ข้าคือหงส์พันปี – ตอนที่ 110 เพราะเจ้าไม่มีศีลธรรม

เฉินเสียนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม และพูดว่า “ท่านยังเป็นแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่หรือไม่ ฟันหน้าน้อยลงไปสองซี่ต่อไปเมื่อต้องออกศึก ท่านไม่จำเป็นที่จะต้องพูดจาโหดร้าย แค่ต้องยิงฟันให้กับคู่ต่อสู้ ก็สามารถทำให้ศัตรูตกใจจนตกม้าได้ เช่นนี้ก็สะดวกและรวดเร็วใช่หรือไม่?”

“……….”ฉินหรูเหลียงเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นยื่นมือไปจับที่หน้าผาก “วันนี้ข้าไม่อยากจะทะเลาะกับท่าน ไปให้พ้น ตื่นมาก็เจอท่านทำให้โมโหจนปวดหัวไปหมด”

เห็นว่าฉินหรูเหลียงอารมณ์ไม่ดี เฉินเสียนก็รู้สึกว่าร่างกายมีความสุข กล่าวว่า “ท่านยังมีแรงลุกขึ้นมาทะเลาะกับข้า ข้าก็ยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อน ทั้งที่ตัวท่านเองนั้นไม่ไหว ยังจะบอกว่าตัวเองไม่อยากจะทะเลาะ จอมปลอม”

ฉินหรูเหลียงหายใจเข้าลึกๆ ถึงสามารถระงับความอยากที่จะเอาชนะเฉินเสียนอย่างรุนแรงได้

เฉินเสียนไม่อยากจะมองหน้าเขาอีก จึงหันหลังพูดว่า “ยาที่อยู่บนโต๊ะ ท่านจะกินก็กิน”

พูดเสร็จก็ได้เดินออกไป

“เดี๋ยว”

เฉินเสียนหันกลับมาและมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์

เขาพูด “มือของข้าหยิบไม่ถึง ท่านช่วยหยิบมันมาให้ข้าหน่อย”

เฉินเสียนยิ้มออกมา “แม่ทัพฉินกำลังสั่งข้าหรือ? ก่อนอื่นท่าทีของท่านก็ไม่ใช่แล้ว”

ฉินหรูเหลียงอดทนแล้ว “นี้คือการขอร้อง ขอร้ององค์หญิงได้โปรดช่วยหยิบมาให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่จริงใจ”

ฉินหรูเหลียงจ้องมองนาง “ท่านต้องการให้ข้านอบน้อมขอร้องท่านเพื่อยาชามหนึ่งหรือ?”

เฉินเสียนยิ่งยิ้มยิ่งชั่วร้าย “แม่ทัพฉินไม่ลองสักหน่อยรึ ไม่แน่ข้าอาจจะถูกท่านทำให้ซาบซึ้งก็ได้”

ทั้งที่ท่าทางของนางแสดงออกให้เห็นชัดเช่นนี้ เขาอาจจะทำให้ซาบซึ้ง? เหลวไหล!

ฉินหรูเหลียงไม่ขอร้องให้นางช่วย ได้เพียงแค่พึ่งตัวเองแล้ว

เขากำลังจะลุกหยิบยาขึ้นมา ถ้าบาดแผลฉีกขาด ความพยายามครั้งก่อนจะสูญเปล่าไป

เฉินเสียนขมวดคิ้ว แต่ก็ยังขยับตัวไปที่ข้างโต๊ะอย่างเบื่อหน่าย และยกยาให้กับเขา

มือข้างหนึ่งของเขาจับข้อมือของเฉินเสียนไว้

สีหน้าเฉินเสียนได้หมองหม่นลง ฉินหรูเหลียงเงยหน้ามองนางมีความรู้สึกอันชื่นมื่นโดยไม่รู้ตัว แล้วพูด “ท่านรังเกียจที่ข้าแตะต้องท่าน? เพียงแค่สามารถทำให้ท่านไม่สบายใจ แล้วทำไมข้าถึงจะไม่แตะต้องท่านเล่า”

คาดไม่ถึงจะเป็นเช่นนี้ มือของฉินหรูเหลียงยังคงแข็งแกร่ง เขาได้หยุดยั้งข้อมือของเฉินเสียนไว้ทำให้นางขยับไม่ได้

เขามองตรงไปที่เฉินเสียน กินยาที่อยู่ในมือของนางจนหมด

เฉินเสียนหัวเราะ “รู้หรือไม่ว่าทำไมข้าถึงไม่พอใจท่าน เพราะท่านไม่มีศีลธรรม”

ฉินหรูเหลียงกลับไปนอนบนเตียงพร้อมกับยิ้ม รอยยิ้มนั้นซ่อนอะไรไว้มากมาย ถึงไม่ได้โต้ทันที พูดว่า “อาจจะใช่”

เฉินเสียนเอาชามเปล่าโยนลงไปที่เตียง และจากนั้นนางก็พาอวี้เยี่ยนกลับไปอย่างไม่หันกลับมา แล้วพูด “ถ้าไม่เห็นแก่หน้าของแม่บ้านจ้าว ข้าจะมาสนใจว่าท่านจะเป็นหรือตายรึ? ท่านตายไปก็ดีแล้ว ข้าจะได้ไปจุดธูปหอมที่หลุมศพของท่าน!”

ฉินหรูเหลียงอึ้งไปสักครู่

เขาเป็นแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ สุดท้ายต้องได้พึ่งพาใบหน้าของบ่าวรับใช้จึงได้รอดมาได้?

หลังจากที่เฉินเสียนจากไป ฉินหรูเหลียงเรียกแม่เฒ่าที่คอยปรนนิบัติเข้ามา ถามว่า “ข้าหลับไปนานแค่ไหน?”

แม่เฒ่าถอนหายใจ แล้วพูดว่า “ท่านแม่ทัพหลับไปตั้งหลายวัน วันนั้นที่กลับมาท่านได้เป็นลมล้มลงไป บาดแผลก็หนักมากทั้งยังไข้ขึ้นสูงไม่หยุด แม้แต่หมอก็ยังหมดหนทาง แม่บ้านจ้าวทนไม่ได้จึงไปขอร้องให้องค์หญิงมาช่วย องค์หญิงก็ยุ่งทั้งคืนถึงทำให้อาการของท่านคงที่ได้”

ฉินหรูเหลียงเงียบไม่พูดอะไร

แม่เฒ่ายังพูดอีกว่า “ยาของท่านหมอก็ไม่ต่างจากยาทั่วไปมากนัก แต่คาดไม่ถึงว่าหลังจากองค์หญิงมาจัดยาให้ใหม่อีกครั้ง อาการบาดเจ็บถึงได้ทุเลาลง”

แม่เฒ่าอยากจะบอกสิ่งดีๆ ของเฉินเสียน “วันที่ท่านหมดสติไป องค์หญิงได้ดูแลท่านอย่างยากลำบาก องค์หญิงถึงแม้ปากแข็ง แต่ก็ใจอ่อน และพระองค์ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง…..”

เหอะๆ ถ้าเฉินเสียนถอดเสื้อผ้าฉินหรูเหลียงออกไปและปล่อยให้สาวใช้ดูจนสะใจ โรยยาผงราวกับโรยเถ้ากระดูกอย่างไรอย่างนั้น ทั้งยังตบหน้าเขาเพื่อให้เข้ากินยาได้และอีกมากมาย ก็ถือว่าพระองค์ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

แต่ว่าเรื่องพวกนี้แม่เฒ่าจะกล้าพูดได้อย่างไร พ่อบ้านได้สั่งไว้ว่าเรื่องที่มีความเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบขององค์หญิงอย่าพูดต่อหน้าท่านแม่ทัพโดยเด็ดขาด

หากอยากจะพูดก็ได้เพียงแค่ชมเชยอย่างสุดแรงเกิด

ฉินหรูเหลียงถาม “นางยังรู้เรื่องด้านการแพทย์?”

แม่เฒ่าตอบ “จากที่ฟังแม่บ้านจ้าวพูด องค์หญิงยังทำได้อีกหลายอย่าง การวาดภาพก็เยี่ยมยอดทั้งสามารถรำได้ด้วย สรุปคือองค์หญิงเก่งไปทุกด้านเลยเจ้าค่ะ”

ฉินหรูเหลียงก็กลับไปคิดวันที่รำกลางแจ้ง นางร่ายรำอย่างมั่นใจ เทียบกับหญิงอื่นช่างแตกต่างกันทีเดียว

ไม่รู้ว่าทำไม แม่เฒ่าพูดถึงเรื่องพวกนั้นเขาก็ได้เชื่อทั้งหมด

หรือจะเป็นไปได้ว่าไม่กี่วันมานี้ องค์หญิงคอยดูแลตัวเองมาตลอด?

นางท้องใหญ่อย่างนั้นยังลำบากขนาดนี้ อดหลับอดนอนเพื่อปรุงยาให้ตัวเอง และยังรอให้ไข้เขาทุเลาลงถึงกลับไปพักผ่อน?

ฉินหรูเหลียงไม่ใช่คนที่กระหยิ่มยิ้มย่องที่คิดว่าตัวเองถูกต้อง แต่เขาแค่รู้สึกว่ากระแสน้ำอุ่นที่หาได้ยาก ได้ไหลช้าๆ อยู่ในหัวใจของเขา

สตรีผู้นี้เป็นหญิงที่เขารังเกียจและเกลียดชังมากที่สุดมาโดยตลอด

ฉินหรูเหลียงเป็นแม่ทัพ เพียงแค่ผู้หญิงที่เขารัก เขาก็จะทะนุถนอมปกป้องมากกว่านี้แน่นอน

ชีวิตนี้เขารักเพียงแค่หลิ่วเหมยอู่ หลิ่วเหมยอู่เป็นคนที่อ่อนแอ เป็นผู้หญิงที่ต้องการให้คนมาปกป้อง แต่ว่าทั้งหมดที่เขาทำลงไป เหมยอู่ก็ร้องขอความรักอย่างสุดใจ อยู่บนตัวนางกลับไม่เคยรู้สึกถึงการให้และการดูแลแบบเดียวกัน

ฉินหรูเหลียงก็นึกขึ้นได้แบบพรวดพราด วันที่หิมะตกเมื่อนานมาแล้ว เฉินเสียนที่โง่เขลาได้ทำเสื้อหนึ่งตัวมาให้เขาที่เรือนหลัก

ขณะนั้นเขาเพียงรู้สึกอับอายและรังเกียจ

แต่วันนี้ อยู่ๆ เขากลับรู้สึกว่าตัวเองพลาดอะไรไป

เขาพบว่า เธอไม่ใช่องค์หญิงที่รู้แต่ความไร้เดียงสาที่เต็มไปด้วยความซื่อๆ ในตัวเธอมีหลายสิ่งหลายอย่างที่คนอื่นไม่มี ที่ส่องแสงระยิบระยับ

แต่ชีวิตนี้ของเฉินเสียน ก็คงไม่ทำเสื้อผ้าเพื่อเขาอีก

จากนั้นฉินหรูเหลียงก็หัวเราะออกมา ถึงได้หลับตาลงและหยุดคิดไป

อาจเป็นเพราะตอนที่เขาบาดเจ็บจน ถึงทำให้มีอารมณ์อ่อนไหวเช่นนี้ เขาสนใจเมื่อไหร่ว่าใครจะทำอะไรมากกว่ากัน และเมื่อไหร่เขาถึงได้มากังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระยะสั้นเหล่านี้

ฉินหรูเหลียงได้ยินว่าหลิ่วเหมยอู่เป็นโรคอีสุกอีใส ไม่อาจจะมาเยี่ยมเขาได้ และเขาไม่สามารถไปที่สวนดอกพุดตานได้ ทำได้เพียงสั่งออกไป ให้หลิ่วเหมยอู่รักษาอาการป่วยอย่างสบายใจ

ผ่านไปสองวัน ยาผงก็ได้ปรุงให้ฉินหรูเหลียงดื่มหมดแล้ว แม่เฒ่าก็ได้มารับยาที่สวนสระวสันตฤดู

อวี้เยี่ยนได้เตรียมยาผงไว้ให้เพียงพอแล้ว ได้หยิบเอาไปส่งให้แม่เฒ่า

แม่เฒ่าก็พูดติดอ่างว่า “องค์ องค์หญิงไม่ปะ ไปดูท่านแม่ทัพระ หรือเพคะ?”

เฉินเสียนพูด “แม่ทัพหล่อเหลาขนาดนั้นเลยรึทำไมข้าต้องไปดูแม่ทัพด้วย?”

แม่เฒ่า “บ่าว…….บ่าวคิดวะ ว่าท่านแม่ทัพปะ เป็นบุคคลที่มะ มีความสามารถ ใบหน้าก็ยัง ยังหล่อเหลา……”

เฉินเสียนยิ้มพลางพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ช่วยข้าดูสักทีสองทีแล้วกัน”

แม่เฒ่าตั้งใจอยากให้เฉินเสียนไปเยี่ยมสักหน่อย แต่คาดไม่ถึงคำสองสามคำจะถูกปิดกั้นกลับมา

เมื่อนำผงยากลับไปที่เรือนหลักเพื่อปรุงให้ฉินหรูเหลียง ฉินหรูเหลียงเห็นแค่แม่เฒ่ากลับมาเพียงคนเดียว และขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ แล้วพูดว่า “องค์หญิงไม่มาหรือ?”

แม่เฒ่าพูด “นั่น องค์หญิงกล่าวว่าพระองค์ท้องใหญ่ไม่ค่อยสะดวก ท่านหมอก็บอกแล้วว่าช่วงนี้องค์หญิงหักโหมมากเกินไปจำเป็นต้องได้พักผ่อน……….”

ฉินหรูเหลียงพูดอย่างเย็นชา “ช่างเถอะ ให้พระองค์พักผ่อนเถอะ”

ข้าคือหงส์พันปี

ข้าคือหงส์พันปี

องค์หญิงเฉินเสียนผู้โง่เขลา ถูกไล่ออกจากจวน ถูกทำให้เสียโฉม และยังมีทารกอยู่ในท้องของเธอ! ในวันที่สามีของเธอแต่งงานกับอนุภรรยา เธอมาแสดงความยินดี จัดการกับอนุคนใหม่อย่างรุนแรง และทำให้แขกในงานต่างตกใจ อนุคนใหม่ที่คิดว่าเธอเป็นเช่นไก่ที่อ่อนแอ? แต่ไม่คิดว่าจะสามารถต่อกรกับเธอได้?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset