ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 119 ผมชอบผู้หญิงแบบนี้ / ตอนที่ 120 ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจจริงๆ

ตอนที่ 119 ผมชอบผู้หญิงแบบนี้

 

 

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ อวี๋กานกานจะไปหาเหอหว่านซิน ฟังจือหันอาสาไปส่งเธอ ปล่อยให้ลู่เสวี่ยเฉินและหลินจยาอวี่กลับกันเอง

 

 

หลินจยาอวี่เองก็ไม่ได้ใส่ใจ “ไม่เป็นไร ฉันจะกลับบ้านอยู่พอดี”

 

 

อวี๋กานกานกุมมือหลินจยาอวี่ “กลับบ้านไปเยี่ยมประธานหลินและหลินฮูหยินสักหน่อยนะ กินข้าวเย็นกับพวกท่านสักมื้อ” รับความรักจากคนในบ้าน ความอบอุ่นจากคนในครอบครัว หลินจยาอวี่จะต้องกลับมามีชีวิตชีวามีความปรารถนาในการใช้ชีวิตได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินค่อนข้างหัวเสีย สีหน้าบูดบึ้งชี้ท้ายรถของฟังจือหันพร้อมทั้งตะโกนด่า “แซ่ฟัง ชาติที่แล้วฉันคงทำกรรมไว้เยอะถึงได้มารู้จักกับนาย”

 

 

หลินจยาอวี่ปรายตามองเขาด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง จากนั้นให้ยามหน้าประตูช่วยเรียกรถแท็กซี่ให้ บังเอิญเหลือเกินก่อนหน้านี้เจอเฉียวพั่นเอ๋อร์ที่ห้องอาหาร ตอนนี้ยังเจอเธออีกครั้งตรงหน้าประตูอีก

 

 

เฉียวพั่นเอ๋อร์เดินมาพร้อมกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ตาโตจมูกโด่งคางแหลม ดูๆ แล้วก็สวยดี แต่ติดตรงคางแหลมที่ไปหน่อยจนเหมือนค้อน

 

 

ผู้หญิงคนนั้นเมื่อเห็นหลินจยาอวี่ก็หน้าบึ้งตึงทันที เฉียวพั่นเอ๋อร์เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นกับหลินจยาอวี่กำลังจะเผชิญหน้ากันโดยบังเอิญ สายตาของเธอฉายแววความซับซ้อน ก่อนจะรีบเดินไปตรงกลางบังวิสัยทัศน์ของผู้หญิงคนนั้นไว้ “ชิวชิว รถตอนอยู่ตรงโน้น พวกเราเดินไปทางนี้ดีกว่านะ”

 

 

ผู้หญิงที่ชื่อชิวชิวไม่ขยับ จ้องหลินจยาอวี่เขม็ง ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าหลินจยาอวี่อกหักรักคุด ล้มป่วย วันๆ เอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้านไม่ออกไปไหน ใช้ชีวิตเหมือนซอมบี้ไม่ใช่หรือ เพราะเหตุนี้เธอจึงมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง

 

 

พอตอนนี้ได้มาเจอกับหลินจยาอวี่อีกครั้ง ทำไมถึงยังเป็นหลินจยาอวี่คนนั้นคนเดิมที่ทุกคนคุ้นเคย เย่อหยิ่งจองหอง เย็นชาสง่างาม เธอสะบัดมือของเฉียวพั่นเอ๋อร์ที่จับแขนของเธออยู่ออก พุ่งเข้าไปหาหลินจยาอวี่ หน้ายิ้มเนื้อไม่ยิ้ม พูดด้วยน้ำเสียงถากถาง “หลินจยาอวี่”

 

 

 สำหรับเฉียวพั่นเอ๋อร์หลินจยาอวี่ยังให้ความเกรงใจอยู่บ้าง อย่างน้อยก็ยังไว้หน้า แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ หลินจยาอวี่เบือนหน้าไปทางอื่น จงใจเมินอย่างสิ้นเชิง เห็นเธอเป็นเพียงแค่อากาศธาตุ

 

 

เฉียวพั่นเอ๋อร์ค่อนข้างกระอักกระอ่วน เอ่ยเสียงเบา “ชิวชิว ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”

 

 

ชิวชิวกลั้วหัวเราะเสียงเย็น “หึหึ ตอนนี้ก็ยังไม่ให้ฉันพูด ตอนแรกที่ฉันโดนแย่งแฟน ทำไมไม่เห็นมีใครสนใจความรู้สึกของฉันบ้าง”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินยืนพิงอยู่ตรงหน้าประตู มองดูละครฉากเด็ดของผู้หญิงสามคนนี้ด้วยความสนอกสนใจ สถานที่ที่มีผู้คนคือยุทธภพ สถานที่ที่มีสตรีคือสงคราม

 

 

หลินจยาอวี่มองชิวชิวด้วยสายตาเย็นยะเยือก “แย่งแฟนเธอ? เธอไปเป็นแฟนเขาตอนไหนไม่ทราบ? คุ้นๆ ว่าหลังจากที่เขาเห็นใบหน้าที่ศัลยกรรมมาจนเหมือนแม่มดของเธอ เขาก็ตกใจกลัวจนฝันร้าย”

 

 

คำพูดนี้ทำให้ชิวชิวโกรธจนหน้าแทบจะเบี้ยว เธอกันฟัดกรอด แค่นหัวเราะออกมา “เธอเก่ง เลิศเลอสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่ว่าเธอก็ถูกเขาทิ้งมาเหมือนกันหรอกเหรอ ผู้หญิงอย่างเธอที่วันๆ ใช้จมูกชี้หน้าคนอื่น คู่ควรแค่กับพวกผู้ชายที่ชอบเงินของเธอเท่านั้นแหละ” พูดพลางยื่นมือออกมาชี้ไปที่ลู่เสวี่ยเฉิน “นอกจากแมงดาอย่างหมอนั้นแล้ว ยังมีใครรับนิสัยเสียๆ ของเธอได้อีก” ทั้งยังปรายตาไปมองลู่เสวี่ยเฉินด้วยสายตาเหยียดหยามขั้นสูงสุด

 

 

ลู่เสวี่ยเฉิน “…”

 

 

เกี่ยวอะไรกับฉัน? เผือกอยู่ดีๆ ก็ถูกเผือกหล่นทับเสียอย่างงั้น เขาลู่เสวี่ยเฉินชายหนุ่มในฝันของสาวเมืองจิงนับร้อยล้านคน ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักถูกสาวๆ จำนวนนับไม่ถ้วนรายล้อมเป็นดาวล้อมเดือน

 

 

วันนี้เขาสวมชุดสูทราคาแพงตั้งแต่หัวจรดเท้า หล่อเหลาองอาจ เหมือนแมงดาตรงไหน?

 

 

ในตอนที่หลินจยาอวี่กำลังจะเถียงกลับ ทันใดนั้นก็มีแขนยื่นออกมาจากทางด้านข้างวางไว้บนไหล่ของเธอ พร้อมกับน้ำเสียงอันธพาลดังขึ้น “ขอโทษนะครับ พอดีผมชอบผู้หญิงสไตล์สวยเย็นชา ต่อให้ผมไม่ได้แต่งกับสาวงามพริ้งแบบนี้ ผมก็ไม่มีทางชอบผู้หญิงที่ศัลยกรรมจนหน้าแปลกประหลาดเหมือนแม่มดอย่างคุณ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 120 ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจจริงๆ

 

 

หลินจยาอวี่แข็งทื่อไปทั้งตัวเนื่องจากตกใจ เธออยากจะผลักลู่เสวี่ยเฉินออก แต่หัวไหล่ถูกโอบไว้อย่างแน่นหนา

 

 

ชิวชิวโกรธจนหน้าบูดหน้าเบี้ยว “แก…แกคิดว่าแกเป็นใครกัน เป็นแค่แมงดากล้าต่อปากกับฉันงั้นเหรอ ฉันฝากไว้ก่อนเถอะ” เธอหมุนตัวเดินกระทืบรองเท้าส้นสูงจากไปด้วยความโมโห

 

 

เฉียวพั่นเอ๋อร์กล่าวขอโทษหลินจยาอวี่ “จยาอวี่ ขอโทษนะ ถ้าฉันรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ฉันคงไม่เล่าให้ชิวชิวฟังว่าฉันเจอเธอ ถ้างั้นฉันช่วยให้พวกเธอ…”

 

 

หลินจยาอวี่พูดขัด “ไม่จำเป็น”

 

 

ไม่ต้องให้ใครพูดแทนใครทั้งนั้น คำปลอบโยนที่เฉียวพั่นเอ๋อร์มักจะพูดอยู่เป็นประจำ เหมือนจะทำให้ชิวชิวโกรธยิ่งกว่าเดิมมากว่า

 

 

“ถ้างั้นจยาอวี่ฉันไปหาชิวชิวก่อนนะ พวกเราไว้คุยกันวันหลัง…” เฉียวพั่นเอ๋อร์รีบเดินตามหลังของชิวชิวไป

 

 

“ปล่อย” หลินจยาอวี่รอจนพวกนั้นลับสายตาไปแล้ว จากนั้นฟาดฝ่ามือลงไปที่แขนของลู่เสวี่ยเฉินที่อยู่ตรงหัวไหล่ของเธอทันที

 

 

“ผมช่วยคุณด้วยความปรารถนาดีนะ” ลู่เสวี่ยเฉินมองแขนด้านที่ถูกตีจนแดงเจ็บของตนเอง เธอมีสิทธิ์อะไรมาทำหน้าบึ้งตึงใส่เขา ความโกรธพรั่งพรูออกมาโดยพลัน ลู่เสวี่ยเฉินแค่นเสียงดังหึ “ไม่รู้จักบุญคุณ”

 

 

“ใครขอให้นายช่วย” หลินจยาอวี่ตีหน้าขรึม สีหน้าไร้อารมณ์ จากนั้นก้าวขึ้นรถแท็กซี่ที่มารับเธอ

 

 

ลู่เสวี่ยเฉิน “…”

 

 

ผู้หญิงเย็นชาคนนี้นี่น่าเบื่อจริงๆ มิน่าล่ะถึงโดนผู้ชายทิ้งในที่หนาวเหน็บอย่างขั้วโลกใต้ ช่างเถอะ ถือว่าเธออกหัก ผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาไม่ถือสาสุภาพสตรี

 

 

เดี๋ยวนะ…เมื่อครู่เหมือนเขาจะกอดหลินจยาอวี่อยู่ชั่วขณะหนึ่ง แต่เขากลับไม่มีความรู้สึกต่อต้าน ลู่เสวี่ยเฉินดวงตาเป็นประกาย หลังจากที่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นแล้ว จากนั้นพยายามลืมมันอย่างสุดความสามารถ แบบนี้ไม่นานต้องกลับมาเป็นปกติได้อย่างแน่นอน น้องกานกานหมายถึงแบบนี้หรือเปล่า

 

 

สุดยอดไปเลย!

 

 

 

 

อวี๋กานกานและฟังจือหันมาถึงที่อยู่อาศัยของลุงใหญ่แล้ว เธอกลุ้มใจตลอดทั้งทางที่มา ลุงใหญ่กล้าที่จะลักพาตัวเธอแล้ว ถ้างั้นก็ไม่แน่ว่าลุงใหญ่เองก็กล้าที่จะลักพาตัวอาจารย์ด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเธอห้ามโผงผางบุกเข้าไปคาดคั้นลุงใหญ่ ห้ามถามว่าเขาต้องการทำอะไร ถึงขั้นที่ต้องลักพาตัวเธอ ยิ่งไม่ควรกล่าวหาว่าเขาลักพาตัวอาจารย์ไป เพราะถ้าอาจารย์โดนพวกเขาจับตัวไปจริงๆ หากเธอบุ่มบ่ามแบบนี้จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น อาจจะทำให้อาจารย์หายสาบสูญไปตลอดกาลก็ได้ เสียงในเทปบันทึกเป็นเสียงของเหอหว่านซิน ครั้งนี้เธอไม่ควรจะไปคิดบัญชีกับลุงใหญ่ตรงๆ ควรจะลองถามแย้มๆ เหอหว่านซินดูก่อน เหอหว่านซินแค่ถูกเธอยั่วยุนิดๆ หน่อยๆ ก็ปิดบังความลับไว้ไม่อยู่แล้ว

 

 

รถจี๊ปอยู่ใต้คอนโดของลุงใหญ่ยังจอดได้ไม่สนิทดี ทันใดนั้นอวี๋กานกานเห็นเหอหว่านซินเดินออกมาจากคอนโด จากนั้นเดินเข้าไปในรถเตรียมตัวจะไปที่ไหนสักแห่ง

 

 

“เธอจะไปไหน?”

 

 

“ไม่รู้” ฟังจือหันตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อุณหภูมิ

 

 

อวี๋กานกานกำลังคิดว่าจะคิดบัญชีกับเหอหว่านซินแค่คนเดียวก่อน ยังไม่อยากจะแตกหักกับตาจิ้งจอกเฒ่าตัวนั้น ครั้งนี้เป็นโอกาสอันดี อวี๋กานกานอยากจะลงจากรถเดี๋ยวนี้ แต่ประตูรถยังล็อกอยู่ เธอจับแฮนด์เปิดประตูรถดึงเข้าดึงออกพร้อมทั้งกล่าวอย่างร้อนรน “รีบปลดล็อกประตูรถสิ เหอหว่านซินจะไปแล้วนะ”

 

 

รถยนต์ของเหอหว่านซินที่อยู่ด้านหน้าค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ ฟังจือหันเองก็เหยียบคันเร่งขับตามไปเช่นกัน “นั่งดีๆ”

 

 

“นายจะทำอะไร”

 

 

“ขับตามไป”

 

 

อวี๋กานกานนึกว่าขับตามไปที่ฟังจือหันพูดจะเหมือนกับภาพยนตร์แนวแข่งรถ ดริฟต์แบบเท่ๆ เข้าไปปาดหน้ารถเหอหว่านซิน สกัดกั้นเส้นทางที่มุ่งจะไป แต่เธอคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าขับตามไปของฟังจือหันคือการเหยียบคันเร่งเข้าไปตรงๆ จนมิดไมล์ พุ่งเข้าชนรถของเหอหว่านซินอย่างอุกอาจเ**้ยมเกรียม

 

 

อวี๋กานกานช็อกไปเรียบร้อย อ้าปากค้างดวงตาเบิกโต “…”

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset