ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 54 จดหมายลาออกของหลินหวาน

พอเห็นหลินหวานตาเป็นประกาย เผยเชียนก็ตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ

อะไรกันนี่ ฉันพูดอะไรออกไป

ทำไมเธอดูประทับใจขนาดนี้

หลินหวานสำรวมท่าที “บอสเผยคะ ที่บริษัทของบอสเผยไม่มีระบบคัดคนออกใช่ไหมคะ”

ระบบคัดพนักงานระดับล่างออกน่ะหรือ

เผยเชียนเคยได้ยินเรื่องระบบนี้มาก่อน แต่ก็ไม่ได้ใช้ระบบที่ว่า

คนที่เขาอยากให้ออกคือพวกขยันทำงาน! แล้วเขาจะไล่พวกขี้เกียจไปได้อย่างไร

“ไม่มีครับ” เผยเชียนส่ายหน้า “สำหรับผม พนักงานทุกคนก็เป็นเหมือนครอบครัว ถึงบางครั้งจะพลาด เราก็ต้องพยายามเดินหน้าไปด้วยกัน จะมาไล่ใครไปง่ายๆ ไม่ได้หรอก”

หลินหวานพยักหน้าก่อนจะหันไปหาหม่าหยาง

บอสเผยต้องพูดความจริงแน่ๆ เพราะไม่เห็นไล่คนแบบนี้ออกเลย!

เธอถามอีกครั้ง “เอ่อ พนักงานบริษัทบอสเผยทำงานล่วงเวลากันไหมคะ”

“โห คำถามยากเลย” เผยเชียนถอนหายใจ “ผมพยายามบอกให้พวกเขากลับบ้าน แต่บางคนก็เลือกอยู่ต่อกันเอง ผมเลยทำได้แค่จ่ายค่าล่วงเวลาให้พวกเขา”

“แล้วเกมอื่นล่ะคะบอสเผย บอสสร้างขึ้นมาเพื่อทำตามความฝันหรือเปล่าคะ” สายตาของหลินหวานเป็นประกายยิ่งกว่าเก่า

เผยเชียนกระแอมกระไออย่างกระอักกระอ่วน จากนั้นก็ยิ้มพร้อมส่ายหัว “ก็ไม่เชิง มันก็เพราะเงินด้วยเหมือนกัน…”

“ฮ่าๆ บอสเผยต้องพูดเล่นแน่! ถ้าทำเพื่อเงินจริงๆ บอสต้องขยายเพดานค่าใช้จ่ายในเกมแม่ทัพผีไปสิบเท่าแล้ว! แต่บอสก็ไม่ทำ! หนูคิดว่าบอสเผยเป็นคนที่มีความฝันค่ะ”

หลินหวานเหมือนจะได้คำตอบให้กับตัวเองแล้ว “หนูเข้าใจแล้วค่ะบอสเผย ขอบคุณนะคะที่สละเวลาช่วยตอบคำถามหนู”

เธอเดินจากไป ทิ้งให้เผยเชียนยืนเกาหัว

ผู้หญิงคนเมื่อกี้…เป็นใครกัน

เหมือนเธอจะอยู่ในช่วงแลกเปลี่ยนความคิดเมื่อครู่ด้วย

ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเป็นพนักงานใหม่ของเทียนหัวสตูดิโอ…

เผยเชียนไม่ได้สนใจอะไรเธอมากนัก

พวกเผยเชียนใช้เวลาห้าวันเยี่ยมชมบริษัทเกมหลายแห่งในกว่างโจว

แต่ทุกที่ไม่สามารถเทียบชั้นเทียนหัวสตูดิโอได้เลย

ความกระตือรือร้นของเสี่ยวลู่และคนอื่นๆ ค่อยๆ แปรเปลี่ยนกลายเป็นความเบื่อหน่าย

พวกเขาควรจะได้เปิดโลกและเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ที่เมืองนี้ไม่ใช่หรือ

ทุกคนเคยคิดว่ากว่างโจวขึ้นชื่อเรื่องอุตสาหกรรมเกมภายในประเทศ และบริษัทเกมที่นี่จะต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ แต่กลับไม่มีที่ไหนดีอย่างที่คิดเอาไว้เลย!

แต่ละที่ไม่ได้ดีไปกว่ากัน!

บริษัทที่ดีที่สุดจากทั้งหมดคือเทียนหัวสตูดิโอที่ไปมาวันแรก

ทุกคนคิดว่าสภาพแวดล้อมการทำงานในเทียนหัวสตูดิโอค่อนข้างแย่ แต่ก็ได้มารู้ที่หลังว่าบริษัทเกมอื่นๆ นั้นแย่ยิ่งกว่า! ภาพลักษณ์บริษัทเกมในกว่างโจวดิ่งลงเหวไปเรื่อยๆ

พอถึงวันที่ห้าก็ไม่มีใครอยากไปศึกษาดูงานที่บริษัทเกมอื่นๆ อีก

บางคนอยากไปซื้อของฝาก

บางคนอยากใช้โอกาสนี้กินอาหารท้องถิ่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะกินได้

บางคนทนรอให้ถึงวันกลับไปบริษัทเถิงต๋าแทบไม่ไหวเพื่อที่จะได้ทุ่มเททำงานให้บอสเผย…

สรุปแล้วการศึกษาดูงานครั้งนี้ให้ผลลัพธ์กลับกัน

พวกเขาควรจะได้มาเห็นโลกกว้าง แต่กลับกลายเป็นได้มาเปรียบเทียบว่าบริษัทเกมไหนในกว่างโจวที่แย่ที่สุด

โดยเฉพาะเทียนหัวสตูดิโอที่ทำให้ภาพฝันของทุกคนแตกสลาย

กลับกันแล้ว พนักงานทุกคนได้บทเรียนอันล้ำค่าว่าบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีรักใคร่และดูแลตนเองดีแค่ไหน!

หวงซื่อปั๋วและคนอื่นๆ หิ้วกระเป๋าบินกลับฮั่นตง ไม่นึกเสียดายเลยที่ต้องจากที่นี่ไป

ได้เวลากลับไปพัฒนาเกมฐานทัพกลางทะเล!

ณ เวลาเดียวกัน ที่เทียนหัวสตูดิโอ

“บอสโจว หนูตัดสินใจแล้วค่ะ หนูอยากลาออก” หลินหวานยื่นจดหมายลาออกให้โจวมู่หยัน

โจวมู่หยันนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาแสนจะดีใจ

ในที่สุดก็รู้แล้วหรือว่าอุตสาหกรรมเกมมันห่วยแตกขนาดไหน เธอคิดจะกลับไปเสวยสุขกับมรดกครอบครัวตัวเองสินะ

แสดงว่าภารกิจที่บอสหลินให้มาก็เสร็จสิ้นแล้วสิ

“เธอจะเลิกทำงานในอุตสาหกรรมเกมหรือ” โจวมู่หยันถามอย่างคาดหวัง

หลินหวานส่ายหน้า “เปล่าค่ะ”

โจวมู่หยัน “???”

เธอลาออกจากที่นี่ แต่ไม่ได้จะเลิกทำงานในอุตสาหกรรมเกมหรอกหรือ

แสดงว่ากำลังดูถูกเทียนหัวสตูดิโออยู่สินะ

เดี๋ยวก่อน เราอุตส่าห์ไม่เฉดหัวเธอออก แต่เธอดันเป็นฝ่ายเดินหนีเราไปเนี่ยนะ…!

โจวมู่หยันเดือดปุด

แน่นอนว่าแม้ในใจจะก่นด่าสาปแช่ง แต่เขาก็ยังคงยิ้มอยู่

“มีอะไรเหรอ เธอไม่ชอบอะไรที่นี่รึเปล่า” โจวมู่หยันฝืนยิ้มใจดี

ถ้าเป็นเด็กทดลองงานคนอื่น เขาคงจะปล่อยไป ไม่ถามอะไรสักคำ

แต่ไม่ใช่กับหลินหวาน เพราะพ่อเธอเป็นคนใหญ่คนโต…

โจวมู่หยันรับหน้าที่สุดหนักหนาในการเผยภาพลักษณ์ที่แท้จริงของอุตสาหกรรมเกมให้หลินหวานเห็น เขาจะปล่อยเธอไปแบบนี้ไม่ได้

ถึงจะรั้งไว้ไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องรู้สาเหตุที่ออกและที่ใหม่ที่เธอจะไปสมัคร

ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้จะตอบอะไรถ้าประธานบริษัทเฉินฮว่าคอร์ปอเรชันโทรมาหา!

“ขอบคุณที่ดูแลหนูมาจนถึงตอนนี้นะคะบอสโจว แต่…หนูคิดว่าหนูคงไม่สามารถตามความฝันเรื่องเกมได้ที่นี่” หลินหวานมองตาละห้อยออกไปนอกหน้าต่าง “หนูอยากย้ายบริษัทค่ะ”

“ไปที่ไหน”

โจวมู่หยันร้อนรน

เทียนหัวสตูดิโอเป็นถึงบริษัทเกมชั้นนำภายในประเทศ

หรือเธอจะอยากออกไปทำงานกับบริษัทต่างประเทศ

ใช่ น่าจะเป็นแบบนั้น…

“หนูว่าจะไปสมัครบริษัทเถิงต๋า” สายตาของหลินหวานเปี่ยมไปด้วยความแน่วแน่ เหมือนว่าเธอได้ตัดสินใจเรื่องนี้มานานแล้ว

“เถิงต๋าเหรอ”

โจวมู่หยันไม่ได้นึกออกได้ทันทีว่าเป็นบริษัทอะไร…

ถึงเขาจะเพิ่งต้อนรับเผยเชียนและเหล่าพนักงานบริษัทเถิงต๋าไปเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่นั่นก็ไม่ใช่งานสำคัญอะไร หลังจากนั้นไม่นานเขาจึงลืมเรื่องนี้ไป

เขาตื่นตกใจเมื่อนึกได้ว่าเป็นบริษัทไหน

เถิงต๋า…คือบริษัทเปิดใหม่!

พวกเขาสร้างแต่เกมมือถือ! เทียบกับสตูดิโอเฉินฮว่าแล้วคนละชั้นกันเลย!

ฉันไม่ห้ามเธอหรอกถ้าเธออยากตามฝันในวงการเกมต่อ จริงๆ แล้วถ้าเธอจะไปทำงานกับบริษัทต่างประเทศ ฉันก็ไม่ว่าอะไร แต่เธอจะไปทำอะไรที่บริษัทเปิดใหม่โง่ๆ นี่!

โจวมู่หยันกระแอมกระไอ “คิดดีแล้วรึยัง ที่นั่น…ไม่น่าจะมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีเท่าเรา เดี๋ยวเธอจะผิดหวังเอานะ”

หลินหวานส่ายหน้า “หนูเชื่อในตัวบอสเผย หนูเห็นบางสิ่งที่แตกต่างในตัวเขา เป็นคุณสมบัติบางอย่างที่แตกต่างจากคุณและนักออกแบบเกมคนอื่นๆ… เขาเหมือนมีออร่าความยอดเยี่ยมแผ่ออกมาจากตัว! หนูเชื่อลางสังหรณ์ของตัวเองค่ะ!”

โจวมู่หยันอ้าปากค้าง นึกสงสัยว่าเด็กคนนี้โดนเผยเชียนร่ายมนตร์ดำล่อลวงเอาหรือเปล่า

ทั้งสองคนเพิ่งจะเจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่จู่ๆ เด็กคนนี้ก็เปลี่ยนฝั่งย้ายค่ายเอาดื้อๆ เลย!

ทว่าเมื่อเห็นสายตาแน่วแน่ของหลินหวาน เขาก็รู้ว่าพูดอะไรไปก็ไม่สามารถทำให้เธอเปลี่ยนใจได้ อีกทั้งเขายังไม่กล้าห้ามเธอ

เขารู้ว่าถึงเบื้องหน้าเธอจะดูอ่อนหวาน แต่จริงๆ แล้วเป็นคนหัวรั้น

ประธานบริษัทเฉินฮว่าคอร์ปอเรชันเป็นผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ภายในประเทศที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ ถ้าคนอย่างเขาไม่สามารถรับมือกับลูกสาวตัวเองได้ และต้องใช้วิธีอ้อมค้อมในการพาเธอกลับบ้านเพื่อไปรับช่วงต่อธุรกิจ แล้วคนอย่างเขาจะไปต่อกรกับเธอได้อย่างไร

เขาครุ่นคิดเรื่องนี้สักพักแล้วก็ได้แต่ปล่อยเธอไปตามทางของตัวเอง

อย่างไรเธอก็คิดจะไปเข้าบริษัทเล็กๆ มีโอกาสที่เธอจะได้เห็นด้านมืดที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิมของอุตสาหกรรมนี้

ถึงตอนนั้นหลินหวานก็จะได้รู้ความจริงเกี่ยวกับวงการนี้แล้วกลับบ้านไปเสวยสุขกับมรดกของตัวเอง ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

คิดได้แบบนั้นโจวมู่หยันก็รับจดหมายลาออกเอาไว้ “โอเค ขอให้วันหนึ่งเธอตามฝันในวงการเกมได้สำเร็จนะ! เทียนหัวสตูดิโอยังอ้าแขนต้อนรับเธอกลับมาเสมอ!”

“ขอบคุณค่ะบอสโจว!” หลินหวานกลับออกไปโดยไม่รู้สึกเสียดายแม้แต่น้อย

 ………….

Related

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน ด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset