ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 85 เมนูฝั่งหนึ่งมีไวน์นอก อีกฝั่งหนึ่งมีอาหารง่ายๆ!

ถึงจางหยวนจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่เขาก็พอจะรู้ว่าอะไรเหมาะไม่เหมาะ

ทำเลเป็นสิ่งสำคัญในการตั้งร้าน

พวกพื้นที่ที่เป็น ‘ทำเลทอง’ สามารถเรียกค่าเช่าได้หกถึงเจ็ดหยวนต่อตารางเมตรต่อวัน ทำไมน่ะเหรอ

ก็เพราะทำเลมันดียังไงล่ะ!

ถ้าทำเลดี สภาพแวดล้อมก็ดี คนก็พลุกพล่าน เปิดร้านอะไรก็มีกำไรแน่นอน

กลับกัน ถ้าทำเลไม่ดีก็จะไม่ค่อยมีคน ต่อให้ร้านดีแค่ไหนใครมันจะดั้นด้นมาจนถึงที่กัน

ดังนั้นทำเลที่ดีที่สุดคือย่านธุรกิจดังๆ โดยเฉพาะพวกห้างใหญ่ๆ

ทำเลใกล้มหาวิทยาลัยก็ค่อนข้างดี

แต่ทำเลของหม่าหยางตั้งอยู่ในย่านธุรกิจธรรมดาทั่วไป แถมยังอยู่ห่างจากห้างไปหนึ่งถนน รอบๆ เงียบเชียบ ไม่มีอะไรให้ดู คนก็ไม่มี!

ค่าเช่าสามจุดห้าหยวนต่อตารางเมตรต่อวันถือว่าไม่ได้แพงเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้เรียกว่าคุ้ม!

ระหว่างที่กำลังคิด จางหยวนก็นึกลังเลว่าควรจะบอกความเห็นของตัวเองออกไปดีไหม

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเด็กใหม่ ถ้าพูดโพล่งออกไปคงจะดูไม่เหมาะสม

แต่ถ้าไม่ยอมพูดแล้วร้านเจ๊งขึ้นมา… ทีนี้จะโทษใครดี

จางหยวนคิดหนัก

“โอเค ก็ไม่เลวนะ เอาตรงนี้แหละ!” เผยเชียนตัดสินใจทันที

จางหยวน “…”

เขาไม่ต้องคิดอะไรต่ออีก

ในเมื่อบอสเผยตัดสินใจไปแล้ว ถ้าเขาไปติติงทำเลตรงนี้เข้าอาจเป็นการสร้างปัญหาให้ตัวเองได้

จางหยวนได้แต่ปิดปากเงียบ

“มีผังของตึกนี้มั้ย” เผยเชียนถาม

“มีครับๆ!” หม่าหยางรีบคลิกเมาส์เปิดผังของตึก “นี่ครับ”

เผยเชียนมองดู ตึกนี้มีพื้นที่สามพันตารางเมตร ไม่ได้ถือว่าเล็กอะไร

จริงๆ แล้วขนาดเท่าๆ พื้นที่สำนักงานที่เช่าเปิดบริษัทเถิงต๋าเลยด้วยซ้ำ

แต่ตึกที่ว่าแบ่งออกเป็นสองชั้น กว้างชั้นละหนึ่งพันห้าร้อยตารางเมตร

“ผมจะอธิบายแผนคร่าวๆ ให้ฟังว่าจะทำอะไรกับที่ตรงนี้ พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกคุณสองคนจะเป็นคนดูแล

“บริการอินเทอร์เน็ตจะเป็นแค่หนึ่งในบริการของร้านเรา ลงคอมพิวเตอร์แค่ห้าสิบเครื่อง ถ้ามีลูกค้ามามากกว่าห้าสิบคนให้ต่อคิวรอ

“ราคาก็…ชั่วโมงละสิบหยวน แพงไปรึเปล่า

“ผมอยากได้บาร์ด้วย ขายทั้งเครื่องดื่มทั่วไปและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เอาตามที่บาร์ทั่วไปมี จางหยวน คุณชงเหล้าเป็นใช่ไหม ร้านไม่น่าจะมีลูกค้าเยอะ ถ้าไม่มีอะไรทำก็โชว์สกิลชงเหล้าให้พวกเขาแล้วกัน ไม่งั้นเดี๋ยวคุณจะเบื่อเอา

“เผื่อที่ข้างๆ บาร์ไว้รับแขกด้วย ตอนกลางวันอาจจะเป็นคาเฟ่เปิดเพลงเบาๆ ฟังสบายให้ลูกค้าเข้ามาดื่มชา เล่นบอร์ดเกม ตอนกลางคืนก็เปลี่ยนเป็นผับ จางหยวน คุณเป็นนักร้องนี่ ถ้าฟีลได้ก็เปิดเวทีโชว์สักสองสามเพลงเลยนะ

“แล้วก็เว้นที่ไว้วางหนังสือด้วย สั่งหนังสือออนไลน์ไม่ก็จากร้านหนังสือ ถ้าลูกค้าไม่มีอะไรทำระหว่างพักผ่อนหย่อนใจตอนดื่มกาแฟ จะได้ไปหยิบหนังสือมาอ่านให้ตัวเองฟีลกู๊ดขึ้นมา

“แล้วก็เสิร์ฟอาหารไปเลยสามมื้อ! แต่ก่อนตรงนี้ทำเป็นภัตตาคารนี่ น่าจะมีเครื่องครัวอยู่ครบใช่มั้ย แต่ไม่ต้องใช้ของเก่าที่ติดมานะ ผมอยากได้ของใหม่หมด

“ไปค้นเน็ตหาเชฟมืออาชีพมาสักคน ไม่เอาเป็นอาหารฝรั่งเศส อาหารญี่ปุ่น หรืออาหารอะไรหรูๆ นะ เอาเป็นอาหารง่ายๆ นี่แหละ! แบบไข่ผัดมะเขือเทศ หมูเส้นผัดเปรี้ยวหวาน ผัดกะหล่ำอะไรงี้

“เมนูไม่ต้องมีเยอะมากนะ สักเดือนละสิบเมนูก็พอแล้ว ถ้าพวกคุณคิดว่าเมนูเริ่มน่าเบื่อแล้วก็ค่อยเปลี่ยนเป็นเดือนๆ ไป

“ราคา…ตั้งให้แพงกว่าร้านอื่น เพราะเชฟของเราฝีมือดี! แต่ให้แพงเกินไปก็ไม่ดี ตั้งราคาให้สูงกว่าสักสามสิบเปอร์เซ็นต์ก็พอ

“พื้นที่ชั้นสองเอาไว้ขายของ ขายพวกอุปกรณ์เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เมาส์ แป้นพิมพ์ จอยเกม อะไรพวกนี้ เอาเป็นของแบรนด์นำเข้าด้วย! ผมไม่อยากได้กำไรกับตรงนี้มาก ขอแค่คืนทุนได้ก็โอเคแล้ว

“ข้างๆ ทำเป็นโซนดูหนังขนาดย่อมแล้วกัน ทำเหมือนเป็นโรงหนังส่วนตัว มีที่นั่งสักสิบที่น่าจะพอ

“เอ่อ คร่าวๆ ก็ประมาณนี้

“ถึงร้านเราจะเล็ก แต่ก็มีทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ ยอดเยี่ยมไปเลย!

หม่าหยางรีบจดตามยิกๆ

ส่วนจางหยวนตะลึงงันไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น

ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม

ที่ตรงนี้มีพื้นที่ใช้สอยแค่สามพันตารางเมตรเองนี่

ถ้าไม่บอกคงคิดว่าบอสเผยซื้อห้างทั้งห้างมาทำ!

ทุกอย่างจับฉ่ายไปหมด!

ที่สำคัญเลยคือจะเจาะลูกค้ากลุ่มไหนกัน

เป็นลูกค้าที่มาเล่นอินเทอร์เน็ต หรือกลุ่มที่มากินข้าว หรือกลุ่มที่มาดื่มกาแฟ

แถมสัดส่วนเงินลงทุนกับเงินที่น่าจะทำได้ก็ต่างกันสุดๆ!

โรงหนังส่วนตัวที่มีที่นั่งแค่สิบที่เหรอ แล้วลูกค้าคนอื่นล่ะ ให้ยืนดูงี้เหรอ

มีพื้นที่ตั้งสามพันตารางเมตร แต่ลงคอมพิวเตอร์แค่ห้าสิบเครื่องเนี่ยนะ

ไอเดียเปิดเป็นคาเฟ่ตอนกลางวันแล้วเปลี่ยนเป็นผับตอนกลางคืนก็ค่อนข้างแปลก…

แถมมีโซนหนังสือ ต้องซื้อหนังสือมาลงชุดใหญ่ด้วย

ถ้าลูกค้าตั้งใจมาเล่นอินเทอร์เน็ต ใครเขาจะไปอ่านหนังสือกัน

ถ้ามองแบบผิวเผินก็คงมองว่ายิ่งมีบริการเยอะก็ยิ่งดี แต่ความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น

อย่างที่มีคนว่าไว้ ยิ่งโลภมาก ลาภยิ่งหาย!

เด็กติดเน็ตสมัยนี้ไม่ค่อยมีเงิน น่าจะมาเพื่อเล่นเกมกันเฉยๆ คงไม่ได้อยากจะกินจะดื่มอะไร อย่างมากก็น่าจะเดินไปซื้อน้ำเปล่าสักขวดจากร้านค้าข้างนอก พวกนี้ไม่มีใครซื้อเหล้าหรอก!

อีกอย่างถ้าตั้งราคาไว้ที่ชั่วโมงละสิบหยวน ก็น่าจะมีไม่กี่คนที่สู้ราคานี้ไหว

ทำเลร้านก็ไม่ค่อยมีคน ถึงจะมีคนแวะมาดื่มกาแฟก็ไม่น่าจะครอบคลุมรายจ่ายต่อเดือนได้

ที่จะขายอาหารหากินได้ทั่วไปก็ช่างงี่เง่าเสียเหลือเกิน

ส่วนเรื่องผับ…

ผับทั่วไปต้องมีกิจกรรมหลายอย่าง! เช่น เลดีส์ไนต์ให้ผู้หญิงเข้าฟรี หรือไม่ก็มีวงดนตรีสดเล่นเพลงเพราะๆ… พูดง่ายๆ คือต้องมีกลยุทธ์การตลาดถึงจะไปรอด!

ใช้ที่แค่ไม่กี่ร้อยตารางเมตรมาเปิดผับในที่ทำเลแย่แบบนี้จะไปทำอะไรดีๆ ได้

อีกอย่างถ้าลูกค้ามาดูเมนู ก็จะเห็นหน้าหนึ่งเป็นรายการไวน์นำเข้าราคาแพง ส่วนอีกหน้าเป็นไข่ผัดมะเขือเทศกับหมูเส้นผัดเปรี้ยวหวาน

แม่งโคตรจะไม่เข้ากันเลย!

ยิ่งคิดจางหยวนก็รู้สึกว่าร้านนี้ไม่น่าจะไปรอด

เปิดได้สักเดือนสองเดือน… ก็น่าจะเจ๊ง!

เหมือนเผยเชียนจะรู้ว่าจางหยวนกำลังสับสน เขาจึงรีบพูดดักทำให้อีกฝ่ายพูดอะไรไม่ออก

“ร้านนี้เป็นก้าวแรกของบริษัทเถิงต๋าในการการตั้งหน้าร้าน อย่าไปกังวลเรื่องการขาดทุนในระยะสั้น! ร้านนี้จะเป็นศูนย์กลางความบันเทิงที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความบันเทิง ไลฟ์สไตล์ทั่วไป เกม และแง่มุมอื่นๆ ในชีวิต การที่เราจะไม่ได้รับการยอมรับในระยะเวลาสั้นๆ ถือเป็นเรื่องปกติ เป้าหมายสำคัญคือค่อยๆ เปลี่ยนมุมมองของคน!”

จางหยวนอ้าปากค้าง ไม่รู้จะพูดอะไร

โอเค ถ้าบอสไม่ได้กังวลเรื่องการขาดทุนระยะสั้น งั้นก็มาลงมือกันเลย

ยังไงฉันก็ได้เงินเดือนเดือนละเป็นหมื่นอยู่แล้ว…

หลังจากส่งหม่าหยางกับจางหยวนกลับ เผยเชียนก็รู้สึกโล่งใจ

เขาพอใจกับทำเลที่ตั้งร้านมาก

พอได้ยินว่าที่ตรงนี้เคยเปิดเป็นภัตตาคารก็ยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่!

ถ้ายัดอะไรจับฉ่ายเข้าไป ใส่สิ่งที่ดูเว่อร์วังแต่ไม่ได้มีประโยชน์ ผลาญเงินให้เยอะกว่าที่จะหาได้ ไม่นาน ร้านต้องเจ๊งแน่ๆ!

ในเมื่อโปรเจ็กต์เกมและโปรเจ็กต์ตั้งหน้าร้านเป็นสองจุดสำคัญที่จะช่วยให้เขาขาดทุน ดังนั้นเผยเชียนจึงต้องจับตาดูทั้งสองโปรเจ็กต์นี้ไว้ให้ดี

ส่วนหวงซื่อปั๋ว ถ้าขาดทุนมาก็เสียไปแค่ล้านหยวน เผยเชียนไม่ได้สนใจตรงนี้มากนัก

ถ้าเจ้านั่นไม่ทำเงินได้เยอะเกินไป เขาก็ไม่น่าจะต้องไปยุ่งอะไร

แค่ซีรีส์ตอนสั้น ถึงจะเป็นกระแส แต่จะทำเงินได้เท่าไหร่กันเชียว

ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องกังวล!

…………

Related

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน ด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset