ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 101: การเนืองเลือดที่บ้านดอกไม้พระจันทร์

เมื่อเห็นหนึ่งในผู้สืบทอดถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาเขา ฉีปู่ฝานรู้สึกเย็นเยียบเหมือนกับว่าเขาถูกสาดน้ำเย็นไป
 
ทันทีหลังจากนั้นเขาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
 
ผู้สืบทอดที่เป็นหนึ่งในสิบชั้นยอดถูกเขาฆ่าทิ้งไป ไม่ใช่แค่คนธรรมดาทั่วไป!
 
“เฉินเฉิน! แกกล้าดียังไงกัน?! ถ้าข้าฆ่าแกทิ้งตอนนี้ มันจะไม่มีใครในสามสิบหกสำนักจะพูดอะไรถึงเรื่องนี้!”
 
ฉีปู่ฝานลุกขึ้นยืน ก่อนที่แรงกดดันจิตวิญญาณจะออกมาจากร่างกายของเขาเขากระโดดขึ้นไปบนเพดานของบ้านดอกไม้พระจันทร์ แสงดาวที่ส่องประกายบนท้องฟ้าทอดลงมาในห้อง
 
ผู้สืบทอดอีกคนก็กระโดดถอยกลับไปพร้อมกับพลังปราณป้องกันที่มากมายจนล้นหลาม เขาจ้องไปที่เฉินเฉินด้วยความโกรธเคืองเหมือนกับว่าเขาเป็นศัตรูคู่อาฆาต
 
ไม่ว่ายังไงก็ตาม คนที่อยู่หน้าเขาสังหารผู้สืบทอดไปคนหนึ่ง ดังนั้นการกระทำของเขาก็ไม่ได้มากมายเกินไป
 
เมื่อเห็นดังนี้ เฉินเฉินยังคงยืนนิ่งอยู่และรอให้คนในบ้านดอกไม้พระจันทร์วิ่งหนีไป ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างเย็นชา “ตั้งแต่ที่เจ้าโจมตีคนของข้า เจ้าควรที่จะเตรียมรับความตายไว้นะ อันดับสอง? ชื่อเสียงอันยอดเยี่ยมงั้นเหรอ? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นอันดับสองของคนวัยเยาว์ในรัฐจิน?”
 
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฉินแล้ว มันมีร่องรอยของความจริงจังปรากฏขึ้นในดวงตาของฉีปู่ฝาน
 
เขาคิดว่าตัวเองเป็นอันดับสองของรัฐจินจริงๆ
 
หลังจากเงียบไปสักพัก ฉีปู่ฝานก็พูดแทรกขึ้นมา “เจ้าอยากตายมากสินะ!” ในเวลาเดียวกัน เปลวเพลิงดำพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา ซึ่งมันก็คือเปลวเพลิงความสงบดับสิ้นซึ่งจะเผาไหม้พลังปราณ
 
เฉินเฉินมองไปที่เปลวเพลิงอย่างเงียบงัน แสงจันทร์จากบนท้องฟ้าดูหม่นหมองลง ก่อนที่เมฆที่มืดครึ้มจะปกคลุมด้านบนของบ้านดอกไม้พระจันทร์
 
เมื่อเทียบกับท้องฟ้าที่มืดครึ้มที่จัดการจูตี่ไปก่อนหน้านี้ เมฆก้อนนี้ดูใหญ่กว่ามาก เมื่อคนที่อยู่ใกล้กับบ้านดอกไม้พระจันทร์เห็นมัน  พวกเขาต่างถอยหนีด้วยความหวาดกลัว
 
แม้แต่กู่ฉินเจิ้งก็รีบหนีไปเช่นกัน
 
บึ้ม!
 
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น!
 
บ้านดอกไม้พระจันทร์ชั้นเจ็ดหายไปไร้ร่องรอยและก่อนที่คนจากระยะไกลจะตั้งตัวได้ สายฟ้าก็ฟาดลงมาอย่างกับเม็ดฝนที่ตกลง เมฆบนท้องฟ้าดูเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
 
ไม่กี่ชั่วครู่ต่อมา สายฟ้าฟาดลงมาเกือบหนึ่งร้อยครั้ง!
 
ฝูงชนอดที่จะหน้าซีดกับสิ่งที่พวกเขาเห็นไม่ได้ ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ชั้นเจ็ดของบ้านดอกไม้พระจันทร์ที่ดูหรูหราและงดงามก็กลายเป็นเศษซากปรักหักพัง
 
ด้านบนเศษซากตึก เฉินเฉินยืนอยู่อย่างเงียบงัน ในขณะที่ฉีปู่ฝานที่อยู่ข้างเขานั้นมีผมที่ยุ่งเหยิงรวมทั้งเสื้อผ้าที่ไหม้เกรียมของเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
 
ในอีกด้านหนึ่ง ผู้สืบทอดอีกคนหนึ่งกลายเป็นศพไหม้เกรียมด้านใต้เศษซากปรักหักพัง
 
ฉีปู่ฝานตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง “เฉินเฉิน อย่ามากเกินไปและรังแกคนอื่น! ลูกน้องของเจ้าก็แค่คนที่อยู่ขั้นฝึกพลังปราณเท่านั้นเอง!”
 
เส้นเลือดปูดโปนขึ้นบนหน้าผากของเขา เขาถอยกลับด้วยใบหน้าที่ดูเกรี้ยวกราด
 
“เขาคือน้องชายของข้า”
 
เมื่อเฉินเฉินพูดจบ สายฟ้าบนท้องฟ้าก็ส่องประกายมากกว่าเดิม
 
เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันมากมายด้านบนหัวของเขาแล้ว ฉีปู่ฝานก็กระทืบลงไปบนพื้นและพื้นที่รอบเขาสิบเมตรก็เปลี่ยนกลายเป็นมังกรเพลิงก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่เฉินเฉิน
 
เมื่อเห็นดังนี้แล้ว เฉินเฉินไม่ได้สู้กลับเลยสักนิด เพียงเวลาไม่นานเขาก็ถูกล้อมรอบโดยเพลิงดำแล้วพลังปราณในร่างของเขาก็ถูกเผาผลาญไปอย่างรวดเร็ว
 
เห็นดังนี้แล้ว หัวใจของฉีปู่ฝานก็ใจเย็นลง
 
ยังไงก็ตามก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรต่อ เขาก็สัมผัสได้ว่าพลังปราณในอากาศรอบตัวเขากำลังพุ่งเข้าหาเฉินเฉินราวกับคลื่นน้ำ
 
เขาพบว่ามันยากขึ้นเล็กน้อยในการควบคุมพลังปราณในอากาศ
 
ในอีกด้านหนึ่ง เฉินเฉินอาจจะถูกเปลี่ยนไปเป็นลูกบอลไฟ แต่แรงกดดันจิตวิญญาณของเขาก็ดูแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน
 
ฉีปู่ฝานตกใจ
 
ความเร็วที่เปลวเพลิงความสงบดับสิ้นเผาพลังปราณมันไม่ได้เร็วเท่ากับอีกฝ่ายที่ฟื้นพลังปราณไป มันมีตัวตนที่อยู่ขั้นกลางของขั้นสร้างรากฐานแบบนี้ได้ยังไงกันเนี่ย?
 
เพียงแค่เขากำลังตกใจอยู่นั้นเอง เฉินเฉินก็โบกมือที่ปกคลุมไปด้วยเพลิงดำและสายฟ้าฟาดก็ล่วงลงมาจากบนท้องฟ้า
 
กระแสพลังทำลายล้างที่อยู่ในสายฟ้ามันทำให้ฉีปู่ฝานหน้าซีดทันที
 
ฉีปู่ฝานหันหลังหนีอย่างสุดกำลัง
 
ยังไงก็ตามความเร็วของเขายังเทียบกับสายฟ้าไม่ได้ ก่อนที่เขาจะหนีไปได้หลายเมตร สายฟ้าก็ได้ฟาดลงไปบนหัวของเขาจนเขาแทบวิญญาณหลุด ก่อนที่เขาจะกระแทกลงไปในซากปรักหักพัง
 
ในเวลานี้เองเขาก็ได้รับประสบการณ์ที่จูตี่รู้สึกตอนนั้น
 
เขามองไปที่เกราะในที่ส่องประกายบนร่างกายของฉีปู่ฝาน เฉินเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย
 
พูดตามจริงแล้ว การโจมตีนั้นน่าระเบิดฉีปู่ฝานกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว แต่เกราะในของเขามันพิเศษมากและป้องกันการโจมตีด้วยสายฟ้าส่วนใหญ่
 
ยังไงก็ตาม แม้ว่าจะเป็นแบบนั้นแล้ว ฉีปู่ฝานก็ยังไม่ตาย
 
หมอกที่มืดหม่นบนท้องฟ้าเริ่มสลายหายไปและเฉินเฉินก็ปล่อยพลังปราณในร่างกายของเขาไปจนหมด ก่อนที่เปลวเพลิงดำจะจางหายไป
 
ในเวลานี้เอง มีคนมากมายหลายคนกำลังจ้องมาที่เขา รวมทั้งเย่หวู่เชิง เซี่ยวฮวงและผู้สืบทอดจากสามสิบหกสำนักคนอื่น
 
บนถนนที่หรูหราในเมืองหลวงแห่งนี้ พวกเขาส่วนใหญ่ต่างอาศัยอยู่กันบริเวณนี้
 
มันเกิดการต่อสู้ขึ้นครั้งใหญ่ขึ้น ดังนั้นมันไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่ได้ยินเสียงการต่อสู้นี้
 
พวกเขาต่างมีสีหน้าที่ซับซ้อนกับสิ่งที่พวกเขาเห็น
 
พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าระดับสองของรัฐจินจะถูกทำร้ายเช่นนั้น
 

 
“เจ้า…เจ้าฆ่าข้าไมได้นะ ข้ามาจากสำนักอู๋ซิ่น ถ้าเจ้าสังหารข้าแบบนี้ สำนักอู๋ซิ่นจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”
 
ใบหน้าที่ซีดเซียวของฉีปู่ฝานจมลงอยู่กับพื้น เสียงของเขาสั่นสะท้านเล็กน้อย
 
ในคืนนี้มันควรที่จะเป็นจุดสูงสดของชีวิตของเขา แต่ใครจะคิดไปกันว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกัน? ก่อนที่เขาจะเพลิดเพลินกับชื่อเสียงที่เขาได้รับมา เขากลับตกลงสู่พื้นด้านล่างแล้วเสียนี่
 
ทันทีที่เขาพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา แสงส่องประกายขึ้นจากระยะไกล
 
“ยามเมืองกำลังทำหน้าที่ของเขา คนที่อยู่ด้านหน้ารีบไปหยุดเร็วเข้า!”
 
ฉีปู่ฝานเพลิดเพลินกับเสียงที่เขาได้ยิน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสุข เมื่อเขาคิดว่าเขาจะรอดชีวิตไปได้
 
‘ในที่สุดยามของเมืองก็มาแล้ว! ทำไมเจ้าพวกโง่นี่ถึงใช้เวลานานจริง?!’
 
ก่อนที่เขาจะได้บ่นต่อ ความสุขในดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก เมื่อเขาเห็นดาบยาวในมือของเฉินเฉิน
 
ดาบยาวของเขาเต็มไปด้วยความอมหิต เพียงแค่มองแวบเดียวก็บอกได้เลยว่ามันดื่มเลือดไปเยอะมาก
 
“ไม่นะ..” ฉีปู่ฝานพูดพึมพำออกมา เขาหน้าซีดเซียวและไม่สามารถที่จะใจเย็นได้อีกต่อไป
 
“มันไม่มีอะไรที่เป็นไปได้ ตายไปอย่างสงบซะเถอะ จำไว้ว่าชีวิตครั้งหน้าของเจ้าต้องเลิกทำตัวโอหังด้วยละ”
 
หลังจากพูดจบ ดาบสังหารมังกรก็ตัดลงและเลือดก็สาดกระจายไปทั่ว
 
ฉีปู่ฝานถูกตัดหัวไปและตายอยู่ตรงนั้น ในขณะที่วิญญาณของเขาถูกทำลายไปจนดับสิ้น
 
“เมตตา…”
 
เสียงดังขึ้นจากระยะไกลแต่ก็หยุดลง
 
‘อะไรกัน? เขาตายแล้วเนี่ยนะ..’
 
“ผู้สืบทอดสำนักเทียนหยุน เจ้า…”
 
กลุ่มของทหารสวมชุดเกราะล้อมรอบเศษซากปรักหักพังของบ้านดอกไม้พระจันทร์ คนที่นำหน้ากลุ่มมองมาที่เฉินเฉินอย่างตึงเครียด พวกเขาพูดอะไรไม่ออก
 
ทหารคนอื่นมองมาที่เฉินเฉินด้วยสายตาที่ซับซ้อน
 
เพียงแค่ชั่วครู่ก่อนหน้านี้ พวกเขาส่วนใหญ่ต่างวางพนันว่าฉีปู่ฝานจะชนะในการประลองจัดอันดับวันพรุ่งนี้
 
แต่ผู้สืบทอดที่โด่งดังของสำนักหลัวโยวถูกสังหารไปโดยสำนักเทียนหยุนก่อนที่จะเริ่มการต่อสู้เสียอีก
 
เฉินเฉินเมินพวกยามไป เขาหยิบหัวของฉีปู่ฝานไปก่อนที่จะเดินไปหากู่ฉินเจิ้งที่ตกใจอยู่ เขาโยนกระเป๋าเก็บของให้กับเธอ
 
“หินวิญญาณที่อยู่ด้านในน่าจะพอที่ให้เจ้าสร้างบ้านดอกไม้พระจันทร์ขึ้นมาใหม่”
 
กู่ฉินเจิ้งรับกระเป๋าเก็บของไปอย่างตกตะลึง
 
ในตอนนี้เอง เธอสับสนอย่างมาก
 
ไม่เพียงแต่บ้านดอกไม้พระจันทร์จะพังพินาศเช่นนี้แล้ว ผู้สืบทอดของสำนักหลัวโยวที่เธอคาดหวังไว้มากก็ตายไปแล้ว
 
เขาตายโดยน้ำมือของสำนักเทียนหยุนที่ยินดีจะพักในหอโสเภณีด้วยราคาแค่ 300 หินวิญญาณ…
 
เธอมองไปที่หัวที่ไหม้เกรียมด้วยท่าทางที่มึนงง
 
กู่ฉินเจิ้งมีความรู้สึกซับซ้อนมาก
 
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันคาดการณ์ไม่ได้เลย
 
“พวกเจ้ามามุงดูอะไรกันอยู่? ยามเมืองไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับ 36 สำนักได้!” เสียงของเซี่ยวฮวงดังออกมาจากระยะไกล
 
ยามเมืองตกอยู่ในความตึงเครียดหลังจากที่ได้ยิน พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี พูดตามปกติแล้วพวกเขาไม่ควรที่จะข้องเกี่ยวกับ 36 สำนัก แต่ว่า…
 
แต่เพียงแค่นายพลที่เป็นหัวหน้ากำลังจะคิดแก้ไขปัญหานี้ได้ เสียงก็ดังมาจากระยะไกล
 
“ผู้สืบทอดสำนักเทียนหยุน องค์ราชาต้องการพบเจ้าที่พระราชวัง!”

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset