตอบเธอ “เราไปหาซย่าเฉิงโจวในทันทีแล้ว เขาบอกเราว่าทุกอย่างที่คุณออกในใบสั่งยาก็ไม่ได้มียาสามตัวนี้อยู่ ไม่เช่นนั้นตอนนี้เราคงไม่ตามให้คุณมาให้ความร่วมมือในการสืบสวนแล้ว”

 

 

อวี๋กานกานมีสีหน้าเคร่งเครียด คาดเดาถามดู “มีคนใส่ร้ายฉันเหรอ”

 

 

“ถ้ายาสามตัวนี้ไม่ใช่คุณที่เป็นคนเขียน งั้นผลก็ชัดเจนแล้วว่ามีคนกำลังใสร้ายคุณ เพียงแต่คุณอวี๋กานกาน ยาสามตัวท้ายนี้คุณไม่ได้เขียนจริงๆ ใช่ไหม เราต้องทำการพิสูจน์ลายมือด้วยนะ”

 

 

ในน้ำเสียงของตำรวจชายไม่เชื่ออวี๋กานกานเลยสักนิดเดียว

 

 

อวี๋กานกานตอบอย่างหนักแน่นและแน่วแน่มาก “ฉันไม่ได้เขียน! ฉันสาบานกับฟ้า ถ้ายาสามตัวนี้ฉันเป็นคนเขียน ให้สวรรค์ลงโทษฉัน ต้องไม่ตายดี!”

 

 

“ระหว่างที่ยังไม่ชัดเจนยังต้องให้คุณอวี๋อยู่ที่สถานีตำรวจเพื่อให้ความร่วมมือในการสืบสวนชั่วคราว”

 

 

อวี๋กานกานรู้ความหมายของเขา

 

 

บอกว่าเชิญเธอมาให้ความร่วมมือในการสืบสวน ที่จริงดำเนินการตรวจสอบเธอในฐานะผู้ต้องสงสัยกระทำความผิด

 

 

ประตูห้องสอบปากคำมีคนเปิดออก ตำรวจหญิงคนหนึ่งเดินข้าวมาบอก “ทนายของคุณอวี๋มาแล้ว ขอเข้าพบคุณอวี๋ค่ะ”

Related

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset