ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 589 อยากจะขยับความสัมพันธ์ / ตอนที่ 590 หน้าแดงใจเต้น คือความรักไง!

ตอนที่ 589 อยากจะขยับความสัมพันธ์  

 

 

ภายในห้องวีไอพีสวยงามหรูหราเห็นฉากตั้งโบราณเคลือบทองไปทั่ว พนักงานสวยงามถูกคัดสรรมาอย่างดีเสิร์ฟอาหารไปพลางถือเหยือกเหล้าเติมในแก้วคริลตัลไปพลาง  

 

 

หลินจยาอวี่กลับเมืองไป๋หยางและไม่ได้กลับมาเลย  

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินโทรหาอยู่หลายครั้ง  

 

 

แต่ว่าหลินจยาอวี่ก็ท้องอยู่ อยู่กับพ่อของเธอที่สุขภาพไม่ค่อยดี เธอต้องอยู่ดูแลพ่อของเธอที่เมืองไป๋หยางจึงกลับเมืองหลวงไม่ได้ชั่วคราว  

 

 

เธอเป็นคนท้องคนหนึ่งจะดูแลอะไรได้กัน  

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินนั่งข้างฟังจือหัน เล่นแก้วไปพลางพูดอย่างขมขื่น “ฉันไม่อยากยอมรับแต่ต้องยอมรับว่าฉันอิจฉาริษยาไม่ชอบนายจริงๆ นายคิดดูสิ นายเย็นชาเหมือนกับก้อนน้ำแข็ง ทำไมถึงได้หาภรรยาที่ดีแบบนั้นอย่างเสี่ยวอวี๋กานเจอกันนะ เสี่ยวอวี๋กานช่างน่าสงสารจริง”  

 

 

ฟังจือหันเหลือบมองเขาแวบหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ  

 

 

ความสนใจของเขาล้วนอยู่ที่ตัวอวี๋กานกานซึ่งกำลังพูดคุยกับเหอสือกุยอยู่  

 

 

เรื่องการแต่งงาน อวี๋กานกานย่อมไม่กล้าบอกเป็นธรรมดา คาดว่ารอให้หลังจากนี้ค่อยหาโอกาสที่เหมาะสมบอก  

 

 

แต่ว่าเรื่องการหมั้นเธอจำเป็นต้องบอกเขาจริงๆ  

 

 

จึงเล่าเรื่องที่เธอกับฟังจือหันไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณตาของฟังจือหัน จากนั้นคุณตาของฟังจือหันก็ประกาศเรื่องการหมั้นหมายในงานเลี้ยงกะทันหัน  

 

 

จู่ๆ คุณตาก็คึกขึ้นมาจึงกำหนดเรื่องหมั้นในทันทีโดยไม่ได้ผ่านเขา  

 

 

เกี่ยวกับฐานะของคุณตาฟังจือหันเธอก็แอบบอกไปสักหน่อยแล้ว  

 

 

หลังเล่าจบเธอก็มองเหอสือกุยอย่างระมัดระวัง กลัวว่าเขาจะไม่พอใจที่อีกฝ่ายตัดสินใจเรื่องการหมั้นเพียงฝ่ายเดียว  

 

 

ไม่คาดคิดว่าเหอสือกุยไม่เพียงไม่ได้ไม่พอใจ กลับกันยังส่งยิ้มอบอุ่น “ตั้งแต่เด็กจนโตผู้ใหญ่มักชอบเธอเสมอ คุณตาของตระกูลฟังเห็นเธอก็หมั้นพวกเธอทันที เห็นได้ชัดว่าเขาชอบเธอ เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ต่อไปอาจารย์ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเธอเพราะว่าปัญหาครอบครัวหรือน้อยใจอะไรเลย”  

 

 

“อาจารย์เหม่ยเหริน คุณดีจริงๆ เลย” อวี๋กานกานพูดพร้อมเหลือบไปมองซย่าเสี่ยวหร่านที่อยู่ด้านข้าง “ฉันหวังว่าอาจารย์เหม่ยเหรินจะสามารถแต่งงานได้เร็วหน่อย จากนั้นก็มีน้องสาวตัวน้อยหรือน้องชายตัวน้อยให้ฉันสักคน”  

 

 

เหอสือกุยยิ้มบางๆ แต่ไม่ได้พูดจา แค่คีบปลาหนึ่งชิ้นวางในชามของเธอ  

 

 

สบเข้ากับสายตาของอวี๋กานกาน ซย่าเสี่ยวหร่านก็ส่งยิ้มให้อวี๋กานกาน จากนั้นก็คุยเล่นกับซ่งฉาไป๋ที่อยู่ด้านข้างต่อ  

 

 

ทั้งคู่ต่างก็เรียนหมอ ต่อให้เพิ่งรู้จักกันแต่ก็ยังคงมีเรื่องให้พูดคุยกัน  

 

 

ทุกคนต่างคุยไปหัวเราะไป ในตอนนี้เยี่ยซีกำลังคุยกับโจวโจวซึ่งอยู่ด้านข้าง  

 

 

“เป็นครั้งแรกที่ผมรู้จักกับตำรวจหญิง ดังนั้นมีเรื่องหนึ่งผมอยากจะถามคุณสักหน่อย”  

 

 

เยี่ยซีเอียงตัวเล็กน้อย โน้มไปทางโจวโจวโดยตั้งใจอยากจะขยับความสัมพันธ์กับเธอให้ใกล้ชิดขึ้น  

 

 

หน้าตาสวยหมดจดของโจวโจวเรียบเฉยและใจเย็น แววตาว่างเปล่า “อะไรเหรอ”  

 

 

เยี่ยซีพูดอย่างกลุ้มใจ “มีผู้หญิงคนหนึ่งชอบคุณชายอย่างผม ตามตื้อคุณชายอย่างผมตั้งแต่เช้าจนดึก ไล่ยังไงก็ไม่ไป ผมกลุ้มใจมากไม่รู้จะต้องทำยังไงดี ไม่ทราบว่าแจ้งความได้ไหม”  

 

 

“ได้แน่นอนสิ!” ขนตายาวของโจวโจวกระพริบครู่เดียว มุมปากหยักคล้ายไม่ขำ  

 

 

น้ำเสียงนุ่มนวล อ่อนยวบอยู่ภายในใจ ความรู้สึกแปลกประหลาดละลายน้ำแข็งในร่างกาย เยี่ยซีลดเสียงลงถาม “หลังแจ้งตำรวจจะจัดการยังไง ถ้าเธอออกมาแล้วตามตื้อต่อผมจะทำยังไง รับสมัครตำรวจเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวได้ใช่ไหม จะดีที่สุดถ้าเจ้าหน้าที่โจวคุ้มกันด้วยตัวเอง…”  

 

 

โจวโจวพูดแทรกคำพูดเขา “ไม่ได้”  

 

 

“ทำไมรับสมัครบอดี้การ์ดส่วนตัวไม่ได้ ไม่ใช่ว่าทุกคนเป็นเพื่อนกันเหรอ ช่วยหน่อยไม่ได้เหรอ”  

 

 

“คุณสมัครบอดี้การ์ดส่วนตัวได้ แต่เป็นฉันไม่ได้!”  

 

 

เยี่ยซี “…”  

 

 

ถ้าไม่ใช่คุณ บอดี้การ์ดส่วนตัวอะไรนี่จะมีประโยชน์อะไรกัน  

 

 

   

 

 

   

 

 

ตอนที่ 590 หน้าแดงใจเต้น คือความรักไง!  

 

 

หลังจากกินข้าวเสร็จทุกคนก็ย้ายไปห้อง KTV ที่อยู่ถัดไป  

 

 

ร้องเพลงก็ร้อง ดื่มเหล้าก็ดื่ม คุยเล่นก็คุยเล่น ราวกับว่าทุกคนต่างก็สนุกมาก นอกจากเจียงฉี่ที่นั่งเล่นมือถือเงียบๆ อยู่ตรงนั้น ดูแล้วอารมณ์ไม่ค่อย  

 

 

อวี๋กานกานก็พบว่าคืนนี้เจียงฉี่ดูแปลกไป กำลังจะถามว่าเธอเป็นอะไรไปแต่กลับถูกเยี่ยซีลากไป  

 

 

สีหน้าของเยี่ยซีดูประหม่าอยู่นิดหน่อย ถามอวี๋กานกานด้วยเสียงเบา “เธอกับเจ้าหน้าที่โจวคนนั้นสนิทกันมากไหม”  

 

 

อวี๋กานกานคิดครู่หนึ่งถึงได้ตอบออกมา “ฉันกับเธอเจอกันไม่กี่ครั้งแต่ว่าเจ้าหน้าที่โจวช่วยเหลือฉันเอาไว้ และเธอก็เป็นคนดีมาก พวกเรา…น่าจะถือว่าสนิทนะ ทำไมเหรอ”  

 

 

“เขามีแฟนไหม” เยี่ยซีถามอีกครั้ง  

 

 

“ไม่มี” อวี๋กานกานตอบเสร็จสายตาพลันตกตะลึงไปหมด ถามเขาอย่างเหลือเชื่อ “นาย…อย่าบอกฉันนะว่านายชอบเจ้าหน้าที่โจว นายอยากจะตามจีบเจ้าหน้าที่โจวสินะ”  

 

 

เยี่ยซีจัดหูกระต่ายกับสูทของตนเองพร้อมกับยืดอกกล่าวแบบมาดแมน “ทำไม ไม่ได้เหรอ”  

 

 

หลังจากที่อวี๋กานกานอึ้งไปก็อดหลุดหัวเราะออกมาเสียไม่ได้ “นายแน่ใจเหรอ ไม่ใช่นายเคยบอกว่าผู้หญิงในใจของนายคนไหนอะไรสักอย่าง…”  

 

 

“แม้ฉันจะมีแฟนมาเยอะมากแต่ว่าสามารถทำให้ฉันหน้าแดง ใจเต้นกลับมีแค่เขาคนเดียว เพราะอย่างนั้นไม่เหมือนกัน”  

 

 

ต่อให้ผ่านไปนานขนาดนั้น เยี่ยซียังคงจำคืนวันนั้นที่บาร์ได้  

 

 

ความรู้สึกที่หญิงสาวซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม ขยับเข้ามาพูดจากำกวมข้างหูเขา แต่วินาทีต่อมาก็กลายเป็นสาวโหด บิดแขนเขาหมุนทีเดียวและดันเขาติดกับกำแพง  

 

 

แซ่บมาก!  

 

 

เขาชอบ  

 

 

“โจวโจวไม่ใช่พวกแฟนสาวแบบที่นายเคยคบแบบเมื่อก่อน ไม่ใช่ว่านายจีบติดไม่กี่วันก็จะเลิกกันได้” อวี๋กานกานเตือนเขา  

 

 

ไม่ใช่ว่าเธอตั้งใจพูดเป็นลางไม่ดี เธอคิดว่าเยี่ยซีก็จีบโจวโจวไม่ติดอยู่แล้ว  

 

 

เยี่ยซีตอบ “จะเป็นไปได้ไงที่จีบติดแล้วก็เลิก เห็นฉันเป็นคนแบบไหนกัน”  

 

 

อวี๋กานกาน “…”  

 

 

นายก็เป็นคนแบบนั้นจริงๆ  

 

 

เยี่ยซีมองอวี๋กานกานด้วยความคาดหวัง “พี่ ช่วยผมหน่อยเถอะ”  

 

 

อวี๋กานกานทำหน้าไม่ถูก “ฉันจะช่วยนายได้ยังไงกัน เรื่องตามจีบสาวไม่ใช่ว่านายถนัดกว่าหรือไง”  

 

 

“แต่นี่ไม่เหมือนกัน เพราะงั้นเธอต้องพูดเรื่องดีๆ ของฉันต่อหน้าเขาให้เยอะหน่อย ได้ไหม”  

 

 

“ได้ๆๆ”  

 

 

ด้านหน้าห้องวีไอพีแสงไฟสลัว โจวโจวกับซ่งฉาไป๋กำลังร้องเพลง  

 

 

ฟังจือหันกับลู่เสวี่ยเฉินนั่งคุยกันอยู่อีกด้านหนึ่งซึ่งมีระยะห่างกับที่ร้องเพลงตรงนั้นอยู่พอประมาณ  

 

 

ซย่าเสี่ยวหร่านคุยกับเหอสือกุยอยู่ ทั้งคู่คุยไปด้วยยิ้มไปด้วย แสงไฟที่คล้ายสว่างแต่ก็มืดทอดลงบนตัวเหอสือกุย ร่างสูงโปรงเอนตัวบนโซฟา หันหน้าไปทางซย่าเสี่ยวหร่าน บนใบหน้าฉายรอยยิ้มอ่อนโยน  

 

 

เจียงฉี่นั่งกินอาหารอยู่ข้างๆ  

 

 

พนักงานตรงหน้ากำลังรินเหล้า เจียงฉี่ก็ต้องการหนึ่งแก้ว  

 

 

ตอนที่เธอกำลังจะดื่มผลคือแก้วกลับโดนมือข้างหนึ่งกดเอาไว้  

 

 

“ไม่ใช่ว่าเธอกินเหล้าไม่ได้หรอกเหรอ”  

 

 

ได้ยินเสียงอ่อนโยน มองไปที่มือซึ่งกำลังกดมือตนเองอยู่ รู้สึกว่าหัวใจของตนเองเต้นตึกตักรัวๆ เธอเชยตามองชายหนุ่มและเรียกเบาๆ “อาจารย์เหม่ยเหริน”  

 

 

“เป็นเด็กเป็นเล็กดื่มเหล้าให้น้อยๆ หน่อย” ขณะเหอสือกุยพูด เขาก็มองไปทางพนักงาน “ขอน้ำผลไม้ให้เธอหน่อย”  

 

 

“ได้ค่ะ กรุณารอสักครู่” พนักงานส่งยิ้มไปสั่ง  

 

 

เจียงฉี่ยิ้ม พูดอย่างเขินอายอยู่บ้าง “ขอบคุณค่ะอาจารย์เหม่ยเหริน”  

 

 

คล้ายกับเมฆดำเจอกับแสงอาทิตย์อยู่หน่อยๆ   

 

 

เหอสือกุยก็ส่งยิ้มให้เจียงฉี่ จากนั้นก็มองไปทางซย่าเสี่ยวหร่านและถามเบาๆ “เหนื่อยไหม ถ้าเหนื่อยเรากลับกันก่อนได้”  

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

Status: Ongoing
“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset