ข้ามเวลาล่าฝัน – ตอนที่ 0 บทนำ 2

“อะไรนะครับ?”

ทันใดนั้นเองหญิงชราในชุดพื้นบ้านสีขาวได้เดินออกมาจากด้านหลังของหญิงสาว มารุรู้จักหญิงชราคนนี้ดี เธอคือเพื่อนบ้านของเขา คนที่หาเลี้ยงปากท้องด้วยการเก็บกระดาษเก่าขาย คุณ ยู โบคยา

“แม่” นั่นคือคำเรียกที่เขาใช้เรียกหญิงชรา

แน่นอนว่าเธอไม่ใช่แม่จริง ๆ ของเขา แต่เขาเริ่มเรียกเธอแบบนั้นหลังได้รู้จักกัน

“คุณยูตัดสินใจที่จะมอบโอกาสของเธอให้คุณ คุณฮาน” หญิงสาวกล่าว

“โอกาส? โอกาสอะไร?” คำอธิบายของหญิงสาวมีแต่ทำให้เขางงงวยมากขึ้น

“โอกาสที่จะใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง” หญิงสาวกล่าว

น่าเสียดายที่คำอธิบายนั้นไม่ได้ช่วยอะไรมาก หญิงชราเดินเข้ามาบีบมือของมารุไว้

“ชีวิตของแม่มีความสุขได้เพราะลูก แม่ขอบคุณจริง ๆ ที่คอยดูแลแม่ดีเสียยิ่งกว่าลูกแท้ ๆ ของแม่” มารุมองไปที่มือของหญิงชราที่เต็มไปด้วยรอยกระ เขามักจะคอยช่วยเธอเข็นรถเก็บของเก่าเสมอ เมื่อเขาเห็นเธอเข็นรถอยู่คนเดียวท่ามกลางความหนาวเย็น เขาไม่ได้ทำเพราะหวังผลอะไร เขาแค่ทำไปเพื่อจะได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอบ้างเท่านั้นเอง

“แม่จะบอกว่าให้โอกาสผมใช้ชีวิตใหม่แทนแม่เหรอ” เขาถาม หญิงชราตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ใช่” เธอพูด

มารุส่ายหัวปฏิเสธ “ไม่ได้นะแม่ ผมไม่ควร…”

หญิงชราพูดขัดขึ้นก่อนมารุจะทันพูดจบประโยค “แม่ไม่คิดที่จะใช้ชีวิตใหม่อีกรอบหรอก มันโหดร้าย แม่ไม่อยากต้องเผชิญหน้ากับสงครามอีกแล้ว แม่ไม่อยากต้องใช้ชีวิตที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนตลอดเวลา แบบนี้แหละดีแล้ว เพื่อน ๆ ของแม่เองก็รอแม่อยู่บนสวรรค์เหมือนกัน”

หญิงชรายิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะพูดต่อไป “แต่ลูกน่ะไม่ใช่ มารุ ลูกยังหนุ่ม แม่ทนเห็นลูกจากไปแบบนี้ไม่ได้หรอก” หญิงชรากำมือมารุไว้แน่น “คิดเสียว่านี่เป็นของขวัญตอบแทนที่คอยดูแลแม่มาตลอดนะ”

“แม่…” มารุหมดคำจะคัดค้าน

“ช่วยรับโอกาสนี้ไว้ให้แม่ด้วยเถอะ”

จากนั้น หญิงชราก็เลือนหายไปจากสายตา มารุหันกลับไปมองที่หญิงสาวด้วยความงุนงง

“แน่นอนว่ามันมีข้อจำกัดอยู่นะคะ” เธออธิบาย “ความทรงจำของคุณจะไม่สมบูรณ์ หมายความว่าคุณจะใช้ความทรงจำไปซื้อหวยให้ถูกไม่ได้ค่ะ”

“ผมจะเริ่มชีวิตอีกครั้งได้จริง ๆ เหรอ?”

หญิงสาวพยักหน้าตอบรับ ทำให้มารุเริ่มครุนคิด การใช้ชีวิตอีกครั้ง มันจะเป็นยังไงกันนะ คำถามนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเขา

“เออ…” “คุณสามารถไปเจอภรรยาคนปัจจุบันได้” หญิงสาวตอบคำถามให้ “แน่นอนว่าจะไปพบเธออีกครั้งหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคุณค่ะ คุณฮาน อ่า แล้วก็คุณจะได้ความสามารถติดตัวไปด้วยนะคะ”

“ความสามารถ?” ความสามารถแบบไหนกัน แบบในหนังสือการ์ตูนน่ะเหรอ หรือความสามารถแบบที่ทำอาหารได้อร่อยกว่าชาวบ้าน? แต่หญิงสาวดูไม่มีทีท่าว่าจะตอบคำถามนี้เลย

“คิดเสียว่ามันเป็นของขวัญจากการที่ทำให้คนมากมายมีความสุขเถอะค่ะ และก็นี่เป็นของขวัญที่คุณยูทิ้งไว้ให้ก่อนขึ้นสวรรค์ไปด้วย”

ตอนนี้มารุเริ่มจะสงสัยแล้วว่าคุณยูความจริงแล้วเป็นใครกันแน่ บนสวรรค์เธอเป็นยังไง ทำไมเธอถึงได้มอบสิ่งต่าง ๆ ให้เขามากมายขนาดนี้ และหญิงสาวก็ดูเหมือนจะอ่านความคิดของเขาได้อีกครา

“เธอเป็นผู้ที่มอบความอ่อนโยนอย่างมหาศาลให้กับโลกตลอดชีวิตของเธอ เพราะแบบนั้นฉันถึงได้ให้โอกาสเธอ ถึงตอนนี้คุณจะเป็นคนได้โอกาสนั้นแทนก็ตาม”

หญิงสาวยื่นมือมาที่เขา ในมือนั้นมียาเม็ดเล็ก ๆ อยู่

“ถ้าคุณกลืนมัน คุณจะได้กลับไปใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่น”

“หมายความว่า…”

“ตอนเริ่มเข้ามัธยมปลาย ปี 1” เธอตอบ

มารุจำช่วงเวลาสมัยมัธยมปลายได้ไม่ค่อยดีนัก เขามีเพื่อนที่ยังติดต่ออยู่ไม่กี่คน หลังจากผ่านมากว่า20 ปี แน่นอนว่าความทรงจำของเขาก็เริ่มจางหายไป

“คุณจะรู้มากขึ้นเองหลังจากคุณตื่นขึ้น”

มารุได้รับยามา หญิงสาวยิ้มให้กับเขา

“ชีวิตครั้งนี้ได้โปรดอย่าให้ผู้อื่นมากจนเกินไป การพยายามทำให้คนอื่นมีความสุขน่ะเป็นเรื่องที่ดี แต่คุณเสียสละตัวเองมากจนเกินไป”

มารุยิ้มอ่อน ๆ “ผมไม่ได้ใส่ใจคนรอบข้างมากขนาดนั้นหรอกครับ”

เขามองไปที่ยาอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่าตัวเองอยากกลับไปใช้ชีวิตในช่วงมัธยมอีกครั้งจริง ๆ ไหม ทันใดนั้นมือที่เต็มไปด้วยรอยกระก็โผล่ขึ้นมาดันยาลงไปในปากของเขา มารุหันไปมองอย่างแตกตื่นก่อนจะพบใบหน้าของหญิงชราส่งยิ้มให้

“คราวนี้ขอให้มีความสุขนะ”

ด้วยเหตุนั้น มารุจึงหมดสติลงอีกครา

* * *

หลายครั้งคนเรามักคิดว่า “ถ้ากลับไปตอนนั้นได้…” หลังหายเหนื่อยจากสงครามการสอบ พวกเขาก็ต้องเริ่มคิดเรื่องการหางาน หลังจากหางานและเริ่มตั้งหลักได้ ก็ต้องมาเจอความกดดันจากหัวหน้างาน หลังจากที่พวกเขาได้เลื่อนตำแหน่งจนทำงานสบายขึ้น ลูก ๆ ของพวกเขาก็กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย

ถ้าพวกเขารู้ว่ามันจะลำบากขนาดนี้ ทำไมตอนนั้นไม่ใช่ชีวิตให้มันสนุกสนานไปนะ? ทำไมตอนนั้นไม่พยายามให้มากกว่านั้นนะ? ทำไมตอนนั้นถึงตัดสินใจทำแบบนั้นลงไปนะ? ทุก ๆ วันคนนับล้าน หรืออาจจะนับสิบล้านกำลังครุ่นคิดถึงอดีตไปพร้อมกับความเสียใจในชีวิต

และ… สำหรับฮาน มารุความฝันนั้นกลายเป็นความจริงสำหรับเขา เขาได้ยินเสียงของคอมพิวเตอร์ดังอยู่ด้านหลัง ถึงจอจะปิดอยู่แต่เสียงใบพัดของเครื่องก็ยังทำงานอย่างเต็มที่ เขาสังเกตเห็นรายการที่แปะติดบนผนังข้าง ๆ ตัวเขา ความตั้งใจที่เขาตั้งไว้หลังจบจากมัธยมต้นมาสินะ

“ฟู่ว” เขานั่งลงพร้อมใช้นิ้วหัวแม่มือกดนวดไปที่บริเวณขมับของตัวเอง เขารู้สึกได้ถึงความอุ่นที่ก้นที่ได้มาจากผ้าห่มไฟฟ้า

มารุหลุดขำออกมาเบา ๆ ในห้องเล็ก ๆ นี้ เสื้อผ้าที่กระจัดกระจาย กองหนังสือการ์ตูนที่มุมห้อง พร้อมด้วยหนังสือเก่า ๆ จากห้องสมุดที่เขาไม่มีเวลาได้อ่านมันเสียที ถุงขนมที่ถูกเปิดทิ้งไว้เมื่อคืน ยังคงตั้งอยู่ข้างคอมพิวเตอร์ กระเป๋าใบใหม่ที่วางไว้ข้างตัว และ…

มารุพยายามล้วงมือเข้าไปใต้หมอน ที่นั่นมีโทรศัพท์มือถือของเขาอยู่ มันเป็นนิสัยที่แก้ไม่หายจนวันตาย หลังจากครั้งหนึ่งเขาเคยเหยียบโทรศัพท์ของตัวเองหลังตื่นนอน ทำให้เขามีนิสัยที่จะวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้าง หรือใต้หมอนเวลานอน

“มัธยมปลาย ปี 1 เหรอ?” เขาพึมพำกับตัวเอง

มารุเปิดโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นตาในมือขึ้น ใช่ นี่คือหน้าตาของโทรศัพท์มือถือในยุคนั้น แต่อีกไม่นาน…

“มันจะเป็นยังไงนะ?”

เขาจำได้ว่าโทรศัพท์นั้นเปลี่ยนรูปแบบไป แต่จำไม่ได้ว่าเปลี่ยนไปเป็นแบบไหน

“เป็นแบบนี้เองเหรอ” มารุนึกขึ้นได้

มารุยังจำคำของหญิงสาวได้ ที่ว่าความทรงจำของเขาจะไม่สมบูรณ์ เขาจำเรื่องในชีวิตตอนเขาอายุ 45 แทบไม่ได้ เอาเข้าจริง ๆ ความทรงจำว่าเมื่อวานกินอะไรไปยังจะชัดเจนกว่าเสียด้วยซ้ำ

“ขี้แตก ตีนยักษ์ เหี้ย แซลมอน ตาโต…”

เขายังจำฉายาของเพื่อนสมัยมัธยมต้นของเขาได้อย่างชัดเจน สิ่งที่เขาพอจำได้เกี่ยวกับชีวิตตอนอายุ 45 นั้น… คือเรื่องที่ว่าทะเบียนรถที่เขาขับคือ 32 แต่กลับจำชื่อบริษัทเจ้าของรถไม่ได้

อาจจะเป็นเพราะแบบนี้ จึงทำให้เขาไม่สับสนมากหลังจากตื่นนอนขึ้นมา เพราะความทรงจำชาติก่อนไม่ได้ส่งผลกับความทรงจำปัจจุบันมากนัก ราวกับว่าเขาพึ่งตื่นขึ้นจากความฝันอันยาวนาน ความฝันที่ตื่นขึ้นมาแล้ว จำรายละเอียดไม่ค่อยได้

แต่ก็ยังมีหลาย ๆ เรื่องที่เขายังจำได้ดี เช่นเรื่องที่ว่าเขามีลูกสาวที่แทบจะอ้วกทุกครั้ง ถ้าได้กลิ่นเท้าของเขา หรือเรื่องที่ว่าเขามีภรรยาที่อ่อนโยนมากพอจะรักคนอย่างเขาได้ เขายังคงจำครอบครัวของเขาได้

มารุเงยหน้ามองไปยังเพดาน

“ฉัน… กลับมาจริง ๆ สินะเนี่ย”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset