ข้าคือหงส์พันปี – ตอนที่ 444 จากการที่ยอมแพ้ต่อกันกลายมาเป็นความช่วยเหลือกัน

เฉินเสียนพูดขึ้นอย่างเบาว่า“ซูเจ๋อเขา ตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังดูแลไม่ได้เลย แล้วยังจะไปรบกวนอะไรเขาในเวลานี้ วันนี้ข้าแค่เข้าพระราชวัง รอให้เขาอาการดีขึ้นก่อนแล้วค่อยมาปรึกษาหาหรือกัน จักรพรรดิไม่สามารถมากำหนดการเป็นการตายของข้าได้ ดังนั้นจึงคิดหาวิธีทางที่จะกักบริเวณข้าเอาไว้ โชคดีคือข้าจะได้ไปอยู่กับเจ้าน่องน้อย เพียงแค่ได้เข้าใกล้เจ้าน่องน้อย เรื่องราวก็คงไม่เลวร้ายไปกว่านี้”

ฉินหรูเหลียงเม้มปาก หันกลับมามองที่เฉินเสียนแล้วพูดว่า“ที่นั้นคือพระราชวัง เจ้าอาจจะเหมือนกับเจ้าน่องน้อย เมื่อเข้าไปแล้วก็ยากที่จะได้ออกมา”

เฉินเสียนเอ่ย “ถ้าเกิดเข้าไปเผชิญหน้าอย่างรุนแรง นั่นมันยากมาก”เธอหัวเราะให้กับฉินหรูเหลียงเบาๆ แล้วพูดขึ้นว่า“รอให้ข้าได้เข้าไปในพระราชวังก่อน ได้รู้สถานการณ์อย่างแน่ชัด ไม่แน่อาจจะมีวิธีทางหลบหลีกก็ได้และทำให้ข้ากับเจ้าน่องน้อยออกมาได้อยากราบรื่น ”

เมื่อฟังแล้วก็รู้สึกเหมือนสบายใจ แต่ตอนนี้นอกเหนือจากจะปฏิบัติตามพระราชโองการ เธอก็ไม่มีวิธีทางอื่นแล้ว

เฉินเสียนเดินผ่านฉินหรูเหลียง แล้วค่อยๆเดินออกจากโถงบุปผาไป หิมะสีขาวในลานบริเวณเรือนปกปิดภาพเงาของเธอไว้ อ่อนโยนและพร่างพรานสะดุดตา

เธอพูด“ข้ากลับสวนสระวสันตฤดูก่อนนะ”

ทั้งจวนก็ไม่ได้มีคนจำนวนมากอะไร เรื่องที่องค์หญิงจิ้งเสียนกำลังจะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ไปประทับอยู่ที่พระราชวัง ไม่นานผู้คนก็รู้กันอย่างทั่วถึง

เมื่อเฉินเสียนเข้ามาในสวนสระวสันตฤดู อวี้เยี่ยนและแม่นมซุยต่างก็เป็นกังวล ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

เฉินเสียนให้พวกเขาไปเก็บข้าวของ ทั้งสองคนจึงเข้าใจว่าครั้งนี้ต้องออกไปจากที่นี่อย่างแน่นอน

อวี้เยี่ยนและแม่นมซุยต่างก็พักอยู่ที่นี่เป็นเวลานานแล้ว สิ่งเล็กๆน้อยต่างๆมากมายที่นี่เป็นพวกเธอที่คอยจัดการดูแล เมื่อบอกว่าจะย้ายออกจากนี้ก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์อย่างยิ่ง

อวี้เยี่ยนกำลังเก็บข้าวของของเฉินเสียน เหมือนกับครั้งแรกเมื่อสองปีก่อนตอนที่เฉินเสียนแต่งงานเข้ามาอยู่ในจวนแม่ทัพ ก็นำข้าวของใส่ลงในหีบใบนี้เช่นกัน

สิ่งของเยอะแยะมากมาย หีบนั้นบรรจุของไม่หมด อวี้เยี่ยนที่กำลังปาดน้ำตาในใจก็คิดหาช่องทาง เฉินเสียนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วพูดว่า “เอาเพียงเสื้อผ้าไปเปลี่ยนแล้วซัก ของอย่างอื่นในห้องไม่ต้องเก็บไปหรอก”

อวี้เยี่ยนเก็บข้าวของอย่างลุกลี้ลุกลน เก็บไม่เรียบร้อย แม่นมซุยถอนหายใจแล้วพูดว่า“อวี้เยี่ยน ให้ข้าทำเถอะ”

แม่นำมซุยรับช่วงต่อ เก็บข้าวของอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอวางเสื้อผ้าและเครื่องประดับของเฉินเสียนลงในหีบ เมื่อเห็นหีบยังเหลือที่ว่างอยู่ก็เลือกใส่สิ่งของคุ้มค่าที่น่าจดจำไม่กี่อย่างลงไปด้วย

เธอเก็บของไปด้วยพูดไปด้วยว่า“อวี้เยี่ยนยังเด็ก รับไม่ได้ที่จะต้องออกจากที่นี่ไปอย่างเศร้าเช่นนี้”

เฉินเสียนหยิบหน้ากากออกมาจากกล่องใบเล็ก ใช้นิ้วลูบลงไปอย่างเบามือแล้วส่งให้กับแม่นมซุย พูดขึ้นว่า“เอ้อร์เหนียง นำสิ่งนี้ไปด้วย”

จากนั้นเธอก็นำตุ๊กตาหุ่นกระบอกไม้สองตัวใส่ลงไปในชั้นล่างสุดของหีบ

หลังจากเก็บของเสร็จแล้ว เฉินเสียนเดินออกจากประตูก็พบกับฉินหรูเหลียงที่ยืนอยู่ในเรือน ไม่รู้ว่าเขามารออยู่นานเท่าไหรแล้ว

เขามองมาอย่างนิ่งๆ แม่นมซุยนำสิ่งของที่เป็นความทรงจำของเฉินเสียนใส่ลงไปในหีบทีละเล็กน้อย เหลือไว้เพียงสิ่งของที่ไม่สำคัญ

เฉินเสียนเดินออกมานอกชายคาแล้วพูดว่า“เจ้ามาได้อย่างไร เจ้าวางใจเถิด ข้าจะไม่จากไปโดยไม่บอกลาเจ้าหรอก ก่อนจากไปข้าต้องไปบอกกับเจ้าอยู่แล้ว”

ฉินหรูเหลียงเงียบไปอยู่นาน จึงพูดขึ้นว่า“ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถขัดขวางท่านไว้ได้ ตอนนี้ข้าก็ไม่มีความสามารถที่จะรั้งให้ท่านอยู่ที่ได้”

เฉินเสียนขมวดคิ้ว แต่กลับยิ้ม“เจ้าจะมาสะบัดสะบิ้งเช่นนี้ทำไม ข้าเพียงถูกองค์จักรพรรดิกักบริเวณให้อยู่ในพระราชวังก็เท่านั้นเอง”

ฉินหรูเหลียงถาม“แล้วหลังจากนี้ท่านยังจะกลับมาหรือไม่?ถ้าในอนาคตคำสั่งถูกยกเลิกแล้ว ท่านจะกลับมาหรือไม่?”

เฉินเสียนเม้มปากแล้วยิ้มอย่างเย็นชา

ฉินหรูเหลียงพูด“คงไม่กลับแล้วสินะ เมื่อไปแล้วจากนี้ก็คงไม่กลับมาอีกแล้ว สวนสระวสันตฤดูแห่งนี้ก็คงไม่มีผู้หญิงที่ชื่อเฉินเสียนอีกต่อไป”

เฉินเสียนพูด“ให้มันดีๆหน่อย เจ้าจะพูดเรื่องเศร้าทำไมกัน”

ฉินหรูเหลียงฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “เมื่อเช้าเห็นได้ชัดว่าข้ายังโกรธท่านอยู่เลย แต่ตอนนี้ข้ากลับอยากจะรั้งให้ท่านอยู่ ข้าไม่สบายใช่หรือไม่”

“คนเราเมื่อมีความจริงใจต่อกันต้องได้พบกันอีกในวันหน้า ต่อไปภายหน้าก็ไม่ใช่จะไม่พบกันอีก”

ฉินหรูเหลียงมองไปที่เธอแล้วเอ่ยว่า “เฉินเสียน ในใจของท่าน ท่านเคยคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านมาบ้างหรือไม่?”

เฉินเสียนรู้สึกมึนงง ยิ้มบางแล้วตอบว่า“เมื่อก่อนสำหรับข้า ที่นี่เป็นเพียงแค่ที่พักพิงเท่านั้น แต่วันนี้ก็นับว่าเป็นบ้านของข้า ”เธอหยักไหล่พยายามทำตัวสบายๆแล้วพูดว่า“แม้ว่าเมื่อก่อนจะมีแต่เรื่องที่ทำให้ไม่มีความสุขมากมาย แต่ก็ไม่ใช่เป็นความทรงจำที่เลวร้ายทั้งหมด”

ฉินหรูเหลียงพูด“ข้าก็คิดว่าที่นี่เป็นบ้านของข้ามาโดยตลอด แต่เมื่อถึงเวลากลางคืน ท่านได้ให้ตะเกียงแก่ข้า คอยข้ากลับมากินข้าว ข้าเพิ่งจะเข้าใจถึงความรู้สึกที่อบอุ่นของบ้านอย่างแท้จริง การรับรู้ของข้ามันอาจจะสายเกินไป ”

ถ้าเขาปราดเปรียวสักหน่อย ไวต่อการรับรู้สักนิด ในตอนแรกก็คงไม่ทำร้ายกับเธอมากมายเช่นนั้น เขาควรจะวางเกียรติยศแล้วมารักทะนุถนอมเธอเอาไว้ให้ดี

“ฉินหรูเหลียง”เฉินเสียนชำเลืองหันไปมองเขา“หลังจากนี้เจ้าอย่ายึดติดกับการอยู่คนเดียว เจ้าต้องรู้จักปรับตัว”

“อย่ามาพูดถึงข้าเลย ท่านไม่เหมือนกันรึ?”

“มันจะเหมือนกันได้อย่างไร ข้ากว่าจะค้นหาเส้นทางนี้เจอมันไม่ง่ายเลย แต่เจ้าพลาดโอกาสนั้นนานแล้ว ยืนกรานที่จะย้อนกลับไปในเส้นทางนั้น เจ้าควรจะต้องเดินหน้าต่อไป ถึงจะได้พบกับโอกาสที่ดีๆ”

“รอให้ข้าให้เห็นพวกท่านร่วมกันฝันฝ่าอุปสรรคและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อฟ้าหลังฝนแล้วก้าวต่อไปข้างหน้าได้ไม่สิ้นสุด ข้าถึงจะวางใจที่ก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างสบายใจ”

ฉินหรูเหลียงยื่นมือเข้าไปโอบกอดที่เอวของเฉินเสียน นำเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมกอด

มันเป็นเพียงครั้งเดียวที่เฉินเสียนไม่ต่อต้าน และยื่นมือมากอดเขากลับ

ฉินหรูเหลียงพูดขึ้นเบาๆในขณะที่กอดเธอว่า“เฉินเสียน ข้ารู้ว่าทำผิดไปแล้ว ถ้าเกิดย้อนเวลากลับไปเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง ข้าฉินหรูเหลียงจะทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเชื่อใจท่าน ปกป้องท่าน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีโอกาสที่จะย้อนกลับไปเริ่มต้นใหม่ได้ ไม่เป็นไร ข้าได้เพียงแต่ต้องถอยออกมา ขอท่านมีความสุขก็พอแล้ว ”

เฉินเสียนเบิกตาค้าง ในตาเริ่มชุ่มชื้นแล้วเอ่ยว่า“คำพูดที่พูดออกมาจากปากเจ้า ดวงอาทิตย์คงจะขึ้นทางทิศตะวันตกแล้ว”

“ซูเจ๋อสามารถทำให้ท่านได้รับความสุข ท่านก็ไปกับเขาเถิด”ฉินหรูเหลียงพูด “แม้ว่าในตอนเริ่มแรกเขาจะคิดร้ายกับข้าและท่าน แต่สุดท้ายข้าก็ไม่ได้แพ้ให้กับเขา แต่ข้าแพ้ให้กับตัวข้าเอง เขาสามารถได้รับความรักจากท่าน เขาเป็นคนที่โชคดี ”

ไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไร คำขอร้องของฉินหรูเหลียงนั้นก็กลายเป็นการขอเรื่องง่ายๆ จากจุดเริ่มต้นที่ไม่มีการยอมแพ้ไม่เลิกลาความคิดต่อกัน ก็ค่อยๆกลายเป็นความเข้าใจและการช่วยเหลืออย่างเต็มที่

บางทีการได้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ถูกต้องในการได้รักใครสักคน

เขารู้ว่าซูเจ๋อนั้นทุ่มเทเพื่อผู้หญิงคนนี้อย่างสุดชีวิต แล้วเขาก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ก็ทำเพื่อชายคนนั้นอยากไม่ห่วงชีวิตตัวเองเช่นกัน เขาไม่อยากจะยอมรับ แต่ในเมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ เขาไม่มีทางที่จะตามทันได้

ฉินหรูเหลียงพูด“รอภายหน้า ได้เห็นว่าท่านกับเขาอยู่ร่วมกันด้วยตาของข้าเอง ข้ารู้ว่าพวกท่านจะสามารถครองรักกันไปตลอดชีวิต เฉินเสียน ข้ารู้สึกสบายใจที่ได้ปล่อยมือจากท่านแล้ว”

เฉินเสียนยิ้มทั้งหน้าตาแล้วเอ่ยว่า “อืม ข้าจะทำให้เจ้าได้เห็นวันนั้นโดยเร็วที่สุดแน่นอน ฉินหรูเหลียง ขอบคุณนะ”

ข้าคือหงส์พันปี

ข้าคือหงส์พันปี

องค์หญิงเฉินเสียนผู้โง่เขลา ถูกไล่ออกจากจวน ถูกทำให้เสียโฉม และยังมีทารกอยู่ในท้องของเธอ! ในวันที่สามีของเธอแต่งงานกับอนุภรรยา เธอมาแสดงความยินดี จัดการกับอนุคนใหม่อย่างรุนแรง และทำให้แขกในงานต่างตกใจ อนุคนใหม่ที่คิดว่าเธอเป็นเช่นไก่ที่อ่อนแอ? แต่ไม่คิดว่าจะสามารถต่อกรกับเธอได้?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset