ขอรัองล่ะครับ…คิดจะจีบผมทั้งทีอย่าใช้กำลังกันเลยนะมันเจ็บ!!! – ตอนที่ 9

ตอนที่ 9 อย่าคิดเก็บเขาเอาไว้คนเดียว

 

ขณะรถหรูกำลังขับแล่นไปตามเส้นทางทุกสิ่งอย่างล้วนดำเนินไปตามปรกติไม่มีอะไรผิดแปลก

 

ถ้าจะหาอะไรผิดแปลกสักอย่างก็คงไม่พ้นต้องเป็นร่างหนึ่งโดนถุงดำคลุมปกปิดทั้งหัวนั่งแน่นิ่งไม่มีขยับเคลื่อนไหว

 

“…” ไอรีนถอนหายใจ

 

“จะเงียบไปถึงเมื่อไหร่มันอึดอัดนะ?”

 

“แล้วเธออยากคุยอะไรกับฉันละ?”

 

“…”

 

“ถัาไม่มีเรื่องจะคุย”

 

“ก็ขับรถไปเถอะอย่าเสียสมาธิกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย”

 

…‘ขับก็ขับ’

 

“…” หล่อนกลับมาสนใจเส้นทางตรงหน้าอีกครั้ง

 

อาจเป็นเพราะสถานการณ์มันแปลกประหลาดเกินไปสุดท้ายไอรีนจึงเกิดรู้สึกใจอ่อนขึ้นมากระทันหัน

 

ใจอ่อนกับเขาทั้งที่ไม่ควร

 

…‘เห็นเจ้าถุงดำแล้วเกะกะสายตาเป็นบ้า’

 

“…”

 

…‘น่าจะพอได้แล้วมั้ง’

 

“…”

 

กิก~

 

ขณะหล่อนกำลังจะบอกให้ชายหนุ่มเอาถุงดำอัปมงคลออกจากหัวเสียงโทรศัพท์ก็ดังแทรกขึ้นมา

 

ตอนแรกยังไม่คิดเหลือบมองด้วยซ้ำจนกระทั่งหล่อนได้พบเห็นเต็มสองตาว่าใครโทรมา

 

แววตาในตอนแรกก็แปรเปลี่ยนไปในทันที

 

…‘ทำไมต้องเวลานี้ด้วยเนี่ย?!’

 

“…”

 

“ใครโทรมา?”

 

“…สำคัญกับคุณด้วย?”

 

“ถือซะว่าฉันไม่ได้ถามละกัน”

 

ดูท่าสายที่โทรมาจะไม่ใช่มิตรสหายชวนให้รู้สึกดีด้วยเอาเถอะยังไงก็ไม่ได้ธุระเกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว

 

“…” ปล่อยผ่านได้สมควรปล่อยผ่าน

 

ทราเวียร์นั่งนิ่งทำเหมือนกับตัวเองเป็นเพียงท่อนไม้ตายซากปล่อยให้ทุกสิ่งอย่างดำเนินไปตามวิถีของมัน

 

ผิดกับไอรีน

 

“…” สีหน้าหล่อนเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

 

สายตาจับจ้องมองรายชื่อบนหน้าจอโทรศัพท์หล่อนลังเลอยู่หลายต่อหลายวินาทีก่อนตัดสินใจกดรับสาย

 

และเริ่มเปิดฉากบทสนทนา

 

“…ไง”

 

“ตอนนี้อยู่ที่ไหน?”

 

ปลายสายกล่าวเสียงหวานติดเย็นชาแม้ไม่ได้หน้าหรือได้ยินเสียงชัดเจนแต่ชายหนุ่มสวมแว่นก็รับรู้ได้ชัดเจนว่าอีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหน

 

…‘คาร่าสินะ’

 

“…” เพื่อนสาวอีกคนที่เขารู้จักมักคุ้น

 

หญิงสาวงดงามแสนสวยเกิดอาการตื่นตระหนกตกใจเล็กน้อยพร้อมทั้งหันเหลือบมองมาที่ทราเวียร์

 

คล้ายกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอย่าง

 

“…” นิ่งเงียบไปหลายวินาที

 

ก่อนจะเอ่ยปากตอบกลับไป

 

“…กำลังกลับบ้าน”

 

“ได้ตัวเขาไหม?”

 

และเป็นอีกครั้งที่อาการเดิมกลับ

 

“…” แววตาหวั่นไหวไปตามอารมณ์

 

ไอรีนเหลือบมามองทราเวียร์ทัังยังมองแรงกว่าเดิมหลายเท่าตัวมองแรงจนชายหนุ่มโลกดำมืดแปดด้านยังสัมผัสได้

 

ริมฝีปากขบกันแน่นสายตากลอกไปมาคล้ายกำลังชั่งใจว่าจะตอบกลับไปยังไงดี

 

สุดท้ายหล่อนก็เลือกตอบกลับไปตามความจริง

 

“มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อยแต่ก็ได้มาแล้ว”

 

“…ไปเจอเขาที่ไหน?”

 

“อยู่บ้านนังนั่นเลย”

 

“…” ครั้งนี้เป็นฝ่ายคาร่ามั้งที่นิ่งไม่คิดเปิดปากพูดจาหลังจากเสียงหายไปครู่

 

ปลายสายถึงตอบกลับมา

 

“…บ้านเอริสินะ”

 

“ใช่” ประการแสงแวบเข้ามาในสมองของหล่อน

 

นอกจากเปิดปากตอบมือที่เคยวางที่อื่นก็เริ่มกลับมาวางบนหน้าขาชายหนุ่มอีกครั้ง

 

…‘ฉันรู้นะว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่~’

 

“…” ไอรีนยิ้มแยิ้มผิดกับแววตา

 

ก่อนหยิบยกเอาแผนการขึ้นมาใช้งานใช้การ

 

“…ฉันกำลังขับรถกลับบ้านถ้าเธออยากคุยเอาไว้คุยเวลาอื่นตอนนี้ฉันยังไม่สะดวกคุย” แม้ปากจะบอกว่าไม่สะดวกคุยแต่มือของหล่อนก็ยังซุกซนไม่เปลี่ยนแปลง

 

ทราเวียร์ที่ได้ยินอดขมวดคิ้วไม่ได้จะหน้าหนาเกินไปรึเปล่าทั้งที่ปากบอกอย่างแต่ดันกระทำอีกอย่างหน้าตาเฉย

 

โดยเฉพาะเจ้ามือเจ้าปัญหาที่ซุกซนไม่เลิกรา

 

…‘เมื่อไหร่จะหยุด’

 

“…” ทราเวียร์เอนตัวปล่อยผ่านหมดทุกสิ่งอย่าง

 

ระหว่างกำลังถอดถอนหายใจเหนื่อยหน่ายเสียงอีกฝ่ายก็ดังขึ้นอีกทั้งยังดุดันราบเรียบและแข็งกร้าวเป็นที่สุด

 

แน่นอนว่าคนที่กล่าวก็ไม่ใช่ใครที่ไหน

 

เป็นคาร่านั้นเอง

 

“รอก่อน”

 

“รอ?”

 

“ฉันบอกว่าให้รออย่าพึ่งทำอะไรเกินเลย”

 

“ถ้าประชุมเสร็จฉันจะรีบไปหา”

 

สิ้นเสียงบอกกล่าวจากปลายสายหัวคิ้วหญิงสาวแสนสวยเริ่มขมวดเข้าหากันกระทั่งมือสนุกเล่นซุกซนก็หยุดลง

 

ทุกอย่างคล้ายหยุดชะงักไปในทันที

 

…‘คิดหลอกยัยนั้นไม่ง่ายหรอกนะ’

 

“…”

 

ทราเวียร์ยิ้มหัวเราะเบาบางก่อนหยิบดึงมือหล่อนออกไปไม่มีต่อต้านไม่มีแข็งขืนนับได้ว่าให้ความร่วมมือดีเยี่ยย

 

แน่นอนว่าจังหวะเวลานี้หญิงสาวแสนงามหาได้สนใจรายละเอียดรอบข้างสิ่งที่หล่อนให้ความสนใจมากที่สุด

 

คงไม่พ้นต้องเป็นคำพูดของคาร่า

 

…‘ทำไมต้องตอนนี้ด้วยหะ?!’

 

“…” ไอรีนได้สติกลับมาหลังจากผ่านช่วงเวลาครุ่นคิดหาคำตอบเริ่มเปิดปากถามอีกครั้ง

 

ทั้งยังถามอย่างระมัดระวังเป็นที่สุด

 

“เธอจะมาด้วยเหรอ?”

 

“…ไม่อยากให้ฉันไป”

 

“ปะ เปล่าสักหน่อย”

 

น้ำเสียงหล่อนตะกุกตะกักบ่งบอกให้รู้ชัดเจนว่ามีพิรุธขั้นสุดก่อนจะรีบกล่าวเสียงหวานเปลี่ยนเรื่องทันที

 

หวังกลบเกลื่อนเรื่องน่าอายเมื่อครู่

 

“อยากสิเธอเป็นเพื่อนรักของฉันนะ”

 

“ทำไมฉันจะไม่อยากให้มาละ”

 

“เธอจะมาตอนไหน?”

 

“ให้ฉันไปรับไหม?”

 

“ถ้าจะมาก็โทรหาฉันอีกทีนะ”

 

ถ้อยคำจากไอรีนเยอะแยะมากมายเกินกว่าจะจดจำไดัหมดทั้งพยายามชักจูงเกลี้ยกล่อมหรือกระทั่งอ้อนวอนขอร้อง

 

ติดตรงคาร่าไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย

 

“…” เธอยังนิ่งและนิ่งเงียบต่อไป

 

ด้วยเพราะรู้จักกันมาหลายต่อหลายปีคิดเหรอว่าเธอจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนิสัยเป็นมายังไงแต่น่าเสียดายที่เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้นไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

 

จึงทำอะไรไม่ได้มาก

 

ทำได้มากที่สุดก็แค่กล่าวดักคอล่วงหน้าเท่านั้น

 

“ไอรีน”

 

”…ว่าไง?”

 

“อย่าคิดเก็บเขาเอาไว้คนเดียว”

 

“เขาไม่ใช่ของเธอ”

 

“เขาเป็นของพวกเราทุกคน”

 

“…” รอยยิ้มหล่อนแข็งค้างสายตาหวาดหวั่นหวั่นไหวเป็นที่สุดคล้ายกำลังกลัวเกรงบางสิ่งอย่าง

 

แน่นอนว่าคาร่ายังคงกล่าวต่อไม่ปล่อยให้ขาดตอน

 

“ฉันจะรีบกลับไป”

 

“กลับไปให้เร็วที่สุด

 

“…โอเครเจอกัน” น้ำเสียงตอบกลับครั้งนี้ช่างอ่อนแรงเหลือเกินก่อนปลายสายจะถูกตัดขาด

 

สายตาหล่อนจดจ้องมองโทรศัพท์พร้อมถอนหายใจสิ้นหวังแผนการมากมายที่วางไว้ในใจคงต้องล้มเลิก

 

…‘ทำไมต้องเวลานี้ด้วยหะ’

 

“…”

 

ไอรีนแค่นเสียงไม่พอใจขั้นสุดหากเพื่อนสาวของหล่อน

ปล่อยผ่านปล่อยให้หล่อนจัดการเรื่องราวไม่คิดเข้ามายุ่งเกี่ยวอะไรหลายต่อหลายอย่าง

 

มันคงจะดีกว่านี้มาก

 

…‘น่าเสียดาย’

 

“…” ขณะกำลังครุ่นคิดอยู่คนเดียวหล่อนคล้ายได้ยินเสียงหัวเราะมาจากไหนสักแห่ง

 

สายตาคมก้าวจดจ้องมองไปที่ถุงดำทันที

 

“เมื่อกี้คุณหัวเราะ?”

 

“…ตั้งใจขับรถไปเถอะ”

 

“…” หัวคิ้วหล่อนกระตุกทันที

 

แม้ใจต้องการเล่นงานอีกฝ่ายแต่หล่อนรู้ว่าเวลาที่หลงเหลืออยู่ตอนนี้มันน้อยเสียเหลือเกินหากเอามาทิ้งกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมันออกจะสิ้นเปลืองเกินไป

 

…‘ต้องรีบกลับบ้านก่อนที่เหลือเอาไว้คุยกันทีหลัง’

 

“…”

 

ขอรัองล่ะครับ…คิดจะจีบผมทั้งทีอย่าใช้กำลังกันเลยนะมันเจ็บ!!!

ขอรัองล่ะครับ…คิดจะจีบผมทั้งทีอย่าใช้กำลังกันเลยนะมันเจ็บ!!!

Status: Ongoing
อ่านนิยาย ขอรัองล่ะครับ…คิดจะจีบผมทั้งทีอย่าใช้กำลังกันเลยนะมันเจ็บ!!!แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างกระทบใบหน้าชายหนุ่มหน้าขาวด้วยคลื่นความร้อนและแดดมันแยงตาสององค์ประกอบหรืออาจมากกว่านั้นทำให้ยากจะข่มตานอนต่อไป สุดท้ายปลายทางร่างกายเลือกตอบสนองต่อสิ่งเร้าจากโลกภายนอกก่อเกิดเสียงครางเล็ก ๆ ขึ้นมา ซึ่งนั่นคือสัญญาณขั้นต้นของการตื่นนอน “อืออออ” “…” เปลือกตาสั่นไหวพร้อมเปิดเผยให้เห็นแววตาคู่งามที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน กล่าวสำหรับชายหนุ่มหน้าขาวอย่างแรกเลยที่เห็นหลังจากตื่นนอนไม่ใช่เพดานคุ้นหน้าคุ้นตาที่เคยเห็นอยู่ทุกวัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset