ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 551 แผนการของฟังจือหัน / ตอนที่ 552 เรามาแต่งงานกันอีกครั้ง

ตอนที่ 551 แผนการของฟังจือหัน

 

 

อุบัติเหตุในลิฟต์ครั้งนี้ทำให้ลู่เสวี่ยเฉินรู้สึกใจหายวาบ

 

 

แม้ผ่านไปหลายวันแล้วแต่เขายังคงมองหลินจยาอวี่ไม่ให้คลาดสายตา ไม่ว่าหลินจยาอวี่จะออกไปไหนเขาก็ต้องตามไปด้วยอย่างระแวดระวังจึงทำให้หลินจยาอวี่รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก

 

 

มีเพื่อนรู้ใจต่างเพศสักคนในชีวิตแบบนี้โชคดีมากจริงๆ

 

 

หากลู่เสวี่ยเฉินรู้เข้าว่าเธอคิดเช่นนี้คงโมโหตัวเองจนแทบกระอักเลือด

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินคิดว่าเหตุการณ์ในลิฟต์เป็นอุบัติเหตุมาโดยตลอด แต่หลังจากที่รู้ว่าลิฟต์ขัดข้องเพราะมีคนเจตนาทำร้ายก็ตกใจจนไม่อาจหาสิ่งใดเปรียบ

 

 

ชายหนุ่มรูปงามน่าหลงใหลมาดดุร้ายไร้ที่เปรียบ แววตาเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธนั้นจ้องฟังจือหันเขม็งแล้วเอ่ยถาม “เจียงซื่อเซิ่งใช่ไหม”

 

 

“อืม”

 

 

“เป้าหมายคือเสี่ยวอวี๋กานเหรอ” สารเลวจริงๆ กล้ามาแตะต้องภรรยาของเขา เขาจะไม่ยอมปล่อยไปเด็ดขาด

 

 

“อืม”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินหัวฟัดหัวเหวี่ยงเมื่อเห็นท่าทางใจเย็นของฟังจือหันจึงถามขึ้นด้วยความหงุดหงิด “บอกมา นายวางแผนจะทำให้มันตายยังไง”

 

 

ฟังจือหันยังคงนิ่งๆ “ฉันไม่ได้คิดจะให้เขาตายสักหน่อย”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินหัวเสียอย่างไม่เข้าใจ

 

 

เขามองไปยังชายหนุ่มผู้สงบนิ่งตรงหน้าแล้วพูดด้วยความเดือดดาลราวกับไฟสุมขอน “ฉันจะบอกนายให้นะนายแซ่ฟาง นายไม่เอามันตายก็เรื่องของนาย แต่ฉันจะเอามันให้ถึงตาย”

 

 

“แล้วแต่นาย”

 

 

“ฉันไม่ได้ล้อเล่น” น้ำเสียงของลู่เสวี่ยเฉินเย็นยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ

 

 

“ฉันรู้ว่านายไม่ได้ล้อเล่น” ฟังจือหันเอนกายพิงพนักเก้าอี้แล้วถามเขากลับไปหนึ่งประโยค “แต่จะให้มือเปื้อนเลือดเพื่อคนแบบนั้นนายคิดว่าคู่ควรแล้วเหรอ”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินสงบสติอารมณ์ขึ้นมาบ้าง ด้วยความเข้าใจคนอย่างฟังจือหัน เป็นไปไม่ได้ที่ฟังจือหันจะยอมอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร

 

 

เพียงแต่ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่

 

 

เขาวางมือคร่อมโต๊ะจ้องฟังจือหันเขม็ง “แล้วนายวางแผนจะทำยังไง”

 

 

“แน่นอนว่าต้องส่งต่อให้ตำรวจจัดการ”

 

 

“แต่นายไม่ได้ไปแจ้งความ”

 

 

“มันยังไม่ถึงเวลา”

 

 

“เพราะฉะนั้นตอนนี้นายเลยไม่คิดทำอะไรสักอย่าง ฉันว่านะอย่างน้อยนายควรไปถามมันสักคำหรือไม่ก็ไปบอกคุณปู่ของนาย ถึงยังไงฉันก็ไม่สนอยู่แล้ว เจียงซื่อเซิ่งทำร้ายคนของฉัน ฉันจะต้องแก้แค้นกลับไปให้ได้” สีหน้าลู่เสวี่ยเฉินเต็มไปด้วยความเป็นเดือดเป็นแค้นมองไปที่ฟังจือหันอย่างขุ่นแค้น

 

 

“งั้นนายก็ไปตีกับเขาสักยกสิ แต่จำไว้ว่าอย่าตีให้ถึงตายล่ะ” ฟังจือหันเอนหลังพิงเก้าอี้หนังและยกมือขึ้นขยี้คิ้วเบาๆ

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินมองไปที่สีหน้าอ่อนล้าของเขาจึงอดหยอกล้อไม่ได้ “ดูท่าทางนายคงไม่ได้นอนทั้งคืน คงไม่ได้สู้ฟัดกับเสี่ยวอวี๋กานทั้งคืนหรอกมั้ง เสี่ยวอวี๋กานดูผอมบางขนาดนั้น…”

 

 

ประโยคถัดไปยังพูดไม่ทันจบฟังจือหันก็คว้าเอาเอกสารบนโต๊ะขว้างใส่ลู่เสวี่ยเฉิน

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินหลบอย่างว่องไวจากนั้นเขาก็ออกไปด้วยความรวดเร็วดั่งสายฟ้า

 

 

ฟังจือหันสีหน้าเย็นเยียบ

 

 

หลังรอจนลู่เสวี่ยเฉินออกไปเขาจึงมีท่าทีอ่อนลง

 

 

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาอวี๋กานกาน หลังจากนั้นไม่นานเมื่อต่อสายติดก็ได้ยินน้ำเสียงอ่อนโยนของอวี๋กานกานดังเล็ดลอดออกมา “ฮัลโหล!”

 

 

“ยุ่งอยู่หรือเปล่า” เขาหมุนเก้าอี้หันไปมองหน้าต่าง ทุกครั้งที่เหนื่อยล้าหากมองออกไปข้างนอกแล้วเห็นเธอคงจะดีไม่น้อย

 

 

“เปล่าค่ะ เดี๋ยวกำลังจะจัดของ ถ้าฉันยุ่งอยู่ก็คงไม่รับสายคุณหรอกค่ะ” อวี๋กานกานพูดแล้วหันไปมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างแวบหนึ่งซึ่งเป็นบอดี้การ์ดหญิงที่ฟังจือหันเรียกให้มาคุ้มครองเธอ

 

 

“ถึงยังไงก็มีคนคอยดูฉันอยู่ไม่ใช่เหรอคะ หรือว่าเธอไม่ได้บอกคุณ” อวี๋กานกานต่อต้านในใจ แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะพยายามลดความรู้สึกการมีอยู่ของเธอลง ไม่ว่าเธอจะต่ำแค่ไหนแต่เธอก็ยังเป็นคนร่างใหญ่อยู่ดีซึ่งอวี๋กานกานไม่สามารถเพิกเฉยได้จริงๆ

 

 

“ผมบอกแล้วไงว่าเธอแค่คุ้มครองคุณเฉยๆ ไม่ล้ำเส้นคุณหรอกน่า”

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 552 เรามาแต่งงานกันอีกครั้ง

 

 

“หรือว่าช่างมันดีคะ ฉันรู้สึกแปลกๆ”

 

 

“เดี๋ยวก็ชิน”

 

 

ไม่ว่าอวี๋กานกานจะปฏิเสธอย่างไรฟังจือหันก็ไม่เห็นด้วย เมื่อเห็นอวี๋กานกานเงียบไปฟังจือหันจึงเอ่ยเรียกเธอเบาๆ “ยัยบ๊อง”

 

 

อวี๋กานกานที่ถือสายอยู่อีกฝั่งไม่ตอบเขาแต่ก็ไม่ได้วางสาย

 

 

ฟังจือหันหยัดตัวตรงลุกขึ้นหรี่ตามองแสงแดดด้านนอกแล้วเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “เรามาแต่งงานกันอีกครั้งดีไหม”

 

 

อวี๋กานกาน “…”

 

 

แต่งงานกันอีกครั้ง

 

 

พวกเขาเคยแต่งงานกันตั้งแต่เมื่อไหร่

 

 

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินโกรธฟึดฟัดเข้าบ้านทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วบ่นกับหลินจยาอวี่ที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ “นายแซ่ฟัง รู้ทั้งรู้ว่าอุบัติเหตุลิฟต์ค้างในวันนั้นเป็นฝีมืออารองของเขา เขาทนแบบนั้นได้จริงๆ ถ้าเป็นผม ผมต้องไปหาคุณปู่เจียงแน่ๆ”

 

 

หลินจยาอวี่ตกใจอย่างแรง “เรื่องในลิฟต์วันนั้นไม่ใช่อุบัติเหตุเหรอ หรือว่าอีกฝ่าย…ต้องการทำร้ายอวี๋กานกานเหรอคะ”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินพยักหน้า “ใช่ ฉะนั้นคุณเลยพลอยโดนหางเลขไปด้วย เพื่อความปลอดภัย ก่อนที่ฟังจือหันยังไม่จัดการเรื่องอารองของเขา คุณบอกเสี่ยวอวี๋กานด้วยว่าช่วงนี้อย่าออกไปไหนเพ่นพ่าน”

 

 

หลินจยาอวี่เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกเสียใจทีหลัง “งั้นกานกานยิ่งไม่อันตรายมากเหรอ ฟังจือหันให้คนไปคุ้มครองเธอหรือยัง”

 

 

“น่าจะมีมั้ง ผมจะไปหาเจียงซื่อเซิ่งแต่เขาก็รั้งเอาไว้ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดทำอะไรอยู่ ใจดำอำมหิตเกินไปแล้ว สงสัยคงกำลังวางแผนอะไรอยู่แน่” ลู่เสวี่ยเฉินจนปัญญาจริงๆ ไม่รู้ว่าตกลงฟังจือหันกำลังคิดทำอะไรกันแน่

 

 

หรือว่าการตายของดร.เจียงกับเจียงซื่อเซิ่งจะมีส่วนเกี่ยวข้องกัน

 

 

“แต่ถึงยังไงก็ยังเป็นอารองของฟังจือหัน แล้วคุณปู่ของฟังจือหันก็ยังอยู่ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เรื่องจะง่ายแบบที่คนนอกอย่างคุณคิดขนาดนั้นนะคะ”

 

 

หลินจยาอวี่ช่วยพูดแทนฟังจือหันจึงทำให้ลู่เสวี่ยเฉินเกิดอาการไม่พอใจเล็กน้อยแล้วพูดอย่างแง่งอน “คุณดีกับเขาจริงๆ นี่ยังช่วยคิดแทนเขาอีก คุณอย่าบอกนะว่าคุณก็ชอบฟังจือหันเหมือนกัน”

 

 

ผู้หญิงต่างก็ชอบผู้ชายฉลาดกันทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้ชายแบบฟังจือหัน

 

 

ดูเหมือนหลายปีที่ผ่านมา ผู้หญิงที่เขาและฟังจือหันรู้จักพร้อมกัน สุดท้ายก็ไปชอบฟังจือหันหมดเลย

 

 

หลินจยาอวี่นึกขำในใจ “คุณนี่ก็ตลกดีนะ ฉันจะไปชอบฟังจือหันได้ยังไงล่ะ คุณดูใจร้อน งั้นฟังจือหันคบอวี๋กานกานแล้ว คุณคงไม่อกแตกตายเลยเหรอ…”

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นลู่เสวี่ยเฉินจึงใจเย็นลว “ผมไม่หึงกานกานหรอก คุณก็ไม่ต้องคิดว่าผมจะตีท้ายครัวเขา บอกแล้วไง ผมขออวยพรให้เขาสองคน หวังว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตไปจนแก่เฒ่า ส่วนผมนั้น”

 

 

หยุดไปครู่หนึ่ง ดวงตาของลู่เสวี่ยเฉินหม่นแสงลงแล้วพูดอย่างแฝงความหมายลึกซึ้ง “ผมมีแค่คุณก็พอแล้ว”

 

 

หลินจยาอวี่อดยิ้มออกมาไม่ได้ “คุณก็อย่าคิดแบบนี้สิ อย่าแขวนคอตัวเองตายบนต้นไม้…แล้วปล่อยให้ตัวเองอยู่คนเดียวไปจนแก่”

 

 

คราวนี้เธอไม่ได้ยิ้มเจือจางเท่านั้น ดวงตาและดวงหน้ายังยิ้มด้วย ทั้งยังหัวเราะร่าออกมาเสียงเบาอีกด้วย

 

 

คนงามยิ้มโลกละลาย มัจฉาจมวารี ปักษีตกนภาจันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินตกตะลึง สายตาจดจ้องไปที่ใบหน้าของหลินจยาอวี่

 

 

หลินจยาอวี่โดนมองจนไม่เป็นตัวของตัวเอง “คุณจะทำอะไร”

 

 

“คุณหัวเราะแล้ว”

 

 

“ฉันหัวเราะแล้วมันแปลกตรงไหน…” เธอหัวเราะออกจะบ่อย แต่น้อยครั้งที่จะหัวเราะฮ่าๆ…เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เธอหัวเราะแล้ว

 

 

หลินจยาอวี่ยกมือขึ้นด้วยความประหลาดใจ ลูบใบหน้าแล้วเม้มริมฝีปาก จากนั้นลองหัวเราะ “ฮ่าๆ”  สองสามครั้งแล้วถามลู่เสวี่ยเฉินด้วยความตื่นเต้น “ดูเหมือนมุมปากของฉันจะหายสนิทแล้ว ฉันหัวเราะได้จริงๆ ด้วย…”

 

 

นัยน์ตาของลู่เสวี่ยเฉินอ่อนโยนลง “คุณหัวเราะจริงๆ แล้วตอนยิ้ม..คุณสวยมาก ต่อไปต้องหัวเราะบ่อยๆ นะ อย่าไปเลียนแบบก้อนน้ำแข็งอย่างฟังจือหันนั่นเลย”

Related

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

Status: Ongoing
“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset