ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 30 ถูกจัง

“ซินไห่ลู่…เคยเป็นเลขาของรองประธานบริษัทในองค์กรชื่อดัง ทำไมถึงลาออกเหรอครับ เหมือนเธอจะไม่ได้บอกสาเหตุไว้ในประวัติการทำงาน”

ผู้จัดการลอว์เรนซ์ยิ้ม “สงสัยคุณจะไม่ค่อยได้ดูข่าวใช่ไหมครับ บอสเผย พอเริ่มกรึ่มๆ รองประธานก็ทำตัวไม่เหมาะสมใส่ซึ่งเธอก็ต่อต้าน เรื่องจบที่รองประธานโดนไล่ออก ส่วนเลขาซินลาออกไปเองครับ”

“เรื่องนี้ทำให้ทางองค์กรได้รับผลกระทบหนัก จริงๆ ตอนนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างร้อนแรง”

เผยเชียนอึ้งไปเล็กน้อย “อย่างนี้ก็เหมือนว่าเธอเป็นวีรสตรีในหมู่ผู้หญิงน่ะสิครับ”

ผู้จัดการลอว์เรนซ์พยักหน้า “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ บางทีเธออาจจะเบื่อบริษัทใหญ่ อยากมาทำงานในบริษัทเล็ก…ไม่ใช่สิ บริษัทเปิดใหม่ก็ได้ครับ ทั้งตามหลักการและในแง่การทำงาน เลขาซินคือตัวเลือกที่ดีที่สุด”

ที่ผู้จัดการลอว์เรนซ์บอกว่า ‘ในแง่การทำงาน’ ช่วยบอกได้ชัดเจนว่าเธออาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีถ้าพิจารณาจากแง่มุมอื่น…

เผยเชียนตัดสินใจทันที “โอเคครับ ผมเลือกคนนี้แหละ!”

“แต่ผมมีเรื่องจะขอร้อง”

ผู้จัดการลอว์เรนซ์พยักหน้าอีกครั้ง “บอกมาเลยครับ ถ้าไม่ได้เกินกว่าที่ทำได้ ผมว่าเราน่าจะคุยกันได้”

“เธอให้คำแนะนำผมได้เฉพาะตอนที่ผมขอเท่านั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอต้องเงียบ ไม่ถามอะไรมากเกินไป” เผยเชียนบอก

ผู้จัดการลอว์เรนซ์ยิ้ม “ได้แน่นอนครับ ถึงคุณไม่บอก แต่นั่นก็เป็นคุณสมบัติความเป็นมืออาชีพอย่างหนึ่งของการเป็นเลขา”

สามวันต่อมา วันจันทร์

รถปอร์เช่ คาเยนน์ขับมาจอดอยู่หน้าทางเข้าตึกสำนักงานที่หรูที่สุดในเมืองจิงโจว ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว

“ถึงแล้วค่ะ บอสเผย”

ซินไห่ลู่เปิดประตูรถให้เผยเชียนแล้วพาเขาเข้าตึกสำนักงานตรงหน้า

บริษัทจัดหาบุคลากรทำให้บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีได้พนักงานคนที่สามมารับตำแหน่งเลขาประธานอย่างเป็นทางการ

ซินไห่ลู่คือผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจตามแบบฉบับ ทั้งหน้าตาและกิริยาล้วนไร้ที่ติ แม้แต่เรือนร่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตและกระโปรงก็สมบูรณ์แบบ

ตรงตามที่เผยเชียนต้องการทุกอย่าง

การศึกษาสูง คล่องสามภาษา สวยสง่า พูดจามีมารยาท สามารถจัดการกับผู้คนรอบตัวได้ดี มีความอดทน จัดการเรื่องธุรกิจได้ อีกทั้งยังไม่ทำเรื่องที่ไม่ควรถาม

ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันแค่สองสามวัน แต่เผยเชียนก็รู้สึกได้เลยว่าเธอช่าง…

ไว้วางใจได้! ทำงานมีประสิทธิภาพ!

เผยเชียนไม่ลังเลใจและยื่นขอเสนอให้เงินเดือนเพิ่มสามสิบเปอร์เซ็นต์จากเงินเดือนตั้งตนที่ระบุไว้ กลายเป็นต้องจ่ายให้เธอสามหมื่นนิดๆ ต่อเดือน

ปี 2009 นี้ เด็กจบใหม่จากมหาวิทยาลัยฮั่นตงสู้กันแทบตายเพื่อให้ได้เงินเดือนสามพันหยวน

มีสองเหตุผลที่ทำให้เงินเดือนของเธอสูงแบบนี้

ข้อแรกคือ บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีของเผยเชียนเป็นบริษัทเปิดใหม่ เทียบกับประสบการณ์ทำงานก่อนหน้าของซินไห่ลู่แล้ว ที่นี่ไม่มีโอกาสให้เติบโตได้มากเท่าไหร่ ทำให้เขาต้องยื่นเงินเดือนให้เธอไปสูงๆ

เนื่องจากเธอเป็นคนที่เก่งมากๆ อยู่แล้วทำให้เงินเดินตั้งต้นเธอสูงมากๆ พอให้เพิ่มไปอีกสามสิบเปอร์เซ็นต์จึงทำให้ยิ่งดูเยอะเข้าไปใหญ่

ข้อที่สองคือ เผยเชียนตั้งใจจะผลาญเงินอย่างบ้าคลั่ง จึงเป็นธรรมดาที่เขาต้องจ้างคนเงินเดือนสูงๆ เนื่องจากซินไห่ลู่เป็นคนมีความสามารถสูง ระบบจึงไม่ได้มองว่าการให้เงินเดือนเธอสูงกว่าตลาดเล็กน้อยเป็นการทำผิดกฎ

ถึงอย่างไรเผยเชียนก็จ้างคนอย่างหม่าหยางตั้งสามพันหยวนต่อเดือน…

รถปอร์เช่ คาเยนน์เช่ามาในนามบริษัท

ตอนแรกเผยเชียนตั้งใจจะซื้อรถในนามบริษัทแต่ระบบไม่อนุญาต

เขาสามารถซื้อรถได้ แต่ราคาของที่จะซื้อขึ้นอยู่กับเงินทุนปัจจุบันของบริษัท เขาจึงไม่สามารถซื้ออะไรที่แพงเกินกว่าเหตุได้

เผยเชียนคิดว่าคงจะไม่ได้ประโยชน์อะไรที่จะซื้อรถถูกๆ มาใช้

สุดท้ายเขาจึงเช่ารถปอร์เช่ คาเยนน์มาใช้ส่งเสริมภาพลักษณ์ตัวเอง

ถึงค่าเช่ารถจะไม่ได้แพงอะไรมาก แต่ขอแค่ให้ได้ใช้เงินก็พอแล้ว

เผยเชียนจะไม่ยอมเสียโอกาสไปแม้แต่อย่างเดียว

เขามาที่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวเพื่อเช่าพื้นที่สำหรับออฟฟิศ

ตึกนี้เป็นตึกสำนักงานที่หรูที่สุดในเมืองจิงโจว เผยเชียนกะไว้ว่าที่นี่น่าจะราคาห้าหยวนต่อตารางเมตร

ห้าหยวนต่อตารางเมตรต่อวัน

ในโลกคู่ขนานปี 2009 นี้ เมืองจินโจวซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลฮั่นตงถือเป็นเมืองระดับสอง

ถ้าเป็นที่ปักกิ่งในปี 2019 ราคาเมื่อครู่น่าจะต้องคูณไปอีกสามเท่า

สำหรับเมืองจิงโจวและตึกสำนักงานคล้ายๆ กันนี้ ราคาจะอยู่ที่ประมาณสองถึงสามหยวนต่อตารางเมตร

แต่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวเป็นตึกสุดหรูที่ออกแบบมาอย่างประณีตจึงมีราคาสูงกว่า

ถ้าเป็นบริษัทอื่นคงไม่ใช่เรื่องดีนัก

แต่สำหรับเผยเชียนแล้วถือเป็นข้อดีสุดๆ!

เขาชอบที่นี่เพราะมันแพง!

ซินไห่ลู่เข้าไปในห้องรับรองแล้วเดินไปหาพนักงาน พอมีเลขา เผยเชียนก็ไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเอง

พนักงานในตึกสำนักงานนี้สวมสูทกับรองเท้าหนังกันทุกคน

แต่เผยเชียนกลับใส่เสื้อคลุมสบายๆ กับกางเกงขายาว

เขาไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอะไรเลยเมื่อมาอยู่ในสถานที่หรูแบบนี้ แค่รู้สึกหนาวนิดหน่อยเพราะอากาศเริ่มเย็น

ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะเผยเชียนมั่นใจในตัวเองมาก แต่เป็นเพราะมีเลขาซินมาด้วยต่างหาก

ไม่ว่าจะอ้วน เตี้ย หรือขี้เหร่แค่ไหน ขอแค่มีสาวสวยสง่ามีราศีอยู่ข้างๆ ก็มองออกแล้วว่ารวย

เผยเชียนไม่ได้อ้วน เตี้ย หรือขี้เหร่อะไร ถือว่าค่อนข้างหน้าตาหล่อเหลาเลยทีเดียว

ทุกวันนี้ คนที่ขี้เหร่เกินไปไม่มีทางได้สิทธิ์กลับชาติมาเกิดใหม่

เพราะเดี๋ยวคนอ่านจะอ่านไม่สนุกเอา

ไม่นานผู้จัดการก็มายืนยิ้มอยู่หน้าเผยเชียน

“สวัสดีครับ บอสเผย ผมผู้จัดการจาง ถ้าต้องการอะไรบอกผมได้เลยนะครับ”

ผู้จัดการจางไม่รู้ว่าเผยเชียนเป็นใครมาจากไหน แต่พอเห็นว่าเลขาคือซินไห่ลู่ก็รู้ได้ทันทีว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

เผยเชียนสวมชุดธรรมดาสุดๆ แถมยังดูเด็กมากๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะมองมุมไหน เขาก็ดูเหมือนพนักงานกินเงินเดือนจนๆ คนหนึ่ง

แต่พอเห็นว่าเลขาเป็นซินไห่ลู่ เขาก็มองเผยเชียนเป็นทายาทตระกูลร่ำรวยที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องหยุมหยิมและน่าจะมีวิธีจัดการสิ่งต่างๆ ที่ยอดเยี่ยมเหนือใคร

บางทีนี่อาจเป็นสไตล์การแต่งตัวที่พวกทายาทตระกูลร่ำรวยชอบแต่งก็ได้

เป็นธรรมดาที่ผู้จัดการจางจะไม่กล้าเพิกเฉยเขา

“ผมอยากเช่าสักชั้นไว้เป็นออฟฟิศ” เผยเชียนบอกจุดประสงค์ไปทันที

“ได้เลยครับ! ถ้าบอสเผยอยากเช่าทั้งชั้น ไม่อยากเช่าร่วมกับบริษัทอื่น ชั้นสิบเจ็ดของเรายังว่างอยู่ วิวสวยมาก ผมขอพาขึ้นไปดูได้ไหมครับ” ผู้จัดการจางถามหยั่งเชิง

เผยเชียนพยักหน้า “ได้ครับ นำไปเลย”

ผู้จัดการจางนำทางพวกเขามาถึงชั้นสิบเจ็ดของตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว

ทั้งชั้นเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน ปราศจากฝุ่น

พูดอีกอย่างได้ว่าทั้งชั้นว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย

“อืม วิวสวยดี”

เผยเชียนเดินไปตรงหน้าต่าง เห็นทิวทัศน์เมืองอันกว้างใหญ่ เขาเห็นแม้กระทั่งสวนสาธารณะและสถานที่ต่างๆ

เขาสามารถเชยชมภาพแบบนี้ไปพร้อมๆ กับผลาญเงิน ทำงานในที่แบบนี้คงจะสบายจิตสบายใจน่าดู

เผยเชียนกวาดตามองรอบๆ

ทั้งชั้นกว้างขนาดยัดสนามบาสเข้ามาได้แปดสนาม กะคร่าวๆ น่าจะกว้างประมาณสามพันตารางเมตร

“ถ้าเป็นบริษัทเปิดใหม่ ทางรัฐมีเงินสนับสนุนให้ด้วยครับ ทางเราเก็บค่ามัดจำแค่หนึ่งเดือน สามารถจ่ายค่าเช่าเดือนต่อเดือนได้ ตึกสำนักงานอื่นๆ ไม่ค่อยมีข้อเสนอแบบนี้นะครับ” ผู้จัดการจางอธิบายอย่างภาคภูมิใจ

ตึกสำนักงานส่วนใหญ่จะเก็บเงินมัดจำหนึ่งถึงสองเดือน ส่วนค่าเช่าจะเก็บทุกๆ ไตรมาสหรือสองครั้งต่อปี ตึกสำนักงานที่เก็บเงินมัดจำแค่เดือนเดียว แถมเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือนนั้นควรค่าแก่การอวดจริงๆ และยังเป็นข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าคู่แข่งเจ้าอื่นๆ ด้วย

แต่แน่นอนว่าในข้อได้เปรียบก็มีข้อเสียเปรียบเช่นกัน

อย่างเช่นราคา

นอกจากนี้เผยเชียนยังมีคุณสมบัติเข้าข่ายนโยบายให้เงินอุดหนุนบริษัทเปิดใหม่อีกต่างหาก

“ค่าเช่าเท่าไหร่ครับ” เผยเชียนถามขึ้นสบายๆ

ผู้จัดการจางยิ้ม “สี่หยวนครับ ผมรู้ว่าราคาอาจจะแพงไปหน่อยสำหรับตึกในเมืองจิงโจว แต่คุณได้สิทธิประโยชน์ตามที่บอก สมราคาที่จ่ายเลยครับ การเช่าพื้นที่ของที่นี่ทำออฟฟิศจะช่วยให้บริษัทของคุณดู…”

“สี่หยวนเหรอ ถูกจัง” เผยเชียนขมวดคิ้ว

“ถ…ถูกเหรอครับ” ผู้จัดการจางอึ้งไป

 …………………………..

Related

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน ด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset