ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 129 นี่คือการบาดเจ็บจากการทำงาน!

ปัจจุบันเผยเชียนมีพนักงานประมาณห้าสิบคน น่าจะผลาญเงินได้ประมาณสองถึงสามแสนหยวน ถ้ามีพนักงานสักห้าร้อยคนก็ผลาญเงินได้สองถึงสามล้านหยวนเลยสิ

เรื่องสำคัญที่สุดตอนนี้คือทดสอบเกณฑ์ของระบบ เพื่อให้รู้ว่าเขาจะจ่ายค่าชดเชยให้พนักงานจากการบาดเจ็บจากการทำงานได้แค่ไหน

พอรู้เกณฑ์ของระบบ เขาก็สามารถเริ่มหาพนักงานใหม่ได้ จากนั้นก็จะวางแผนผลาญเงินก้อนโตได้

ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ความพยายามในวันนี้จะทำให้เกิดผลดีในอนาคต!

“เรียกทุกคนมาประชุมที่ห้องประชุมตอนบ่ายสามโมง” เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พูดต่อ “เรียหม่าหยางกับหวงซื่อปั๋วมาด้วย”

ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูและเฟยหวงสตูดิโอเป็นของบริษัทเถิงต๋า พนักงานของทั้งสองที่ควรจะได้สวัสดิการที่ดีเหมือนกัน

แต่จะเรียกทุกคนมาประชุมก็ดูไม่เหมาะ ให้แค่หม่าหยางกับหวงซื่อปั๋วมาก็น่าจะพอ

บ่ายสามโมง ที่ห้องประชุม

ทุกคนดูงุนงงกันเล็กน้อย ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงโดนเรียกมาห้องประชุม

บอสเผยกำลังวางแผนโปรเจ็กต์ใหม่อยู่เหรอ แต่พอเห็นหวงซื่อปั๋วกับหม่าหยางมาประชุมด้วยก็คิดว่าไม่น่าใช่

ถ้าจะทำโปรเจ็กต์ใหม่คงไม่เรียกสองคนนี้มาหรอก

เลขาซินแจกผลตรวจสุขภาพให้พนักงานแต่ละคน

เผยเชียนนั่งรอให้ทุกคนได้ผลตรวจสุขภาพอยู่บนเก้าอี้

จริงๆ แล้วหลังตรวจสุขภาพเสร็จ หลายคนก็พอจะรู้คร่าวๆ แล้วว่าตนมีปัญหาสุขภาพอะไร ข้อมูลในผลตรวจสุขภาพแค่บอกรายละเอียดและตัวเลขต่างๆ ที่ชัดเจนขึ้น

เผยเชียนมองไปรอบห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ผมดูผลตรวจสุขภาพของทุกคนแล้ว

“ผลไม่ค่อยดีเลย

“พวกคุณไม่ใส่ใจสุขภาพของตัวเอง!

“ผมบอกไปแล้วว่าห้ามทำงานล่วงเวลา ทำไมถึงมีการเจ็บปวดที่เกิดจากการทำงานได้!”

เผยเชียนดูทุกข์ใจจริงๆ

ทุกคนรู้สึกไม่ดีขึ้นมา

พวกเขาก้มมองผลตรวจสุขภาพของตัวเอง

ก็ไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไรนี่

ความดันเลือดสูงนิดหน่อย มีไขมันพอกตับเล็กน้อย น้ำหนักเกิดมาตรฐานมาไม่เยอะมาก บางคนมีปัญหาเรื่องพังผืดกดดับเส้นประสาทข้อมือ…

คนส่วนใหญ่ก็มีปัญหาเรื่องนี้กันหมดไม่ใช่เหรอ

ทำไมบอสเผยพูดเหมือนพวกเรากำลังจะตายล่ะ

ก็ยังแข็งแรงปึ๋งปั๋งกันดีนี่

เผยเชียนหันไปมองเปาซวี่ “เปาซวี่ คุณมีปัญหาเรื่องท้องไส้ใช่มั้ย ก็เพราะคุณทำงานเกินเวลากับกินอาหารไม่เป็นเวลา! นี่เป็นการเจ็บป่วยจากการทำงาน ไปรักษาซะ ค่ารักษาเกินจากที่ประกันครอบคลุมมาเท่าไหร่ ทางบริษัทจะจ่ายให้เอง!

“เลขาซิน ช่วยติดต่อโรงพยาบาลให้ด้วย เลือกแผนรักษาที่ดีที่สุดให้เขา!”

เลขาซินพยักหน้า “ได้ค่ะ บอสเผย”

เปาซวี่อึ้งไป

แผนรักษาที่ดีที่สุดเหรอ

ฉันแค่ท้องไส้ไม่ดี ถ้ากินเยอะไปอาหารจะไม่ย่อย ปัญหาแค่นี้ต้องใช้แผนรักษาที่ดีที่สุดเลยเหรอ

แค่กินยาช่วยย่อยก็พอแล้วนี่

“ส่วนคนอื่นๆ อย่าง…หม่าอี้ฉวิน! คุณก็ท้องไส้ไม่ดีเหมือนกันนี่ ไปรักษาด้วยกันเลย”

เผยเชียนหันไปมองหัวเถิกของเปาซวี่ “เกือบลืมเลย เปาซวี่ ผมคุณจะหมดหัวอยู่แล้วเนี่ย! ต้องเป็นเพราะทำงานดึกมาตลอด นี่ก็การเจ็บป่วยจากการทำงาน! ไปถามโรง’บาลดูว่ามีวิธีช่วยให้ผมขึ้นมั้ย!

“หวงซื่อปั๋ว คุณก็ต้องจัดการเรื่องไขมันพอกตับด้วย หน้าคุณมันมาก ดูไม่ดีเลย ต้องเป็นเพราะเหนื่อยเกินไปแน่ๆ นี่ก็เป็นการเจ็บป่วยจากการทำงาน!

“ปัญหาเรื่องหน้าแบบนี้ทำลายภาพลักษณ์ของบริษัทได้ ไปจัดการบำรุงผิวซะ บริษัทจ่ายให้เอง”

หวงซื่อปั๋วกำลังจะอธิบายว่าที่หน้ามันก็เพราะลืมล้างหน้าก่อนมาประชุม แต่เผยเชียนก็หันไปหาคนอื่นก่อน

“เสี่ยวลู่ ผมดูผลตรวจคุณแล้ว คุณมีปัญหาเรื่องคออักเสบเรื้อรัง! ต้องเป็นเพราะคุณทำงานหนักตอนอัดเสียงพากย์แน่! ไม่ต้องห่วง นี่ก็ถือเป็นการเจ็บป่วยจากการทำงาน ต้องได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ทางบริษัทจะจ่ายให้หมด!

“มีหลายคนมีปัญหาเรื่องพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือด้วยนี่ เรื่องนี้อาจจะกระทบกับประสิทธิภาพการทำงานได้ ไปรักษาให้เร็วที่สุด!

“โจวเผิง อาการคุณหนักกว่าใครเพื่อนเลย คุณมีเนื้องอก ต้องผ่าตัด ไม่ต้องห่วง บริษัทจะจ่ายส่วนที่ประกันไม่ครอบคลุมเอง ที่เป็นแบบนี้คงเพราะคุณทำงานหนักเกินไป ถือเป็นการเจ็บป่วยจากการทำงาน หยุดงานไปจัดการเรื่องนี้สักพักจะได้หายไวๆ โอเคมั้ย”

พอเผยเชียนพูดจบ ทุกคนก็หันมองโจวเผิง

“เสี่ยวโจว นายมีเนื้องอกเหรอ ทำไมไม่บอกล่ะ!”

“ใช่ๆ นายเก็บเรื่องใหญ่แบบนี้ไว้คนเดียวได้ไง”

“เสี่ยวโจว ไม่ต้องกังวลนะ พวกเราจะคอยเป็นกำลังใจให้!”

“จะเริ่มรักษาตอนไหนเหรอ ต้องนอนโรง’บาลมั้ย พวกเราจะไปเยี่ยมบ่อยๆ นะ!”

เสี่ยวโจวทำตัวไม่ถูก ใบหน้าของเขาแดงเรื่อ “เอ่อ…จริงๆ มันก็เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงน่ะครับ จะผ่าออกเร็วหรือช้าก็ไม่ได้แตกต่างอะไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้นครับ…

“อีกอย่าง เนื้องอกนี่น่าจะชื่อ Hamartoma ขนาดประมาณห้าเซนติเมตรเองครับ ถ้าขนาดเล็กกว่าสี่เซนติเมตร โรงพยาบาลก็ไม่ได้สนใจอะไร…”

ทุกคนหันมองกันด้วยแววตางุนงง

เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงเหรอ

ถ้างั้นทำไมบอสเผยถึงจริงจังขนาดนี้ล่ะ นึกว่าเสี่ยวโจวกำลังจะตายซะอีก!

เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงไม่ต้องผ่าออกก็ได้ไม่ใช่เหรอ เพราะส่วนใหญ่ผ่าไปก็ขึ้นใหม่

อีกอย่างอาการเจ็บป่วยทั้งหมดที่พูดมาก็เป็นเรื่องปกตินี่

ไม่เห็นต้องตีโพยตีพายเป็นเรื่องใหญ่เลย

พอเห็นทุกคนกำลังตั้งคำถามในใจ เผยเชียนก็เคาะโต๊ะด้วยสีหน้าจริงจัง

“อย่าคิดกันแบบนั้นสิครับ

“ร่างกายไม่ใช่แค่ของพวกคุณ พวกคุณเป็นพนักงาน ถือเป็นทรัพย์สินของบริษัท!

“ในฐานะพนักงานของเถิงต๋า สุขภาพของพวกคุณเป็นตัวกำหนดว่าบริษัทของเราจะเดินหน้าต่อได้หรือเปล่า

“ในเมื่อพวกคุณเซ็นต์สัญญาทำงานกับเราแล้ว ทางบริษัทก็ต้องรับผิดชอบเรื่องสุขภาพของคุณ

“หม่าหยางกับหวงซื่อปั๋ว ไปจัดการดูแลเรื่องสุขภาพพนักงานของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกับเฟยหวงสตูดิโอด้วย ใช้มาตรฐานเดียวกันกับที่ผมใช้ดูแลคุณ”

สิ่งที่บอสเผยพูดฟังดูทรงพลังและเด็ดขาดมาก

ทุกคนตะลึงงันไป

พนักงานถือเป็นทรัพย์สินของบริษัท สุขภาพร่างกายไม่ใช่แค่เรื่องของพวกเขา แต่เป็นเรื่องของบริษัทด้วย พวกเขาต้องมีสุขภาพที่ดีเพื่อที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

…ก็ฟังดูสมเหตุสมผล

แต่ตรรกะของบอสเผยดูประหลาด เหมือนมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล

“แล้วก็”

เผยเชียนไล่มองพนักงานแต่ละคนในห้องก่อนจะพูดต่อ “ผมรู้สึกแย่มากที่ผลตรวจสุขภาพครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ามีการเจ็บป่วยจากการทำงานมากมายขนาดนี้

“มันหมายความว่าผมมอบหมายงานให้พวกคุณแต่ละคนได้ไม่ดีพอ ดูแลสุขภาพพวกคุณได้ไม่ดีพอ ผมต้องรับผิดชอบเรื่องนี้

“ผมจะแจ้งเรื่องสวัสดิการใหม่ของบริษัทเรา

“อันดับแรก เกี่ยวกับเรื่องการเจ็บป่วยจากการทำงาน ปัญหาสุขภาพทั้งหมดจะถือเป็นการเจ็บป่วยจากการทำงาน ให้เบิกค่ารักษาจากประกันสุขภาพก่อน ทางบริษัทจะรับผิดชอบส่วนที่ประกันไม่ครอบคลุมตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เกณฑ์ที่ว่าจะแจ้งให้ทราบเป็นกรณีไป”

เผยเชียนไม่ได้บอกรายละเอียดทั้งหมดไปเพราะไม่รู้ว่าระบบยอมให้จ่ายเท่าไหร่

ตัวอย่างเช่น ถ้ามีพนักงานเป็นมะเร็ง ต้องใช้เงินรักษาหลายแสนหยวน ก็อาจบอกได้ว่าเกิดจากความเหนื่อยล้าจากการทำงาน แต่จะให้จ่ายทั้งหมดเหมือนว่าเป็นการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากการทำงานจริงๆ ก็คงไม่ได้ ระบบคงไม่อนุมัติแน่

ดังนั้นเผยเชียนจึงระบุเงื่อนไขเอาไว้ว่าให้พนักงานรายงานปัญหาสุขภาพที่พบให้รู้ก่อน จากนั้นเผยเชียนค่อยแจ้งว่าจะช่วยจ่ายได้เท่าไหร่ (ตามเกณฑ์สูงสุดที่ระบบยอมให้จ่าย)

เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสริม “ร่างกายของพนักงานทุกคนถือเป็นทรัพย์สินของบริษัท ถ้ารู้ว่าตัวเองมีปัญหาสุขภาพอะไร ห้ามปิดบังเด็ดขาด เข้าใจมั้ย

“เลขาซิน ช่วยสมัครสมาชิกยิมหนึ่งปีให้พนักงานแต่ละคนด้วย ซื้อคอร์สเทรนเดี่ยวแปดคอร์สให้พนักงานแต่ละคนทุกเดือน ทุกคนต้องเข้ายิมสัปดาห์ละสองครั้ง!”

การสมัครสมาชิกยิมในเมืองจิงโจวหนึ่งปีราคาอยู่ที่ประมาณสองแสนหยวน คอร์สเทรนเดี่ยวราคาคอร์สละสองร้อยหยวน แปดคอร์สราคารวมหนึ่งพันหกร้อยหยวน ตกปีละสองหมื่นหยวน

แต่เผยเชียนไม่สามารถจ่ายเงินก้อนนี้รวดเดียวหมดได้ ระบบอนุญาตให้เขาจ่ายค่าใช้จ่ายนี้ได้ทีละเดือนและสามารถซื้อคอร์สเทรนเดี่ยวได้สูงสุดสิบคอร์สต่อเดือน

ถ้าคำนวณตามนี้ แสดงว่าเขาจะผลาญเงินไปกับยิมได้เดือนละประมาณสองแสนหยวน

“ยังมีปัญหาเรื่องอาหารการกินด้วย

“พนักงานหลายคนมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินอาหาร สาเหตุหลักมาจากอาหารที่กิน

“หม่าหยาง ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจ้างเชฟฝีมือดีมานี่ ไปจ้างเพิ่มอีกสองคน เตรียมอาหารดีๆ มาส่งที่ออฟฟิศทุกเที่ยง บริษัทจะจ่ายค่าอาหารเอง!

“ทุกวัน เวลาเข้างาน ให้คิดไว้ว่าจะกินอะไรเป็นอาหารเที่ยง อย่าลืมให้ความสำคัญเรื่องสารอาหารด้วย หม่าหยางกับจางหยวนจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้”

หม่าหยางพยักหน้าทันที “ได้ครับ บอสเผย”

ช่วงนี้หม่าหยางเศร้าใจมาก

เกมนักออกแบบเกมกับซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยสามารถทำเงินได้ แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกลับขาดทุนเดือนละสามแสนหยวน จะไม่ให้เศร้าใจได้ยังไงไหว

เขารู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์!

ตอนนี้มีโอกาสให้แสดงฝีมือแล้ว เขาต้องทำให้ออกมาดี

“แล้วก็เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าพนักงานทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง เราจะจ้างนักโภชนาการ! เลขาซิน ฝากจัดการเรื่องหาคนเหมาะๆ มาทำตำแหน่งนี้ด้วย”

เผยเชียนแจ้งพนักงานไปพร้อมๆ กับตรวจดูการตอบสนองจากระบบ

ระบบไม่ได้ปฏิเสธอะไร หมายความว่าสามารถจัดการตามนี้ได้ทุกอย่าง

หลังจากจัดแจงตามที่บอกไป เผยเชียนก็พบว่าเขาจะผลาญเงินไปอีกประมาณห้าแสนหยวน!

แน่นอนว่าก็ยังห่างไกลจากเป้าหมายในการขาดทุน…

แต่เผยเชียนก็พร้อมรับผลที่จะเกิดขึ้น ถึงจะได้เงินแปลงเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคลแค่ห้าพันหยวน แต่ก็ถือว่ามีความหมาย!

เขาได้พบหนทางใหม่ในการผลาญเงินผ่านระบบแล้ว

ตอนนี้มีพนักงานห้าสิบคน ผลาญเงินไปห้าแสนหยวน

ถ้ามีพนักงานสักห้าร้อยคน ก็ผลาญได้ห้าล้านหยวน

ทั้งหมดที่ทำก็เพื่อสร้างรากฐานในการผลาญเงินให้ขาดทุนในอนาคต!

“โอเคครับ ทั้งหมดมีแค่นี้ แยกย้ายได้!”

เผยเชียนลุกเดินออกจากห้องประชุมไปด้วยความเบิกบานใจ

ถึงสัปดาห์นี้จะพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า แต่อนาคตอันสดใสกำลังรออยู่ข้างหน้า!

พนักงานในห้องประชุมนิ่งเงียบไป

พวกเขารู้สึกตื้นตันใจมาก!

จะไปหาบอสที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพพนักงานเหนือสิ่งอื่นใดได้จากที่ไหนอีก! เหลือเชื่อจริงๆ!

หลายคนรู้สึกเคารพเผยเชียนยิ่งกว่าเก่าระหว่างที่มองเขาเดินออกจากห้องไป

บอสเผยเป็นบอสที่ดีจริงๆ คอยเสียสละอยู่เงียบๆ ไม่เคยอวดอ้างความดีของตัวเอง

บอสทำตัวไม่เหมือนคนรวยคนอื่นๆ ที่ชอบบอกว่าพนักงานเป็นเหมือนครอบครัว คอยทำการกุศล ทั้งหมดที่ทำไปก็เพื่อชื่อเสียงทั้งนั้น

แต่บอสเผยแตกต่างจากพวกนั้นราวฟ้ากับเหว ที่บอสทำไปทั้งหมดก็เพราะรักพนักงานมาก แถมยังไม่เอาเรื่องนี้ออกสื่อเลยสักนิด

นี่คือความใจดีของคนเป็นบอสเหรอ

ถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกที่มีในใจก็คงจะบอกได้ว่า พวกเขารู้สึกเคารพจิตใจอันสูงส่งของคนผู้นี้อย่างสุดซึ้ง!

หม่าอี้ฉวินตัดสินใจได้แล้วว่าจะให้สัมภาษณ์กับหูเยว่ในวันพรุ่งนี้

ถึงจะบอกข้อมูลของบอสเผยและสวัสดิการทั้งหมดที่พนักงานของเถิงต๋าได้รับไม่ได้ ก็ยังมีเรื่องอื่นอีกมากมายให้พูด

เขาจะตั้งใจให้สัมภาษณ์อย่างดีเพื่อที่จะทำให้สังคมได้รับรู้ถึงจิตวิญญาณของบริษัทเถิงต๋า!

……………..

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี
Status: Ongoing
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน ด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset