ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 247 จุมพิตดื่มด่ำใต้หิมะ / ตอนที่ 248 โดนจับจูบแล้วต้องทำอย่างไร

ตอนที่ 247 จุมพิตดื่มด่ำใต้หิมะ

 

 

อวี๋กานกานนิ่งอึ้ง! ไร้ปฏิกิริยาตอบโต้ไปชั่วขณะหนึ่ง ทำเพียงแค่เบิกตาโตมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า

 

 

ฟังจือหันบดขยี้ริมฝีปากอย่างอุกอาจบ้าคลั่ง ความรู้สึกซาบซ่านแล่นเข้าหัวใจอย่างฉับพลัน ก่อนจะแพร่กระจายไปแขนขาทั่วร่าง ร่างกายของอวี๋กานกานอ่อนปวกเปียก ไร้เรี่ยวแรงเอนพิงฟังจือหัน

 

 

เสียงครางในลำคอที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เรียกสติอวี๋กานกานกลับคืนมา เธอดิ้นต่อต้าน

 

 

ฟังจือหันใช้แรงเพียงน้อยนิดหยุดการขัดขืนของอวี๋กานกาน เขากอดเธอไว้ในอ้อมอก พร้อมกับขบริมฝีปากของอวี๋กานกานเบาๆ ราวกับเป็นการลงโทษ “ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้อยู่ห่างๆ หมอนั้น หืม” ลมหายใจหนักหน่วง ร้อนดั่งเปลวเพลิง

 

 

ทันทีที่พูดจบ ฟังจือหันประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง บังคับให้อวี๋กานกานเผยอปาก เรียวลิ้นรุกล้ำเข้ามาอย่างอุกอาจบ้าคลั่งเกี่ยวพันพัวกับลิ้นของเธอ

 

 

ฟังจือหันถอดริมฝีปากออกในตอนที่อวี๋กานกานกำลังจะขาดอากาศหายใจ ให้เธอได้มีโอกาสสูดอากาศหายใจเฮือกใหญ่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบดเบียดริมฝีปากลงมาอีกครั้งอย่างรวดเร็วไม่รู้จักอิ่ม ลุ่มหลงจนมิอาจตัดใจ หอมหวานมิมีวันเบื่อหน่าย   

 

 

อวี๋กานกานไม่เคยถูกรุกล้ำและกระตุ้นเช่นนี้มาก่อน สมองเป็นสีขาวโพลน หลับตาปล่อยไปตามอารมณ์ รับรู้เพียงแค่ว่าทั้งซาบซ่านและอ่อนระทวยประหนึ่งมาร์ชเมลโล่เนียนนุ่ม ทว่าอุ่นและหวานฉ่ำ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ฟังจือหันหยุดการกระทำทั้งหมดลง ศีรษะอิงแอบอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างไหปลาร้า ลมหายใจถี่กระชั้น

 

 

อวี๋กานกานเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แววตาวูบไหวจ้องมองท้องฟ้า ลมหายใจรวยริน

 

 

ณ วินาทีนี้ท้องฟ้าและผืนแผ่นดินสงบเงียบดุจหิมะ

 

 

ฟังจือหันพลันเลื่อนสายตาขึ้นมองอวี๋กานกาน อวี๋กานกานสะดุ้งโหย่ง ได้สติหมายจะผลักฟังจือหันออก ทว่ากลับถูกฟังจือหันโอบเอวไว้อีกครั้ง

 

 

พวกเขายืนกอดจูบใต้หิมะ ทัศนีย์ภาพงดงามราวกับจิตรกรรมฝาผนัง

 

 

อวี๋กานกานใจสั่นระรัวประหนึ่งกลอง อ่อนระทวยไปทั้งร่าง ออกแรงผลักอยู่ครึ่งค่อนวันก็ผลักไม่ออกสักคืบ เธอทั้งอายทั้งโมโห ข่มอารมณ์จนหน้าแดงแจ๋ พูดติดๆ ขัดๆ “นะ นะ นาย…นายทำอะไร…นายทำกับฉันแบบนี้ทำไม…”

 

 

ฟังจือหันนัยน์ตาดำขลับลึกล้ำ ลมหายใจสงบนิ่ง ถามกลับเสียงทุ้ม “คุณว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ”

 

 

เรียวแขนที่โอบอวี๋กานกานเริ่มรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้กำลังบอกจุดประสงค์ของฟังจือหัน  

 

 

อวี๋กานกานลุกลี้ลุกลน เอ่ยเสียงแผ่ว “นายกำลังลวนลามฉันอยู่นะ”

 

 

ฟังจือหันแทบไม่ต้องคิดยอมรับออกมาตรงๆ “ใช่”

 

 

อวี๋กานกานหน้าแดงยิ่งกว่าเก่า ไม่รู้จะตอบอะไรไปชั่วขณะหนึ่ง ทำได้เพียงทักท้วง “นายรังแกฉัน!”

 

 

ใบจิ้มลิ้มเป็นสีแดงจัดเหมือนกับดอกซากุระที่เพิ่งบานสะพรั่ง เย้ายวนให้ดอมดมจนแทบจะทนไม่ไหว

 

 

ฟังจือหันยื่นมือออกมาประกบแก้มของอวี๋กานกาน พูดจาแฝงความนัยลึกซึ้ง “ผมแค่อยากจะเอ็นดูคุณ”

 

 

ความจริงตอนแรกเขาแค่ต้องการที่จะตักเตือนอวี๋กานกาน คนที่ควบคุมตัวเองเก่งอย่างเขาก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าตัวเองจะมีเวลาที่ขาดสติเช่นนี้

 

 

อวี๋กานกานจ้องหน้าฟังจือหันนิ่ง ริมฝีปากที่ถูกจูบจนบวมเป่ง น้ำตาคลอเบ้า ใครเห็นต้องตัวชา  

 

 

ร่างกายร้อนผ่าวอย่างควบคุมไม่ได้

 

 

ฟังจือหันหลุบสายตามองอวี๋กานกานแวบหนึ่ง เอียงศีรษะเล็กน้อย ริมฝีปากบางเคลื่อนมาหยุดข้างใบหู กระซิบ “อยากรู้ไหมว่าผมจะเอ็นดูคุณยังไง”

 

 

เอ็นดู?

 

 

สองพยางค์เย้าหยอกข้างใบหู บวกกับร่างกายที่แนบชิดติดกัน สัมผัสได้ถึงความปรารถนาอันร้อนลุ่มของชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน ใบหน้าจิ้มลิ้มของอวี๋กานกานเป็นสีแดงจัดยิ่งกว่าเดิม ราวกับทาผงชาด 

 

 

อวี๋กานกานสติหลุดออกจากร่างเป็นที่เรียบร้อย ในตอนที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ทันใดนั้นเธอก็จามออกมา

 

 

ฟังจือหันหรี่สายตาลงเล็กน้อย เพิ่งตระหนักได้ว่าร่างกายของอวี๋กานกานพิงอยู่กับประตูรถ เสื้อของเธอเปียกชุ่ม หิมะก็ยังโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าไม่หยุด ศีรษะของเธอชื้นแฉะ ฟังจือหันรีบถอดเสื้อของตัวเองออกคลุมให้อวี๋กานกาน

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 248 โดนจับจูบแล้วต้องทำอย่างไร

 

 

ทั้งคู่กลับเข้าไปในในรถ ฟังจือหันหยิบผ้าขนหนูจากในรถออกมาเช็ดศีรษะให้อวี๋กานกาน

 

 

ดูเหมือนฤดูหนาวอันเย็นสะท้านของปีนี้จะบ้าบิ่นเกินไปแล้ว อวี๋กานกานผู้ซึ่งกลัวหนาวทนเย็นไม่ได้จำเป็นต้องรีบกลับไปอาบน้ำอุ่น ดื่มน้ำขิงขับไอเย็น

 

 

อวี๋กานกานไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ ขดตัวติดอยู่กับเก้าอี้ ยวงแก้มยังคงเป็นสีแดงระเรื่อ บนตัวถูกคลุมแน่นด้วยเสื้อโค้ทที่ยังหลงเหลือไออุ่นจากร่างกายของฟังจือหัน แบบนี้เหมือนกับยังถูกเขากอดไว้ในอ้อมกอดอย่างแน่นหนาไม่มีผิด มีความรู้สึกเคลิบเคลิ้มที่ยากจะบรรยาย ทั่วทั้งร่างกายเบาหวิว นั่งอยู่ในรถเหมือนนั่งอยู่บนปุยเมฆ

 

 

ที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากคอนโดมิเนียมของฟังจือหัน ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงรถก็จอดลงตรงใต้คอนโด

 

 

อวี๋กานกานเพิ่งลงจากรถก็ถูกฟังจือหันอุ้มในท่าเจ้าสาว

 

 

“กรี๊ด” อวี๋กานกานร้องตกใจออกมาโดยอัตโนมัติ เพื่อกันไม่ให้ล้มเธอจึงรีบกอดคอฟังจือหัน ท่วงท่าของทั้งคู่สนิทแนบชิดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

 

 

อวี๋กานกานหน้าแดงแจ๋ อั้นลมหายใจ ไม่กล้าขยับแม้แต่ปลายก้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถึงเนื้อต้องตัวกับผู้ชายคนหนึ่งถึงขนาดนี้ ระยะห่างแทบจะติดลบเสียด้วยซ้ำ ใจเต้นดุจฟ้าแลบ ชีพจรปั่นป่วน อวี๋กานกานไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาอื่นใดออกมาได้ นอกจากปิดปากเงียบกริบ

 

 

ฟังจือหันหยิบผ้าขนหนูและชุดคลุมอาบน้ำส่งให้อวี๋กานกาน “รีบไปอาบน้ำอุ่น”

 

 

อวี๋กานกานยื่นแขนออกไปรับมา จากนั้นเดินเข้าห้องอาบน้ำ

 

 

สายน้ำอุ่นไหลผ่านขจัดความเย็นบนร่างกาย อวี๋กานกานอุ่นไปทั้งตัว หัวสมองเริ่มตื่นตัว นึกภาพจูบใต้หิมะโปรยปรายนั้น พลันเขินอายขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

เพราะอะไรทำไมฟังจือหันต้องจูบเธอด้วย

 

 

หรือว่าฟังจือหันจะชอบเธอจริงๆ

 

 

อวี๋กานกานอยากถามแต่ไม่กล้า ในใจรู้สึกแปลกประหลาดราวกับถูกเขี่ยด้วยขนนก เป็นความรู้สึกทรมานที่บรรยายได้ยาก ทว่าในความทรมานนั้นกลับเหมือนมีความรื่นรมย์แฝงไว้

 

 

อวี๋กานกานอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดินลงมายังห้องรับแขก มองเห็นฟังจือหันที่ออกมาจากห้องน้ำอีกห้องพอดี พวกเขาสวมชุดคลุมอาบน้ำแบบเดียวกัน สิ่งที่ไม่เหมือนคืออวี๋กานกานมัดเชือกอย่างแน่นหนามิดชิด แต่เสื้อคลุมอาบน้ำของฟังจือหันหลุดลุ่ย สามารถมองเห็นกล้ามเนื้อหน้าอกอันดิบเถื่อนได้อย่างวับๆ แวมๆ   

 

 

เมื่อเห็นอวี๋กานกานออกมาจากห้องน้ำแล้ว ฟังจือหันจึงกวักมือเรียก “มานี่”

 

 

ไม่มีน้ำขิง ฟังจือหันทำนมอุ่มให้อวี๋กานกาน ส่วนตนเองดื่มน้ำอุ่น

 

 

อวี๋กานกานนั่งลงตรงข้ามฟังจือหัน รูปร่างของชายหนุ่มสวมชุดคลุมอาบน้ำช่างเซ็กซี่ ประหนึ่งฮอร์โมนเดินได้[1]

 

 

จู่ๆ ก็รู้สึกว่าลำคอและริมฝีปากแห้งผาก อวี๋กานกานลุกลี้ลุกลน จิตใจกระสับกระส่าย หยิบแก้วเซรามิคขึ้นดื่มนมพลางเหลือบมองฟังจือหัน สายตาลึกซึ้งของชายหนุ่มกำลังจ้องมองมาที่เธออยู่พอดี ประหนึ่งหัวขโมย อวี๋กานกานรีบดึงสายตากลับ จดจ่ออยู่กับการดื่มนมในแก้ว

 

 

มุมปากของฟังจือหันขยับเล็กน้อย นัยน์ตาฉายแววความขบขัน

 

 

หลังจากดื่มนมหมดแล้ว อวี๋กานกานวิ่งกลับเข้าไปยังห้องนอนของตัวเอง ทั้งยังปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา กลัวฟังจือหันจะบุกเข้ามา

 

 

คนคนนี้ร้ายกาจเกินไปแล้ว

 

 

สมัยก่อนซ่งฉาไป๋เคยเล่าว่าจูบแรกหากเกิดขึ้นตอนหิมะแรกของฤดูโปรยปราย จะโรแมนติกและงดงามเป็นพิเศษ แถมยังเล่าอีกว่าสามเคล็ดลับเด็ดของการเดทในซีรีย์เกาหลีคือ หิมะแรกของฤดู ไก่ทอดและราเมน[2]

 

 

ค่อนข้างได้บรรยากาศเหมือนที่ซ่งฉาไป๋เล่าเลย ขนาดวันนี้เธอยังไม่รู้สึกว่าหิมะที่อยู่รอบตัวชวนให้รู้สึกหายใจไม่ออกเหมือนอย่างที่เคยเป็น แต่ฟังจือหันก็ไม่ได้สารภาพรักเธอ เพียงแค่จับจูบอย่างไร้สาเหตุ ไม่ว่าจะวิเคราะห์จากมุมไหนการกระทำของเขาก็ดูไม่เหมือนออกเดทหรือมาจากความรัก

 

 

อวี๋กานกานพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ความคิดฟุ้งซ่านนอนไม่หลับ รู้สึกเหมือนจูบท่ามกลางหิมะจูบนั้นเป็นฝันประหลาดหนึ่งตื่น ทว่าราวกับชายหนุ่มเผด็จการทิ้งไออุ่นไว้บนริมฝีปากของเธอ ทันทีที่หลับตาก็จะสัมผัสได้ถึงไออุ่นอย่างชัดเจน  

 

 

อวี๋กานกานนอนไม่หลับ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาซ่งฉาไป๋ [อวี๋กานกาน : ถ้าจู่ๆ มีคนจับเธอจูบ เธอจะทำยังไง]

 

 

 

 

——

 

 

[1] ฮอร์โมนเดินได้  เป็นศัพท์วัยรุ่นในอินเทอร์เน็ตจีน หมายถึงผู้ชายที่มีเสน่ห์เหลือร้าย มักใช้กับผู้ชายที่มีลุคแด๊ดดี้

 

 

[2]  เหตุการณ์โรแมนติกหรือฉากสารภาพรักของซีรีย์เกาหลีมักจะเกิดขึ้นในเหตุการณ์เล่านี้ 

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset