ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 553 ความสุขของผมคือคุณ / ตอนที่ 554 ความเอาใจใส่ของลู่เสวี่ยเฉิน

ตอนที่ 553 ความสุขของผมคือคุณ

 

 

หลินจยาอวี่เอ่ยตอบ “ตอนที่ฟังจือหันมองอวี๋กานกานอบอุ่นมากจริงๆ คุณอย่าโกรธแค้นเพราะรักเลย อย่างที่ฉันบอกเมื่อกี้ว่าอย่าแขวนคอใต้ต้นไม้”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินพูดจากำกวม “แน่นอน ผมต้องการความรักแล้วผมก็จะอยู่กับคนที่ผมรักไปตลอดชีวิตด้วย”

 

 

หลินจยาอวี่พูดอย่างยืนหยัด “ฉันจะช่วยทำให้คุณมีความสุขแน่นอน ช่วงนี้มีคุณอยู่เป็นเพื่อนฉันก็เลยอาการดีขึ้นเร็ว เพราะอวี๋กานกานเคยบอกว่าแค่มีเพื่อนคุยหัวเราะมีความสุขแล้วนี่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับฉัน ดังนั้นฉันต้องช่วยทำให้คุณเจอกับความรักของตัวเองและทำให้คุณมีความสุขได้แน่นอน”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินมองเธออย่างอ่อนโยน “จยาอวี่…”

 

 

นี่เธอคิดจะฝากฝังชีวิตไว้กับเขาอย่างนั้นหรือ จู่ๆ ใจก็เต้นเร็วขึ้นและดูเหมือนหน้าจะแดงขึ้นนิดๆ ด้วย…

 

 

“ฉันรู้จักผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นแบบคุณ เขาเพียบพร้อมมากๆ ปีนี้อายุยี่สิบเก้าทั้งสูงทั้งหล่อแล้วพึ่งเลิกกับแฟนหนุ่มด้วย หากคุณรู้สึกว่าเขาเหมาะสม ฉันแนะนำให้พวกคุณรู้จักกันได้นะ…”

 

 

หลังจากที่ได้ยินอวี๋กานกานบอกว่ารสนิยมทางเพศมันเปลี่ยนกันไม่ได้ เธอก็เลยพิจารณาให้ลู่เสวี่ยเฉินพบกับความรักครั้งใหม่อย่างไร

 

 

ทันใดนั้นหัวใจที่ตื่นเต้นของลู่เสวี่ยเฉินก็ตกลงไปในอุโมงค์น้ำแข็งอย่างฉับพลัน

 

 

หน้าแดงระเรื่อพลันขึ้นเขียว

 

 

จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นกล่าวด้วยวาจาร้ายกาจ “ผู้ชายที่เพียบพร้อมมันเกี่ยวอะไรกับผม ผมบอกตอนไหนว่าผมชอบผู้ชาย”

 

 

หลินจยาอวี่ตะลึงงัน “คุณบอกว่าชอบฟังจือหันไม่ใช่เหรอ”

 

 

“นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะชอบผู้ชาย หรือว่าคุณไม่เคยฟังคำพูดแบบนี้ เพียงเพราะชอบคนคนหนึ่งไม่เกี่ยวว่าจะเป็นชายหรือหญิง” ลู่เสวี่ยเฉินทิ้งประโยคนี้ก่อนจะหันออกไปอย่างกรุ่นโกรธ

 

 

“ลู่เสวี่ยเฉิน” หลินจยาอวี่ลุกขึ้นส่งเสียงร้อง จากนั้นนั่งลงบนโซฟาอีกครั้งปรากฏเสียงร้องเจ็บปวด “ซี๊ด…”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินหันกลับมามองเธอด้วยสีหน้าประหม่า “คุณเป็นอะไรไป”

 

 

หลินจยาอวี่บีบนวดเท้า “ตะคริวกินขา”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินรีบนั่งลงยกเท้าของเธอขึ้นมาวางบนขาของตัวเองแล้วช่วยเธอนวดน่องเบาๆ “คุณเป็นคนท้องดีๆ หน่อยได้ไหม มีคนท้องที่ไหนเป็นเหมือนคุณบ้าง”

 

 

หลินจยาอวี่ขมวดคิ้วมุ่น “คนท้องทุกคนมีการตอบสนองการตั้งครรภ์ต่างกัน คุณคิดว่าฉันอยากอ๊ะ อ๊า…”

 

 

เธอยื่นมือออกไปนวดเท้าอีกข้าง

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินรียยกเท้าอีกข้างของเธอขึ้นมาวางบนขาตัวเองแล้วนวดเบาๆ

 

 

ผ่านไปสักพัก หลินจยาอวี่ก็บีบมือลู่เสวี่ยเฉิน “ขอบคุณนะ ฉันหายชาแล้วค่ะ”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินกลับไม่ยอมหยุดยังนวดคลึงให้อยู่อย่างนั้น “หมอบอกว่าให้นวดเยอะๆ”

 

 

หลินจยาอวี่ขอบคุณแล้วเอ่ยว่า “เมื่อกี้ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอก คุณไม่ได้ชอบผู้ชายแต่คุณชอบแค่ฟังจือหันใช่ไหม”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินก่นด่า “ซื่อบื้อ”

 

 

สีหน้าหลินจยาอวี่พลันเย็นชา “คุณด่าฉันเหรอ”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินยอมแพ้และยิ้มชั่วร้าย “ผมไม่ได้ด่าคุณสักหน่อย แค่อยากบอกคุณว่าเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงผกผันของระดับฮอร์โมนในร่างกายของผู้ตั้งครรภ์อาจทำให้ความจำเสื่อม ความสามารถในการพิจารณาแย่ลงซึ่งทำให้คุณคิดน้อยลงในบางเรื่อง”

 

 

หลินจยาอวี่ไม่พูดสิ่งใดอีก

 

 

ปล่อยให้ลู่เสวี่ยเฉินนวดขาเธอต่อไป จากนั้นเอนหลังพิงโซฟาแล้วหลับตานอน

 

 

ผ่านไปไม่นานเธอก็หลับสนิทลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินจ้องมองเธออยู่สักพัก จู่ๆ ก็แตะนิ้วบนใบหน้าของเธอ เมื่อเห็นเธอหลับสนิทไม่มีวี่แววว่าจะตื่นจึงก้มศีรษะลงจูบริมฝีปากของเธอ…

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 554 ความเอาใจใส่ของลู่เสวี่ยเฉิน

 

 

หลินจยาอวี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองโดนขโมยจูบ เธอหลับตานอนหลับสนิท

 

 

แต่ว่านอนค้างท่านี้นานๆ คงไม่สบายนัก ลู่เสวี่ยเฉินเอาใจใส่โดยการอุ้มเธอมานอนดีๆ บนเตียง แต่หลินจยาอวี่หลับไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ตื่นซะแล้ว

 

 

เธอตื่นเพราะหิว

 

 

มีบทเรียนจากการกินมากจนปวดท้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อคราวก่อนแล้ว ช่วงนี้เธอจึงพยายามกินข้าวเย็นให้น้อยลง ดังนั้นจึงมักจะตื่นเพราะหิวขึ้นมากลางดึก

 

 

เธออดทนไม่กินอะไร หากทนไม่ไหวก็ลุกขึ้นมาหาอะไรกินรองท้อง

 

 

คืนนี้เธอไปหาที่ห้องครัวและพบว่าไม่มีอะไรที่พอจะกินได้เลย

 

 

หลินจยาอวี่รินน้ำใส่แก้วแล้วเดินไปทางห้องหนังสือ

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินยังคงสวมเสื้อผ้าตัวเดิมกำลังกวาดสายตามองจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าอยู่ภายในห้องหนังสือ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูเขาจึงรีบตะโกนตอบกลับไป “เข้ามาครับ”

 

 

เมื่อเห็นหลินจยาอวี่ผลักประตูเข้ามาเขาจึงรีบหยุดงานในมือทันทีแล้วลุกขึ้นไปรับก่อนเอ่ยถาม “คุณตื่นแล้วเหรอ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”

 

 

หลินจยาอวี่หันแก้วน้ำในมือไปมา “เปล่าค่ะ ฉันหิวแล้วตู้เย็นในครัวโล่งหมดข้างในไม่อะไรกินเลย ตู้ในห้องรับแขกก็เกลี้ยงไม่มีขนมเหลือสักอัน สงสัยพรุ่งนี้เราคงต้องไปซูเปอร์มาร์เก็ตสักหน่อยแล้วล่ะ”

 

 

“ดูสิ วันนี้ผมมัวแต่โมโหฟังจือหันจนลืมไปซูเปอร์มาร์เก็ตเลย”

 

 

“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ค่อยซื้อมาเติมก็ได้ ฉันไปนอนก่อนนะคะ”

 

 

“แต่คุณหิวไม่ใช่เหรอ”

 

 

“ยังพอไหว ไม่ได้หิวมากขนาดนั้น” ยังไม่ทันที่หลินจยาอวี่จะพูดจบท้องของเธอก็ส่งเสียงร้องจ๊อกๆ ออกมา

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินยิ้มขำ “รอก่อน เดี๋ยวผมไปซื้อให้คุณ คุณอยากกินอะไร”

 

 

หลินจยาอวี่พยักพเยิดไปยังมือถือที่เขาวางเอาไว้บนโต๊ะ “ตอนนี้สั่งเดลิเวอร์รี่จะสะดวกกว่านะคะ”

 

 

“ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาปรุงอาหารยังไง เดี๋ยวผมออกไปซื้อเอง” คนท้องจะกินของสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ อาหารเดลิเวอร์รี่สมัยนี้มีแต่อะไรไม่รู้มั่วซั่วไปหมด ไม่สู้ไปซื้อเองยังจะดีกว่าอีก

 

 

“แต่ดึกขนาดนี้แล้ว เรียกอาหารเดลิเวอร์รี่ดีกว่านะคะ” หลินจยาอวี่รู้สึกว่าแบบนี้ทั้งยุ่งยากทั้งลำบาก

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินสวมเสื้อคลุมเรียบร้อยแล้วยื่นมือลูบผมเผ้ายุ่งเหยิงของเธอ อดทนความอยากจูบเธออีกครั้งก่อนจะยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “คุณอยู่บ้านดีๆ นะ เดี๋ยวผมจะรีบกลับมา”

 

 

“ไม่ค่ะ นี่ก็ดึกแล้วเราช่างมันเถอะค่ะ ลู่เสวี่ยเฉิน ฉันไม่ได้กระแดะขนาดนั้นหรอก”

 

 

“นี่มันเกี่ยวอะไรกับกระแดะ ผู้หญิงท้องก็ควรได้รับการดูแลเอาใจใส่แบบนี้” ลู่เสวี่ยเฉินเลิกคิ้วแล้วยิ้ม “รีบบอกสิว่าคุณอยากกินอะไร”

 

 

“จู่ๆ ฉันก็ไม่ค่อยหิวแล้ว คุณไม่ต้องออกไปแล้วล่ะ” กลางค่ำกลางคืนช่วงฤดูหนาวนั้นหนาวมาก ยังไงก็ไม่ต้องออกไปซื้อของกินกลางดึก เธอคิดว่าสั่งอาหารเดลิเวอร์รี่จะดีกว่า เมื่อก่อนตอนอยู่คนเดียวเธอก็สั่งเอาแบบนี้

 

 

“โอเค คุณก็รีบใช้โอกาสตอนที่กำลังท้องอยู่ให้ดีซะ ต่อไปถ้าคุณคลอดลูกแล้วผมอาจจะไม่ใจดีขนาดนี้แล้วนะ”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินยืนกรานตลอด หลินจยาอวี่จึงยอมอ่อนลง “งั้นก็ได้ คุณซื้อได้ตามใจ ขอแค่ให้มันอร่อยก็พอฉันชอบกินหมดนั่นแหละ”

 

 

“ได้ รอแป๊บ อย่าปิดเสียงแจ้งเตือนมือถือล่ะ เผื่อมีอะไรจะได้โทรหาผม” เมื่อฝากฝังเรียบร้อยลู่เสวี่ยเฉินก็หยิบกุญแจรถออกไป

 

 

หลินจยาอวี่ส่งลู่เสวี่ยเฉินจนกระทั่งปิดประตูห้อง ภายในห้องพลันเงียบลง ในคืนที่มืดมิดนี้ความหนาวเย็นเหมือนหมอก

 

 

ในช่วงที่ทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกัน ลู่เสวี่ยเฉินก็ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในชีวิตของเธอเงียบๆ โดยไม่รู้ตัว

Related

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

Status: Ongoing
“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset