ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 23 แชตกลุ่ม

หวงนึกกังวล “จะช่วยได้จริงเหรอ ถึงอาจารย์เฉินฉีจะเป็นนักวาดชื่อดังในวงการ แต่เขาอาจจะลืมเรื่องเมื่อปีก่อนไปแล้วก็ได้ แกมั่นใจได้ยังไงว่าเขาจะจำแกได้”

“อีกอย่างพวกมือโปรในวงการนี้เขาตั้งราคาเงินค่าโฆษณาไว้แพงจัด ไม่มีทางลดค่าตัวของตัวเองแน่ ถ้าเราไปขอให้พวกเขาช่วยโฆษณาเกมแม่ทัพผีฟรีๆ…”

หร่วนกวางเจี่ยนส่ายหน้า “ก็ไม่แน่หรอก จากที่ดูๆ มา มือโปรพวกนี้คุยง่าย ถึงจะรับงานโฆษณาเยอะแต่ก็ช่วยโฆษณาให้กันเองบนเว่ยป๋อเป็นเรื่องปกติ”

“ที่สำคัญคือพวกเขาจะชอบงานเรารึเปล่า”

“ถ้าชอบก็คงมีใครสักคนช่วยโฆษณาแน่ แต่ถ้าไม่เราก็ทำอะไรไม่ได้”

หวงพยักหน้า “ก็ทำได้แค่ลองดู”

หร่วนกวางเจี่ยนเปิดแชตกลุ่ม หวงส่องดู มีแต่พวกคนเก่งเต็มกลุ่มจริงๆ ด้วย

เจ้าของกลุ่มชื่อเฉินฉี เขาสร้างชื่อให้ตัวเองได้สำเร็จในแวดวงนักวาดงานภาพออริจินัลให้เกมในประเทศเมื่อสองสามปีก่อน นอกจากนี้ยังได้รับเชิญให้ไปเป็นกรรมการในงานประกวดคอนเซ็ปต์อาร์ตสำหรับเกมมากมาย

ผู้ดูแลกลุ่มคนอื่นๆ ล้วนเป็นคนมีชื่อเสียงเหมือนกัน

บางคนดังในแวดวงแอนิเมชันในประเทศ

บางคนเชี่ยวชาญเรื่องการออกแบบคอนเซ็ปต์

นอกจากนี้ยังมีนักออกแบบเกม ผู้อำนวยการสร้าง นักเขียน และอื่นๆ

คนเหล่านี้เป็นคนในเครือข่ายของเฉินฉี ส่วนใหญ่เป็นนักวาด ที่เหลือเป็นคนที่อยู่ในวงการเกม แอนิเมชัน และอื่นๆ

แค่ส่งข้อความไปในกลุ่มที่เต็มไปด้วยบรรดามือฉมัง หร่วนกวางเจี่ยนรู้สึกกดดันมหาศาลแล้ว

เขาคิดมาเรียบร้อย ถ้าบอกไปโต้งๆ ว่าอยากให้ช่วยโฆษณาเกมให้ที น่าจะไม่มีใครยอมทำให้ อีกทั้งยังดูไม่มีมารยาท

“สวัสดีครับทุกคน ผมเป็นนักศึกษาภาควิชาศิลปะปีสี่ ผมเพิ่งได้โอกาสทำงานภาพออริจินัลชุดหนึ่งเลยอยากขอความเห็นจากมืออาชีพว่ามีจุดไหนที่ควรปรับปรุงบ้างจะได้ไหมครับ”

หร่วนกวางเจี่ยนพิมพ์ไปอย่างสุภาพมากๆ

ถึงจะมั่นใจในความสามารถของตัวเอง แต่เขาก็เป็นแค่รุ่นน้องในวงการ จุดไหนที่ควรก็ต้องถ่อมตนเข้าไว้

กลุ่มแชตไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวเท่าไหร่และบรรดามืออาชีพล้วนให้ความใส่ใจเวลาสนทนาหรือโฆษณามากกว่า

ทำให้ข้อความของหร่วนกวางเจี่ยนไม่ได้โดนดันขึ้นไปทันทีและโชว์หราอยู่ในกลุ่มไปสักพัก

สองนาทีผ่านไป คนชื่อ นักวาดหลิว ก็ตอบกลับ “ได้ ส่งมาเลย”

หร่วนกวางเจี่ยนส่งรูปงานบางส่วนที่เขาชอบเป็นพิเศษลงกลุ่ม “ขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือ ท่านมืออาชีพ!”

นักวาดหลิว: “ไม่เป็นไร พวกเราอยู่วงการเดียวกัน ยิ่งมีปฏิสัมพันธ์กันเราก็ยิ่งพัฒนาขึ้น ฉันก็เพิ่งเข้าวงการมาก่อนได้สองสามปีเอง”

สองสามนาทีต่อมา

นักวาดหลิว: “!!!”

“…ฉันขอถอนคำพูด คุณต่างหากที่เป็นมืออาชีพ! ดูการลงเงา สไตล์ภาพ รายละเอียดพวกนี้สิ! คุณเป็นนักศึกษาปีสี่จริงๆ เหรอ”

ไม่นานพวกที่ซุ่มอ่านอยู่ก็ออกมาโต้ตอบเมื่อได้เห็นรูป

“พวกมือโปรมาอ้างว่าเป็นมือใหม่อีกแล้วเหรอ ฝีมือขนาดนี้มาบอกว่าตัวเองเป็นมือใหม่เนี่ยนะ ถ้านายเป็นมือใหม่แล้วฉันจะเป็นอะไร!”

“พื้นฐานแน่นมาก!”

“รูปแบบการนำเสนอเป็นเอกลักษณ์สุดๆ! มังกรนั่นคือกวนอูเหรอ ถึงสไตล์งานจะฉีกแนวมาก แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาโดดเกินไป เป็นธรรมชาติมากๆ!”

“ให้ความรู้สึกเยี่ยมยอดมาก! ทั้งตัวละคร ทั้งพื้นหลัง ทุกอย่างดูอลังการสุดๆ ไปเลย!”

“พวกมือใหม่นี่เป็นปีศาจกันหมดเหรอ!”

“ผมแนะนำเรื่องเทคนิคที่ใช้ในงานออริจินัลระดับนี้ไม่ได้เลย งานมันเทพเกินไป!”

“ดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนงานภาพของมืออาชีพต่างประเทศ! ขนาดงานภาพของเกม Fantasy World ยังไม่สุดจัดเท่านี้เลย!”

“ก็ยังไม่ถือว่าสมบูรณ์แบบ ยังมีรายละเอียดบางจุดให้พัฒนา…แต่คุณภาพก็เหนืองานของฉันไปมาก…”

งานภาพไม่กี่ชิ้นที่ส่งเข้าไปทำให้ทั้งกลุ่มแตกตื่น!

เนื่องจากในกลุ่มมีแต่มืออาชีพจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะสังเกตเห็นจุดที่คนธรรมดาไม่สามารถมองออก

คนส่วนใหญ่มักดูแค่ว่างานไปคล้ายกับอะไร หรือมีจุดไหนที่ดีเป็นพิเศษ อย่างมากที่สุดก็จะพิจารณาจากมุมมองความชอบของตัวเอง

แต่เหล่ามืออาชีพจะเห็นถึงการลงเงา รายละเอียด และสไตล์งาน…

พูดอีกอย่างก็คือ คนทั่วไปไม่สามารถมองความแตกต่างระหว่างงานที่คล้ายกันสองชิ้นออก แต่มืออาชีพบอกระดับความสามารถของนักวาดได้ทันที

ตอนนี้งานที่หร่วนกวางเจี่ยนส่งเข้าไปในกลุ่มนั้นอยู่ในจุดสูงสุดจากการลงความเห็นของเหล่าผู้คร่ำหวอดในวงการ!

“ยอดเยี่ยม! จุดสำคัญคือการใช้จินตนาการ!”

“คนที่สร้างงานแบบนี้ขึ้นมาได้นอกจากจะฉีกกรอบตัวละครดั้งเดิมได้แล้วยังต้องมีจินตนาการก้าวไกล นอกจากนี้ก็ต้องมีพื้นฐานทักษะที่ดีเยี่ยมบวกกับพรสวรรค์โดยกำเนิดถึงจะทำภาพในจินตนาการให้กลายมาเป็นของจริงได้”

“ถ้าเอางานภาพออริจินัลแบบนี้ไปสร้างเป็นเกมได้คงจะดีมาก!”

คนที่ส่งข้อความดังกล่าวมาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าของกลุ่มแชตและนักออกแบบคอนเซ็ปต์อาร์ตชื่อดังในแวดวงเกมภายในประเทศ เฉินฉี

เขาหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “คุณเข้ากลุ่มมาตอนไหนเหรอ ผมจำไม่ได้…”

หร่วนกวางเจี่ยนบุ้ยปาก เฉินฉีจำเขาไม่ได้จริงๆ ด้วย

จะว่าไปเขาก็ถูกชวนเข้ากลุ่มโดยบังเอิญเมื่อปีก่อน แล้วก็ไม่ได้ส่งข้อความอะไรเข้าไปในกลุ่มเลยตั้งแต่ตอนนั้น หลังจากนั้นก็มีหลายคนเข้ากลุ่มมาเพิ่ม เฉินฉีจึงลืมหร่วนกวางเจี่ยนไป

แต่นั่นก็ไม่สำคัญ สำหรับศิลปินแล้ว ต้องให้งานเป็นตัวชูโรงถึงจะถูก!

ทันทีที่ภาพเหล่านี้ส่งเข้าไปในกลุ่ม ทุกคนก็รู้จักนักวาดหน้าใหม่ผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ หร่วนกวางเจี่ยน!

“ถ้าน้องเรียนจบแล้ว สนใจมาร่วมงานกับบริษัทพี่มั้ย พี่ให้เงินเดือนแพงแน่ แถมยังมีสวัสดิการดีกว่าที่อื่นๆ อีก!”

“มาร่วมงานกับเราดีกว่า! ทำงานกับเราน้องไปได้ไกลแน่เพราะเรามีโปรเจ็กต์เกมเยอะ โบนัสก็สูง!”

คนในกลุ่มเริ่มชักชวนให้เขาไปทำงานด้วย!

เป็นธรรมดาที่หร่วนกวางเจี่ยนจะรู้สึกดีใจ การที่งานตัวเองได้รับคำชมเชยจากคนใหญ่คนโตในวงการถือเป็นเรื่องที่ควรภาคภูมิใจ!

จริงๆ แล้วก่อนจะทำงานนี้ เขาไม่ค่อยมั่นใจว่างานสไตล์ของตัวเองจะมีคนชอบหรือเด่นดังขึ้นมาได้หรือเปล่า

ในวงการคล้ายๆ กันก็ประสบปัญหานี้แบบเดียวกันนี้ ไม่มีใครรู้ว่าหนังสือหรือหนังจะดังหรือเปล่าก่อนหน้าที่จะปล่อยออกไป

ปัญหานี้ยิ่งหนักขึ้นสำหรับงานภาพออริจินัลที่ความสวยงามขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน

แต่ผลตอบรับจากบรรดามืออาชีพก็ทำให้หร่วนกวางเจี่ยนมั่นใจในฝีมือของตัวเอง!

แต่เขาก็ยังไม่ลืมเป้าหมายที่เข้ามาในแชตกลุ่ม

“จริงๆ แล้วงานพวกนี้ผมทำให้เกมชื่อแม่ทัพผี”

หร่วนกวางเจี่ยนพิมพ์ต่อ “แต่ตอนนี้เกมติดปัญหานิดหน่อย ผมเลยอยากขอให้ทุกท่านช่วย”

เฉินฉี: “อะไรเหรอ”

หร่วนกวางเจี่ยน: “เฮ้อ เกมนี้บริษัทเล็กๆ สร้างขึ้นมาด้วยใจ แต่ไม่มีเงินทุนมากพอ ที่มีก็ลงไปกับการทำเกมให้มีคุณภาพหมด สุดท้ายเลยไม่มีเงินเหลือสำหรับโฆษณา!”

“เพราะแบบนี้ผมเลยหวังว่ามืออาชีพทุกท่านในกลุ่มนี้จะช่วยโฆษณาเกมให้ แค่แชร์ลงเว่ยป๋อก็พอแล้วครับ!”

เฉินฉี: “แชร์ลงเว่ยป๋อก็พอเหรอ ได้สิ ง่ายจะตาย เกมชื่ออะไร บริษัทไหนเป็นคนทำล่ะ”

หร่วนกวางเจี่ยน: “เกมชื่อแม่ทัพผี บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีเป็นคนสร้างครับ”

“เถิงต๋าเหรอ เถิงต๋า…ทำไมคุ้นๆ ชื่อจัง” เฉินฉีนึกสงสัย

………………….

Related

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน ด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset