ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 105: ความโกลาหลครั้งใหญ่ในเมืองหลวง

ออร่าที่น่าหวาดหวั่นพวกนี้มีต้นตอมาจากชายแก่สามคน
 
ในทันทีที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้น ทั้งสามคนนี้ก็เข้าไปล้อมรอบฉงเย่และเริ่มตรวจดูอาการของเขา
 
“ฉงเย่” ชายแก่คนหนึ่งกระซิบ และออร่าจากร่างกายของเขาก็ไหลเข้าไปในตัวฉงเย่เหมือนกับคลื่นน้ำ
 
ชายแก่อีกคนได้นำสมบัติสวรรค์ทุกรูปแบบออกมาจากแหวนเก็บของของเขาและป้อนพวกมันให้ฉงเย่ ซึ่งตอนนี้สติกำลังค่อยๆเลือนราง สมบัติพวกนี้มีทั้งยาวิญญาณขั้นสูงอย่างโสม 10,000 ปีด้วย
 
ส่วนชายแก่คนสุดท้ายได้วางมือไปที่ข้อมือของฉงเย่ และตรวจสอบสภาพร่างกายของฉงเย่โดยละเอียด
 
“พวกเขาคือเซียนระดับก่อกำเนิดวิญญาณ!”
 
ม่านตาของเฉินเฉินหดตัว และมองไปทางพวกเขาด้วยความประหลาดใจ
 
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขายิ่งประหลาดใจมากกว่ากับความจริงที่ว่าหยวนฉิงเทียนสามารถกรีดเนื้อของฉงเย่ได้ในขณะที่พวกเขาถูกเซียนระดับก่อกำเนิดวิญญาณจับตาดูอยู่
 
แน่นอนเหตุผลหลักก็เพราะว่าพวกผู้มีอำนาจระดับก่อกำเนิดวิญญาณนั้นมีความมั่นใจในตัวฉงเย่มากเกินไป และดูถูกความตั้งใจในการฆ่าของหยวนฉิงเทียน
 
มีดกลืนกินวิญญาณ พิษหนึ่งพันปี เวทมนตร์คำสาป และศพหนึ่งพันปีคือการผนึกกำลังกันของสี่สาขาแห่งสำนักอสูร
 
มันคือสิ่งที่เกินกว่าจะอดทนได้ตามที่คาดเอาไว้
 
แม้ว่าจะได้รับการคุ้มครองจากผู้มีอำนาจระดับก่อกำเนิดวิญญาณทั้งสามคน แต่ควันสีดำบนร่างของฉงเย่ก็มีแต่จะหนาขึ้นเรื่อย ๆ
 
ในท้ายที่สุดนั้น ควันสีดำก็ปะทุขึ้น!
 
ฟู่วว!
 
ด้วยเสียงอู้อี้ ทั้งร่างกายของฉงเย่ก็สลายเป็นควันสีดำ
 
เมื่อเห็นฉากนี้ เฉินเฉินก็ถึงกับสั่นเล็กน้อย
 
‘นี่มันน่ากลัวชะมัด…
 
‘เขาถูกพิษตาย! เมื่อเช้านี้เขายังกร่างต่อหน้าข้าอยู่เลย แถมยังบอกด้วยว่ายอดฝีมือในรัฐจินมีแค่เขากับข้าเท่านั้น และตอนนี้เขาก็ตายไปแล้ว รัฐจินต้องซวยแน่ ๆ พระราชาองค์ใหม่สวรรคตลงหลังจากที่ขึ้นครองบัลลังก์ได้ไม่นาน
 
‘ข้าก็บอกแล้วให้ลดความอวดดีซะบ้าง แต่เจ้าไม่ยอมเชื่อไง เยี่ยมไปเลย! ตอนนี้เห็นรึยังไงว่าเกิดอะไรขึ้น
 
‘เห้อ ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีนะสาธุ!’ เฉินเฉินสวดภาวนาอยู่ในใจเพื่อเป็นการแสดงความเคารพครั้งสุดท้ายให้กับยอดฝีมือที่เก่งที่สุดแห่งรัฐจิน
 
ชายแก่อีกไม่กี่คนที่อยู่ข้างๆเหม่อลอยไปครู่นึงในตอนที่พวกเขาเห็นฉงเย่กลายเป็นควันสีดำ หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ พวกผู้อาวุโสก็อดตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้าไม่ได้!
 
“ดี! เยี่ยมไปเลย! สำนักอสูรแห่งรัฐโจว! ข้าจะสู้กับเจ้าให้ตายไปข้าง!”
 
เสียงนี้เหมือนกับฟ้าร้องดังสนั่น ทำให้แก้วหูของเฉินเฉินสั่นจนรู้สึกเจ็บ หลังจากนั้นในทันที เขาก็เห็นผู้อาวุโสกระแทกฝ่ามือใส่อากาศบนเวที
 
การกระแทกฝ่ามือของเขานั้นทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนและพลังปราณก็หมุนวนจนกลายเป็นมือที่ไม่สามารถทำลายได้ซึ่งพุ่งตรงไปหาหยวนฉิงเทียน
 
ดูเหมือนว่ามันจะอยากเปลี่ยนหยุนฉิงเทียนและซากของแท่นให้กลายเป็นผุยผง
 
ตูม!
 
การระเบิดอันน่าตกใจนี้ทำให้ทั้งพื้นที่ยุบลงไปประมาณเจ็ดหรือแปดเมตร อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสที่กระแทกฝ่ามือได้เงยหน้าขึ้นไปบนฟ้า
 
ณ ตอนนี้ มีคนๆนึงที่สวมเสื้อคลุมสีดำได้ปรากฏตัวขึ้นในจุดที่เขามองอยู่ และกำลังแบกร่างที่ได้รับบาดเจ็บของหยุนฉิงเทียนพร้อมกับหัวเราะอย่างน่ากลัว
 
“ท่านบรรพบุรุษของสำนักอู๋ซิน เห็นศิษย์สุดที่รักของตัวเองโดนพิษฆ่าตายกับตารู้สึกยังไงบ้างหล่ะ?”
 
“ปีศาจทมิฬ เจ้ากล้าเข้ามาเหยียบในเมืองหลวงของประเทศนี้ได้ยังไง? ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ข้าจะใช้เลือดของเจ้ามาสังเวยให้กับศิษย์ของข้าที่ตายไป!”
 
บรรพบุรุษของสำนักอู๋ซินเดือดดาล
 
คนที่เขาเรียกว่าปีศาจทมิฬก็คือหัวหน้าสาขาที่สองของสำนักอสูรแห่งรัฐจิน ซึ่งมีระดับการฝึกตนอยู่ที่ขั้นกลางของก่อกำเนิดวิญญาณ ในด้านความแข็งแกร่งนั้นเขาด้อยกว่าท่านบรรพบุรุษเล็กน้อย
 
นอกจากนี้ ยังมีผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักอู๋ซินอีกสองคนอยู่กับเขา ดังนั้นการฆ่าปีศาจทมิฬจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
 
ปีศาจทมิฬหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่า! เวลาของข้าคงเหลือน้อยแล้ว และข้าก็มาที่นี่โดยเตรียมใจที่จะไม่ได้กลับไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่คนของสำนักอสูรจะไม่ตายในสำนักเซียน”
 
เมื่อได้ฟังคำพูดพวกนี้ หยวนฉิงเทียนก็ส่งเสียงออกมา
 
“อาจารย์… นี่ท่าน!”
 
“ฉิงเทียน เจ้าฆ่าราชาองค์ใหม่ของรัฐโจว และสร้างความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ให้กับสำนักอสูร เจ้าสำนักจะเล็งเห็นถึงความสำคัญของเจ้าอย่างแน่นอน ถ้าเจ้ากลายเป็นราชาของรัฐโจวและผู้สืบทอดเจ้าสำนักของสำนักอสูร ข้าคงจะมีความสุขมาก”
 
หลังจากที่พูดจบ ปีศาจทมิฬก็โยนหยวนฉิงเทียนออกไปไกลมากๆ จากนั้นดาบสีดำสนิทก็พุ่งออกมาจากร่างกายของเขาอย่างกะทันหัน มันแล่นผ่านอากาศและฟันผู้มีอำนาจระดับก่อกำเนิดวิญญาณทั้งสามที่อยู่บนสังเวียน
 
ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ดาบสีดำได้พุ่งผ่านแท่นสูงของ 36 สำนัก ซึ่งพังลงมาในตอนที่ธงของ 36 สำนักถูกตัดออก
 
แต่นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด ออร่าอันน่าหวาดหวั่นที่แผ่ออกมาจากดาบอสูรนั้นยังส่งผลกระทบกับผู้สืบทอดของ 36 สำนักและ 18 สำนักเล็กด้วย
 
ผู้สืบทอดเจ็ดหรือแปดคนที่อยู่แค่ขั้นกลางของสร้างรากฐานถูกฆ่าในทันที ในขณะที่พวกที่อยู่ขั้นท้ายของสร้างรากฐานได้รับบาดเจ็บหนัก
 
แม้กระทั่งเฉินเฉินก็ยังกระอักเลือดออกมาที่ตรงนั้น และแทบจะทรุดลงกับพื้น
 
“เลือดเยอะเลย… น่าเสียดายที่คงเป็นผู้ชมไม่ได้แล้ว!”
 
ในขณะที่มองกองเลือดที่เขากระอักออกมา เฉินเฉินก็รู้สึกปวดหัวเล็กน้อยในขณะที่เขาสบถอยู่ในใจก่อนที่จะออกไป
 
‘นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน เซียนระดับก่อกำเนิดวิญญาณกำลังต่อสู้กันที่นี่ ถ้าข้าไม่หนี ข้าได้โดนลูกหลงตายแน่’
 
“ศิษย์น้องหญิง นี่สำหรับเจ้า รีบหนีไปซะ!”
 
เมื่อเห็นว่าโยวหลานชินยังคงกระอักเลือดออกมาอยู่ เฉินเฉินก็ตะโกนเรียกในขณะที่โยนโสมแดงอายุ 10,000 ปีให้เธอ
 
“ขอบคุณค่ะ พี่ใหญ่เฉิน!”
 
“ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ที่เหลือก็หาทางรอดเอาเองนะ!” เฉินเฉินตะโกนแล้วบินออกไปจากสนามประลอง
 
หลังจากที่เขาออกมาได้ไม่นาน สัญญาณไฟถูกจุดขึ้นในเมืองหลวงและผู้คนก็เริ่มพูดถึงเรื่องการฆ่า
 
ตอนนี้การห้ามบินในเมืองหลวงไม่มีประโยชน์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนของรัฐจินหรือพวกนอกรีตจากสำนักอสูร ทุกคนต่างก็กำลังบินอยู่บนฟ้า
 
ในชั่วพริบตา ทั้งเมืองหลวงก็ตกอยู่ในความโกลาหล
 
“เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วสินะ…”
 
เมื่อเห็นความวุ่นวายนี้ เฉินเฉินก็ตกใจ
 
เห็นได้ชัดว่าความโกลาหลที่สำนักอสูรก่อขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่คาดการณ์เอาไว้ และพวกเขาต้องใช้กองกำลังลับจำนวนมากที่ซ่อนอยู่ในเมืองหลวง
 
อันที่จริงนี่มันก็สมเหตุสมผลอยู่
 
เมื่อเทียบกับสำนักมังกรมรกต สำนักอู๋ซิน สำนักเทียนหยุน และสำนักอื่นๆที่อยู่ใน 36 สำนักของรัฐจิน สำนักอสูรนั้นไม่ต้องการให้สำนักอู๋ซินควบรวมสำนักในรัฐจินอย่างแน่นอน
 
นอกจากนี้ในตอนที่เขามองดูกองทหารที่บินอย่างพร้อมเพียงกัน ดูเหมือนว่าสำนักอู๋ซินจะเตรียมรับมือกับการต่อสู้นี้มานานแล้ว
 
แต่ว่ามันจะไปสำคัญอะไรอีกหล่ะ?
 
ราชาองค์ใหม่ถูกฆ่าไปแล้ว ใครจะไปคิดหล่ะว่าหยวนฉิงเทียนจะแทรกซึมเข้ามาในสำนึกอู๋ซินและทำการฝึกฝนมานานกว่าสิบปี?
 
“ตอนนี้เมืองนี้มันอันตรายเกินไปแล้ว”
 
เฉินเฉินเห็นคนมากมายที่สวมชุดพลเรือนกำลังแพร่กระจ่ายต้นตอของพิษด้วยการทำเป็นทิ้งถุงสีดำที่มีกลิ่นเหม็นโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งนี่ทำให้เปลือกตาของเฉินเฉินกระตุก
 
‘สำนักอสูรลงทุนทำทุกอย่างจริงๆสินะ’
 
เฉินเฉินไม่มีเวลามาคิดต่อแล้ว เขาแค่หยิบเหรียญสื่อสารออกมา
 
“ผู้อาวุโสจ้าว รีบพาเทียนกังกับจางจีออกไปจากเมืองด้วยครับ แล้วเดี๋ยวไปเจอกันในป่าข้างนอกเมือง”
 
หลังจากที่ส่งข้อความไปแบบนั้น เฉินเฉินก็บินออกไปนอกเมืองโดยไม่พูดอะไรอีก
 
ในตอนนี้ เซียนของสำนักอู๋ซินและยามในเมืองหลวงกำลังจัดการกับความวุ่นวายที่สำนักอสูรก่อขึ้น ไม่มีใครหันมาสนใจเขาเลยซักนิด
 
ดังนั้น เฉินเฉินจึงบินออกไปจากเมืองหลวงได้โดยใช้เวลาไม่นาน
 
ตูม!
 
ในตอนนี้เอง เสียงระเบิดน่าตกใจก็ดังมาจากเมืองหลวง ในตอนที่เขาหันไปมอง เขาก็เห็นทั้งสนามประลองที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้ถูกซัดกระเด็นขึ้นไปบนฟ้า!
 
“พลังของเซียนระดับก่อกำเนิดวิญญาณนี่มันน่ากลัวจริงๆ!” เฉินเฉินตกตะลึง และบินไปทางป่าต่อหลังจากที่อุทานออกมาด้วยความหวาดหวั่น
 
ข้างนอกเมืองหลวง มีเซียนอยู่หลายคนที่กำลังหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเลยในตอนที่เขาเนียนเข้าไปอยู่กับพวกเขาด้วย
 
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขาเข้ามาในป่า เฉินเฉินก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนที่รุนแรงจากข้างหลัง
 
ก่อนที่เขาจะได้คิดอะไร เฉินเฉินก็หันหลังไปและถูกใครบางคนตบอย่างกะทันหัน
 
ตูม!
 
ด้วยเสียงระเบิดดังสนั่นและการปะทะของพลังปราณ คนที่มีหน้าตาคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นในทัศนวิสัยของเขา
 
“หยวนฉิงเทียน ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง? แค่ฆ่าฉงเย่ยังไม่พออีกเหรอ? เจ้าอยากฆ่าข้าไปด้วยใช่ไหม?”
 
ในขณะที่มองคนๆนั้น เฉินเฉินก็สบถอย่างไม่พอใจ
 
แน่นอนว่าคนๆนั้นคือหยวนฉิงเทียน
 
ในขณะที่เขากำลังหนี เขาก็ได้กินสมบัติสวรรค์เข้าไปบ้าง ในตอนนี้ อาการบาดเจ็บร้ายแรงของเขาฟื้นฟูจนเกือบจะหายดีแล้ว แต่ว่าสีหน้าของเขายังซีดอยู่เล็กน้อย
 
“หึ! ผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนและยอดฝีมืออันดับสองของรัฐจิน ข้าได้ยินมาว่าเจ้าฆ่าผู้สืบทอดไปสามคนรวมทั้งฉีปู่ฝานเมื่อคืนนี้ ข้ารู้จักความสามารถของพวกเขาดี
 
“ข้าต้องฆ่ายอดฝีมือที่มีพรสวรรค์อย่างเจ้า ไม่อย่างนั้นแล้วเจ้าก็จะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของสำนักอสูร!”
 
หลังจากที่พูดออกมาเช่นนั้น หยวนฉิงเทียนก็กระแทกฝ่ามือของเขามาทางเฉินเฉินอย่างไร้ความปราณี ส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่รอบๆระเบิด!
 

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset