ข้าจับปีศาจสาวได้ตัวหนึ่ง 天上掉下个美娇娘 – ตอนที่ 5 ผู้ชายบ้านนอกหน้าโง่

กู้จิ้งเงยหน้าขึ้นมอง ถึงตอนนี้เธอถึงได้พบว่าการโจมตีครั้งที่สองของเธอโดนเป้าหมาย ยามนี้บนท่อนแขนและข้อมือของเขาชุ่มไปด้วยเลือด เลือดสีแดงสดไหลลงมาตามท่อนแขนก่อนจะหยดลงบนพื้นสวน

สายลมเย็นในภูเขาโชยผ่านมา เสียงหอนน่าสะพรึงกลัวของหมาป่าดังขึ้นอีกครั้ง กู้จิ้งมองเลือดซึ่งกำลังหยดลงบนพื้นติ๋งๆๆ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์สีเลือดบนท้องฟ้า…

แม้เธอจะเป็นหมอที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางชิ้นส่วนอวัยวะแช่ฟอร์มาลินในคณะแพทยศาสตร์ แต่ยามนี้ก็ยังอดหวาดผวาไม่ได้

เมื่อหมอที่เชื่อมั่นในแนวคิดวัตถุนิยมมาร์กซิสมาเจอกับสถานการณ์ที่ทั้งอันตรายทั้งแปลกประหลาดเช่นนี้ เธอจะทำอะไรได้ เธอควรจะทำอย่างไร?

กู้จิ้งตัวสั่น ตามองผู้ชายตรงหน้าอย่างระแวดระวัง

เขาถูกเธอทำร้ายแบบนี้ คงไม่ได้คิดจะฆ่าเธอ หรือไม่ก็ข่มขืนก่อนแล้วค่อยฆ่าหรอกนะ? ตอนนี้ข้อเท้าของเธอแพลง มีดก็ไม่มี แถมฝ่ายตรงข้ามยังดูทรงพลังน่าเกรงขามถึงเพียงนี้ เธอมีสิทธิ์ถูกฆ่าหมกสวนแตงได้ง่ายๆ เลย!

ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มก็ก้มลงมาอุ้มร่างของเธอขึ้นไปกอดเอาไว้

กู้จิ้งตั้งท่าจะดิ้น ทว่าคิดๆ ดูก็ยอมอยู่เฉยๆ แต่โดยดี

ดิ้นรนไปก็เสียแรงเปล่า

สิ่งที่เธอควรทำในตอนนี้คือคิดว่า… อีกสักเดี๋ยวในจังหวะที่คลุกวงในกันเธอควรจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องตัวเองให้มากที่สุด และต้องอย่าลืมว่าจบเรื่องแล้วต้องกินยาคุมฉุกเฉิน ป้องกันไม่ให้ตั้งครรภ์ขึ้นมา

ชายหนุ่มอุ้มเธอเดินไปที่เพิง เพิงนั้นเตี้ยมาก เขาจึงต้องค้อมกายมุดเข้าไป

พอเขาก้มลง คางของเขาก็สัมผัสโดนจมูกของเธอ

ริมฝีปากบางของเขาเม้มแน่นเป็นเส้นตรง ดูไม่ค่อยเข้ากับภาพลักษณ์ของผู้ชายหยาบกร้านไม่มีความรู้เช่นเขาสักเท่าไหร่

จมูกของเขาโด่งเหมือนเคยทำศัลยกรรมมาก่อน

ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาสัมผัสกับแก้มของเธอเบาๆ

ในยามคับขันเช่นนี้ กู้จิ้งยังมีอารมณ์คิดเรื่องเหลวไหลอย่างไม่น่าเชื่อ ‘ถ้าเล็มเคราบนคางของเขาให้ดีแล้วตัดผมยาวๆ ให้เป็นทรงเสียหน่อย เขาคงจะดูไม่เลวเลย’

แน่นอน ถึงตอนนี้เขาจะดูสกปรกซกมกแต่ก็ดูเซ็กซี่แบบเถื่อนๆ เปี่ยมด้วยเสน่ห์ของลูกผู้ชาย

กู้จิ้งกำลังหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง จู่ๆ ก็รู้สึกเย็นวาบตรงบั้นท้าย เธอเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเขาวางเธอลงบนพื้นแล้ว

จริงๆ ก็ไม่ใช่พื้นดินหรอก พูดให้ถูกต้องบอกว่าวางลงบนเสื่อที่ปูไว้บนพื้น

มันเป็นเสื่อขาดๆ ที่ดูก็รู้ว่าเก่ามากแล้ว

หลังจากวางกู้จิ้งลงบนเสื่อ เขาก็เดินออกไปข้างนอกอีก

กู้จิ้งอดคาดเดาไปต่างๆ นานาไม่ได้ แต่ตอนนี้ข้อเท้าของเธอแพลง คิดหนีเป็นเรื่องยาก เธอจึงหันไปกวาดตามองสำรวจเพิงแห่งนี้แทน

บนเสื่อมีเสื้อคลุมสีครามที่ถูกซักจนซีดโยนทิ้งไว้ตัวหนึ่ง

ด้านข้างมีน้ำเต้าซึ่งมีเชือกห้อยอันหนึ่ง เคียวที่ถูกลับไว้จนคมกริบเล่มหนึ่ง และถุงผ้าใบหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะมีมันฝรั่งอยู่หลายหัว

หลังจากสำรวจดูรอบหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นก็กลับเข้ามา

ร่างสูงใหญ่แข็งแรงของเขามุดเข้ามาในเพิงซึ่งเห็นได้ชัดว่าเตี้ยกว่าตัวของเขามาก จากนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งยองๆ ตรงหน้าเธอ

กู้จิ้งก้มลงมองก็พบว่าในมือของเขามีพืชสีเขียวๆ อยู่หลายต้น ดูเหมือนกับยาสมุนไพร?

เมื่อก่อนกู้จิ้งเคยเรียนวิชาแพทย์แผนจีนมาบ้าง จึงพอจะมองออกว่าในจำนวนพืชเหล่านั้นมีเป้าซู่เหลียนซึ่งมีสรรพคุณช่วยห้ามเลือด, ลดอาการบวม, ช่วยให้เลือดไหลเวียนสะดวก, แก้ฟกช้ำอยู่ด้วย

ดวงตาของเธอเปล่งประกายวูบ ใจคิดว่าควรทำอย่างไรถึงจะได้มันมาประคบข้อเท้าของตัวเอง

คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เขาจะเอาเป้าซู่เหลียนใส่ปากเคี้ยวๆๆ จากนั้นเขาก็ยื่นมือข้างหนึ่งมากุมเท้าของเธอไว้ก่อนจะคายเป้าซู่เหลียนออกมาพอกลงบนข้อเท้าของเธอ

อ๊าๆๆๆ

กู้จิ้งเบิกตามองชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ

เป้าซู่เหลียนมีสรรพคุณช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี, แก้ฟกช้ำก็จริง แต่อย่าใช้วิธีหยาบคายป่าเถื่อนแบบนี้จะได้ไหม แถมเขายังใช้ปาก… เขาแปรงฟันก่อนหรือเปล่า บ้วนน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนหรือเปล่า…

ยังมีมือที่จับเท้าของเธอเอาไว้ก็แข็งยังกับคีมเหล็ก หนีบจนเธอเจ็บเท้าจะตายอยู่แล้ว!

เธอคิดว่าถึงข้อเท้าของเธอจะโชคดีถูกวิธีป่าเถื่อนแบบนี้รักษาจนหายได้ แต่กระดูกเท้าก็อาจจะแหลกเป็นผุยผงแทน!

ระหว่างที่เธอกำลังมองเขาด้วยความงุนงงอยู่นั้นเอง ในที่สุดเขาก็ยอมเมตตาปล่อยเท้าของเธอเสียที

พอได้รับอิสระ กู้จิ้งก็เอื้อมมือไปลูบเท้าที่น่าสงสารของตัวเองน้ำตาคลอ ใจคิดว่าคราวนี้ดวงซวยจริงๆ

ชายหนุ่มดูเหมือนจะสังเกตเห็นท่าทางน่าสงสารของกู้จิ้งเช่นกัน เขาจึงเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่าง

กู้จิ้งฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็พอจะเดาได้

เขาคงกำลังพูดว่า “ขอเพียงเธอยอมเป็นเมียของฉันแต่โดยดี มีลูกชายอวบอ้วนให้ฉันหลายๆ คน ฉันจะดีต่อเธอ”

แต่เธอจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเด็ดขาด

ระหว่างที่กู้จิ้งกำลังคิดเช่นนี้ เขาก็เริ่มทำแผลให้ตัวเอง วิธีที่เขาทำแผลให้ตัวเองดูป่าเถื่อนยิ่งกว่าที่ทำให้เธอเสียอีก แค่พอกยาแล้วฉีกผ้าชิ้นหนึ่งจากกางเกงมาพันๆๆ แขน เท่านี้ก็เรียบร้อย

กู้จิ้งซึ่งมองดูอยู่ด้านข้างเริ่มใช้ความคิดเงียบๆ

ถึงผู้ชายคนนี้จะดูหยาบกร้านล้าหลังโง่เง่า แถมยังเป็นพวกบ้ากามชอบใช้ความรุนแรงที่ไม่เคยเห็นผู้หญิงมาแปดชาติ แต่ดูๆ แล้วเนื้อแท้ของเขาก็ไม่ใช่คนไม่ดี

อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้คิดจะมีอะไรกับเธอในช่วงที่ข้อเท้าของเธอยังบวมเหมือนลูกซาลาเปาแบบนี้

ดังนั้น โจรก็มีจรรยาบรรณของโจร นี่คือผู้ชายหยาบกร้านล้าหลังโง่เง่าที่ยังพอจะมีจิตสำนึกอยู่บ้าง

“@#$%&*@#$%” ผู้ชายบ้านนอกหน้าโง่เอ่ยปากพูดกับกู้จิ้งอีก จากนั้นก็เปิดน้ำเต้าออกดื่มน้ำก่อนจะโยนมาให้เธอ

กู้จิ้งหยิบน้ำเต้าขึ้นมามองเข้าไปด้านใน จากนั้นก็หลับตาดื่มลงไปบ้าง

อดทนต่อความอับอายและยากลำบาก รักษากำลังเอาไว้ หาทางหลบหนีไปให้ได้ เธอพร่ำบอกตัวเองในใจ

ฝืนดื่มน้ำลงไปหลายอึก เช็ดปากเสร็จ ผู้ชายบ้านนอกหน้าโง่หยาบกร้านคนนั้นก็เอนกายลงบนเสื่อ หันหลังให้เธอแล้วหลับไปทันที

เขาใช้พื้นที่เพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเสื่อ ดูท่าคงคิดจะเหลือพื้นที่อีกครึ่งหนึ่งให้เธอ

กู้จิ้งนั่งอยู่บนเสื่อพลางใช้สมองครุ่นคิดรอบหนึ่ง จากนั้นจึงเลือกมุมที่มีรูโหว่น้อยที่สุดล้มตัวลงนอนอย่างระมัดระวัง

เพิงแห่งนี้ซอมซ่อมากจนสามารถมองลอดรูโหว่บนหลังคาขึ้นไปเห็นดวงดาว รวมทั้งพระจันทร์สีเลือดซึ่งกำลังจะกลับคืนสู่สภาพเดิมบนท้องฟ้าดวงนั้นได้

เธอนอนอยู่ในเพิงที่ไม่คุ้นเคย ข้างกายคือชายหนุ่มซึ่งมีกลิ่นฮอร์โมนฟุ้งกระจาย กู้จิ้งพยายามข่มตาให้หลับ

ในใจท่องคำว่า ‘อดทนต่อความอับอายและยากลำบาก รักษากำลังเอาไว้ หาทางหลบหนีไปให้ได้’ ซ้ำเป็นรอบที่หนึ่งร้อย

 

พอเซียวเถี่ยเฟิงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาเห็นพระจันทร์สีเลือด

จู่ๆ เขาก็นึกถึงช่วงที่นั่งรับลมอยู่ใต้ต้นหลิวในฤดูร้อนพลางฟังตาเฒ่าซุนซึ่งมีอายุมากที่สุดในหมู่บ้านเล่านิทานให้ฟังสมัยยังเด็ก ตาเฒ่าซุนบอกว่าในเขาเว่ยอวิ๋นมีปีศาจตนหนึ่งซ่อนอยู่ ปกติมันจะบำเพ็ญตบะอยู่ในภูเขา หลายร้อยปีถึงจะออกมาสักครั้ง

หากนางออกจากภูเขามาที่หมู่บ้านเมื่อไหร่ ผู้ชายคนแรกที่พบจะถูกนางเลือกเป็นสามีแล้วพากลับไปอยู่ที่ถ้ำ

ผู้ชายคนนั้นจะถูกกักขังเอาไว้ให้ใช้ชีวิตอยู่เป็นเพื่อนปีศาจสาวในป่าจนกระทั่งพลังชีวิตเหือดแห้ง ร่างกายผ่ายผอมจนเหลือแต่โครงกระดูก ปีศาจสาวถึงจะยอมปล่อยเขากลับไปที่หมู่บ้าน

“คนล่าสุดที่ถูกนางปีศาจทำร้ายเป็นลูกชายของ…น้าของลุงของปู่ของปู่ข้า ได้ยินว่าเขาถูกนางปีศาจปล่อยกลับมาแค่สองวันก็ตายอยู่บนเตียงที่บ้าน ก่อนตายไอ้นั่นยังตั้งเด่ สิ้นลมไปแล้วก็ยังไม่อ่อนลงเลย!”

ตอนนั้นเซียวเถี่ยเฟิงยังเด็ก ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ก่อนตายยังตั้งเด่ สิ้นลมไปแล้วก็ยังไม่อ่อนลง จนกระทั่งโตขึ้น เขาถึงได้เข้าใจ

โดยเฉพาะตอนนี้ เมื่อเขาได้เห็นพระจันทร์สีเลือด ได้เห็นปีศาจสาว เขาก็ยิ่งเข้าใจความหมายของคำพูดนั้น เข้าใจความรู้สึก เข้าใจความทรมาน!

เซียวเถี่ยเฟิงก้มลงมองปีศาจสาวซึ่งหลายร้อยปีจะปรากฏตัวออกมาสักครั้ง พอคิดว่านางทำร้ายชีวิตผู้คนไปแล้วไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เขาก็กัดฟันแน่น ใจคิดอยากบีบคอนางให้หักเสียให้รู้แล้วรู้รอด

เขาจ้องใบหน้าเย็นชาแต่งามหยาดเยิ้มของนางพลางคิดด้วยความเจ็บปวด นางคงจะเคยพบเจอผู้ชายที่เหมือนกับเขามามากมายสินะ…

ชายหนุ่มมองสำรวจใบหน้านั้นอีกครั้ง ความปรารถนาในร่างไม่อาจสะกดกลั้นไว้ได้อีก หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก

ทำไมนางถึงได้เจ้าเล่ห์แบบนี้ ทำไมต้องทำหน้าแบบนี้ด้วย?

บนใบหน้าเย็นชาไร้ซึ่งความปรารถนาใดๆ ของนางแฝงด้วยความงุนงง ราวกับไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น!

ปีศาจสาวจอมเสแสร้ง

แต่ปีศาจที่สังหารผู้คนมาแล้วไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ กระทำเรื่องเลวร้ายดูดไอหยางของบุรุษมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ซ้ำยังเสแสร้งเก่งนางนี้ กลับทำให้เขาไม่อาจละสายตาได้เลย!

ชายหนุ่มสูดหายใจลึกพลางกำหมัดแน่น พยายามบังคับตัวเองให้หันหน้าไปมองทางอื่น มองทางอื่น มองทางอื่น!

สุดท้ายเขาก็เบนสายตาหลบจากความขาวผ่องใต้ลำคอและขาเรียวยาวของนางแล้วมองไปที่ข้อเท้าแทน

ข้าจับปีศาจสาวได้ตัว

ข้าจับปีศาจสาวได้ตัว

ในถุงหนังนั่นมีอะไร? เขาคิดจะเปิด แต่จู่ ๆ ปากถุงก็คลี่ออกเองเสียอย่างนั้น จากนั้นศีรษะของใครบางคนก็โผล่ขึ้นมา ถึงตอนนี้ เซียวเถี่ยเฟิงถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วบนโลกนี้มีปีศาจอยู่จริง ที่แท้ปีศาจก็ไม่จำเป็นต้องงามหยาดเยิ้มเหมือนชุนเถาเอ๋อผู้งามล้ำในหมู่บ้าน ไม่จำเป็นต้องมากรักเหมือนแม่ม่ายซิ่วเฟิน นางเพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั้น แล้วมองมาด้วยสายตาเรียบเฉยก็สามารถทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงได้แล้ว เขารู้ว่าตัวเองกำลังจะสูญเสียการควบคุม ตรงหน้าคือหุบเหวลึก หากยังคงก้าวเดินต่อคงไม่เหลือแม้แต่ซาก ดังนั้นเขาจะต้องควบคุมตัวเองให้ได้ ทว่าจู่ ๆ นางก็เลียริมฝีปาก…

Options

not work with dark mode
Reset