ข้าคือหงส์พันปี – ตอนที่229 อยากเข้ามาดื่มชาสักถ้วยหรือไม่?

เมื่อถึงเวลากลางคืน เป็นเพราะว่าพรุ่งนี้ยังคงต้องเดินทางต่อ ทุกคนต่างเข้าพักผ่อนกันหมดแล้ว

ภายในห้องโถงข้างล่างจุดตะเกียงน้ำมันไว้ ส่องแสงสว่างสลัวๆ

ภายในเรือนรับรองสถานีจุดพักม้านั้นมีข้อจำจัด ชิงซิ่งต้องการที่จะเขียนจดหมายจึงไปที่ห้องโถงเพื่อที่จะยืมพู่กัน

เฉินเสียนยังไม่กะจิตกะใจที่จะนอน จึงเดินออกประตูแล้วมายืนอยู่ด้านหน้าของอีกห้อง ยกมือขึ้นก็เคาะ

คนที่มาเปิดประตูนั่นคือซูเจ๋อ เขาอยู่ในชุดสีขาวนวลพระจันทร์ ทรงผมหลอมๆ ร่างกายนั้นมีกลิ่นอายของความสะอาด น่าจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ

เงยหน้าขึ้นมองเฉินเสีน ด้วยสายตาที่แคบยาวแล้วพูดว่า “องค์หญิงมีอะไรรึ?”

เฉินเสียนพยายามไม่มองไปที่เขา แล้วพูดว่า “เฮ่อโยวล่ะ?”

เฮ่อโยวที่อยู่ในห้องตอบกลับมาว่า “องค์หญิงหาข้ารึ?รอสักครู่ ข้ากำลังใส่เสื้อผ้าอยู่”

เฉินเสียนกระตุกมุมปาก

คนหนึ่งเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ อีกคนหนึ่งอาบน้ำเสร็จแต่ยังไม่ทันแต่งตัว……ผู้ชายสองคนอยู่ห้องเดียวกัน นั่นทำให้คิดจินตนาการไปได้ไกลจริงๆ!

ซูเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นสีหน้าของเฉินเสียนที่แสดงออกมา แล้วพูดว่า “ข้ารู้นะว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่ ห้องนี้เป็นห้องสำหรับนอนสองคน อาบน้ำและนอนต่างแยกย้ายกัน”

เรือนรับรองสถานีจุดพักม้านั้นก็กว้างเท่านี้ องครักษ์คนอื่นต่างก็เบียดกันในห้องเดียว

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องจำยอมอย่างไม่มีทางเลือก ซูเจ๋อจึงได้มาพักห้องเดียวกับเฮ่อโยว

เฉินเสียนกระแอม ปรับสีหน้าปกติแล้วพูดว่า “ใต้เท้าซูท่านไม่ต้องกังวัลไป ข้ายังไม่ได้พูดเลยว่าท่านทั้งสองคนอาบน้ำด้วยกัน”

ซูเจ๋อถามเสียงเบา “ท่านหาเฮ่อโยวทำไม?”

เฉินเสียนเพิ่งจะเงยมองหน้าเขา มองเห็นไฟที่อยู่บนหัวของผู้ชายเรือนราง หัวเราะอย่างไม่จริงจัง “ทำไม ท่านหึงรึ?”

ซูเจ๋อตอบด้วยสีหน้านิ่งสุขุม “ใช่”

เฉินเสียนใจเต้นเร็วรัวไม่เป็นจังหวะ

เวลานั้นเฮ่อโยวก็ใส่เสื้อผ้าเสร็จพอดี ผมยังเปียกอยู่ แล้วถามว่า “องค์หญิงมาหาข้ามีเรื่องอะไรรึ?”

เฉินเสียนเอียงตัวเพื่อให้เฮ่อโยวที่ยืนอยู่ด้านหน้าประตูได้มองเห็นผ่านราวจับระเบียงทางเดินไม้ลงไป แล้วพูดขึ้นอย่างปกติว่า “ชิงซิ่งอยู่ใต้ตึกกำลังเขียนจดหมาย ไป ไปขัดขวางจดหมายนั้น ทีหลังอย่าให้นางได้เขียนจดหมายไปถึงเมืองหลวงอีก”

เฮ่อโยวเอามือตบไปที่หน้าอก “ให้เป็นหน้าที่ข้า”

จากนั้นเฮ่อโยวก็ค่อยๆลงไปใต้ตึกอย่างเบาๆ

ซูเจ๋อพิงกับประตู แล้วถามว่า “อยากเข้ามาดื่มชาสักถ้วยหรือไม่?”

เฉินเสียนหันตัวกลับ พูดว่า “ไม่เป็นไร ท่านรีบพักผ่อนเถอะ”

“ได้เลย ท่านก็รีบพักผ่อนนะ”

ในขณะที่ชิงซิ่งนั่งอยู่ในมุมกำลังเขียนจดหมายอยู่นั้น เฮ่อโยวก็ไปอยู่ทางด้านหลังเธออย่างเงียบๆ เมื่อเห็นเธอเขียนไปครึ่งหนึ่งแล้วเพิ่งจะถามว่า “แอบเขียนลับๆล่อๆอะไรอยู่หรอ?”

ชิงซิ่งตกใจ มือสั่น ทำให้พู่กันนั้นขีดลงไปเป็นรอยบนจดหมายนั่น

แล้วจดหมายนี้ยังจะส่งไปได้อย่างไร

ชิงซิ่งลุกขึ้นแล้วหันกลับมา เห็นเป็นเฮ่อโยว เวลานั้นจึงรู้สึกโกรธขึ้นมา แล้วพูดว่า “เวลานี้รองท่านฑูตยังไม่นอนแล้วยังมาแอบอยู่ข้างหลังทำให้คนตกใจทำไม!”

“ถ้าเจ้าไม่ได้ทำเรื่องที่ไม่ดีอะไร ทำไมถึงได้ตกใจขนาดนี้รึ ?”

พูดจบเฮ่อโยวก็จะไปหยิบจดหมายแผ่นนั้นขึ้นมาอ่านให้ละเอียดว่าเธอเขียนอะไรลงไป

แต่ชิงซิ่งคาดเดาไว้อยู่แล้วว่าเขาจะมาหยิบไป จึงพลิกตัวทับจดหมายนั้นเอาไว้

เฮ่อโยวคิดไม่ถึง ตัวเขาจึงโน้มเอียงลงไป ประจวบเหมาะลงไปทับบนตัวชิงซิ่งบนโต๊ะพอดี

ทั้งสองคนจ้องตากัน ชะงักงันกันอยู่สักครู่

เฮ่อโยวเพิ่งเห็นว่า นางกำนัลน้อยคนนี้มีดวงตาโต ดูน่ารักมาก

ชิงซิ่งแสดงสีหน้าโกรธ เฮ่อโยวจึงหันมาสนใจหยอกล้อเธอ ยิ่งโน้มตัวไปทับมากยิ่งขึ้น ยื่นมือไปทางด้านหลังเอวของเธอ เพื่อที่จะดึงเอาจดหมายนั้นออกมาจากด้านหลังของเธอ

ชิงซิ่งพูดด้วยความโกรธว่า “ท่าน ท่านลามก!”

เฮ่อโยวหัวเราะแล้วพูดว่า “เจ้ายังไม่รู้อีกหรือ เมื่อก่อนคุณชายน้อยเป็นถึงราชาอันธพาลแห่งท้องถนน”

เฮ่อโยวคีบจดหมายนั้น แล้วเอามาเปิดอ่าน ชิงซิ่งอยากจะแย่งมา แต่ปลายเท้าของเธอสูงไม่พอที่จะเอาชนะเฮ่อโยวได้

เฮ่อโยวเข้าใจทันทีแล้วพูดว่า “เดิมที่เจ้าเขียนการใช้ชีวิตประจำขององค์หญิงละเอียดขนาดนี้เลยหรือ นี่เจ้ากำลังเฝ้าดูองค์หญิงรึ”

ชิงซิ่งพูด “ขอให้รองท่านฑูตคืนมาให้บ่าวดีกว่า บ่าวไม่ได้อยากทำ เพียงแต่ได้บ่าวทำตามที่ได้รับคำบัญชามา!”

“ได้รับคำบัญชามา ภายใต้คำบัญชาของใคร?” เฮ่อโยวพูด “พอดีเลย ข้าก็ได้รับคำบัญชามาเหมือนกัน ต่อจากนี้เรื่องเขียนจดหมายแบบนี้ เจ้าไม่ต้องเขียนแล้ว ข้าจะเป็นคนเขียนรายงานกับองค์จักรพรรดิเอง แบบนี้เจ้าก็จะได้ไม่ต้องอึดอัดลำบากใจแล้ว”

ชิงซิ่งจ้องมองไปที่ดวงตากลมโตของเฮ่อโยว

เฮ่อโยวจึงลุกขึ้นแล้วนำจดหมายนั่นออกมาด้วย แล้วพูดว่า “ให้คุณชายน้อยมองให้ชัดหน่อย นี่คือตราประทับขององค์จักรพรรดิ หรือว่าเจ้าคิดว่าข้าเขียนจดหมายด๋อยกว่าเจ้า”

ชิงซิ่งอ้าปากค้าง จ้องมองไปที่เขาอย่างคับแค้นใจ เพียงแต่ไม่พูด

เฮ่อโยวก็เก็บตราประทับไป อีกมือก็ฉีกจดหมายที่ชิงซิ่งเขียนให้เป็นเศษกระดาษ แล้วพูดว่า “ต่อจากนี้หน้าที่เขียนจดหมายให้เป็นหน้าที่ข้า เจ้าแค่รับใช้ปรนนิบัติองค์หญิงก็พอ เมื่อกลับถึงเมืองหลวงข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องลำบาก”

เฮ่อโยวนั่งแทนที่ของเธอ แล้วเริ่มลากพู่กันลงไปเขียนบนกระดาษใหม่ “เอาหล่ะ เจ้ากลับไปนอนเถอะ ข้าจะเริ่มเขียนจดหมายแล้ว”

ชิงซิ่งแสดงความไม่ไม่พอใจออกมา ใครจะยินยอมแล้วเดินจากไป เธอก็อยากรู้อยากเห็นว่าเฮ่อโยวจะเขียนอะไรลงไปในจดหมายนั้น

เฮ่อโยวหันกลับมามองเห็นเธอกำลังยืดคอยาวมาเหลือบมอง ทำหน้าแข็งทื่อ “เจ้ามองอะไร นี่มันเป็นความลับทางราชการ ไม่กลับไปนอน หรือว่าอยากจะอยู่พัดยุงให้กับคุณชายน้อยทั้งคืนอีก?”

ชิงซิ่งไม่อยากจะโดนลงโทษแบบนี้ ถึงเวลานี้เธอยังรู้สึกว่าแขนเธอนั้นยังปวดเมื่อยอยู่เลย จึงเดินจากไปด้วยความอึดอัดไม่สบายใจ

ไม่ดูก็ไม่ดู อย่างไรเฮ่อโยวก็มีตราของทางราชการ อำนาจก็มากกว่าเธออีก จากนี้ถ้าเธอไม่ต้องเขียนจดหมายรายงานจักรพรรดิจริง เธอจึงรู้สึกว่าผ่อนคลายมากขึ้น

เฮ่อโยวหันมองเธอเดินขึ้นบันไดไป จึงเริ่มหันกลับมาเขียนจดหมายนั่น ในใจก็คิด เมื่อครู่นี้ที่นางกำนัลน้อยโกรธแบบนั้นก็น่าสนุกดี

ชิงซิ่งไม่คิดว่าเมื่อขึ้นมาจะพบกับเฉินเสียนที่ยืนอยู่ระหว่างทางเดิน

คิดว่าเฉินเสียนคงเห็นภาพที่เฮ่อโยวกดเธอลงบนโต๊ะที่ใต้ตึกเมื่อครู่นี้ แต่ยังไม่พูด ชิงซิ่งก็หน้าแดงแล้ว

โชคดีที่ว่าเฉินเสียนนั้นไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงพูดเบาๆว่า “ไม่ต้องรอข้า เจ้าเข้านอนก่อนเลย”

ชิงซิ่งเหมือนคนได้รับอภัยโทษ แล้วจึงหันหนีกลับเข้าไปในห้อง

เฉินเสียนเหลือบมองไปที่ประตูห้อง แล้วนึกขำ เมื่อครู่นี้เธอรู้สึกว่าชิงซิ่งกับเฮ่อโยวนั้นเหมาะสมกันดีมาก เธอเอามือไพล่หลังแล้วเดินตามทางไปข้างล่างอย่างเงียบๆ

ตอนนี้มาถึงคราวของเฮ่อโยวที่นั่งอยู่ในมุมดึงใส่ตะเกียงให้สว่างขึ้นเพื่อเขียนจดหมาย

เฉินเสียนทำแบบเดียวกับเขาทำก็คือเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ ไม่มีเสียงอะไร ยืนอยู่ด้านหลังของเขาเป็นเวลานานเขาก็ยังไม่รู้ตัวเลยสักนิด

เฉินเสียนพูดขึ้นทันทีว่า “เจ้าเขียนอะไรอยู่นะ ทำลับๆล่อๆ?”

เฮ่อโยวตกใจ มือสั่น แล้วจึงทำให้พู่กันขีดลากยาวเป็นรอยลงไปบนกระดาษ

เฮ่อโยวถอนหายใจยาว แล้วพูดว่า “ทำไมท่านไม่ให้สุ่มให้เสียงล่ะ ตกใจตายไม่คุ้มกับที่ต้องชดใช้นะ!”

เฉินเสียนเห็นเขาเขียนจดหมายมากมาย แต่ไม่เหมือนกับชิงซิ่งที่เขียนแค่แผ่นเดียว

เธอจึงนำจดหมายต้นฉบับนั้นขึ้นมา “เจ้ากับจักรพรรดิมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตั้งแต่เมื่อไร ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันมีคำพูดมากมายที่อยากจะพูดเลย?”

เฮ่อโยวหัวเราะเย็น “จักรพรรดิให้ข้าคอยมองดูบัณฑิตไงใครใช้ให้เขามายั่วโมโหข้ากัน เนื้อหาในนั้นข้าเขียนเรียงลำดับความผิดของเขาทั้งหมด!ท่านรีบมาช่วยข้าคิด เขายังมีความผิดอะไรอีกที่ข้ายังไม่ได้เขียนลงไปอีก”

ข้าคือหงส์พันปี

ข้าคือหงส์พันปี

องค์หญิงเฉินเสียนผู้โง่เขลา ถูกไล่ออกจากจวน ถูกทำให้เสียโฉม และยังมีทารกอยู่ในท้องของเธอ! ในวันที่สามีของเธอแต่งงานกับอนุภรรยา เธอมาแสดงความยินดี จัดการกับอนุคนใหม่อย่างรุนแรง และทำให้แขกในงานต่างตกใจ อนุคนใหม่ที่คิดว่าเธอเป็นเช่นไก่ที่อ่อนแอ? แต่ไม่คิดว่าจะสามารถต่อกรกับเธอได้?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset