ขอรัองล่ะครับ…คิดจะจีบผมทั้งทีอย่าใช้กำลังกันเลยนะมันเจ็บ!!! – ตอนที่ 4 ข้ามเส้นเรียบร้อย

ตอนที่ 4 ข้ามเส้นเรียบร้อย

 

หลังจากได้ยินคำกล่าวขอบคุณจากรุ่นพี่อันเป็นที่รักหล่อนกระดี๊กระด๊าขึ้นทันตาเห็น

 

“ไม่เป็นไรค่ะ!”

 

“ยินดีเสมอ!”

 

“…” ทราเวียร์แค่นเสียงไม่พอใจ

 

ทั้งที่คำกล่าวขอบคุณของเขาหล่อนอาศัยวิธีการบีบบังคับแท้ ๆ ยังจะมาอารมณ์ดีเกินเบอร์อีก

 

“จะขอบคุณมากกว่านี่ด้วยซ้ำ”

 

“หากเธอไม่แก้ผ้ามานอนเตียงนอนกับฉัน”

 

“…เล่นเอาใจหายใจคว่ำหมด” เขาถอนหายใจเหนื่อยอ่อน

 

หากตนไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้รับรองได้เลยว่าบรรลัยกันทั้งบาง

 

…‘ยังดีที่ไม่มีอะไรเกินเลย’

 

“…”

 

…‘ขอให้อย่ามีเลยนะ’

 

“…”

 

สุดท้ายความจริงทั้งหมดก็อยู่ที่รุ่นน้องสาวตรงหน้าหากไม่มีอะไรเกินเลยเกิดขึ้นเมื่อคืนก็รอด

 

แต่ถ้ามีขึ้นมาละก็รับรองว่ายาว

 

…‘เพราะฉะนั้นห้ามมีเด็ดขาด’

 

“…”

 

ระหว่างทราเวียร์กำลังจมจ่อมอยู่กับห้วงความคิดของตนเอริก็เริ่มกล่าวตอบโต้กลับทันที

 

“คือ…”

 

“เรื่องเมื่อเช้าหนูเองก็รู้สึกผิดนะ”

 

“หนูควรแต่งตัวให้เรียบร้อย”

 

“ไม่ปล่อยให้รุ่นพี่ต้องกังวลใจแทนหนู”

 

หล่อนกล่าวระบายความรู้สึกทั้งหมดออกมาไม่มีกักเก็บส่วนจะเป็นเรื่องจริงหรือเป็นแค่ถ้อยคำหลอกลวง

 

ล้วนแล้วแต่หล่อนจะกำหนดให้

 

“…” ทราเวียร์ยังคงนิ่งเงียบต่อไป

 

บรรยากาศเข้าขั้นอึดอัดชวนให้รู้สึกย่ำแย่เป็นที่สุด แต่เพื่อเป้าหมายของตนหล่อนพร้อมเอาตัวเข้าเสี่ยง

 

สุดท้ายเอริเลือกกัดฟันกล่าวออกไป

 

“คือมีคำถามค่ะ”

 

“…ห้ามนอกประเด็นนะ”

 

“…” เธอพยักหน้ารับคล้ายเข้าใจ

 

พร้อมสูดลมหายใจเข้าลึกแววตาปรากฎร่องรอยลังเลให้เห็นคล้ายไม่ต้องการบอกกล่าว

 

ริมฝีปากขบกันแน่น

 

“…” หลังจากลังเลอยู่นานในที่สุด

 

หล่อนก็กล่าวให้เขาได้รับรู้

 

“รุ่นพี่…”

 

“เห็นสภาพชุดวันเกิดของหนูแล้ว”

 

“…รู้สึกยังไงบ้างคะ?”

 

เสมือนค้อนใหญ่หวนเข้ากลางกระบาลอีกครั้ง

 

“…” ทราเวียร์อ้าปากค้างอยู่หลายต่อหลายวินาทีก่อนเรียกคืนสติตัวเองกลับมาพร้อมบ่ายเบี่ยงประเด็น

 

กันไม่ให้หล่อนสอบถามเขาไปมากกว่านี้

 

“ห้ามนอกประเด็น!”

 

“ตอบ—

 

“ฉันบอกห้ามนอกประเด็น!”

 

…‘ถามคำถามบ้าบออะไรออกมาวะเนี่ย?!’

 

“…”

 

คำถามสุดอันตรายสมควรถูกทิ้งข้างทางไม่ควรนำเก็บกลับมาใช้ใหม่แววตาหญิงสาวหรี่ลงก่อนเผยรอยยิ้มเบาบาง

 

ทำเอาทราเวียร์ต้องหลบสายตาไม่กล้ามองต่อ

 

“…”

 

“…เลือกไม่ตอบสินะ”

 

“หนูรู้หนูเข้าใจค่ะ” เอริพยักหน้าสองครั้งติด

 

เรื่องที่ชายหนุ่มสวมแว่นครุ่นคิดเอาไว้ในหัวสมองล้วนถูกหล่อนอ่านง่ายดาย

 

พอเห็นรอยยิ้มเหมือนรู้มันหมดทุกอย่างแล้วมันชวนรู้สึกหงุดหงิดเป็นที่สุด

 

“ต่อ!” ทราเวียร์ใช้เสียงดังตอบโต้

 

หวังกลบเกลื่อนเรื่องราวแน่นอนว่าเอริไม่ได้ขัดข้องทั้งยังให้ความร่วมมือเต็มที่กล่าวสำหรับหล่อนจะไปขัดข้องทำไมในเมื่อตนได้คำตอบที่ต้องการมาเป็นเรียบร้อยแล้ว

 

เอริพยักหน้ารู้ความ

 

“ค่ะ”

 

“ห้ามนอกประเด็นอีกเข้าใจไหม?”

 

“ค่ะ ไม่นอกประเด็นอีกแน่นอน”

 

“หนูสัญญา”

 

พอเห็นรุ่นน้องสาวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีชายหนุ่มสวมแว่นก็รู้สึกอุ่นใจยอมลดท่าทีไปในที่สุด

 

“…เล่าต่อฉันอยากฟัง”

 

“…”

 

เอรินิ่งเงียบไปครู่หนึ่งคล้ายกำลังเรียบเรียงเรื่องราวเมื่อคืนเตรียมพร้อมสำหรับนำเสนอให้ทราเวียร์รับทราบ

 

หลังจากเตรียมการเสร็จสิ้นหล่อนก็เริ่มถ่ายทอดเหตุการณ์เมื่อคืนให้เขารับฟังทันที

 

“ถ้าต่อจากที่เล่าค้างไว้”

 

“หลังจากพารุ่นพี่กลับมาจากร้าน”

 

“หนูก็ลากพารุ่นพี่เข้ามาในบ้าน”

 

“พยายามช่วยเหลือเท่าที่จะช่วยได้ตั้งแต่เอาน้ำมาให้ดื่มพาไปที่เตียงนอน—”

 

หล่อนยังกล่าวเพิ่มเติมอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดว่าหลังจากลากพาเขาเข้ามาทำอะไรไปบ้าง

 

ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าช่างอันตรายเหลือเกิน อันตรายเกินกว่าจะคบหาในฐานะเพื่อนร่วมงานต่อ

 

แต่พอฟังไปถึงท้ายเรื่องมันออกจะแปลกประหลาดเกินไปเฉกเช่นว่าเขาคว้าหล่อนมาจูบก่อนทำอะไรมากมายกับหล่อนบนเตียงนอน

 

สุดท้ายปลายทางเรื่องราวสุดแสนจะชวนให้ผู้อื่นใจเต้นก็ต้องมาหยุดลงด้วยฝีมือของชายหนุ่มสวมแว่น

 

ทราเวียร์ร้องเสียงดังลั่น

 

“หยุด!”

 

“หยุดทำไมคะ?”

 

“…” ลมหายใจสูดเข้าลึก

 

“ขอถามให้แน่ใจ?”

 

“เชิญค่ะ”

 

“เธอกำลังจะบอกฉันว่าพวกเราก้าวข้ามคำว่า ‘รุ่นพี่รุ่นน้อง’ ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานไม่สิตั้งแต่เมื่อคืน?”

 

“ค่ะ”

 

“แถมฉันยังเป็นฝ่ายรุกเธอก่อนทั้งที่เธอไม่ต้องการ”

 

“…ค่ะ”

 

“เธอก็เลยไม่มีทางเลือกนอกจากสมยอมกับฉัน”

 

“……ค่ะ”

 

“…โอเคร” สีหน้าเขาเข้าขั้นซีดเซียว

 

แม้คำว่า ‘โอเคร’ จะหลุดออกมาจากปากแต่เอาเข้าจริงแล้วใบหน้าเขาหยุดกรอบไปจากคำว่าโอเคร

 

ชนิดที่ว่าคนละมิติกันเลย

 

…‘สรุปมันเกิดบ้าอะไรวะเนี่ย?!’

 

“…”

 

“คือ…เวรกรรม” ทราเวียร์นิ่งเงียบพลางถอนหายใจก่อนเงยหน้ามองสอดผสานแววตาคู่งาม

 

“…ฉันเป็นฝ่ายทำส่วนเธอเป็นฝ่ายเสียหายสินะ”

 

“เข้าใจละ”

 

“รุ่นพี่?” เอริถามกลับไปด้วยความห่วงผิดกับชายหนุ่มสวมแว่นนั่งหน้านิ่งคล้ายดวงวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้วเรียบร้อย

 

ก่อนแววตาจะหวนคืนกลับมาอีกครั้ง

 

…‘เดี๋ยวก่อนนะ’

 

“…”

 

“มีอะไรรึเปล่าคะ?”

 

“…”

 

“ดะ เดี๋ยวรุ่นพี่จะทำอะไร?”

 

เห็นอีกฝ่ายหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาหล่อนรู้สึกท่าไม่ดีทันทีจำต้องหักห้ามเอาไว้ก่อน

 

น่าเสียดายที่ทราเวียร์นำหน้าอยู่ก้าวหนึ่ง

 

“…” เขาเบี่ยงตัวหลบ

 

“อย่ามาจับ”

 

“รุ่นพี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำไม?”

 

“ฉันไม่เชื่อ”

 

“หลังจากพวกเรากินข้าวเสร็จ”

 

”ฉันจะพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลเอาให้แน่ใจว่ามันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นถ้าเป็นจริงฉันพร้อมรับผิดชอบ”

 

“แต่ถ้าไม่จริงเป็นแค่เรื่องล้อเล่นขำขัน”

 

“…แล้วถัามันเป็นเรื่องล้อเล่นละคะ?”

 

“ถ้าเป็นเรื่องล้อเล่น?”

 

“รับรองได้เลยว่าจบไม่สวยแน่นอน” ทราเวียร์ฉีกยิ้มโหดเหี้ยม

 

แรงกดดันมหาศาลแทบกดขี่คนผู้หนึ่งให้กลายเป็นมดแมลงในสายตาอีกฝ่ายทำเอาหล่อนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

 

เอริยิ้มแห้งแห้งจนไม่รู้ว่าจะแห้งยังไงแล้ว

 

“…ต้องขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”

 

“…”

 

ชายหนุ่มสวมแว่นหรี่ตามองหญิงสาวผู้งดงามจัองมองจนหล่อนเลือกหลบสายตาและเมื่อเลือกหลบสายตา

 

เขาก็เริ่มดำเนินการต่อเนื่องทันที

 

“ขอแจ้งฉันตำรวจก่อนอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”

 

“หยุดก่อน!”

 

“…”

 

“หยุดทำไม?”

 

“ทำไมฉันต้องหยุดด้วย?”

 

“…” กล่าวสำหรับหล่อนมันเป็นคำถามที่ยากจะตอบ

 

จากเคยขุดหลุมให้อีกฝ่ายกระโดดลงไปกับกลายเป็นว่าตอนนี้เธอต้องกระโดดลงไปบ้างแล้ว

 

เอริตัดสินใจเลือกสารภาพนำหน้าไปก่อน

 

“…ขะ ขอโทษค่ะ”

 

“เมื่อกี้หนูล้อเล่น”

 

“ที่จริงพวกเราไม่ได้ทำอะไรเลย”

 

“หนูแค่จัดฉากนิดหน่อยเท่านั้น”

 

ต่อหน้าอำนาจยิ่งใหญ่หล่อนเลือกสารภาพความผิดทั้งหมดออกมาไม่มีคิดปกปิดซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกโล่งใจเป็นที่สุด

 

ทราเวียร์ถอนหายใจยิ้มออก

 

…‘นั่นไงเห็นไหม?!’

 

“…”

 

“กะแล้วยัยเด็กแก่แดดแบบเธอมันหาดีไม่ได้!”

 

“ดีนะที่แค่จัดฉาก”

 

“ถ้าเป็นจริงขึ้นมารับรองว่าหายนะแน่นอน”

 

ความรู้สึกช่วงเวลานี้กับช่วงเวลาตอนแรกเริ่มมันช่างแตกต่างกันเหลือเกินเขากล้าพูดได้เลยว่าตอนนี้เขารู้สึกสดชื่นเป็นที่สุด

 

สดชื่นจนบอกไม่ถูก

 

…‘สบายใจแล้วโว้ย!’

 

“…”

 

ขอรัองล่ะครับ…คิดจะจีบผมทั้งทีอย่าใช้กำลังกันเลยนะมันเจ็บ!!!

ขอรัองล่ะครับ…คิดจะจีบผมทั้งทีอย่าใช้กำลังกันเลยนะมันเจ็บ!!!

Status: Ongoing
อ่านนิยาย ขอรัองล่ะครับ…คิดจะจีบผมทั้งทีอย่าใช้กำลังกันเลยนะมันเจ็บ!!!แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างกระทบใบหน้าชายหนุ่มหน้าขาวด้วยคลื่นความร้อนและแดดมันแยงตาสององค์ประกอบหรืออาจมากกว่านั้นทำให้ยากจะข่มตานอนต่อไป สุดท้ายปลายทางร่างกายเลือกตอบสนองต่อสิ่งเร้าจากโลกภายนอกก่อเกิดเสียงครางเล็ก ๆ ขึ้นมา ซึ่งนั่นคือสัญญาณขั้นต้นของการตื่นนอน “อืออออ” “…” เปลือกตาสั่นไหวพร้อมเปิดเผยให้เห็นแววตาคู่งามที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน กล่าวสำหรับชายหนุ่มหน้าขาวอย่างแรกเลยที่เห็นหลังจากตื่นนอนไม่ใช่เพดานคุ้นหน้าคุ้นตาที่เคยเห็นอยู่ทุกวัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset