ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ – ตอนที่ 16 พูดเล่นสุ่มสี่สุ่มห้า

ตอนแปดโมงเช้า เย่เทียนนั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมืองกำลังกินอาหารเช้าอยู่

หลังจากกินบะหมี่ชามหนึ่งหมด มีรถตู้บีเอ็มดับเบิลยูคันหนึ่งจอดอยู่ตรงตึกสูงระฟ้าตรงข้ามถนนใหญ่พอดี จากนั้นมีภาพหญิงสาวที่รูปร่างมหัศจรรย์คนหนึ่งเดินลงมาจากในรถ

เย่เทียนมองเธอเดินเข้าประตูใหญ่ของบริษัท จึงลุกขึ้นยืนทิ้งเงินสิบหยวนเอาไว้จ่ายค่าอาหาร

ที่อยู่ตรงข้ามเขา เป็นตึกสำนักงานของบริษัทแซ่เฉิน ทุกวันเฉินหวั่นชิงจะมาถึงบริษัทในเวลานี้เป็นประจำ

เมื่อแน่ใจว่าเฉินหวั่นชิงไม่เป็นอะไร เขาก็ออกไปจากร้านอาหารเช้า เย่เทียนเดินไปบนถนนใหญ่อย่างเชื่องช้า

เอี๊ยด!

ในเวลานี้เอง รถหรูคันหนึ่งจอดลงกะทันหัน ขวางทางเย่เทียนไว้

“โอ๊ะ นี่ไม่ใช่เย่เทียนเหรอ? เด็กเลี้ยงของเฉินหวั่นชิง นึกไม่ถึงจะเดินอยู่ที่นี่? ไม่กลัวขายหน้าเหรอ?”

คำพูดเยาะเย้ยที่ยั่วโมโหคนอื่นลอยมา ทันใดนั้นเป็นหลิวจื่อหยังลงมาจากในรถ เดินมาถึงข้างหน้าเย่เทียนแบบยกเท้าสูง

ก่อนหน้านี้ที่โรงพยาบาล เย่เทียนเพียงแค่ลงโทษเพื่อตักเตือนเขาไปเบาๆ และไม่ได้ทำเขาบาดเจ็บสักนิด พักผ่อนวันเดียวก็สามารถฟื้นตัวกลับมาได้

เย่เทียนชายตามองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง เขารู้ว่าหลิวจื่อหยังคนนี้มีส่วนร่วมทำให้เขาโดนจับขณะที่กวาดล้างค้าประเวณี แต่ว่าตอนนี้เย่เทียนไม่มีอารมณ์ใส่ใจพวกกระจอกแบบนี้ ถือโอกาสไม่สนใจเขา เอียงตัวอยากเดินไป

“อย่ารีบร้อนไปสิ!”

หลิวจื่อหยังจะให้เขาสมปรารถนาได้ที่ไหนกัน มองเย่เทียนจากบนลงล่างอย่างเย้ยหยัน “ให้ฉันพูด แกจะมีหน้าอยู่ที่ตระกูลเฉินต่อได้ยังไงล่ะ? ไร้ความสามารถ ไม่มีเบื้องหลัง คนแบบแกนี้ อยู่ใต้เงาของผู้หญิงงดงามอย่างหวั่นชิง จะไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจรึไง?”

“ถ้าเปลี่ยนเป็นฉัน คงเอาหัวกระแทกให้ตายไปตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมถึงต้องมาอับอายอยู่ต่อหน้าคนบนโลกนี้ด้วย?”

เขาเหน็บแนมเย่เทียนอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาสักนิดหนึ่ง

เย่เทียนหยุดฝีเท้าลง ย้ายสายตาไปบนตัวเขา “แกพูดจบแล้ว?”

“เอ่อ……”

หลิวจื่อหยังตะลึงแล้ว มองท่าทางของเย่เทียนที่ไม่ได้โมโหโดยสิ้นเชิง คิดในใจเรื่องราวนี้ดูท่าไม่ถูกต้องนะ!

เปลี่ยนเป็นใครก็ตามแต่สักคน ถูกเขาเหน็บแนมขนาดนี้ ย่อมต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่

แต่เย่เทียนกลับพูดว่าแกพูดจบแล้วมาประโยคหนึ่งอย่างสบายๆ ทำให้การเหยียดหยามของเขาไม่มีประโยชน์เลยทันที ในใจไม่เพียงไม่มีความรู้สึกสะใจที่ได้เหยียบย่ำคนอื่น แต่กลับทำให้เขารู้สึกโกรธแค้นอย่างน่าประหลาด

“แกแม่งมันบ้ารึไง! ขอเตือนแกไว้อย่าง รีบไปจากเฉินหวั่นชิงซะ ไม่อย่างนั้น……”

“ไม่อย่างนั้นจะทำไม? หลิวจื่อหยัง หวั่นชิงไม่สนใจแก ดังนั้นเลยอยากมาหาความรู้สึกมีตัวตนจากบนตัวฉันบ้าง?”

เย่เทียนหัวเราะเยาะ “น่าเสียดาย ในความคิดฉัน แกก็คือตัวตลกที่เต้นแร้งเต้นกาตัวหนึ่งเท่านั้น!”

เรื่องปากดีพูดปลิ้นปล้อน หลิวจื่อหยังสู้เย่เทียนได้ที่ไหน ชี้หน้าเย่เทียน อยากเริ่มด่า “แก……”

เขาเพิ่งส่งเสียงมาได้คำหนึ่ง กลับถูกเย่เทียนขัดจังหวะอย่างไร้ปรานีทันใด “แกอะไร แกคิดว่าตัวเองเป็นดอกไม้สด แล้วฉันเป็นใบไม้มาขับให้แกเด่นขึ้นงั้นเหรอ? อยากใช้ความยากจนของฉัน มาขับให้ความรวยของแกเด่นขึ้น? อยากใช้คุณธรรมสูงของฉัน มาขับให้คุณภาพเลวของแกนั้นโดดเด่น?”

“ถ้ามาหาเรื่องฉันอีก ฉันตีแกให้พิการแน่!”

เย่เทียนด่าทออย่างแรงไปยกหนึ่ง ด่าหลิวจื่อหยังถึงอกถึงใจไปโดยตรง

“แก……แกยังมีการศึกษาอยู่บ้างหรือเปล่า!”

หลิวจื่อหยังตะโกนแบบโมโหเดือดดาล

เย่เทียนส่งเสียงหัวเราะ พูดอย่างคล่องแคล่ว “ตอนแกเจ็ดขวบแอบดูแม่เลี้ยงอาบน้ำ ตอนอายุสิบสองปีใช้น้ำเดือดลวกแมวของปู่แกตาย แถมยังใส่ร้ายว่าลูกพี่ลูกน้องแกทำอีก ทำให้เขาโดนขังอยู่สามเดือน ตอนอายุสิบเจ็ดแกใช้ยาเสน่ห์ขืนใจสาวสวยของชั้นเรียนแล้ว เดือนก่อนยังมีผู้หญิงคนหนึ่งทำแท้งกระโดดตึกเพราะแก”

“คนเลวอย่างแกนี้ มีสิทธิ์มาพูดเรื่องการศึกษากับฉัน?”

“แก……แกอย่าพูดมั่ว!”

หลิวจื่อหยังสีหน้าเปลี่ยนรุนแรง ลูกตาหดฉับพลัน มองเย่เทียนแบบไม่อยากเชื่อ

เรื่องพวกนี้เป็นความลับในใจของเขาทั้งนั้น เจ้าหมอนี่รู้ได้อย่างไร?

“พูดมั่วหรือไม่ แกรู้ดีอยู่แก่ใจ”

เย่เทียนชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง ตาเห็นว่าเกือบจะโจมตีจนแนวป้องกันของเขาพังแล้ว อดทิ้งระเบิดหนักอีกลูกออกไปไม่ได้

“แกคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องที่ฉันโดนจับตอนกวาดล้างการค้าประเวณี ที่แกเป็นคนวางแผนงั้นเหรอ? ฉันแค่ไม่อยากสนใจแกเท่านั้นเอง อย่ามาหาเรื่องฉันอีก ไม่อย่างนั้น ฉันรับรองว่ามีร้อยวิธีทำให้แกหายไปจากโลกนี้แน่!”

พูดจบ เย่เทียนหมุนตัวออกไปว่องไว ทิ้งหลิวจื่อหยังแข็งทื่ออยู่ที่เดิม

ผ่านไปตั้งนาน หลิวจื่อหยังถึงค่อยๆ ได้สติกลับมา

เมื่อสักครู่แต่ละประโยคของเย่เทียน ล้วนเหมือนดาบแหลมเล่มหนึ่ง แทงกระตุ้นประสาทของเขาอย่างลึกซึ้ง

“คุณชายครับ ต้องการให้ผมหาคนเข้ามา จัดการไอ้หนุ่มนั้นสักยกหรือเปล่าครับ?”

เวลานี้ คนขับรถและเป็นสุนัขรับใช้ด้วยเดินเข้ามา ถามด้วยท่าทางประจบสอพลอ

“จัดการสักยก?”

หลิวจื่อหยังดวงตาประกาย “ได้ เรื่องนี้ให้นายไปทำ ฉันอยากเห็นมันโดนต่อยจนกลายเป็นหมาตายตัวหนึ่ง!”

“ไม่มีปัญหาครับ!”

คนขับรถหัวเราะหึๆ อยู่ต่อหน้าหลิวจื่อหยัง หยิบมือถือออกมาต่อสายโทรศัพท์สายหนึ่ง “ฮัลโหล ใช่พี่เบียวรึเปล่า พี่เข้ามาสักหน่อย พาลูกน้องมาสักสี่ห้าคนด้วย ฉันมีธุระกับพี่นิดหน่อย”

……

เย่เทียนไม่รู้แผนการของหลิวจื่อหยัง ในความเป็นจริงถึงแม้ว่าจะรู้ เขาก็ไม่เก็บมาใส่ใจเช่นกัน

คนแบบหลิวจื่อหยัง เป็นแค่พวกไม่สำคัญคนหนึ่ง ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ได้เห็นเป็นคู่แข่งเลยสักนิด

สำหรับเรื่องพวกนั้นที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้ เป็นยุคหลังเปิดโปงออกมาในอินเทอร์เน็ต เย่เทียนในตอนนั้นเพียงเห็นเป็นเรื่องตลก กลับนึกไม่ถึงว่าจะเอามาใช้ในวันนี้ได้

หลังจากนั้น เย่เทียนไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซื้อมือถือใหม่แล้ว ถือโอกาสเปลี่ยนซิมมือถือไปด้วยเลย

ตอนที่กำลังเตรียมออกไป มีเสียงโวยวายลอยมาจากหน้าประตูห้างสรรพสินค้า ดึงดูดความสนใจของเย่เทียนแล้ว

“ใครช่วยฉันได้บ้าง ช่วยคุณปู่ฉันหน่อย ช่วยคุณปู่ฉันด้วย……”

เสียงผู้หญิงที่โศกเศร้ามาก ดึงให้ฝูงชนมุงดูในที่เกิดเหตุ

เย่เทียนเดินตามเข้าไปดูเหตุการณ์สักหน่อย

เห็นเพียงบนพื้นใจกลางฝูงชน เป็นผู้อาวุโสที่อายุมากคนหนึ่งนอนอยู่ เด็กสาวอายุน้อยคนหนึ่งอยู่ข้างกายผู้อาวุโส จับมือของผู้อาวุโสไว้แน่น น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลลงเป็นทาง เห็นได้ชัดว่าร้อนใจถึงขั้นสุด

เหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้เย่เทียนอดขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ได้ จากบนตัวของเด็กสาวคนนี้ เขารู้สึกถึงเงาของเฉินหวั่นชิงเข้า

เวลานี้ พนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มหนึ่งได้ยินข่าวก็รีบเข้ามา รีบรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย และให้คนไปด้านบน เตรียมส่งผู้อาวุโสที่เป็นลมหมดสติไปโรงพยาบาล

โดยเฉพาะนี่คือห้างสรรพสินค้าใหญ่ ถ้าเกิดเรื่องจนคนเสียชีวิตขึ้นมา กลัวว่าคงได้ปิดกิจการลงแน่

“พวกคุณอย่าขยับมั่ว!”

มองพนักงานรักษาความปลอดภัยอยากเคลื่อนย้ายผู้อาวุโส เย่เทียนจึงอดตะโกนบอกไม่ได้

เสียงตะโกนนี้ ทำให้ในเหตุการณ์ที่เอะอะโวยวายเงียบลงมาทันที สายตาของทุกคนจับจ้องไปบนตัวเย่เทียน

ผลปรากฏว่าเห็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่ง ชั่วขณะนั้นทุกคนไม่พอใจอยู่บ้าง กำลังยุ่งช่วยเหลือคนอยู่นะ เจ้าหนุ่มนี้ตะโกนสุ่มสี่สุ่มห้าอะไร?

“นายเป็นใคร? ทำไมไม่ให้ฉันขยับผู้สูงอายุคนนี้?”

หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยหันหน้าเข้ามา มองเย่เทียนแบบสงสัยแล้วถามไป

เย่เทียนตอบแบบนิ่งสงบ “เพราะถ้าคุณขยับมั่วๆ มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้คนเสียชีวิต!”

หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยพอได้ยิน ชั่วขณะนั้นขมวดคิ้วขึ้น ถ้าคนตายแล้ว เขาคงรับผิดชอบไม่ไหว จึงส่งเสียงถาม “นายเป็นหมอ?”

“ไม่ใช่”

เย่เทียนส่ายหน้า

พนักงานรักษาความปลอดภัยหงุดหงิดแล้ว ตะโกนใส่ “ประสาทเหรอ ไม่ใช่หมอแล้วมาพูดเล่นสุ่มสี่สุ่มห้าตรงนี้ เสียเวลาฉัน!”

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
Status: Ongoing
อ่านนิยายข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ “เย่เทียน วันตายของแกมาถึงแล้ว!” เรือสำราญที่สภาพเสียหายหนักลำหนึ่งจอดอยู่บนท้องทะเลที่มองไปไกลสุดลูกหูลูกตา ดาดฟ้าของเรือสำราญมีคนยืนเต็มทั่วทุกด้าน มีทั้งแก่ทั้งเด็ก มีผู้ชายผู้หญิง ลักษณะแตกต่าง สีผิวไม่เหมือนกัน เพียงสิ่งเดียวที่เหมือนกันคือ บนตัวพวกเขาล้วนมีพลังอำนาจเรียบง่ายทว่าเข้มแข็งดุจภูเขาใหญ่ “กองทหารฟ้าสั่ง แก๊งหมาป่าโลภ แก๊งงูหางกระดิ่ง แก๊งมังกรดำ……” “พวกแกเป็นกลุ่มมีอิทธิพลชั้นนำบนโลก นึกไม่ถึงว่าเพื่อล้อมฆ่าฉันถึงขั้นต้องมารวมตัวกันเลย ชีวิตของฉันเย่เทียนมีค่าขนาดนี้?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset