ข้าคือหงส์พันปี – ตอนที่ 326 ความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถบอกใครได้

สมญานามขององค์หญิงจิ้งเสียนดังขึ้นในกลุ่มของผู้ลี้ภัย ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ได้รับความทรมานและรอดชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วม และยังมีส่วนหนึ่งที่เป็นเพราะสงครามการสู้รบทำให้อพยพจากบ้านเกิดมาอยู่สถานที่นี้

เจียงหนานเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ สามารถจุรับได้หลายชีวิต พวกเขามีคนที่อยากจะตั้งหลักตั้งตัวอยู่ที่นี่ และมีคนที่อยากจะผ่านเจียงหนานไปอยู่สถานที่อื่นด้วย

แต่ตอนนี้หน่วยคุ้มกันเมืองและทางน้ำสั่งปิดประตูเมืองแน่นสนิท ทุกคนล้วนแล้วไม่สามารถเข้าไปได้ ทุกวันมีคนหนาวและหิวโซล้มตาย

เฉินเสียนสั่งทหารใหม่ที่มีหม้อกระทะเหล็ก ไปบริเวณใกล้เคียงหาผักป่าทุกชนิดมา ต้มน้ำซุปเข้มข้นให้กับผู้ลี้ภัยรองท้อง

แต่ผู้ลี้ภัยมีจำนวนมาก คนจำนวนมากแต่ของน้อย น้ำซุปผักป่าเพิ่งจะต้มออกมาก็เกิดแย่งกันเสียงดังมาก จนกระทั่งมีผู้ลี้ภัยถูกน้ำซุปลวกได้รับบาดเจ็บ

เฉินเสียนโมโหเป็นอย่างมาก นำเหล่าผู้ลี้ภัยที่ริเริ่มส่งเสียงดังแย่งกันออกมาจัดการรับโทษต่อหน้าผู้คนมากมาย แล้วกล่าวขึ้นว่า“ทุกคนล้วนอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ล้วนอยากเข้าเมือง จำเป็นต้องเคารพกฎเกณฑ์ ช่วงเวลานี้ หากมีผู้ใดก่อความวุ่นวาย จะไม่ยกโทษให้!”

ช่วงเวลาเช่นนี้ เหล่าผู้ลี้ภัยจำเป็นต้องมีคนหนึ่งมาบัญชาการพวกเขา อีกทั้งคนคนนี้ก็คือองค์หญิงจิ้งเสียน เป็นความหวังเดียวของพวกเขาตอนนี้ที่จะเข้าเมืองได้

หน่วยคุ้มกันเมืองและทางน้ำไม่ปล่อยพวกเขาเข้าไป ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถนำองค์หญิงจิ้งเสียนปิดกั้นไว้นอกประตูเมืองไม่ให้เข้าไปหรอกนะ

ด้วยเหตุนี้เหล่าผู้ลี้ภัยที่ก่อความวุ่นวายขึ้นมาเลยสงบลง เชื่อฟังเฉินเสียนแยกย้ายกันไปทำงานของแต่ละคน

ก่อนที่ประตูเมืองยังไม่ได้เปิด ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่สามารถหิวและหนาวตายอยู่ที่นี่หรอก ต้องรองท้องทำตัวให้อบอุ่นถึงจะถูก

เวลาต่อมาผู้ลี้ภัยส่วนหนึ่งไปหาผักป่า อีกส่วนหนึ่งไปหาฟืนติดไฟ และยังมีอีกส่วนหนึ่งหาแหล่งน้ำ หลังจากนั้นทุกคนช่วยกันแบ่งเบาภาระงานอีก

เพียงแค่ไม่แย่งชิง ทุกคนล้วนมีส่วนได้

ตกเย็น อากาศเหน็บหนาว ทุกคนอยู่บริเวณโดยรอบไฟที่กำลังสุมอิงแอบซึ่งกันและกันทำตัวให้อบอุ่น ไม่ต้องใช้เสื้อผ้าบางขาดรุ่งริ่งพันรอบๆแล้วหนาวสั่นสะท้านอยู่ในลมหนาวเหมือนเดิมแล้ว

ฉินหรูเหลียงกับเฮ่อโยวไม่ได้อยู่ว่างๆ พยายามจัดสรรงานกลุ่มผู้ลี้ภัยให้เรียบร้อย

ซูเจ๋อก็ลงมาจากรถม้ามา เมื่อมีผู้ป่วยติดเชื้อไข้รากสาดน้อย ล้วนต่างพากันมาให้เขาตรวจรักษาที่นี่

เขาสวมใส่ชุดสีดำ สะอาดหมดจด เวลารักษาใจจดใจจ่อตรวจอย่างละเอียด ราวกับทัศนียภาพที่สวยงาม

เฉินเสียนค่อยๆพบว่า คนไปตรวจรักษากับซูเจ๋อทางด้านนั้นเป็นผู้ลี้ภัยที่เป็นหญิงสาวโดยส่วนใหญ่

เธอมองกลุ่มผู้ลี้ภัยผู้หญิงที่เข้ารับการรักษาอยู่ด้านหลังค่อยๆต่อคิวยาวเหยียด และยังเริ่มให้ความสำคัญกับรูปโฉมภายนอกของตัวเอง ปัดเช็ดหน้าลูบผม ดวงตาทั้งสองข้างยังเหลือบมองไปที่ซูเจ๋ออย่างมุ่งมาด แววตาเปล่งประกายวาววับ ราวกับแทบอยากจะแนบชิดเข้าไปหา

ความอดอยากก็ไม่สามารถขวางกั้นความบ้าชายหนุ่มของพวกนางได้เลย!

ผู้ลี้ภัยที่เป็นหญิงสาวในค่ายก็ค่อยๆหมุนเวียนมาพูดคุยแต่ละวัน วันละหนึ่งประโยคและชำเลืองมองท่านหมอซู ก็สามารถรักษาได้ทุกโรคแล้ว

เฉินเสียนหันกลับมองซูเจ๋ออีกครั้ง เห็นชุดสีดำของเขาสง่างดงาม กำลังถามอาการโรคของผู้ลี้ภัย

เฮ่อโยวปรากฏตัวอยู่ข้างกายเฉินเสียน แล้วสะกิดไหล่ของเธอ กล่าวขึ้นว่า“ผู้หญิงเหล่านี้ ข้ามองดูแล้วพวกนาง มีชีวิตชีวาดี ดูไม่ออกว่ามีโรคอะไร น่าจะสมองมีปัญหาโรคภัยแล้วแหละ”

เฉินเสียนก็รู้สึกเช่นนั้น

เฮ่อโยวกล่าวอีกว่า“ใช่หรือไม่ว่าพวกท่านที่เป็นหญิงล้วนชื่นชอบชายหนุ่มแบบบัณฑิต?”

เฉินเสียนท่าทีไม่ดีกล่าวขึ้นว่า“บางสิ่งบางอย่างใช้ได้แค่กับบางคนใช้ไม่ได้กับทุกคนเสมอไป ข้าเป็นหญิงผู้หนึ่งจะไปเป็นตัวแทนเหล่าหญิงมากมายได้อย่างไรกัน”

“เช่นนั้นท่านรู้สึกว่าเขาหล่อหรือไม่?”

“ธรรมดา”

เฮ่อโยวชำเลืองมองเฉินเสียน แล้วกล่าวขึ้นว่า“ข้าพูดคุยแบบปกติกับท่าน ท่านต้องโกรธเคืองเช่นนี้หรือ?”

เฉินเสียนรู้สึกหงุดหงิดไม่สบายใจเป็นอย่างมากกล่าวขึ้นว่า“ดวงตาข้างไหนของเจ้ามองเห็นว่าข้าโกรธแล้วหรือ?”

“บางที…..ข้าอาจจะมองผิดแล้วแหละ”เฮ่อโยวรู้สึกได้อย่างลึกซึ้ง หากเขายืนหยัดพูดว่าเธอโกรธ เธอน่าจะกระโดดขึ้นมาหยิกตัวเอง

ด้วยเหตุนี้ในขณะนั้นเขาเลยจำต้องเปลี่ยนคำพูด

เฮ่อโยวมีความตั้งใจดีแนะนำว่า“ข้าเห็นว่าวันหนึ่งบัณฑิตต้องตรวจรักษาคนไข้มากมายเช่นนี้ ก็เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก ท่านไม่ใช่ว่ารู้วิชาการแพทย์หรือ ท่านจะไปช่วยเขาหรือไม่?”

เฉินเสียนดึงแขนเสื้อขึ้น นั่งอยู่บนขอบโขดหิน แล้วกล่าวขึ้นว่า “เจ้าช่วยฝากไปบอกให้ข้าที บอกพวกหญิงเหล่านั้นให้มาหาข้าที่นี่ มีโรคอะไรข้าจะเป็นผู้รักษาเอง”

เฮ่อโยวกล่าวว่า“เช่นนั้นไม่ได้นะ ท่านเป็นองค์หญิง ต่อให้ข้าไปบอกแล้ว พวกนางก็ไม่กล้าให้องค์หญิงรักษาโรคให้หรอกนะ”

เฉินเสียนมองลวกๆไปทางฉินหรูเหลียงที่อยู่ด้านนั้นจัดการหาที่พักให้ผู้ลี้ภัยเรียบร้อยแล้ว กล่าวขึ้นว่า“เจ้าก็พูดว่าชายหญิงใกล้ชิดสนิทสนมกันไม่ได้ พวกนางทำเช่นนี้ต่อไป จะทำให้มีผลกระทบต่อการแสดงความรักของท่านหมอซูกับแม่ทัพฉิน!”

เฮ่อโยวตอบสนองคิดอยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นเข้าใจอย่างซาบซึ้งทันที ยกนิ้วโป้งให้กับเฉินเสียนแล้วกล่าวขึ้นว่า“เฉินเสียน อุบายนี้ของท่าน โหดเหี้ยมพอสมควร”

ถึงอย่างไรเฮ่อโยวก็ชอบเรื่องคึกครื้น เลยช่วยไปฝากบอกกล่าวให้เฉินเสียนทันที

คำพูดนี้พอพูดออกไป หลังจากที่กลุ่มหญิงสาวที่เป็นผู้ลี้ภัยต่อแถวด้านหลังรอให้ซูเจ๋อตรวจได้ยินเรื่องนี้รู้สึกได้ถึงความเสียดายและผิดหวังอย่างไม่สามารถมีอะไรมาเทียบได้ และใช้สายตาที่แปลกประหลาดมองไปที่ซูเจ๋อ

หมอท่านนี้หล่อก็ว่าหล่อนะ น่าเสียดายจริง

คาดไม่ถึงว่าเขาชอบผู้ชาย

หลังจากที่ซูเจ๋อได้ยินเรื่องนี้แล้ว ไม่ได้มีการตอบสนองอะไรมากมาย เพียงแค่ชะงันงันเล็กน้อย สายตามองผ่านผู้ลี้ภัยไปทางเฉินเสียน

เฉินเสียนฝืนไม่มองไปทางเขา ทำท่าทางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น กล่าวกับกลุ่มหญิงสาวผู้ลี้ภัยว่า“ยังมีผู้ที่ร่างกายสุขภาพไม่ดีให้มาหาข้าทางนี้ ข้ารับผิดชอบตรวจดูให้ทุกคนเอง”

ซูเจ๋อมองแถวที่ต่อเรียบร้อยแล้วกระจายออก มีผู้ที่สุขภาพไม่ดีจริงๆไปหาเฉินเสียนอย่างไม่ขาดสาย

เขาบีบหรี่เปลือกตา ในแววตาเรียบเฉยนั้นมีความอบอุ่นบางเบา

ในตอนแรกผู้ลี้ภัยมีความขี้ขลาดบ้าง แต่พอเห็นเฉินเสียนตั้งใจตรวจรักษาให้พวกนาง ก็ค่อยๆมีความกล้าขึ้นมา

ผกผันกับฉินหรูเหลียง ตอนที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถบอกใครได้ถูกมัดเข้าด้วยกันของเขากับซูเจ๋อ เขาโกรธจนหน้าเขียว

มักมีสายตาแฝงบางประการมองไปๆมาๆระหว่างเขากับซูเจ๋อ

ซูเจ๋อยินดีปรีดารับได้ แต่ทว่าฉินหรูเหลียงมักจะมองเขม็งกลับไป

มองเฮ่อโยวที่อยู่ด้านข้างยินดีปรีดากับความทุกข์ของผู้อื่น ประจบประแจงหัวเราะอยู่พักหนึ่ง

ปัจจัยของนอกเมืองยากลำบากอย่างมากมาย ถึงแม้ว่าผู้ลี้ภัยจะไม่สามารถกินอิ่มท้องได้ทั้งหมด และก็ไม่มีเสื้อคลุมที่ให้ความอบอุ่นได้ แต่ก็นับว่ากินรองท้องแล้ว มีกองไฟสุมให้ความอบอุ่น ไม่ถึงกับว่าเหมือนเมื่อก่อนที่หนาวหิวโซใช้ชีวิตลำบากยากแค้นยากที่จะอดทน

ที่ไหนมีคนซ้อนกันอยู่ก็มีเรื่องสอดรู้สอดเห็น ก็นับว่าเป็นความสุขสนุกสนานในความลำบากประเภทหนึ่ง

หญิงสาวที่เป็นผู้ลี้ภัยพอพูดถึงฉินหรูเหลียงกับซูเจ๋อ ก็ส่ายศีรษะทอดถอนหายใจ ยากที่จะหลีกเลี่ยงการกระซิบกระซาบอย่างหนึ่ง กระซิบเสียงเบาว่า“ท่านหมอซูหล่อเช่นนั้น แม่ทัพฉินก็เป็นบุคคลที่มีความสามารถ บุคลิกองอาจห้าวหาญกระฉับกระเฉง แต่ทว่าทั้งสองท่านเหตุใดถึงได้ก่อเรื่องจนถึงอย่างนั้นแล้ว เจ้าว่าน่าเสียดายหรือไม่”

“เฮ้ย ต้าฉู่ชื่นชอบอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ชายที่ดีกับชายที่ดีคบหากันแล้ว พวกเราที่เป็นหญิงจะทำเช่นไรกันเล่า?”

“แต่ข้าได้ยินมาว่าแม่ทัพใหญ่นี้ เดิมทีเป็นสามีขององค์หญิงจิ้งเสียน…..เวลานี้ก่อเรื่องกับชายอื่น……”

“มิน่าเล่า เมื่อก่อนในโรงน้ำชาพูดกันว่าเขากับองค์หญิงจิ้งเสียนความสัมพันธ์ไม่ได้เท่าไหร่เลย ที่แท้ยังมีสถานการณ์ภายในอย่างนี้”

ทุกคนเสียดายแทนองค์หญิงจิ้งเสียนอยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นรู้สึกได้ว่ามีสายตาเยือกเย็นพัดอู้มาทางด้านนี้

เหล่าหญิงสาวที่เป็นผู้ลี้ภัยกำลังพูดมั่วกันอยู่ ได้กล่าวกระซิบรอดไรฟันออกมาว่า “แม่ทัพฉินกำลังมองมาทางด้านนี้ เลิกพูดได้แล้ว…..หลีกเลี่ยงที่จะทำให้เขารู้สึกว่าทำลายเกียรติศักดิ์ศรี……”

ข้าคือหงส์พันปี

ข้าคือหงส์พันปี

องค์หญิงเฉินเสียนผู้โง่เขลา ถูกไล่ออกจากจวน ถูกทำให้เสียโฉม และยังมีทารกอยู่ในท้องของเธอ! ในวันที่สามีของเธอแต่งงานกับอนุภรรยา เธอมาแสดงความยินดี จัดการกับอนุคนใหม่อย่างรุนแรง และทำให้แขกในงานต่างตกใจ อนุคนใหม่ที่คิดว่าเธอเป็นเช่นไก่ที่อ่อนแอ? แต่ไม่คิดว่าจะสามารถต่อกรกับเธอได้?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset