ขอรัองล่ะครับ…คิดจะจีบผมทั้งทีอย่าใช้กำลังกันเลยนะมันเจ็บ!!! – ตอนที่ 35

ตอนที่ 35 เล่าเรื่องราว 

 

และแล้วช่วงเวลาถ่ายทอดเรื่องราวก็เริ่มต้นขึ้นทุกสิ่งอย่างที่เขาเคยเล่าให้กับไอรีนฟังล้วนถูกถ่ายทอดให้อีกฝ่ายจนหมดสิ้นไม่มีกักเก็บไม่มีปกปิดไม่มีปิดบัง

 

ผ่านพ้นไปหลายต่อหลายนาทีในที่สุดทราเวียร์ก็ถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดจนจบครบถ้วนกระบวนความ

 

เขาถอนหายใจเหนื่อยอ่อน

 

“เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างที่เล่ามา…”

 

“…”

 

“แน่ใจนะว่าถูกต้องทั้งหมด”

 

“เธอไปถามจากปากไอรีนก็ได้”

 

“ถ้าเธอสงสัย?”

 

“…ก็ได้ค่ะ”

 

“ฉันจะยอมเชื่อคุณ”

 

“งััน—”

 

“แต่คุณต้องตอบฉันเรื่องหนึ่งก่อน”

 

“…” ทราเวียร์เลิกคิ้วสงสัย

 

“เรื่องอะไร?”

 

“เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน”

 

“…”

 

“มีสายรายงานเข้ามาว่าเมื่อเช้าหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นได้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง”

 

“มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางด่วนหมายเลข 47 เป็นอุบัติเหตุที่ไม่เหมือนอุบัติเหตุปรกติธรรมดาทั่วไป”

 

“…” แววตาทราเวียร์เริ่มแปรเปลี่ยน

 

เนื่องจากเขารับรู้แล้วว่าหล่อนต้องล่วงรู้เหตุการณ์เกี่ยวกับหัวหน้าผมแดงแต่มันมีคำถามผุดขึ้นมาในหัวสมอง

 

คำถามที่ว่าคือหล่อนล่วงรู้เหตุการณ์ดังกล่าวได้ยังไงกัน

 

…‘รู้ได้ยังไง?’

 

“…” น่าเสียดายที่เขาไม่คิดแทรกกลางในตอนนี้

 

ส่วนหล่อนก็ยังคงเล่าต่อไม่ขาดปากสุดท้ายปลายทางเขาได้แต่ปล่อยให้ทุกสิ่งอย่างมันดำเนินต่อไป

 

ดำเนินไปตามเส้นทางของมัน

 

“…” ทราเวียร์ยิ้มถามกลับไป

 

“…เป็นเหตุการณ์แบบไหนละ?”

 

“รถ 5 คัน ขับปะทะชนดะไปทั่วบริเวณนอกจากชนกันแล้วยังมีปากเสียงด่าทอหยาบโลนกันไปมา”

 

“การกระทำดังกล่าวของพวกเขาล้วนสร้างอาการตื่นตระหนกตกใจกับผู้ที่พบเห็นเป็นที่สุด”

 

หากยึดโยงตามหลักความเป็นจริงทั้งหมดแล้วเป็นพวกมันที่หาเรื่องก่อนอีกทั้งพวกตนก็ไม่ได้แหกปากตะโกนด่ากลับไปด้วยเพียงตอบโต้ด้วยการกระทำเฉกเช่นเดียวกัน

 

ก่อนลากพาไปกระทืบที่โรงงานร้างก็เท่านั้นเอง

 

“…” คาร่ายังคงเล่าต่อ

 

“นอกจากสิ่งที่กล่าวไปตอนต้น”

 

“ยังมีรายงานอีกว่าหลังจากกลุ่มรถดังกล่าวก่อเรื่องเสร็จสิ้นก็ซิ่งหายไปจากทางหลวง”

 

“ขับมุ่งออกจากถนนใหญ่มุ่งไปยังทิศทางหนึ่ง—”

 

ยังไม่ทันได้เล่าต่อสืบสานเรื่องราวชายหนุ่มสวมแว่นก็ยิ้มกล่าวเปิดปากเล่าต่อ

 

ทั้งยังกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์ขณะแววตาเริ่มแหลมคมขึ้นมาบ้าง

 

“มุ่งไปยังโรงงานร้าง…”

 

“พวกเขาทั้งหมดย้ายไปที่โรงงานร้างกัน”

 

“…”

 

“ใช่ค่ะ”

 

หลังจากไปโรงงานร้างก็เกิดการกระทืบหมู่ครั้งใหญ่เล่นงานจนจดจำสภาพเดิมไม่ได้ไม่สนว่าเป็นใครหน้าไหน

 

จะเป็นลูกท่านหลานเธอทุกคนล้วนถูกกระทืบทั้งหมดไม่มีละเว้นแบ่งโทษ

 

มีเพียงความเท่าเทียมเท่านัันที่เป็นคำตอบ

 

…‘อะไรทำให้หล่อนรับรู้สถานการณ์รวดเร็วขนาดนีั’

 

“…” เขาหรี่ตามอง

 

“เป็นเรื่องที่น่าสนใจใช่ไหมละ?”

 

“ค่ะ นับเป็นข่าวที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย”

 

ทั้งสองต่างนิ่งเงียบเมินเฉยต่างจับจ้องมองซึ่งกันและกันบรรยากาศหนักหน่วงหนักแน่นเริ่มก่อเกิด

 

เป็นฝ่ายทราเวียร์ขมวดคิ้วถามกลับ

 

“…รู้ด้วยเหรอ?”

 

“…” คาร่านิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

 

ก่อนเลือกตอบคำถามด้วยคำถาม

 

“…ไม่อยากให้ฉันรู้?”

 

“เปล่าแค่ประหลาดใจนิดหน่อย”

 

เอาเข้าจริงเรื่องโรงงานร้างจะเล่าหรือไม่เล่าก็ได้แต่ถ้าหญิงสาวเบื้องหน้าต้องการรับรู้เขาก็พร้อมบอกเล่าให้ฟัง

 

เพื่อยืนยันเจตนาของเขาเขาจำต้องถามอีกครั้ง

 

“ต้องเล่าด้วยสินะ”

 

“ต้องเล่าค่ะ”

 

“…”

 

“…ขอแบบสรุปนะคะ”

 

“ไม่เอาน้ำเอาแต่เนื้อ”

 

“ได้ไม่มีปัญหา”

 

“…”

 

“งั้นต่อจากเรื่องเดิมเลยนะ” ทราเวียร์เริ่มเล่าต่อ

 

ครั้งนี้หมดสิ้นทุกสิ่งอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอริหรือเรื่องของหัวหน้าผมแดงล้วนถ่ายทอดบอกกล่าวไปจนหมดสิ้น

 

ไม่หลงเหลือประเด็นให้ขุดคุ้ยอีกต่อไป

 

“…” คาร่านิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

 

“นายน้อย?”

 

“ดูวุ่นวายกว่าที่คิด”

 

“ฉันกับคาร่าเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว”

 

“ไม่มีหลักฐานให้ตามติดแน่นอน”

 

“…” หล่อนหรี่สายตาสอง

 

“คุณแน่ใจ?”

 

“สำหรับฉันน่ะนะ”

 

“แต่สำหรับไอรีนก็คงไม่”

 

ด้วยการที่พวกมันสามารถตามติดได้รวดเร็วทั้งยังแม่นยำไม่มีผิดตัวย่อมแสดงว่ามันต้องมีรูปของไอรีน

 

หรือไม่ก็อาจจะมีของอย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

…‘ส่วนตัวเราที่โดนปิดหัวมาตลอดคงรอดปลอดภัย’

 

“…”

 

“…” คาร่าถอนหายใจเหนื่อยหน่าย

 

ทั้งที่วันนี้ควรจะเป็นวันดีเป็นวันที่ทุกสรรพสิ่งเข้าที่เข้าทางไม่มีอะไรให้เป็นกังวลแต่สุดท้ายปลายทาง

 

มันก็เป็นเรื่องจนได้

 

“ขนาดอยู่เฉยปัญหายังตามมาหาเรื่องถึงที่”

 

“นอกเหนือจากเรื่องที่เล่าให้ฟังยังมีเพิ่มเติมอีกไหมคะ?”

 

“หมดแล้ว”

 

“…แน่ใจนะคะว่าหมด?”

 

“หมดแล้วแน่นอน”

 

“…” สองสายตาสบจ้องมองกันอยู่นาน

 

เป็นคาร่าที่ก้าวถอยห่างออกมาเป็นคนแรกแม้ว่าภายในหัวจิตหัวใจจะมีคำถามมากมายเตรียมนำออกถามหาคำตอบ

 

แต่หล่อนก็เลือกเก็บเอาไว้กับตัว

 

“…” เก็บเอาไว้ภายใต้ใบหน้าปราศจากอารมณ์

 

“ถ้าเธอไม่แน่ใจหรือว่าข้องใจ”

 

“จะไปถามไอรีนก็ได้นะ”

 

“ฉันไม่ขัดอยู่แล้ว”

 

“ค่ะ ฉันยอมเชื่อค่ะ”

 

“…” คาร่าพยักหน้ายินยอมปล่อยวางปล่อย

 

ให้เขาได้พักหายใจหายคอแต่ยังไม่ลืมทิ้งท้ายก่อนจากทิ้งถ้อยคำที่เปรียบเสมือนค้อนใหญ่เตรียมฟาดทุกขณะจิต

 

ทั้งยังกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังขั้นสุด

 

“แต่ครั้งต่อไป”

 

“หากมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีก”

 

”คุณก็พิจารณาตัวเองแล้วกันค่ะ”

 

หลังจากกล่าวจบเสร็จสิ้นครบถ้วนกระบวนความหญิงสาวยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มไม่คิดเหลือบมองเขาอีก

 

ส่วนทราเวียร์ก็ถอนหายใจโล่งอกเป็นที่สุดเพียงแค่ไม่กี่คำถามที่หล่อนเปิดปากต้องการเอาคำตอบจากเขา

 

มันก็โดนพลังงานทั่วร่างกายไปเกือบหมดสิ้น

 

…‘เหมือนจะรอดนะ’

 

“…”

 

“อีกเดี๋ยวหลังจากไอรีนใช้ห้องน้ำเสร็จแล้ว”

 

“คุณก็เข้าต่อได้เลยอยากจะทำอะไรก็ทำแต่”

 

“ห้ามออกไปหาเรื่องใส่ตัวเด็ดขาดเข้าใจไหมคะ?”

 

คาร่าว่ากล่าวตักเตือนด้วยน้ำเสียงจริงจังหนักหน่วงหนักแน่นเป็นที่สุดทำอย่างกับเขาอยากจะออก

 

หัวคิ้วทราเวียร์กระตุก

 

“…” ก่อนถอนหายใจเหนื่อยหน่าย

 

“เห็นฉันเป็นคนแบบไหน?”

 

“คนที่ชอบหาเรื่องใส่ตัวค่ะ”

ขอรัองล่ะครับ…คิดจะจีบผมทั้งทีอย่าใช้กำลังกันเลยนะมันเจ็บ!!!

ขอรัองล่ะครับ…คิดจะจีบผมทั้งทีอย่าใช้กำลังกันเลยนะมันเจ็บ!!!

Status: Ongoing
อ่านนิยาย ขอรัองล่ะครับ…คิดจะจีบผมทั้งทีอย่าใช้กำลังกันเลยนะมันเจ็บ!!!แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างกระทบใบหน้าชายหนุ่มหน้าขาวด้วยคลื่นความร้อนและแดดมันแยงตาสององค์ประกอบหรืออาจมากกว่านั้นทำให้ยากจะข่มตานอนต่อไป สุดท้ายปลายทางร่างกายเลือกตอบสนองต่อสิ่งเร้าจากโลกภายนอกก่อเกิดเสียงครางเล็ก ๆ ขึ้นมา ซึ่งนั่นคือสัญญาณขั้นต้นของการตื่นนอน “อืออออ” “…” เปลือกตาสั่นไหวพร้อมเปิดเผยให้เห็นแววตาคู่งามที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน กล่าวสำหรับชายหนุ่มหน้าขาวอย่างแรกเลยที่เห็นหลังจากตื่นนอนไม่ใช่เพดานคุ้นหน้าคุ้นตาที่เคยเห็นอยู่ทุกวัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset