ข้าคือหงส์พันปี – ตอนที่ 251 ใช่ว่าจะไม่เคยจูบ

ทั้งสองใกล้กันขนาดนี้ เฉินเสียนสามารถมองเขาได้อย่างไม่กังวลเลยสักนิด

ซูเจ๋อเหลือบตาขึ้นมองสบตากับเธอ

เฉินเสียนสั่นเล็กน้อย เธอมักจะถูกทำให้ควบคุมตัวเองไม่ได้

เธอหลบสายตาอย่างรวดเร็ว แล้วพูด:“ไม่มีใครที่เหมาะจะอยู่คนเดียวตั้งแต่กำเนิดหรอก ซูเจ๋อ ท่านก็ไม่ใช่เหมือนกัน

เมื่อตอนกลางวันข้าโกรธก็จริง ถึงแม้ว่าท่านอยู่กับข้า แต่กลับไม่เคยให้ข้าช่วยแบ่งเบาอะไรจากท่านเลย ไม่ว่าอะไรก็ตาม ท่านเอาแต่เก็บไว้ในใจ คิดอยู่ผู้เดียว”

เฉินเสียนถอนหายใจ ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจแล้วพูด:“เป็นท่านในแบบนี้เลวมากนักหรือ? บางที ไม่ต้องลงมือด้วยตัวท่านเอง ก็สามารถส่งคนพวกนั้นไปลงนรกได้;ในใจท่านไม่มีความเป็นธรรม มีเพียงแค่เป้าหมายที่ใกล้จะสำเร็จ ทุกคนต่างก็เป็นหมากในเกมของท่าน พอคิดแบบนี้แล้ว ท่านน่ากลัวขนาดว่าทำให้ผู้คนหวาดผวาได้จริงๆ”

สีหน้าของซูเจ๋อหดหู่ลงเล็กน้อย

เฉินเสียน:“แต่ว่านะ ข้าเคยพูดไว้นานแล้วไม่ใช่หรือ ไม่ว่าท่านจะน่ากลัวเพียงใด ต่อให้เป็นคนเลวที่สุดในใต้หล้า ข้าก็ไม่กลัวอยู่ดี”

ซูเจ๋อมองเธอด้วยความงงงัน

เธอยังคงพูดต่อ:“ท่านทำให้ข้ารู้สึกว่าปลอดภัยได้อย่างน่าประหลาด ที่คนอื่นเขาคิดว่าท่านน่ากลัว นั่นก็เพราะพวกเขาไม่เข้าใจ”

ซูเจ๋อ:“ข้าไม่เคยเปิดโอกาสให้ผู้อื่นรับรู้นี่”

เฉินเสียน:“เมื่อตอนกลางวันไม่ทันได้พูดคำพูดพวกนี้ ตอนนี้พูดคงไม่สายไปใช่หรือไม่”

ซูเจ๋อ:“ข้าดีใจเล็กน้อย” เขาพูดเสริมต่อ “ไม่ใช่แค่เล็กน้อยสิ”

เฉินเสียนวาดริมฝีปากอย่างน่าขัน “เช่นนั้นท่านควรแลกเปลี่ยนความคิดของท่านกับข้าด้วยความบริสุทธิ์ใจใช่หรือไม่”

ดวงตาที่เรียวยาวทั้งสองของซูเจ๋อก้มลงมองที่มุมปากของเฉินเสียน แล้วเลื่อนมาบนริมฝีปากของเธอ

เขายื่นมือออกมาแตะที่ใบหน้าด้านข้างของเฉินเสียน นิ้วมือลูบที่มุมปากของเธอเบาๆ

ครั้งนี้เฉินเสียนไม่ได้หลบออก เธออดไม่ได้ที่จะเข้าไปแนบชิดกับมือของเขา

เวลานี้สายตาของซูเจ๋อย้ายมาที่ริมฝีปากของเฉินเสียน พูดอย่างช้าๆ:“ความคิดของข้าในตอนนี้คืออยากจูบท่านจนทนไม่ไหว ท่านยังอยากแลกเปลี่ยนกับข้าอยู่หรือไม่?”

เฉินเสียนนิ่งไปสักพัก มองขึ้นเผชิญกับสายตาที่ลุ่มลึกของเขา แล้วรู้สึกประหม่าขึ้นมา

ความร้อนในตัวที่เธอพึ่งจะเย็นลงได้เหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง

ใครจะไปคิดว่าเวลานี้เฮ่อโยวกลับมาแล้ว เห็นว่าทั้งสองนั่งอยู่ที่ระเบียงทางเดิน เลยพูดขึ้นมาจนเสียบรรยากาศ:“พวกท่านมานั่งทำอะไรตรงนี้?”

เห็นว่ามือของซูเจ๋อกำลังลูบไล้ที่ใบหน้าของเฉินเสียน เฮ่อโยวพูดขึ้นมาอีกพร้อมเหตุผล:“บัณฑิตซูเจ๋อ!ผิดหวังจริงที่ท่านเป็นบัณฑิต ทำรุ่มร่ามแบบนี้ได้อย่างไรกัน มือของท่านวางอยู่ที่ใด!”

ซูเจ๋อหน่ายจะใช้สายตาปรามเขาแล้ว พูดด้วยความเหนื่อยหน่าย:“เกี่ยวอะไรกับเจ้า?”

เฮ่อโยว:“คิดไม่ถึงว่าภายนอกท่านสุภาพเรียบร้อย แต่ธาตุแท้กลับทำเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้!”

เฉินเสียนกระตุกหนังตา บนใบหน้าเลือดร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง:“เฮ่อโยว เขาแค่กำลังช่วยข้าประคบเย็น”

“ประคบเย็น?” เฮ่อโยวมองอย่างละเอียดแล้วถาม “เฉินเสียน หน้าท่านเป็นอะไรไป?”

เฉินเสียนตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจมากนัก:“หกล้ม”

เฮ่อโยวเดินมานั่งข้างเฉินเสียนอีกฝั่ง ถอนหายใจแล้วพูด:“เวลาเดินก็ต้องมองดีๆ ทำไมท่านไม่ระวังแบบนี้ล่ะ โตขนาดนี้แล้วยังหกล้มอยู่อีก”

เฉินเสียน:“……”

มีเฮ่อโยวอยู่ที่นี่ เฉินเสียนกับซูเจ๋อก็ไม่สามารถพูดคุยกันได้อย่างเมื่อครู่แล้ว

เห็นว่าทั้งสามนั่งอยู่ด้วยกันที่ระเบียงทางเดิน จู่ๆก็ไม่มีอะไรจะพูด

บรรยากาศแปลกๆ

เฉินเสียนรับรู้ได้ถึงน้ำแข็งในผ้าประคบกำลังละลายอย่างชัดเจน ก็เลยถามซูเจ๋อออกไป:“น้ำแข็งนี่ของท่านทำที่ไหนหรือ เย็นสบายดีนะ”

ซูเจ๋อเหลือบตามองก้อนน้ำแข็งในมือแวบหนึ่ง:“ท่านหมายถึงอันนี้หรือ ข้าไปขุดมาจากโลงศพแช่แข็งในห้องใต้ดินมา”

เฉินเสียนเหลือบมองเขา:“……ท่านว่าอย่างไรนะ? ท่านใช้น้ำแข็งจากโลงศพแช่แข็งประคบหน้าให้ข้า?”

เฮ่อโยวส่ายหน้าจุ๊ปากอยู่ข้างๆ:“ใจกว้างเกินไปจริงๆ ถึงขนาดที่เอาของที่คนตายใช้มาใช้กับเฉินเสียน บัณฑิตท่านเจตนาจะทำอะไรของท่าน!”

ซูเจ๋อเปลี่ยนหัวข้อสนทนาได้ทัน พูดด้วยความไม่สะทกสะท้าน:“รองท่านฑูตเฮ่อ ท่านพึ่งจะตื่นนอนมา ไม่คิดอยากจะทานอาหารมื้อค่ำหรือ ยังไงซะฟ้าก็มืดขนาดนี้แล้ว”

จู่ๆเฮ่อโยวก็เหมือนพึ่งตื่นจากความฝัน ลูบท้องที่ว่างเปล่าแล้วพูด:“มิน่าล่ะข้าถึงรู้สึกขาดอะไรไป ที่แท้ก็ไม่ได้ทานอาหารมื้อค่ำนี่เอง!”

เขาประกบมือขึ้นมาอีกแล้วพูด:“จริงสิ คืนนี้ไม่ใช่ว่ามีงานเลี้ยงรับแขกหรอกหรือ ทำไมพวกเรายังไม่ไปกัน?”

ซูเจ๋อ:“ตอนที่ไปลืมเรียกเจ้า พวกข้าทานกันแล้ว”

เฮ่อโยวเต็มไปด้วยความแค้นใจ:“ทำไมพวกท่านไม่เรียกข้า!”

“เพราะเจ้านอนหลับลึกเหมือนตายไง”

ทำอย่างไรดี พอคิดว่าตัวเองยังไม่ได้ทานมื้อค่ำ เฮ่อโยวก็ยิ่งรู้สึกหิวขึ้นไปอีก

เขารีบไปหาอะไรทานที่หลังครัว

ซูเจ๋อพูดไม่กี่ประโยคก็ทำให้เขาออกไปได้ ตอนนี้ที่ระเบียงทางเดินก็เหลือแค่เขากับเฉินเสียนสองคน

ครั้งนี้ซูเจ๋อมองเฉินเสียนที่ทำหน้ารังเกียจก้อนน้ำแข็งในมือเขาด้วยท่าทางจริงจัง:“น้ำแข็งก้อนนี้หามาจากที่อื่น ท่านวางใจที่จะใช้เถอะ”

เฉินเสียนจ้องเขาอย่างโกรธแค้น

หลังจากที่ประคบเย็นไป ซูเจ๋อเอายาทาที่เตรียมไว้นานแล้ว ทาจุดที่เฉินเสียนเจ็บอย่างเบามือ

เฉินเสียนถามอย่างไม่สบายใจ:“ข้าเป็นแบบนี้ดูไม่ดีใช่หรือไม่?”

“ไม่เลย”

“ท่านล้อข้า”

ซูเจ๋อมองตาเธอลึกลงไป จู่ๆก็ยื่นหน้าก้มลงไปจูบที่ริมฝีปากของเธอ

สัมผัสและลมหายใจที่อุ่นนั้น จู่ๆก็ครอบครองทุกส่วนบนใบหน้าของเฉินเสียนอย่างไม่ทันได้ป้องกันเลยสักนิด

เธอประหม่าขึ้นมา ทั้งตัวแข็งทื่อ

ถึงแม้ว่าเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ กลับทำให้ใจของเธอเต้นอย่างบ้าคลั่งเหมือนจะระเบิดออกมา

แต่แค่ไม่นาน ซูเจ๋ออยากจะลิ้มรสมันอีกครั้งตั้งนานแล้ว เลือดในร่างกายของเขาพลุ่งพล่าน แต่ก็ข่มอารมณ์ไว้ เสียงของเขาแหบพร่า พูดออกมาจนทำให้หูของเฉินเสียนแดงด้วยความเขินอาย:“ข้าไม่ได้ล้อท่าน”

เฉินเสียนไม่รู้ว่าตัวเองนั้นกลับมาจากระเบียงทางเดินได้อย่างไร พริบตาเดียวก็กลับมาที่ห้องแล้ว

เฮ่อโยวถืออาหารกลับมา ทานไปด้วยถามด้านนอกไปด้วย:“เฉินเสียนล่ะ?”

ซูเจ๋อตอบอย่างเฉยเมย:“พระองค์กลับห้องไปพักแล้ว”

เฮ่อโยว:“ข้าอุตส่าห์เอาหมั่นโถวมาสองลูก”

“เจ้ากินเองเถอะ”

เฮ่อโยวพูดอย่างคับแค้นใจ:“พวกท่านได้กินของอร่อย แน่นอนย่อมสบายอยู่แล้วสิ ข้าได้แค่กินหมั่นโถวที่เย็นชืดลูกนี้……”

เฉินเสียนนอนอยู่บนเตียง ทั้งๆที่ถึงเวลานอนแล้ว แต่เธอก็ยังคงพยายามที่จะให้ตัวเองกระปรี้ประเปร่าขึ้นมาสักหน่อย

เห้อ?แต่ก่อนใช่ว่าจะไม่เคยจูบ ทำไมเธอต้องหนีด้วย?

มีแค่เฉพาะตอนจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงจะมีปฏิกิริยาที่ชัดเจนขนาดนี้

ไม่สิ เธอไม่ได้หนี เธอแค่กลับห้องมานอน!แต่ท่าทางของเธอมันเร็วเกินไป เห็นชัดๆว่าหนี!

จบแล้ว ความฉลาดของเธอเห็นได้ชัดว่ากำลังลดลง!

แต่ว่าเมื่อได้ฟังคำพูดของเฮ่อโยวที่นอกประตู เฉินเสียนก็รู้สึกว่าน่าขัน

งานเลี้ยงแบบนั้น ไม่ใช่สถานที่ที่มีของอร่อยให้กินเลยแม้แต่นิด เธอกับซูเจ๋อไม่ได้กินอะไรด้วยซ้ำ โชคดีที่เฮ่อโยวไม่ได้ไปเพราะนอนหลับ ไม่เช่นนั้นอาจจะยุ่งยากมากไปกว่านี้

เฉินเสียนไม่รู้ว่าหลับไปเมื่อไร

บางทีคืนนี้เป็นคืนที่วุ่นวายคืนหนึ่ง แต่เธอก็ยังนอนหลับสบาย

เวลานี้เมืองชายแดนของเย่เหลียงได้จุดไฟสงครามขึ้นมา

จ้าวเทียนฉีนำทหารไปซุ่มโจมตีเย่เหลียง เดิมทีเป็นเรื่องลับเฉพาะในกลุ่มทหาร คนนอกไม่สามารถรู้ได้

แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็คิดไม่ถึง เมื่อไปถึงกลับตกอยู่ในวงล้อมของศัตรู

ข้าคือหงส์พันปี

ข้าคือหงส์พันปี

องค์หญิงเฉินเสียนผู้โง่เขลา ถูกไล่ออกจากจวน ถูกทำให้เสียโฉม และยังมีทารกอยู่ในท้องของเธอ! ในวันที่สามีของเธอแต่งงานกับอนุภรรยา เธอมาแสดงความยินดี จัดการกับอนุคนใหม่อย่างรุนแรง และทำให้แขกในงานต่างตกใจ อนุคนใหม่ที่คิดว่าเธอเป็นเช่นไก่ที่อ่อนแอ? แต่ไม่คิดว่าจะสามารถต่อกรกับเธอได้?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset