ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 545 ผมไม่มีทางให้เกิดเรื่องขึ้นกับคุณ / ตอนที่ 546 เธอยิ่งเป็นห่วงเขามากกว่าเดิม

ตอนที่ 545 ผมไม่มีทางให้เกิดเรื่องขึ้นกับคุณ

 

 

ห้องแล็บเป่ยเฉิงที่ฟังจือหันพูดนั้นข้อมูลทั้งหมดล้วนถูกทำลายไปแล้ว

 

 

จะเป็นไปได้ยังไงที่จะถูกเปิดเผย?

 

 

พูดว่าเปิดเผย ความหมายก็คือเขามีข้อมูลทุกอย่างแล้ว

 

 

ในเมื่อเขาเลือกที่จะทำลายข้อมูลเหล่านั้นก็ย่อมไม่ต้องการให้ใครรู้เป็นธรรมดา

 

 

เขานึกว่าเขาเป็นคนตกปลา ที่จริงแล้วเขาเป็นปลาที่กัดเหยื่อต่างหาก!

 

 

“ฟังจือหัน!” เจียงซื่อเซิ่งโยนเบ็ดตกปลาทิ้ง ลุกขึ้นตะคอกออกมาทันที “แกรู้ไหมว่าแกกำลังทำอะไรอยู่!”

 

 

“ผมไม่ชอบเป็นโล่ของคนอื่น และแน่นอนว่าไม่มีทางอนุญาตให้ดึงผู้หญิงของผมไปเป็นโล่ด้วย”

 

 

น้ำเสียงราบเรียบแต่กลับซ่อนแรงอาฆาตกระหายเลือดเอาไว้

 

 

เจียงซื่อเซิ่งหัวเราะเยาะ ส่ายหน้าพร้อมกับสีหน้าไม่เข้าใจ “ฟังจือหัน แกบ้าไปแล้วใช่ไหม พวกเราต่างหากคือครอบครัว เพื่อผู้หญิงคนเดียวแกกลับทำลายความสงบสุขของครอบครัว!”

 

 

ฟังจือหันยิ้มหยัน “คนนอกจากปากคุณนั่นก็คือภรรยาผม เป็นแม่ของลูกผม คุณมาบอกผมว่าเธอเป็นคนนอกเหรอ”

 

 

“งั้นแกก็ไม่ควรลงมือกับพี่ชายแกหนักขนาดนั้น ตั้งแต่เด็กจนโตฉันดีกับแก ต่อให้ฉันไม่ได้สอนเขาให้ดี เขาก็ไม่ได้ทำเรื่องที่ทำร้ายแก แกก็ไม่ควรโหดร้ายกับเขาอย่างนั้น”

 

 

ดวงตาเจียงซื่อเซิ่งแดงก่ำ เส้นเลือดตรงขมับนูนปูดเต้นเป็นจังหวะ

 

 

ราวกับว่าความโกรธเคืองในใจที่สกัดกั้นเอาไว้หลายวันมานี้ กำลังร้องตะโกนออกมา

 

 

ฟังจือหันหรี่ลง นัยน์ตาเคลือบแรงอาฆาตอย่างรุนแรง มุมปากหยักเป็นรอยยิ้มเย็นชา “พูดถึงเรื่องนี้ ผมก็อยากถามลุงรองดู ทำไมเจียงไป๋อันจะต้องยอมรับว่าเขาฆ่าพ่อของผมด้วย”

 

 

เจียงซื่อเซิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง

 

 

ทันใดนั้นเขาก็ร้องออกมาอย่างประหลาดใจ มีสีหน้าไม่เชื่อเด็ดขาด และมีท่าทางที่ไม่อาจเชื่อได้พร้อมกับจ้องฟังจือหัน ครู่ใหญ่จึงเอ่ยปาก

 

 

“นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง พ่อของแกตายเพราะอุบัติเหตุ ไป๋อันจะฆ่าเขาได้ยังไง”

 

 

“เรื่องนี้ต้องถามลุงรองแล้วว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนี้กันแน่”

 

 

“ตัวไป๋อันยังไม่ได้สติ แกใส่ร้ายเขาใช่ไหมและฉันจะรู้ได้ยังไงกัน!”

 

 

แววตาของฟังจือหันเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง คล้ายกับคมดาบในฤดูหนาว “งั้นลุงรองก็พูดมาหน่อยว่าทำไมต้องทำลายข้อมูลในห้องแล็บที่เฉิงเป่ย ยาต้านมะเร็งชุดนั้นของเจียงไป๋อันก็มาจากห้องแล็บนี้ ลุงรองอย่ามาบอกผมว่าไม่รู้เรื่องทั้งหมด”

 

 

เจียงซื่อเซิ่งสีหน้าเคร่งเครียด มองจ้องฟังจือหันอย่างเย็นชา

 

 

ฟังจือหันมองเขาเช่นเดียวกัน แข็งกร้าวดุจน้ำแข็งในฤดูหนาว

 

 

อวี๋กานกานยืนอยู่ตรงหน้าหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เห็นทั้งคู่เผชิญหน้ากันอยู่ไกลๆ

 

 

เห็นอยู่ชัดๆ เลยว่าเป็นกลางวันแสกๆ แต่ว่าแสงอาทิตย์ที่สัมผัสไปถึงพวกเขาตรงนั้นคล้ายกับว่าส่องลงไปในหลุมลึกดำมืดที่ไม่เห็นก้นหลุมอย่างนั้น ไม่มีแสงใดที่จะส่องไปถึง

 

 

ไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรแต่น่าจะฉีกหน้าเข้าแล้ว

 

 

หลังจากนั้นครู่เดียวเจียงซื่อเซิ่งก็หมุนตัวเดินเข้าบ้าน

 

 

ตอนที่เข้าบ้านเห็นอวี๋กานกานเข้า เจียงซื่อเซิ่งจู่ๆ ก็หยุดจังหวะก้าวเท้า สายตาจับจ้องมาที่ตัวอวี๋กานกานอย่างน่ากลัว

 

 

อวี๋กานกานก็ไม่ได้หวั่นกลัว สบตาเขาอย่างเย็นชากลับไป

 

 

เจียงซื่อเซิ่งพลันหยักริมฝีปาก ยิ้มราวกับลมเย็นในหนังผีเจือความหมายลึกซึ้งและหมุนตัวเดินแยกไป

 

 

อวี๋กานกานมองตามไปส่งเขา

 

 

นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสงสัย

 

 

หันหน้ามา เห็นฟังจือหัน เธอยกยิ้ม

 

 

ฟังจือหันเดินเข้าก็เอ่ยถาม “เขาพูดอะไรกับคุณ”

 

 

“ไม่ได้พูดอะไรเลย แค่ส่งยิ้มน่ากลัวให้ฉันแป๊บหนึ่ง” อวี๋กานกานขมวดคิ้ว “เรื่องในช่วงนี้…เป็นไปได้ไหมว่าเกี่ยวข้องกับเขา”

 

 

“มีความเป็นไปได้ แต่ว่าคุณวางใจได้” ฟังจือหันดึงมือของเธอมาแนบกับกลีบปาก “ผมไม่มีทางให้เกิดเรื่องขึ้นกับคุณ”

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 546 เธอยิ่งเป็นห่วงเขามากกว่าเดิม

 

 

อวี๋กานกานไม่ได้เป็นห่วงตัวเองแต่กลับเป็นห่วงฟังจือหันมากกว่า

 

 

รอยยิ้มของเจียงซื่อเซิ่งในวันนั้นทำให้ขนลุกขนชันอย่างบอกไม่ถูก ทุกวันนี้ที่ฟังจือหันเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขา เธอกลัวว่าหากเขาไม่ระวังตัวจะตกหลุมพรางเจียงซื่อเซิ่งสักวัน

 

 

แน่นอนเธอเองก็รู้ดีว่ากังวลไม่เข้าเรื่องเข้าราว ฟังจือหันฉลาดกว่าเธอตั้งเยอะ

 

 

อวี๋กานกานนัดหลินจยาอวี่ไปดื่มชาตอนบ่ายด้วยกัน

 

 

ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันอวี๋กานกานก็พบว่าท้องของหลินจยาอวี่โตขึ้นมาก อวี๋กานกานจึงอดไม่ได้ยื่นมือขึ้นลูบเบาๆ “ตอนนี้ลูกคงดิ้นถีบท้องเธอบ้างแล้วใช่ไหม”

 

 

“มีถีบบ้างบางครั้ง”

 

 

หลินจยาอวี่เอนกายไปข้างหลังพิงพนักโซฟาจากนั้นก็ลูบหน้าลูบตาของตัวเองแล้วเอ่ยถาม “ฉันดูอ้วนขึ้นไหม”

 

 

อวี๋กานกานพินิจอย่างละเอียดจากบนลงล่างสำรวจไปรอบๆ “ไม่เท่าไหร่นะ ไม่ได้อ้วน แต่คนท้องก็ต้องมีอ้วนขึ้นบ้างอยู่แล้วเป็นธรรมดาน่ะ”

 

 

“ช่วงนี้ฉันกินแล้วก็นอนตื่นแล้วก็กิน ฉันเบื่อตัวเองจนจะบ้าตายอยู่แล้ว”

 

 

ช่วงนี้ลู่เสวี่ยเฉินก็ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันหรือเป็นเพราะเธอล่วงรู้ความลับของเขาแล้วเธอยังห้ามไม่ให้เขาชอบฟังจือหันอีก

 

 

อีกทั้งการเอาคืนของเขาเป็นปกติก็คือห้ามนอนดึกแล้วก็เพลาๆ เรื่องเล่นมือถือกับเล่นเกม

 

 

ตอนที่เธอกำลังจะดื้อรั้นเขาก็บอกว่าให้ทำเพื่อลูก

 

 

เมื่อได้ยินคำว่าลูกเธอที่กำลังจะปฏิเสธก็รู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกจึงอดไม่ได้ที่จะประนีประนอมให้กัน

 

 

อวี๋กานกานมองเธออย่างเคร่งขรึม “เธอจะเป็นแบบนี้ไม่ได้นะ กินอิ่มนอนหลับแล้วก็ต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เธอจะอยู่เฉยๆ ทั้งวันไม่ได้”

 

 

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากขยับไปไหนนะ แต่ฉันไม่รู้ว่าสามารถขยับไปไหนได้บ้าง ลู่เสวี่ยเฉินทำอย่างกับว่านี่เป็นลูกของเขาจริงๆ อย่างนั้นแหละ” หลินจยาอวี่ชี้นิ้วไปที่ท้องของตัวเอง

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินอยากมีลูก ต่อไปอยากเปิดตัวว่าเป็นเกย์ก็สามารถมีข้อต่อรองกับแม่เขาได้แล้ว

 

 

หลินจยาอวี่ทนไม่ได้จริงๆ จึงเริ่มบ่นให้อวี๋กานกานฟัง

 

 

“ทุกวันแปดโมงเช้าปลุกเรียกฉันตื่น หลังล้างหน้าแปรงฟันก็ทานอาหารเช้า ทานเสร็จก็เริ่มสอนให้ลูกฟังเพลงตั้งแต่ในครรภ์แล้วถึงค่อยอนุญาตให้ฉันได้เล่นมือถือแป๊บหนึ่ง จากนั้นทานอาหารกลางวันทานเสร็จก็ต้องนอนกลางวันสักพัก หนึ่งถึงสองชั่วโมงก็ต้องตื่นมาดื่มชายามบ่ายแล้วฝึกอบรมก่อนคลอดอีก หกโมงตรงต้องทานข้าวเย็น นั่งพักสักหน่อยก็ต้องไปอาบน้ำ พอสามทุ่มก็เตรียมตัวให้ฉันเข้านอนอีกอย่างเขาไม่อนุญาตให้ฉันนอนเล่นมือถือบนเตียงแล้วยังแอบเอามือถือฉันออกไปเงียบๆ เอามือถือฉันออกไป…”

 

 

อวี๋กานกานกัดหลอดในปากยิ้มตาหยีมองหลินจยาอวี่บ่นเป็นหมีกินผึ้ง

 

 

มองสีหน้าเธอที่นับวันยิ่งสดใสมีน้ำมีนวลแล้วพบว่าเธอช่างแตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิงซึ่งไม่ได้เย็นชาเหมือนไม่มีกลิ่นอายของความสดใสร่าเริงเลย

 

 

ตอนนี้เธอดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก

 

 

ดูแล้วการแต่งงานครั้งนี้ระหว่างเธอกับลู่เสวี่ยเฉินก็ไม่เลวนัก

 

 

บางทีหากเด็กคนนี้คลอดออกมาอาจทำให้หลินจยาอวี่และลู่เสวี่ยเฉินมีครอบครัวจริงๆ สักที

 

 

เธอยิ้มพร้อมกับถามออกมาหนึ่งประโยค “ดูท่าทางแล้วลู่เสวี่ยเฉินคงชอบเธอมาก”

 

 

หลินจยาอวี่อึ้งไปชั่วขณะจากนั้นจึงตอบอวี๋กานกานด้วยน้ำเสียงปกติ “เขาไม่มีทางชอบฉันได้หรอก”

 

 

“เธอเป็นคนสวยขนาดนี้ ผู้ชายที่แต่งเธอเข้าบ้านแล้วไม่หวั่นไหวบ้างฉันไม่เชื่อหรอกนะ เธอก็อย่าปิดกั้นตัวเองสิ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองสักหน่อย ถ้าหากลู่เสวี่ยเฉินชอบเธอขึ้นมาจริงๆ แถมยังดีกับลูกอีก นั่นเป็นเรื่องดีเชียวนะ”

 

 

อวี๋กานกานพยายามพูดเกลี้ยกล่อม “มีผู้หญิงตั้งมากมายถึงแม้จะแต่งงานมีลูกแล้วแต่ยังสามารถมีความรัก พบเจอกับผู้ชายที่ตัวเองรักก็จะสามารถสร้างครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสุขได้”

 

 

หลินจยาอวี่ตอบเสียงราบเรียบ “เธอคิดมากไปแล้ว ใช่สิ เธอรู้วิธีทำให้คนที่รักเพศเดียวกันกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม”

Related

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

Status: Ongoing
“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset